Your Wishlist

กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ (ตอนที่: 111 - 112: โชคดีอย่างไม่น่าเชื่อ, ไม่ใช่คน)

Author: BuaElla แปล

เธอเปรียบดั่งหุ่นเชิดของตระกูล เป็นสายลับและนักฆ่า เธอถูกหักหลังและตกลงไปในทะเล เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอกลายเป็นเด็กสาวมัธยมธรรมดาๆ เนื่องจากเกิดมาไม่มีพ่อ เธอจึงถูกญาติของเธอถากถางมาตั้งแต่เด็กจนโต และถูกรังแกจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวอีกแล้ว ใครกล้าทำร้ายเธอ เธอจะหักกระดูกพวกมัน !

จำนวนตอน : ยังไม่จบ

ตอนที่: 111 - 112: โชคดีอย่างไม่น่าเชื่อ, ไม่ใช่คน

  • 06/04/2564

ตอนที่ 111: โชคดีอย่างไม่น่าเชื่อ

 

กู้หนิงไปยังร้านที่ไม่เคยไป เพื่อซื้อหินที่มีหยกระดับกลางและระดับสูง  จากนั้นก็เก็บพวกมันไว้ในพื้นที่แกระแสจิต จากนั้นก็ตรงไปยังร้าน ที่เธอพบกับโจวเจิ้งหงครั้งแรก

 

ร้านนี้เป็นร้านใหญ่ที่สุด มีหินให้เลือกสรรมากที่สุด และหินในร้านก็มีหยกอยู่ข้างในเยอะแยะด้วยเช่นกัน

 

กู้หนิงเดินไปรอบๆร้าน และเลือกซื้อหินสิบห้าก้อน หินของเธอมีทั้งหยกระดับสูงและกลางปะปนกันไป ห้าในนั้นมีน้ำหนักประมาณ 20 ปอนด์ ในขณะที่อีกหนึ่งมีน้ำหนักประมาณ 50 ปอนด์ และส่วนที่เหลือทั้งหมดมีน้ำหนักสี่ถึงแปดปอนด์

 

กู้หนิงเลือกซื้ออย่างสนุกสนาน ลูกค้าในร้านมองเธออย่างสนใจทันที เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นใครที่ซื้อหินจำนวนมากในเวลาเดียวกัน  สี่หรือห้าก้อนก็มากเพียงพอแล้ว

 

พวกเขาคิดว่ากู้หนิงคงเสียเงินเปล่า เพราะไม่มีใครโชคดีถึงกับซื้อหินที่มีหยกอยู่ข้างในทั้งหมด

 

หินของเธอหนักรวมกันได้สองร้อยแปดสิบปอนด์ ราคาแปดล้านหยวน

 

“คุณหนู คุณอยากจะตัดมันทั้งหมดไหมครับ?” เจ้าของร้านเอ่ยถามกู้หนิง

 

ถึงแม้ตัวเขาเองไม่คิดว่าจะมีหยกอยู่ข้างในหินของกู้หนิง เขาก็ยังอยากรู้อยู่ดี

 

“ค่ะ รบกวนด้วยค่ะ” กู้หนิงตอบ

 

จากนั้นเจ้าของร้านพากู้หนิงไปยังพื้นที่สำหรับตัดหิน เมื่อมีใครสักคนกำลังจะตัดหิน คนที่อยู่แถวนั้นก็จะห้อมล้อมเข้ามามุงดู

 

“รบกวนให้คนงานสองคนมาช่วยกันตัดด้วยค่ะ!” ในร้านมีเครื่องจักรอยู่สองเครื่อง และไม่มีใครใช้งานอยู่ กู้หนิงอยากจะรีบทำให้มันเสร็จๆ ดังนั้นเธอจึงขอให้คนงานมาช่วยกันสองคน กู้หนิงตอนนี้ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้ากลับคืน เธอแน่ใจว่าไม่มีใครจำเธอได้ เธอจึงไม่มัวมาเสียเวลาซื้อหินที่ไม่มีหยกอยู่ข้างใน เพื่อไม่ให้ใครสงสัยในตัวเธอ

