Your Wishlist

กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ (ตอนที่ 89 - 90: ไปร้านอี้ซุย, ปล่อยให้เขาค้นตัว)

Author: BuaElla แปล

เธอเปรียบดั่งหุ่นเชิดของตระกูล เป็นสายลับและนักฆ่า เธอถูกหักหลังและตกลงไปในทะเล เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอกลายเป็นเด็กสาวมัธยมธรรมดาๆ เนื่องจากเกิดมาไม่มีพ่อ เธอจึงถูกญาติของเธอถากถางมาตั้งแต่เด็กจนโต และถูกรังแกจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวอีกแล้ว ใครกล้าทำร้ายเธอ เธอจะหักกระดูกพวกมัน !

จำนวนตอน : ยังไม่จบ

ตอนที่ 89 - 90: ไปร้านอี้ซุย, ปล่อยให้เขาค้นตัว

  • 05/04/2564

ตอนที่ 89: ไปร้านอี้ซุย

 

“พวกเราจะไม่บอกใคร” ทุกคนให้คำสัญญา

 

“ดี! พวกเรากลับไปที่ห้องเรียนกันเถอะ” กู้หนิงลุกขึ้น จากนั้นทุกคนก็พากันเดินกลับไปที่ตึกเรียน

 

กู้เซียวเซียวได้ยินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานที่ห้างสรรพสินค้าจากแม่ของเธอ เธอไม่เชื่อว่ากู้หนิงจะหยุดเรียน เธอจึงต้องการตรวจสอบด้วยตัวเอง ดังนั้นกู้เซียวเซียวจึงมองไปที่บันไดจากทางเดินเมื่อเธอมาถึงโรงเรียน เธอต้องการดูว่ากู้หนิงมาโรงเรียนวันนี้หรือเปล่า

 

“กู้หนิงเดี๋ยวนี้ยิ่งหยิ่งยโสอวดดี! ไม่เพียงแต่จะตบเธอ ยังทะเลาะกับย่าเธอด้วย! หนำซ้ำยังกล้าขู่แม่ของเธออีก! ฉันคิดว่ากู้หนิงตั้งใจจะหาเรื่องเธอทั้งครอบครัว!” เฉินจื่อเหยาเอ่ย เธอต้องการราดน้ำมันรดกองไฟให้โหมลุกไหม้รุนแรง

 

เฉินจื่อเหยาฉลาดกว่ากู้เซียวเซียว ตั้งแต่ที่ฮ่าวหรันและเพื่อนยกย่องให้กู้หนิงเป็นหัวหน้าพวกเขา เธอก็เกรงกลัวกู้หนิงมาตั้งแต่ตอนนั้น แต่ยังไงเธอก็ยังเกลียดกู้หนิงอยู่ดี

 

เฉินจื่อเหยาไม่เคยถูกใครตบมาก่อนแม้แต่พ่อแม่ของเธอเอง เธอยอมรับความจริงไม่ได้ที่กู้หนิงบังอาจตบหน้าเธอ เฉินจื่อเหยาไม่กล้าเผชิญหน้ากับกู้หนิงตรงๆ ดังนั้นเธอจึงยืมมือกู้เซียวเซียวให้จัดการกู้หนิงแทนเธอ

 

ถ้าหากกู้เซียวเซียวล่วงรู้ถึงความคิดเฉินจื่อเหยา เธอคงเลิกเป็นเพื่อนกับเฉินจื่อเหยาแน่ แต่น่าเสียดายที่เธอไม่รู้ กู้เซียวเซียวหงุดหงิดอารมณ์เสีย

 

“เป็นไปไม่ได้! ยัยนั่นก็แค่เด็กจนๆไม่มีพ่อ อะไรทำให้เธอคิดว่ายัยนั่นกล้าหาเรื่องครอบครัวฉัน!”

 

ถึงจะพูดออกไปแบบนั้น กู้เซียวเซียวรู้สึกได้ถึงรัศมีข่มขู่ที่แผ่ออกมาจากตัวกู้หนิง ช่วงนี้กู้หนิงเปลี่ยนไปมาก จู่ๆเธอก็กลายเป็นคนที่รู้วิธีการต่อสู้ และยังเป็นเพื่อนกับเด็กรวยๆหลายคน

 

ยิ่งคิดกู้เซียวเซียวก็ยิ่งหงุดหงิดและอารมณ์เสียมากขึ้น สายตาเคียดแค้นปรากฏบนใบหน้าของเธอ

 

“ฉันจะทำลายมันเอง!” กู้เซียวเซียวเอ่ย

 

แน่นอนว่าเฉินจื่อเหยารู้สึกพอใจที่ได้ยินแบบนั้น มันเป็นสิ่งที่เธอต้องการเลยล่ะ ถึงแม้เธอจะสงสัยอยู่บ้างว่ากู้เซียวเซียวจะทำสำเร็จหรือไม่ แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ

 

“ดู กู้หนิงมาแล้ว” ในขณะเดียวกันเฉินจื่อเหยาก็เห็นกู้หนิงและกลุ่มเพื่อนเธอข้างล่าง

 

กู้เซียวเซียวมองดู มีคนหลายคนรายล้อมกู้หนิงซึ่งทำให้กู้เซียวเซียวอิจฉายิ่งกว่าเดิม

 

“น่าผิดหวังจริงๆ”

 

ตอนนี้เธออยากจะทำลายกู้หนิงให้หายไปจากโลกนี้

 

เมื่อกู้หนิงเดินเข้ามาในห้องเรียนของตัวเอง เธอเกือบสะดุดล้มใส่จ้าวเฟยเฟย ถ้าเป็นเมื่อก่อนเจ้าเฟยเฟยคงจะสบถด่าเธอไปเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้เธอได้แต่จ้องกู้หนิงโดยไม่พูดอะไร

 

จ้าวเฟยเฟยมีความรู้สึกเช่นเดียวกับเฉินจื่อเหยา เธอเกลียดกู้หนิงแต่ไม่กล้าลงมือทำอะไร

 

ครูประจำชั้นเข้าให้องเรียนและแจ้งว่าจะมีการสอบประจำเดือนวันศุกร์นี้

 

เมื่อคาบเช้าใกล้จบ กู้หนิงก็ได้รับข้อความจากฉินอี้ฟาน เขาบอกว่าตอนนี้เขาอยู่ที่สนามบินและจะถึงเมือง F ในอีกสองชั่วโมง เขาบอกให้เธอมาที่ร้านอี้ซุยพร้อมกับหยก ถ้าเธอมีเวลาว่างช่วงบ่าย

 

ฉินอี้ฟานแทบจะอดทนรอที่จะเห็นหยกของกู้หนิงไม่ได้ เขารู้ว่ามันต้องเป็นหยกชนิดพิเศษแน่ แต่ฉินอี้ฟานไม่คาดว่ามันต้องเป็นหยกระดับสูงอย่างเช่นหยกจักรพรรดิ

 

กู้หนิงเองก็อยากทำเครื่องประดับให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ดังนั้นเธอจึงตกลงไปพบฉินอี้ฟานบ่ายวันนี้

 

ช่วงพักเบรกค่อนข้างนาน ฉู่เพ่ยหานเลยวิ่งจากห้องสี่มาเล่นกับกู้หนิงและหยูหมิงซี

 

เมื่อฉู่เพ่ยหานปรากฏตัว ทุกคนต่างตกใจระคนหวาดกลัว พวกเขากลัวว่าจะถูกฉู่เพ่ยหานตี

 

มู่เค่อ ฮ่าวหรัน ฉินซีหุน และจางเทียนปิงก็อยากมาหากู้หนิงด้วยเหมือนกัน แต่เพราะพวกเขาเป็นผู้ชาย พวกเขาเกรงว่าจะเกิดเสียงซุบซิบนินทากู้หนิงโดยไม่จำเป็น ดังนั้นพวกเขาจึงล้มเลิกความคิด

 

พอจบคาบเช้า กู้หนิงก็ออกจากโรงเรียนทันทีที่คาบเช้าจบลง

 

หน้าประตูทางเข้าโรงเรียนมีรถฮัมเมอร์สีดำจอดที่ถนน มันดึงดูดความสนใจจากคนที่ผ่านไปมา

 

รถฮัมเมอร์คันนี้เท่ห์มาก มันต้องแพงมากๆแน่ และราคาของมันคงไม่ต่ำกว่าเจ็ดล้านหยวน

 

กู้หนิงถูกรถฮัมเมอร์สุดเท่ห์คันนี้ดึงดูดด้วยเช่นกัน แต่เธอเพียงหันไปมองแค่สองสามครั้ง จากนั้นก็ขึ้นแท็กซี่จากไป

 

กู้หนิงไม่เห็นคนในรถ แต่เขาเห็นเธอ

 

เลิ่งเชาถิงนั่งที่เบาะคนขับ

 

เลิ่งเชาถิงมาที่นี่เพื่อเหตุผลบางอย่าง เขาเพิ่งบินมาจากเมือง G เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ากู้หนิงจะออกจากโรงเรียนตอนบ่ายรึเปล่า แต่เขาก็ยังมา ด้วยความบังเอิญเขาก็ได้พบกับเธอ

 

เมื่อเห็นกู้หนิงขึ้นรถแท็กซี่จากไป เขาก็ขับรถตามเธอไปทันที

 

กู้หนิงไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครบางคนตามเธอมา เธอไปที่ศูนย์การค้า จากนั้นก็ไปซุปเปอร์มาร์เก็ต จากนั้นเธอก็เดินไปที่ร้านหยกอี้ซุย

 

ภายในร้านอี้ซุย ฉินอี้ฟานรอเธออยู่นานแล้ว เขามาถึงเมือง F ตอนสิบโมงเช้าและมุ่งตรงมาที่ร้านเลย ถึงแม้เขาจะรู้ว่ากู้หนิงจะไม่มาที่นี่ก่อนเที่ยงครึ่ง แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะมารอ

 

โดยปกติธรรมดา ฉินอี้ฟานไม่เคยอยู่ที่ร้านนานเกินหนึ่งชั่วโมง แต่ครั้งนี้เขาอยู่ที่นี่มาสองชั่วโมงแล้ว พนักงานทุกคนรู้สึกประหม่าและสับสนงุนงง

 

เวลาเกือบเที่ยงยี่สิบ เขาก็เอาแต่มองไปที่ประตูทางเข้าร้าน เมื่อกู้หนิงปรากฏตัวในคลองจักษุของเขาทั้งสองข้าง เขาก็วิ่งเข้าไปหาด้วยความตื่นเต้น

 

“กู้หนิง ในที่สุดคุณก็มาแล้ว! เข้ามาๆ เอาหยกมาให้ผมดูเร็วเข้า!”

 

“ใจเย็นค่ะ ขอฉันเข้าไปข้างในก่อน” กู้หนิงกรอกตา มันไม่เหมาะที่จะเอาของมูลค่าสูงออกมาโชว์กลางที่สาธารณะ

 

ฉินอี้ฟานยิ้มอายๆ เขาจึงต้อนรับกู้หนิงให้เข้าไปข้างใน

 

เมื่อกู้หนิงย่างเท้าเข้าไป พนักงานร้านก็จำเธอได้ทันที เธอเคยมาที่นี่พร้อมหยกจักรพรรดิที่ทำให้ทุกคนตกใจจนลืมไม่ลง

 

เมื่อเห็นบอสของพวกเขาตื่นเต้น ทุกคนคิดว่าเด็กสาวคนนี้ต้องมีหยกน้ำดีมาอีกแน่ๆ

 

ฉินอี้ฟานและกู้หนิงเข้าไปในห้องทำงาน ฉินอี้ฟานเชิญให้กู้หนิงนั่งเก้าอี้

 

“เอาล่ะ เอาออกมาให้ดูได้รึยัง?”

 

กู้หนิงยิ้มอ่อนๆ เธอวางกระเป๋าเป้และเปิดออก หยกถูกห่อหุ้มอย่างดี เธอยื่นส่งให้ฉินอี้ฟาน

 

ตอนที่ 90: ปล่อยให้เขาค้นตัว

 

เมื่อเขาเห็นหยกข้างใน เขาก็แน่นิ่งไป เขามองไปที่กู้หนิงอย่างไม่เชื่อ “นะ นี่คือ หยกฮกลกซิ่ว!” และมันมีขนาดใหญ่มาก

 

เป็นที่รู้กันดีว่าหยกฮกลกซิ่วนั้นหากยากพอๆกับหยกจักรพรรดิ หายากขนาดต่อให้รวยแค่ไหนก็หาซื้อไม่ได้

 

“ใช่ค่ะ ฉันจะใช้มันทำเครื่องประดับ สร้อยคอสี่เส้น ตุ้มหูสี่คู่ จี้หยกสี่ชิ้น และแหวนลงใหญ่สักวง ขนาดเท่ากับนิ้วโป้งของคุณ ส่วนที่เหลือก็ทำจี้เพิ่มอีกก็ได้ค่ะ” กู้หนิงเอ่ย

 

ได้ยินแบบนั้น ฉินอี้ฟานก็ถอนหายใจหนักๆ “คุณอยากเราดีไซน์แบบให้ใช่ไหม?”เขาเอ่ยถาม

 

“ค่ะ สำหรับจี้ห้อยคอทำเป็นรูปงู วัว กระต่าย และก็มังกรนะคะ” มันเป็นจักรราศีของจีนสำหรับกู้ม่าน กู้ชิง กู้หนิงและเจียงซู่

 

“อ้อ รบกวนสลักคำว่า ม่าน ชิง หนิง และหยู ด้วยนะคะ ส่วนสร้อยคอก็ทำแบบเดียวกัน ฉันเขียนเอาไว้แล้วในกระดาษ ส่วนต่างหูไม่ต้องสลักอะไรค่ะ ขอแบบธรรมดาๆก็พอ ส่วนแหวนวงใหญ่สลักคำว่า ซู่ ด้านในแหวน ส่วนหยกที่เหลือทำอะไรก็ได้ค่ะที่คุณอยากจะทำ”

 

“ได้สิ” ฉินอี้ฟานตอบ ดูเหมือนว่าเขารู้สึกอยากจะพูดอะไรบางอย่าง

 

กู้หนิงสังเกตได้ และเธอคิดว่าฉินอี้ฟานต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้นเธอจึงถามเขาว่า

 

“คุณอยากจะพูดอะไรคะ?”

 

ฉินอี้ฟานกระดากอาย “คุณมีแผนจะส่งต่อหยกที่เหลือให้คนอื่นไหม?”

 

“ไม่ ฉันไม่คิดจะขายมันค่ะ” กู้หนิงตอบ

 

ฉินอี้ฟานดีใจขึ้นมาทันใด “ถ้าอย่างนั้นคุณขายมันให้ผมได้ไหม?”

 

ฉินอี้ฟานอยากได้หยกฮกลกซิ่วเพื่อทำตุ้มหูและจี้ห้อยคอให้แม่ของเขา

 

กู้หนิงไม่รู้จะพูดอะไรในตอนแรก ความตั้งใจของเธอคือวางหยกฮกลกซิ่วไว้ในร้านของเธอเพื่อดึงดูดลูกค้า แต่ในเมื่อฉินอี้ฟานเอ่ยปากขอกับเธอ เธอเองก็ไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง เธอยังมีตาทิพย์อยู่ เธอสามารถใช้มันหาหยกมีค่าชิ้นอื่นๆได้อีก

 

ดังนั้นกู้หนิงจึงตอบตกลง “ได้สิคะ”

 

ฉินอี้ฟานตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น

 

ยกเว้นส่วนที่กู้หนิงต้องการทำเครื่องประดับ ยังมีเหลือพอที่จะทำจี้หยกสองชิ้นและต่างหูสองคู่ ฉินอี้ฟานวางแผนที่จะทำจี้และต่างหูให้แม่และพี่สาวของเขา

 

ฉินอี้ฟานไม่คิดค่าสลักเพิ่ม แต่กู้หนิงก็ยืนยันจะจ่าย แต่สุดท้ายเธอก็ยอมตกลง

 

ฉินอี้ฟานสัญญาว่าเครื่องประดับจะเสร็จภายในสามวัน สามวันก็เป็นเวลามากเพียงพอแล้ว

 

กู้หนิงยังมีเรียนช่วงบ่าย ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นาน ฉินอี้ฟานตั้งใจส่งเธอกลับ แต่กู้หนิงบอกปัด เธอไม่อยากให้เพื่อนร่วมชั้นซุบซิบนินทา

 

ฉินอี้ฟานเข้าใจจึงไม่เซ้าซี้เธอ

 

กู้หนิงรีบมาที่นี่และยังไม่ได้กินอะไร เธอจะไปกินข้าวที่ชั้นใต้ดินก่อนกลับโรงเรียน

 

ขณะนี้เวลาบ่ายโมงครึ่ง กู้หนิงยังมีเวลาเหลือ

 

กู้หนิงสั่งอาหาร รอไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ ในขณะที่เธอมีความสุขกับการกิน จู่ๆก็มีเงาสีดำนั่งลงตรงข้ามเธอ

 

กู้หนิงเงยหน้าขึ้น เธอตกใจเมื่อเห็นผู้ชายที่นั่งลงตรงข้ามเธอ

 

เป็นเขา! ได้ไง? ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?

 

“อะไร?”

 

กู้หนิงตกใจจนพ่นเม็ดข้าวใส่ร่างของเขา เลิ่งเชาถิงทำหน้าไม่พอใจ

 

กู้หนิงรู้สึกอาย เธอรีบเอ่ยขอโทษ “ขอโทษๆ ฉันผิดเอง ไม่ได้ตั้งใจนะ”

 

เธอยื่นกระดาษทิชชู่ให้เลิ่งเชาถิง

 

เลิ่งเชาถิงขมวดคิ้ว เขารับกระดาษทิชชู่มาและปัดเศษข้าวออกจากตัวสองสามที

 

“เอ่อ คุณมาทำอะไรที่นี่?” กู้หนิงถาม ถึงแม้เธอจะถามคำถามแต่เธอรู้คำตอบอยู่แล้ว

 

ว่าที่จริง…

 

“ปืน” เขาเอ่ยอย่างเย็นชาและไม่พูดอะไรออกมาอีก

 

กู้หนิงหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ผู้ชายคนนี้ฉลาดจริงๆ เขารู้ว่าเธอมีปืนอีกกระบอกกับตัว และเขาก็ตามเธอมาตลอดทาง แต่แล้วยังไงล่ะ? เธอเก็บปืนไว้ในพื้นที่กระแสจิต ยังไงเขาก็หาไม่เจอ

 

กู้หนิงจึงสงบลงในไม่ช้า เธอแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา “ปืนอะไรเหรอ?”

 

กู้หนิงไม่ยอมรับ เลิ่งเชาถิงก็ไม่ได้โมโห เขายังคงสงบนิ่ง “ผู้ชายที่ถูกคุณตีสลบในห้องอาหาร ปืนของเขาหายไป และคุณก็เป็นคนเอามันไป”

 

“ปืนหายไปแล้วทำไมต้องเป็นฉันที่เอาไปด้วยล่ะ?” กู้หนิงเถียงกลับ ถึงเธอจะเป็นคนเอาไปก็เถอะ

 

“ถ้าไม่ใช่คุณ ก็ต้องเป็นคนที่อยู่กับคุณ” เลิ่งเชาถิงเอ่ย

 

เลิ่งเชาถิงยังเชื่อว่ากู้หนิงเป็นคนหยิบเอาปืนไป

 

กู้หนิงพูดไม่ออก เธอต้องการพูดว่าบางทีผู้จัดการโรงแรมอาจเป็นคนเอาไป แต่เธอไม่อาจทำแบบนั้นได้ เธอไม่ต้องการโบ้ยความผิดให้คนอื่น

 

“ฉันไม่ได้เอาไป และตอนนี้ฉันต้องกลับเข้าไปเรียน ไม่มีเวลามาพูดกับคุณหรอก บาย” กู้หนิงไม่รู้จะพูดอะไร ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงวิ่งหนี เธอหยิบกระเป๋าเป้และเดินออกไป

 

เลิ่งเชาถิงไม่ได้หยุดเธอซึ่งทำให้กู้หนิงประหลาดใจมาก เขายอมแพ้แล้วเหรอ?

 

กู้หนิงคิดผิด เขาไม่ได้หยุดเธอแต่ตามเธอไปต่างหาก

 

ตอนแรกกู้หนิงคิดว่าเขากับเธอคงไปทางเดียวกัน แต่ไม่ว่าเธอจะเดินไปทางไหน เขาก็จะเดินตามข้างหลังตลอด

 

“คุณเดินตามฉันทำไม?” กู้หนิงถอนหายใจ หรือเธอควรจะคืนปืนให้เขาดีไหมนะ?

 

“ผมจะตามจนกว่าคุณจะส่งปืนคืนมาให้ผม” เลิ่งเชาถิงตอบ

 

กู้หนิงพูดไม่ออกอีกครั้ง แต่เธอลังเลที่จะคืนปืนให้เขา แม้ว่าจะรู้ว่าเธอไม่สามารถสลัดเขาหลุดพ้นได้ง่ายๆ แต่เธอก็อยากจะลองดู

 

“ในเมื่อคุณคิดว่าปืนอยู่กับฉัน ก็ลองเข้ามาค้นดูสิ!” พูดจบกู้หนิงก็เดินเข้าไปหาเขา เธอทำท่าว่าพร้อมที่จะให้เขาค้นตัวเธอ

 

เลิ่งเชาถิงถอยหลังอย่างลืมตัว เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ในดวงตาของเขามีความไม่พอใจแฝงอยู่

 

“ฉันบอกว่าฉันไม่ได้เอาปืนไปและคุณก็ไม่เชื่อ ตอนนี้ฉันให้คุณค้นตัวฉัน แต่คุณก็ไม่ทำ ถ้าอย่างนั้นได้โปรดหยุดตามฉันสักทีค่ะ หรือจะให้ฉันโทรเรียกตำรวจ” กู้หนิงขู่เขา จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป

 

ครั้งนี้เลิ่งเชาถิงไม่ได้ตามเธอ เขายืนอยู่ตรงนั้นและมองกู้หนิงค่อยๆลับหายไปจากสายตา

 

อย่างไรก็ตามมันไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมแพ้ เพียงแต่เขาไม่อยากค้นตัวเธอเท่านั้นเอง

 

เมื่อเห็นว่าเลิ่งเชาถิงไม่ตามเธอมาแล้ว กู้หนิงก็ถอนหายใจโล่งอก

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป