เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
การนั่งหลังขดหลังแข็งบนศาลานี่ทำเอาเขาปวดเมื่อยน่าดู
"อิๆๆๆ" ใช่แล้ว เสียงหัวเราะนี้นี่แหละที่ปลุกเขาขึ้นมา
ทำให้อาร์ตเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าเขาไม่ได้อยู่ที่ศาลานี้คนเดียว
อาร์ตค่อยๆเพ่งมองร่างงามที่เป็นเจ้าของเสียงหัวเราะสดใสเบื้องหน้า
เธอแต่งกายด้วยชุดนักศึกษาฟิตเปรี๊ยะตามแบบสมัยนิยม
ชุดแบบนี้แหละที่อาร์ตสงสัยมาตลอดว่า
มันปกปิดร่างกายพวกเธอได้แค่ไหนกันเชียว
อย่างสาวงามตรงหน้าก็เหมือนกัน
กระโปรงสีดำฟิตๆที่แสนสั้นนั้น
ก็ไม่สามารถช่วยปกปิดเรียวขาขาวๆเนียนใส
กับสะโพกกลมๆแสนเย้ายวนขนาด 35 นิ้วได้เลย
เสื้อนักศึกษาสีขาวที่อยู่ในทรงเข้ารูปก็รับกับหน้าทอง
ที่แบนราบและเอวเล็กๆที่โค้งสวยขนาด 24 นิ้วได้เป็นอย่างดี
แต่ในขณะเดียวกันก็แทบจะปริแตก
เมื่อต้องห่อหุ้มเต้างามขนาดใหญ่ประมาณ 36 นิ้วเห็นจะได้
ส่วนเนื้อผ้านั้นก็บางเบา
ทำให้รู้หมดเลยว่าสาวงามคนนี้ใส่บราสีแดงเพลิงไว้ข้างใน
แต่สิ่งที่ทำให้อาร์ตสะดุดตาสาวงามตรงหน้าก็คือเส้นผมของเธอ
เส้นผมหยักศกเล็กน้อยที่ยาวถึงกลางหลัง
เส้นผมที่มันขลับบ่งบอกว่าถูกดูแลมาเป็นอย่างดี
เส้นผมที่ช่วยปิดบังหน้าของเธอไว้เล็กน้อย
ทำให้อาร์ตเห็นหน้าเธอไม่ชัด
เส้นผมยาวสลวยที่ถูกย้อมจนเป็นสีเงินสะดุดตา
'แรงจังแหะผู้หญิงคนนี้' อาร์ตได้แต่นึกในใจ
แต่เขาก็ต้องเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นสาวงามตรงหน้า
กำลังสนุกสนานกับการโยนขนมบังให้ปลาใบบึง
ซึ่งมันชั่งขัดกับลักษณะภายนอกที่ดูแรงๆของเธอเหลือเกิน
'ถ้าจะรั่วแหะแม่คนนี้ มาโยนขนมปังตอนจะสองทุ่มนี่น่ะ'
สาวน้อยคนนี้ไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่ากำลังมีชายหนุ่มคนนึงมองเธออย่างสนใจ
เธอยังคงสนุกสนานกับการให้อาหารปลาต่อ
ความเพลิดเพลินสนุกสนานนี้ทำให้
เธอไม่ได้ระวังตัวเผลอก้าวไปเหยียบตรงพื้นลื่นๆ
ทำให้เธอหกล้มทันที ! แต่ไม่ทันที่เธอจะล้มลงบนพื้น
ก็มีอ้อมแขนแข็งแรงของชายหนุ่มด้านข้างมาประครองเธอได้ทัน
โชคดีที่อาร์ตนั่งไม่ห่างมาก เขาจึงพุ่งเข้าไปรับตัวเธอได้ทัน
ทันทีที่เขาสัมผัสร่างงามตรงหน้าเขาก็ต้องทึ่งไม่น้อย
ผิวพรรณที่ขาวเนียนของเธอคนนี้
กลับแข็งแรงแน่นกระชับอย่างไม่น่าเชื่อ
หน้าอกคู่งามกำลังสั่นขึ้นลงด้วยความตกใจ
ช่างยั่วยวนสายตาอาร์ตกว่าเมื่อครู่เสียอีก
และเมื่อเขาละสายตาขึ้นไปมองใบหน้าของสาวงามตรงหน้า
เขาก็ต้องตกตะลึงทันที
ริมฝีปากของเธอช่างอวบอิ่มน่าหลงใหล
ยิ่งเมื่อมันถูกทาด้วยลิบกรอสสีชมพูก็ทำให้ปากของเธอ
ดูมีเสน่ห์ขึ้นมาทันที
จมูกของเธอก็โด่งเป็นสันรับกับโครงหน้ารูปไข่ของเธอได้อย่างพอเหมาะ
ดวงตากลมโตที่ดูลึกลับชวนฝัน
ตอนนี้ก็กำลังมองสบตากับเขา
สีหน้าตกใจเมื่อครู่ผ่อนคลายลงไปมาก
เมื่อเธอรู้สึกปลอดภัยในอ้อมแขนของอาร์ต
"หน้า 'วิเวียน' มีอะไรติดอยู่เหรอค่ะ"
เธอเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เธอและเขาจ้องตากันมาพักใหญ่
พร้อมกับส่งยิ้มหวานๆให้ชายหนุ่มที่กำลังประครองเธอไม่ยอมปล่อย
รอยยิ้มหวานๆกับสายตาของเธอส่งให้
ทำให้อาร์ตหัวใจเต้นแรงขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ
สายตาที่เธอมองเขาทำให้อาร์ตรู้สึกประหลาด
จะว่าไปเขาเองก็เคยเจอสายตาผู้หญิงมาหลายรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็นดูถูกเหยียดหยาม
จนไปถึงยั่วยวนอยากให้เขาเข้ามาเย็ด
แต่สายตาของหญิงสาวตรงหน้ามันต่างออกไป มันดูใสซื่อไร้เดียงสา
แต่ในขณะเดียวกันก็ดูอบอุ่นจนอยากอยู่ใกล้
ที่จริงเขาอยากกอดเธอไว้แบบนี้อีกนานๆ
แต่เมื่อเธอร้องทักขึ้นมาแบบนี้เขาก็จำใจ
ค่อยๆประครองเธอลงนั่ง
"ขอบคุณค่ะ ถ้าไม่ได้คุณ วิเวียนคงกระแทกพื้นไปแล้ว
ดีไม่ดีอาจจะกลิ้งตุบๆลงน้ำเลยก็ได้"
วิเวียนหันมาขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้า
พร้อมกับกล่าวออกมาขำขำ
เธอไม่รู้เลยว่าไอ้ที่เธอกำลังทำอยู่นี่
ยิ่งทำให้ชายตรงหน้าใจเต้นแรงไปถึงไหนๆ
"วิเวียน !!" อาร์ตเผลออุทานชื่อเธอออกมาเสียงดัง
ที่จริงเขาแค่ท่องชื่อเธอในใจ
แต่ด้วยความตื่นเต้นเขากลับเผลอส่งเสียงออกมาแทนซะงั้น
"เดี่ยวเถอะ ล้อชื่อวิเวียนเหรอ"
วิเวียนเอื้อมมือมาตีเขาเบาๆ
อาการเง้างอนของเธอตอนนี้มันช่างดูน่ารักจริงๆในสายตาอาร์ต
"วิเวียนยังไม่ได้ถามคุณเลย คุณชื่ออะไรเหรอค่ะ"
"อาร์ตครับ" เขาอยากจะตีปากตัวเองจริงๆ
ที่จริงสถานการณ์แบบนี้เขาควรจะเป็นคนแนะนำตัวเองแท้ๆ
"ผมไม่เคยเห็นวิเวียนเลย วิเวียนพึ่งย้ายเข้ามามหาลัยเทอมนี้เหรอครับ"
"อ๋อคะ วิเวียนพึ่งโอนหน่วยกิจมาจากที่เดิมนะค่ะ
แต่พูดถึงแค่โอนหน่วยกิจแค่นี้ยุ่งยากจังเลยนะค่ะ
กว่าเรื่องจะจบได้ก็ใช้เวลาตั้งหลายอาทิตย์แน่ะ"
วิเวียนพูดไปทำหน้ามุ่ยไป
อาร์ตเองก็มองแล้วก็เผลอยิ้มตาม
ผู้หญิงคนนี้ทำหน้าแบบไหนมันก็ดูน่ารักไปซะหมดเลยแหะ
พูดถึงสถานการณ์แบบนี้ถ้าเป็นเขาตอนปกติจะทำอะไรดีน่ะ
ก็คงจะชวนเธอไปดูหนังกินข้าวล่ะมั้ง
แต่กลับสถานการณ์ตอนนี้เขาจะชวนเธอดีหรือเปล่า
ถ้าอยู่ๆก็ชวนขึ้นมาเนี่ย
เธอจะหาว่าเขาเป็นพวกหน้าม่อไหมน่ะ
เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองจะประหม่าได้ขนาดนี้ -*-
"วันสุดท้าย ที่ใจจะจำว่าเคยรักใคร รักที่ผ่านมาก็แค่นิยาย
ไม่มีความหมาย ก็แค่ฝันร้าย ทรมาน"
ไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรต่อ อยู่ๆเสียงริงโทนของอาร์ตก็ดังขึ้น
ดึงสติของอาร์ตให้กลับคืนมาอีกครั้ง
เขารีบคว้านหามือถือในกระเป๋าทันที
และทันทีที่เขาหยิบมือถือขึ้นมาเขาก็คิดอะไรบางอย่างออก
'อย่างน้อยก็ขอเบอร์เธอไว้ก่อนดีกว่า'
แต่เมื่อเขาหันกลับมาทางหญิงสาว
ก็พบว่าเธอเดินออกไปไกลเสียแล้ว
แต่ก่อนที่เธอจะเดินไปถึงรถยนต์ที่จอดอยู่
วิเวียนก็หันกลับมามองที่ศาลาอีกรอบพร้อมกับโบกมือไปมา
แล้วก็ขับรถจากไปทันที
ทิ้งให้อาร์ตนั่งตาละห้อยด้วยความเสียดาย
ก่อนจะรับโทรศัพท์เสียงหงอยๆ
"ฮัลโหล"
"ทำอะไรอยู่อาร์ต ทำไมพึ่งรับโทรศัพท์ อยู่กับใครใช่ไหม"
หญิงสาวปลายสายส่งเสียงแหวดใส่ทันที
ทำเอาอาร์ตสะดุ้งเล็กน้อย
เสียงแบบนี้ไม่ต้องดูเบอร์ก็รู้ว่าใคร
"เปล่าครับพี่แพร พอดีผมปิดเสียงไว้น่ะครับ"
"โกหก! อยู่กับใครใช่ไหมบอกมาเดี๋ยวนี้น่ะ"
"ไม่มีใครจริงๆครับพี่แพร ผมอยู่คนเดียว"
"นึกว่าชั้นไม่รู้จักเธอเหรอ บอกมาเดี๋ยวนี้น่ะว่าอยู่กับนังคนไหน"
"พี่แพร !" อาร์ตส่งเสียงตวาดดังลั่น ทำเอาคู่สายนิ่งเงียบไปทันที
"ตกลงจะไม่เชื่อผมใช่ไหม"
"อาร์ต ....... พี่ขอโทษ" เสียงของเธออ่อนลงทันที
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มโมโห "พี่เหงา ... มาหาพี่น่ะ"
"ไม่ดีกว่าครับพี่แพร ผมเหนื่อย" เขาปฏิเสธทันที
"ไม่น่ะอาร์ต" เธอเริ่มส่งเสียงสะอื้นออกมาเล็กน้อย
"พี่ไม่ได้เจออาร์ตมาหลายวันแล้ว ถ้าวันนี้ไม่ได้เจออีกพี่ต้องตายแน่ๆ"
จริงๆอาร์ตเห็นน้ำตาผู้หญิงมาก็เยอะ
มีหลายคนเหลือเกินที่ใช้มุขบีบน้ำตาเวลาเขาขอแยกทาง
ดังนั้นเรื่องเห็นน้ำตาแล้วใจอ่อนสำหรับอาร์ตมันไม่มีทางอยู่แล้ว
แต่กับพี่แพรคนนี้มันต่างออกไป
เขาไม่ชอบเวลาเห็นน้ำตาของเธอเอาซะเลย
ชายหนุ่มเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะตอมรับคำขอของคู่สาย
เสียงของเธอดูมีความสุขขึ้นมาทันที
แม้ใจจริงอาร์ตอยากจะตามสาวงามผมสีเงิน
ที่พึ่งขับรถไปตรงหน้ามากกว่า แต่เธอก็ขับรถไปไกลเสียแล้ว
แม้จะพลาดโอกาสนี้ไป แต่ยังไงซะถ้าเธอเป็นเด็กมหาลัยนี้
เขาก็ต้องได้เจอเธออีกแน่ เรื่องของวิเวียนพักไว้ก่อน
มาจัดการเรื่องของพี่แพรก่อนดีกว่า
อาร์ตใช้เวลาพักใหญ่ก็เดินทางมาถึงคอนโดของพี่แพรสำเร็จ
คอนโดพี่เขาเป็นคอนโดหรูหรากลางใจเมือง
ที่มีราคาห้องแพงมหาศาล
แต่เพราะพี่แพรเขาเป็นถึงผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
ของโรงแรมระดับ 5 ดาว จึงสามารถเป็นเจ้าของได้สบาย คอนโดแห่งนี้นอกจากความหรูหราไฮโซแล้ว
เรื่องความปลอดภัยก็ชั้นหนึ่งเหมือนกัน
มีรปภ.ยืนประจำการรายรอบ
ไหนจะกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งแทบจะทุกมุมอีกต่างหาก
และระเบียบปฏิบัติก็เคร่งครัดพอดู
คนนอกต้องผ่านการแลกบัตรเสียก่อนถึงจะขึ้นได้
แม้แต่อาร์ตที่เข้าออกคอนโดแห่งนี้ประจำก็เถอะ
ลิฟต์ความเร็วสูงใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีพาอาร์ตขึ้นมายังห้องพี่แพรได้สำเร็จ
เขาเดินช้าๆจนมาถึงหน้าประตู
ประตูนี้ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี แข็งแรงสวยงาม
และถ้าจะเข้าก็ต้องใช้คีย์การ์ดเท่านั้น แน่นอน
เขาเองก็มีอยู่แล้ว เขาค่อยๆรูดคีย์การ์ดช้าๆอย่างสบายอารมณ์
'หมดน้ำตาไปกี่ลิตรแล้วน่ะ'