 

กู้หนิงเลือกก้อนหินออกมาสองก้อนที่มีหยกระดับกลางและสูงอยู่ข้างในก่อนเป็นอันดับแรก ก้อนแรกหนักห้าสิบปอนด์ และอีกก้อนใหญ่เท่าลูกบาสเกตบอล กู้หนิงวาดเส้นลงบนก้อนหินด้วยตัวเอง

 

เครื่องจักรเริ่มทำงาน ไม่นาน หินก้อนแรกก็ถูกตัดและเผยให้ชั้นผิวสีเขียว ท่ามกลางเสียงร้องอย่างประหลาดใจของผู้ชม

 

“เห้ย สีเขียว!”

 

“เป็นไปไม่ได้! ตัดไปได่แค่สองเซ็นเองนะ!”

 

“ชั้นผิวหินมันบางหรือเปล่า?”

 

“ถ้าไม่บาง หยกก็อาจจะมีขนาดใหญ่มาก!

 

ใช่แล้วล่ะ หยกมีขนาดเท่ากับลูกบาส และผิวชั้นนอกหนาแค่สองเซนติเมตร

 

เจ้าของร้านรีบเดินเข้ามาดูทันใดด้วยใบหน้าไม่พอใจ เขารู้ว่านี่เป็นข่าวดีที่จะดึงดูดลูกค้ามาที่ร้าน แต่เขาอยากเป็นคนตัดเจ้าหยกมหึมาด้วยตัวเอง

 

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่กล้าลองทำเอง มันมีความเสี่ยงสูงที่จะตัดหินแบบสุ่มๆ

 

คนงานเริ่มทำงานของตัวเองต่อ และสีเขียวของหยกก็แสดงให้รู้ถึงชนิดของมั

 

“หยกไฮบีซคัซ!”

 

“หยกไฮบีซคัซ หยกระดับกลาง!”

 

ทุกคนรู้ว่าหินก้อนนั้นเป็นของกู้หนิง พวกเขาต่างมองเธอด้วยสายตาอิจฉาปนริษยา แต่กู้หนิงยังคงนิ่ง

 

แน่นอนว่าเจ้าของย่อมไม่ขายมันในทันที มีเพียงคนขี้ขลาดและคนโง่เท่านั้นที่ขายตั้งแต่แรก

 

ทุกคนรู้ว่าเมื่อชั้นผิวสีเขียวเผยโฉมออกมา ราคาของก้อนหินก็พุ่งสูงจนแทบจะประเมินค่าได้ ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงเลือกประมูลไปเรื่อยๆ

 

“ได้โปรดอย่าเพิ่งประมูลค่ะ ฉันจะไม่ขายจนกว่าหยกจะถูกตัดออกมาหมด ได้โปรดรอก่อน” กู้หนิงกล่าวปลอบประโลมฝูงชนในขณะที่พวกเขาพากันแย่งประมูล

 

ในเมื่อเจ้าของเปิดปากพูดขึ้น พวกเขาจึงหยุดประมูล กู้หนิงเป็นคนเดียวที่มีสิทธิ์ว่าจะขายหรือไม่ขาย

 

จากนั้นกู้หนิงก็ให้คนงานทำงานต่อ

 

ตัดลงไปอีก หยกขนาดใหญ่ก็เผยออกมา

 

ตอนนี้ทุกคนยิ่งกว่าอิจฉากู้หนิง

 

ภายในไม่กี่นาที ก็มีสีเขียวจากหินอีกก้อน ผู้คนแปลกใจอีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้ดวงดีจริงๆ!

 

มีคนจำได้ว่าอาทิตย์ที่แล้วมีเด็กสาวคนหนึ่งก็โชคดีแบบนี้

 

ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าพวกเขากับเด็กสาวคนนั้นจะเป็นคนคนเดียวกัน เด็กสาวคนนั้นอายุไม่น่าเกินสิบแปด ส่วนผู้หญิงคนนี้ดูยังไงก็โตเป็นหญิงสาวแล้ว อีกทั้งพวกเธอดูไม่เหมือนกันเลยสักนิด

 

ผิวชั้นนอกของหินก้อนที่สองหนาเพียงห้าเซนติเมตร อีกทั้งหินก้อนนี้ยังใหญ่กว่าก้อนแรก มูลค่าของมันต้องสูงมากๆอย่างแน่นอน

 

“มันโปร่งใสเหมือนน้ำ พื้นผิวเรียบมันวาว ใช่แล้ว! มันคือหยกน้ำ”

 

“หยกน้ำเป็นหยกระดับกลางค่อนไปสูง!”

 

“พระเจ้า ผู้หญิงคนนี้ดวงดีชะมัด เธอตัดเอาหยกระดับสูงได้ถึงสองในครั้งเดียว และยังมีขนาดใหญ่มากอีกด้วย! ราคาของมันไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยล้านหยวน!”

 

ทุกคนถอนหายใจยาว หนึ่งร้อยล้านหยวน!  ถึงแม้คนที่ชื่นชอบในการพนันหินจะมีแต่คนรวยก็จริง แต่ก็ไม่รวยมากขนาดที่จะสามารถซื้อหยกราคาหนึ่งร้อยล้านหยวนได้

 

ในขณะนี้ ทุกคนอิจฉากู้หนิงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้าของร้าน

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา หยกไฮบิซคัซก็ถูกตัดออกมาจนหมด มันใหญ่เท่ากับสามในสี่ของลูกบาสเกตบอล หยกไฮบิซคัซนี้มีขนาดใหญ่กว่าหยกของโจวเจิ้งหงในตอนนั้นถึงห้าเท่า ราคาของมันก็ต้องมากกว่าห้าเท่า คงราวๆแปดสิบล้านหยวน

 

คนที่อยากได้หยกจึงเริ่มจากการประมูลราคาต่ำก่อน แต่ในเมื่อหยกชิ้นนี้มีขนาดใหญ่ ราคาเริ่มต้นจึงอยู่ที่ยี่สิบล้านหยวน

 

“ยี่สิบห้าล้านหยวน!”

 

“ยี่สิบหกล้านหยวน!”

 

“สามสิบล้านหยวน!”

 

ในขณะที่ทุกคนแย่งกันประมูล กู้หนิงก็ดูดพลังจากหยก

 

“เจ็ดสิบล้านหยวน!”

 

ทุกคนต่างหยุดประมูลไปชั่วขณะ เมื่อราคาแตะถึงเจ็ดสิบล้าน

 

ถึงแม้เจ็ดสิบล้านจะต่ำกว่าที่กู้หนิงคิดเอาไว้ เธอก็ยังถือว่าดวงดีอยู่

 

เจ้าของร้านไม่อยากยอมรับความจริง แต่เขาก็ยังกระจายข่าวดีนี้ เพื่อดึงดูดลูกค้าอย่างไม่ไม่รีรอ อย่างไรก็ตามเขาก็ยากที่จะยอมรับได้ หัวใจของเขาแหลกสลาย

 

เจ้าของร้านทำงานในอุตสากรรมนี้มานานกว่าสิบปี เขาเห็นลูกค้ามากมายที่ได้หยกมีค่า แต่มันเกิดขึ้นแค่ไม่กี่ครั้งต่อปี และหยกพวกนั้นก็มีราคาแค่ไม่กี่สิบล้านหยวน

 

 

 

 

 

ตอนที่ 112: ไม่ใช่คน?

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในเดือนนี้ เด็กสาวคนหนึ่งได้หยกมูลค่าสูงไปหลายก้อนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และตอนนี้ยังมีผู้หญิงคนนี้อีก ที่ได้หยกมูลค่าสูงมาก เจ้าของร้านรู้สึกไม่สบอารมณ์และไม่มีความสุข

 

ผู้คนหลั่งไหลมาที่ร้านทันที ที่ข่าวแพร่ออกไป โดยเฉพาะนักธุรกิจที่ค้าอัญมณี  ร้านที่มีขนาดใหญ่โตดูแน่นขนัดตา เนื่องจากผู้คนต่างพากันมาที่ร้าน

 

หยกก้อนแรกถูกขายไปแล้ว ในขณะที่หินก้อนที่สองกำลังตัด เมื่อทุกคนเห็นว่าเป็นหยกน้ำ บรรดานักธุรกิจทั้งหลายก็ตื่นเต้นด้วยความดีใจ ถึงแม้จะเป็นหยกระดับกลางค่อนไปทางสูงจะไม่ใช่ของหายาก แต่มันก็ใช่ว่าจะเจอกันได้ง่ายๆ ไม่มีใครคนไหนอยากจะพลาดมันไป

 

มีบางคนเริ่มประมูลแล้ว แต่ถูกกู้หนิงหยุดเอาไว้ก่อน เธอบอกพวกเขาเหมือนที่เคยพูดไปในตอนแรก

 

ทุกอย่างมีกฎอยู่ในทุกธุรกิจ และพวกเขาจำต้องทำตามนั้น

 

กู้หนิงเลือกหินก้อนที่สามที่มีหยกระดับสูงอยู่ข้างใน มันใหญ่เท่ากับลูกแอปเปิ้ลสองผล เธอถือมันไปให้คนงาน

 

หินก้อนที่สามค่อนข้างเล็กกว่าสองอันแรก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะค่อยๆเจียระไน ตั้งแต่ที่กู้หนิงตัดหินได้หยกที่มีมูลค่าสูงได้สองก้อน คนงานจึงทำงานด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ พวกเขารู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อมาก ที่ผู้หญิงคนนี้จะโชคดีได้ขนาดนี้

 

ฝูงชนต่างก็มีความรู้สึกที่หลากหลายผสมกันไป บางคนคาดว่ามันต้องเป็นหยกที่มีมูลค่าสูง และบางคนก็คิดตรงกันข้าม

 

ผู้คนพากันทยอยเข้ามาในร้านเรื่อยๆ ตอนนี้ร้านเต็มไปด้วยคน ซึ่งยืนอยู่ทุกพื้นที่ของร้าน แต่จุดความสนใจของพวกเขาอยู่ที่คนงานที่กำลังขัดหิน และไม่ค่อยมีใครซื้อหินเท่าไหร่

 

ก่อนที่หินก้อนที่สองจะถูกตัดออกมาหมด ก็มีสีเขียวเผยให้เห็นจากหินก้อนที่สาม ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจ พวกเขาทั้งหมดมองไปที่กู้หนิงเป็นตาเดียว สีหน้าความตกใจอยู่บนใบหน้าของพวกเขา

 

หินทั้งสามก้อน มีหยกทั้งสามก้อน!!

 

บางคนก็สันนิษฐานว่าผู้หญิงคนนี้ต้องมาจากครอบครัวที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับหยก ดังนั้นเธอจึงมีความสามารถในการมองและเลือกหินได้ถูกต้องแม่นยำราวกับมองเห็น

 

ส่วนบางคนก็สันนิษฐานว่า หินที่เหลือในรถเข็นของเธอต้องมีหยกอยู่ข้างในด้วยเหมือนกัน

 

หยกจากหินก้อนที่สามถูกตัดออกมาเรียบร้อยแล้ว มันเป็นหยกสีม่วงระดับสูงประเภทหยกแก้ว

 

อะไรกัน? เป็นไปไม่ได้! บางคนเกือบหัวใจวายตายไปเสียเดี๋ยวนั้น เจ้าของร้านไม่ยินดีที่จะเผชิญหน้ากับความจริง เขารู้สึกวิงเวียน ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบรรดานักธุรกิจทั้งหลาย ที่รู้สึกดีใจเป็นที่สุด

 

หยกระดับสูงสีม่วงเป็นหยกที่หาได้ยากยิ่ง!

 

หยกสีม่วงนี้มีขนาดใหญ่กว่าหยกสีม่วงที่ขายให้ฉินอี้ฟานอยู่เล็กน้อย ดังนั้นราคาของมันจึงสูงกว่านิดหน่อย

 

“เธอช่างโชคดีอะไรอย่างนี้!!”

 

“เธอต้องมาจากครอบครัวที่ทำธุรกิจด้านนี้ มาหลายชั่วอายุคนแน่!”

 

“ไม่ ฉันไม่เห็นด้วย!”

 

“ฉันคิดว่าเธอต้องมีตาทิพย์! เธอถึงสามารถเห็นว่าหินก้อนไหนมีหยกอยู่ข้างใน”

 

แน่นอนว่าเขาพูดเล่น แต่มันตีถูกจุดของเธอโดยบังเอิญ กู้หนิงประหม่าอยู่สักพัก จากนั้นก็ค่อยผ่อนคลาย ไม่มีใครเชื่อหรอกว่ามันจะเป็นความจริง เพราะมันอยู่เหนือความรู้ของมนุษย์ไปมากโข

 

“อะไรนะ? ฉันได้ยินมาว่ามีคนตัดหยกไฮบิซคัซได้อย่างนั้นหรือ? มีหยกม่วงถูกตัดออกมาด้วยเหมือนกันหรือนี่?”

 

ในขณะนั้น เสียงประหลาดใจของผู้ชายก็ดังขึ้นที่ประตูทางเข้าร้าน เขาปรากฏตัวขึ้นมาทันทีที่ได้ยินข่าวดีเช่นนี้

 

“โอ้ อาจารย์ไป๋ อาจารย์หยวนและประธานไป๋ เป็นเกียรติที่ได้พบครับ!” เจ้าของร้านเข้ามาทักทายแขกทั้งสามคนด้วยความเคารพ

 

“มีผู้หญิงคนหนึ่งเพิ่งได้หยกไฮบิซคัซ ส่วนอีกอันยังตัดออกไม่หมด และหยกสีม่วงถูกตัดออกมาหมดแล้วครับ”

 

“อะไรนะ?”

 

ได้ยินคำบอกกล่าวเช่นนั้น แขกทั้งสามก็ตกใจ

 

สายตากู้หนิงมองไปยังผู้ชายทั้งสามคนทันทีที่ได้ยินว่าอาจารย์หยวน ชายสูงวัยคนนั้นเป็นอาจารย์หยวน เขาอายุประมาณเจ็บสิบ และผู้ชายที่อยู่ข้างอาจารย์หยวน คงเป็นอาจารย์ไป๋และประธานไป๋ ทั้งสองมีลักษณะคล้ายกันมาก คงเป็นพ่อลูกกัน

 

วันนี้กู้หนิงเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเอง ดังนั้นเธอจึงไม่เข้าไปทักทายอาจารย์หยวน เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเขา

 

“อย่าบอกนะว่าเจ้าของก็เป็นคนเดียวกัน” อาจารย์ไป๋กล่าว

 

“ใช่ครับ” เจ้าของร้านตอบ ทั้งๆที่ในใจเจ็บปวดรวดร้าว

 

ได้ยินแบบนั้น แขกผู้ทรงเกียรติทั้งสามก็ถอนหายใจยาว

 

ไม่น่าเชื่อ!

 

“ไป ไปดูกันว่าใครกันที่ดวงดีได้หยกทั้งสามก้อนในคราวเดียว” อาจารย์ไป๋กล่าว เขาเดินนำหน้า ตามมาด้วยอาจารย์หยวนและประธานไป๋

 

อาจารย์หยวนอดคิดไม่ได้ว่าครั้งที่แล้วก็ว่ากู้หนิงเป็นคนดวงดีสุดๆ แต่ครั้งนี้ยังมีคนแบบเธออีก แปลกจริงๆ!

 

พวกเขาเดินผ่าฝูงชนเข้าไป อาจารย์ไป๋เอ่ยถามขึ้นว่า “ไม่ทราบว่าใครที่เป็นเจ้าของหยกทั้งสามก้อน?”

 

“ฉันเองค่ะ” กู้หนิงส่งเสียงตอบ เธอไม่ต้องการให้อาจารย์หยวนจำเธอได้ ดังนั้นเธอจึงดัดเสียงเล็กน้อย

 

เป็นผู้หญิงสาวเองหรือนี่ อาจารย์ไป๋และคนที่มาด้วยต่างพากันประหลาดใจ

 

อาจารย์ไป๋รู้ว่ามีเด็กสาวอายุสิบแปดปีได้หยกไปหลายก้อนเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ที่อายุไม่น่าต่ำกว่ายี่สิบสี่ปี จะเป็นคนเดียวกันกับเด็กสาวอายุสิบแปด

 

เขารู้สึกเซอร์ไพรส์  ทำไมทุกวันนี้หญิงสาวเช่นเธอถึงโชคดีง่ายๆแบบนี้กันนะ?

 

อาจารย์หยวนคิดแบบเดียวกันกับอาจารย์ไป๋ แต่เขารู้สึกคุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้ เหมือนเขาเคยพบที่ไหนมาก่อน หรือว่าเขาจะเคยเจอเธอมาก่อน? แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้เอามาเชื่อมโยงกับกู้หนิง เพราะพวกเธอดูต่างกันมาก

 

เมื่อเผชิญหน้ากับอาจารย์ไป๋ กู้หนิงก็ทำตัวสงบนิ่งเป็นปกติเช่นทุกที เธอไมได้ทำตัวหยิ่งยโส เพียงเพราะเธอมีหยกมูลค่าสูงอย่างหลายก้อน

 

อาจารย์ไป๋มีความประทับใจในตัวเธอทันที เขากล่าวชมเธอตรงๆว่า

 

“มีแววๆ”

 

ในขณะนั้นเอง หยกน้ำขนาดใหญ่ก็ถูกตัดออกมาจนหมด กู้หนิงจึงเอ่ยอนุญาตให้เริ่มประมูลได้ และเธอก็ดูดซับพลังจากหยกทันที เมื่อเปรียบเทียบหยกน้ำระดับกลางค่อนสูงแล้ว หยกสีม่วงระดับสูงนั้นมีความน่าสนใจมากกว่า แต่ผู้ซื้อไม่ต้องการที่จะพลาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป

 

“สิบล้านหยวน!”

 

“ยี่สิบล้านหยวน!”

 

“สามสิบล้านหยวน!”

 

“หนึ่งร้อยล้านหยวน!”

 

“หนึ่งร้อยห้าสิบล้านหยวน!”

 

ในตอนท้ายหยกน้ำถูกประมูลไปในราคาหนึ่งร้อยห้าสิบล้านหยวน ขนาดของมันใหญ่เท่าลูกบาสเกตบอล ราคาหนึ่งร้อยห้าสิบล้านหยวนเป็นราคาที่ยุติธรรมแล้ว

 

ถ้าคนที่ประมูลไป นำไปใช้ทำเครื่องประดับและขายมันได้หมด เขาสามารถทำกำไรได้ถึงสามสิบล้านหยวน

 

กู้หนิงทำการเลือกหินชิ้นที่สี่ที่มีหยกระดับกลางค่อนสูง ซึ่งมีขนาดเท่ากับลูกบาสเกตบอลเหมือนเดิม

 

ยังไม่ทันที่หยกม่วงจะเจียระไนเสร็จ ผิวหินสีเขียวของหินก้อนที่สี่ของเผยออกมา ทุกคนช็อกไปตามๆกัน จนอดสบถคำหยาบออกมาไม่ได้

 

“แม่ง อะไรกันวะ! ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนแล้ว!”

 

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป