Your Wishlist

Cry, Even Better if you Beg ถ้าไม่ร้องก็จงอ้อนวอน (ตอนที่ 4 ก้มศีรษะ)

Author: Solchae / Lilly แปล

จำนวนตอน :

ตอนที่ 4 ก้มศีรษะ

  • 11/08/2567

เลย์ลาออกจากคฤหาสน์เมื่อท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูอมส้ม ขณะที่เธอเดินออกจากทางเข้าสวนกุหลาบ ลมเย็นสดชื่นก็พัดมาต้อนรับเลย์ลา

 

ในมือขวาของเธอกำเหรียญทองไว้แน่น เลย์ลาเดินอย่างภูมิใจ แต่ก้าวที่มั่นใจนั้นไม่ยาวนานนัก คลอดีนกำลังนั่งอยู่ใต้ศาลาที่อยู่ใกล้กับต้นกุหลาบเลื้อยที่กำลังบานเต็มที่ คลอดีนที่กำลังพูดคุยอย่างสนุกสนานกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ ยิ้มอย่างไม่ค่อยเต็มใจเมื่อสายตาของเธอประสานกับเลย์ลา

 

"ลาก่อน เลย์ลา"

 

คลอดีนเอ่ยทักทายก่อน หนุ่มๆ ที่นั่งอยู่ข้างคลอดีนต่างหันมามองเลย์ลา โชคดีที่ดยุคเฮอร์ฮาร์ดไม่ได้อยู่ที่นั่น

 

เลย์ลาโค้งตัวตอบกลับ คลอดีนนั่งนิ่ง ไม่ได้ตอบสนองกลับ

 

เมื่อพ้นสายตาของคนกลุ่มนี้แล้ว เลย์ลาก็เริ่มออกวิ่ง เธอต้องการหนีจากโลกที่แปลกประหลาดและไม่คุ้นเคยนี้และกลับไปที่กระท่อมของลุงบิลให้เร็วที่สุด แต่เคราะห์ร้ายที่สุดดันเกิดขึ้นในวินาทีสุดท้าย

 

ตรงเขตแดนระหว่างสวนและทางเดินป่า เลย์ลาล้มลง เหรียญทองกลิ้งไปตามทางเดินหินและชนกับขอบรองเท้าของชายคนหนึ่ง เลย์ลาขมวดคิ้วเมื่อเห็นเหรียญทองหมุนไปมา ชายคนนั้นใช้ปลายรองเท้าเหยียบเหรียญเอาไว้

 

เลย์ลาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองรองเท้าที่ขัดมันเงา ไล่สายตาขึ้นไป จนกะทั่งมองเห็นใบหน้าของชายคนนั้นซึ่งกำลังจ้องมองเธออยู่จากเบื้องบน ดยุคเฮอร์ฮาร์ด

 

เลย์ลาสะดุ้งด้วยความตกใจและลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ชุดสีขาวของเธอเปื้อนฝุ่นและเลือดจากเข่าที่ถลอก ดยุคเฝ้าดูเลย์ลาด้วยท่าทีสงบ ริมฝีปากสีแดงของเขาดูเหมือนจะยกขึ้นเล็กน้อย

 

เลย์ลากัดริมฝีปากและปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าของตัวเอง ขณะที่ดยุคเฮอร์ฮาร์ดก้าวถอยหลังอย่างไม่รีบร้อน เหรียญที่อยู่ใต้เท้าของเขาแวววาวสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็น

 

แม้ว่าเลย์ลาจะอยากปล่อยมันไป เธอก็ย่อตัวลงต่อหน้าดยุค ขณะที่เธอกำลังจะยื่นมือออกไป เธอก็นึกถึงคำพูดของเลดี้แบรนต์ที่พูดทิ้งไว้  ‘ไม่มีอะไรดีไปกว่าสุนัข’ คำพูดเหล่านั้นทิ้งรอยแผลลึกไว้ในใจของเลย์ลา

 

เลย์ลาหยิบเหรียญขึ้นมาและก้มศีรษะให้ดยุคเฮอร์ฮาร์ดอย่างสุภาพ เธอไม่กล้าเงยหน้าขึ้น สิ่งเดียวที่ทำได้คือก้มศีรษะลงให้ต่ำที่สุดและกลั้นหายใจไว้ แม้ว่าเธอจะรู้สึกเจ็บต้นที่ล้ม แต่ตอนนี้เธอกลับไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไปเมื่อต้องก้มศีรษะให้คนตรงหน้า

 

หลังจากที่ทำความเคารพดยุคเฮอร์ฮาร์ดแล้ว เลย์ลาก็เริ่มออกวิ่งอีกครั้ง แม้ว่าเธอจะไม่สามารถวิ่งได้เร็วเท่าเดิมเพราะหัวเข่าที่บาดเจ็บ แต่เธอก็ยังคงฝืนขยับขาเปื้อนเลือดของตัวเอง ความรู้สึกบางอย่างผุดขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจและไหลขึ้นมาถึงลำคอ

 

หลังจากวิ่งผ่านทางเดินในป่าและเห็นแสงไฟจากกระท่อม เลย์ลาก็รู้ว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร

 

มันคือความเศร้า

 

“หนูให้ค่ะ”

 

เลย์ลายื่นเหรียญทองให้บิลด้วยท่าทางเคร่งขรึม คิ้วหนาของบิลขมวดเข้าหากันอย่างช้าๆ

 

“นี่คืออะไร”

 

“เหรียญทองค่ะ”

 

“เธอคิดว่าฉันไม่รู้หรือ”

 

“เลดี้คลอดีนให้หนูมา”

 

“คลอดีน? อ๋อ เลดี้ตัวน้อยคนนั้นสินะ”

 

บิลพยักหน้าเหมือนเขารู้จักหล่อนดี

 

นับตั้งแต่เลย์ลาถูกเรียกไปที่คฤหาสน์ เธอก็ซึมเศร้าลงตลอดสองวันที่ผ่านมา เธอไม่พูดหรือเดินเล่นในป่าและสวนอีก บิลสังเกตเห็นว่าเขาคิดถึงความสดใสในอดีตของเด็กน้อย

 

โลกเงียบไปด้วยเพราะเด็กน้อยเงียบ และบิลก็ไม่ชอบโลกที่เงียบแบบนี้เท่าไรนัก

 

“ทำไมเธอถึงอยากให้เงินนี้กับฉันล่ะ?”

 

บิลโน้มตัวไปที่โต๊ะเล็กน้อย เลย์ลานั่งตัวตรงเผชิญหน้ากับเขา

 

“เพราะหนูคิดว่ามันมีค่ามาก”

 

“มันมีค่ามากจริงๆ”

 

“…แม้ว่าในตอนแรกหนูจะรู้สึกทุกข์ใจที่ได้รับเหรียญนี้ แต่หนูก็ไม่สามารถทิ้งมันไปได้เพราะมันมีค่ามาก ดังนั้นหนูจึงคิดว่าถ้าหนูให้เหรียญนี้กับลุงแทน หนูจะสามารถเริ่มตอบแทนบุญคุณลุงได้บ้าง”

 

“บ้าจริง”

 

บิลพึมพำอย่างหุนหัน เลย์ลาสะดุ้งเล็กน้อยแต่ไม่สนใจคำสบถของเขา

 

ตั้งแต่เด็กหญิงมาถึงอาร์วิส บิลกังวลว่าพวกคนชั้นสูงจะทำร้ายจิตใจอันเปราะบางของเด็กหญิง เขากลัวว่าคนชั้นสูงเหล่านั้นจะรังแกเด็กหญิงเพราะสถานะที่ต่ำกว่าของหล่อน สำหรับบิล คนชั้นสูงก็เหมือนกันหมด

 

หยิ่งยโส หยาบคาย และชอบเหยียดหยาม

 

แม้ว่าบิลจะกลัวว่าเขาอาจทำให้เด็กน้อยร้องไห้หากเขาถามว่าเกิดอะไรขึ้นที่คฤหาสน์ แต่เขาก็สามารถคาดเดาได้ว่าเด็กน้อยถูกปฏิบัติอย่างเลวร้ายแค่ไหนที่นั่น

 

“เลย์ลา”

 

เลย์ลาที่พยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่ตามวัยยิ้มแป้นเมื่อเขาเรียกชื่อเธอ

 

“ในเมื่อเธอหาเงินได้เอง ก็เก็บไว้เถอะ”

 

“เงินที่หนูหาได้เอง?”

 

“ใช่ มันคือเงินที่เธอได้จากการทำงาน การรับใช้คนชั้นสูงที่เบื่อพวกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เธอก็ทำได้ ดังนั้นเธอสามารถอ้างสิทธิ์ในรางวัลของเธอได้อย่างมั่นใจ”

 

เลย์ลาขมวดคิ้วด้วยความสับสน ขณะที่บิลมองดูเด็กน้อยที่กำลังครุ่นคิด เขาก็ยกแก้วเบียร์หนาๆ ในมือขึ้นดื่มจนหมด

 

“จริงหรือคะ?”

 

เลย์ลาเอียงหัวขณะเคาะเหรียญทอง

 

“ใช่แล้ว”

 

บิลเช็ดเบียร์ที่เลอะบนหนวดเคราของเขาด้วยแขนเสื้อ

 

เงินที่หนูหาได้เอง

 

ใบหน้าของเลย์ลาค่อยๆ สว่างขึ้น

 

“ยินดีต้อนรับสู่โลกของผู้ใหญ่ เลย์ลา”

 

บิลหั่นเนื้อชิ้นใหญ่และวางบนจานของเด็กน้อย

 

“ผู้ใหญ่? หนูเนี่ยนะ?”

 

“ถ้าเธอหาเงินได้เอง เธอก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ และนั่นคือสิ่งที่เธอทำ”

 

“แต่หนูหาเงินได้แค่เหรียญทองเดียวเอง

 

“มีคนแก่หลายคนที่ยังหาเงินไม่ได้สักเหรียญเดียวในโลกนี้เลยนะ ดังนั้นเธอเริ่มต้นได้ดีมากแล้ว เพราะเธอเริ่มต้นได้ดี เธอจะต้องโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีแน่ๆ”

 

บิลวางขนมปังและผักอบลงบนจานของเลย์ลาเป็นกอง

 

“ลุงคะ มันเยอะเกินไป”

 

ดวงตาของเลย์ลาเบิกกว้างเมื่อเห็นอาหารจำนวนมากในจานของตัวเอง

 

“เธอกินน้อยเหมือนนกมาหลายวันแล้ว กินเยอะๆ หน่อย”

 

“แต่…”

 

“รู้ใช่ไหมว่าฉันชอบเด็กที่กินเยอะเหมือนวัว”

 

เลย์ลาหัวเราะออกมา

 

“ลุงคะ ถ้าหนูกินเก่ง หนูจะตัวโตกว่านี้มากใช่ไหมคะ”

 

“ก็น่าจะอย่างนั้นนะ ทำไมล่ะ มีใครรังแกเธอเพราะตัวเตี้ยงั้นหรือ”

 

“ไม่เชิงค่ะ แต่หนูคิดว่าหนูดูเด็กเกินไป มันทำให้หนูไม่สบายใจ”

 

ก็เพราะเธอยังเป็นเด็กอยู่น่ะสิ บิลหยุดตัวเองไม่ให้พูดความจริงที่ชัดเจนนี้ออกมา

 

เลย์ลาเริ่มหั่นเนื้อในจานอย่างคล่องแคล่ว

 

 

สำหรับบิล ดูเหมือนว่าเลย์ลาจะโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา ร่างกายของเด็กน้อยไม่ผอมเหมือนแท่งเหล็กอีกต่อไป เธอสวยขึ้นมาก โครงร่างเล็กและบอบบางเหมือนนก ทำให้เธอไม่น่าจะเติบโตเป็นคนที่มีร่างกายใหญ่โต มีแต่จะเติบโตเป็นหญิงสาวงดงามมากผู้หนึ่ง

 

บิลประหลาดใจเมื่อเขาพบว่าตัวเองกำลังชื่นชมความงามของเลย์ลาและส่ายหัวเพื่อดึงสติกลับมา

 

สำหรับผู้หญิงที่ฐานะยากจน ความงามก็ไม่ต่างจากยาพิษ พวกเธอมักจะต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ นั่นคือเหตุผลที่บิลตัดสินใจที่จะส่งเด็กน้อยไปยังสถานที่ที่เขาสามารถไว้ใจได้ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ใช่สถานที่ที่เขาเชื่อใจได้ทั้งหมด เพราะเขาเชื่อว่ามันเป็นที่ที่เหมาะในการทำลายชีวิตเด็กเสียมากกว่า

 

โลกที่ชั่วร้าย มนุษย์ที่ชั่วร้าย

 

บิลดื่มเบียร์ที่เหลือจนหมดขณะที่สาปแช่งชื่อของผู้ที่ทิ้งเด็กไว้ในความดูแลของเขา เป็นการยากที่จะเข้าใจว่าทำไมความกังวลเหล่านี้จึงฝังอยู่ในชีวิตของบิล เรมเมอร์ เขาปรารถนาวันเวลาที่ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยดอกไม้และต้นไม้จะกลับมาอีกครั้ง

 

“ลุงคะ ถ้าหนูหาเงินได้ หนูก็ไม่ต้องอายที่จะใช้มันใช่ไหมคะ?”

 

เลย์ลาถามขณะที่เคี้ยวอาหารอย่างละเอียด

 

“แน่นอน ทำไมล่ะ เธออยากได้อะไรหรือ”

 

“สมุดของหนูหมดแล้วค่ะ หนูอยากซื้อใหม่”

 

“เอาเลย”

 

“หนูซื้อดินสอสีด้วยได้ไหมคะ”

 

“แน่นอน”

 

“ลุงอยากได้อะไรไหมคะ”

 

“ทำไมล่ะ เธอคิดจะซื้ออะไรให้ฉันด้วยหรือ”

 

“ใช่ค่ะ”

 

“ถ้าฉันขออะไรที่แพงล่ะ”

 

ใบหน้าของเลย์ลาจริงจังขึ้น ทุกครั้งที่เด็กหญิงเอาจริงเอาจัง ดวงตาของเธอจะเข้มและกว้างขึ้น ซึ่งทำให้เธอดูสวยยิ่งขึ้น

 

บิลหัวเราะเสียงดังขณะที่เขาเติมน้ำแอปเปิ้ลลงในแก้วของเด็กน้อย

 

เลย์ลายกแก้วขึ้นและส่งสัญญาณให้บิลชนแก้วกับเธอ บิลยินดีที่จะชนแก้วของเขากับแก้วของเด็กน้อยที่ยื่นออกมา แล้วเลย์ลาก็ดื่มน้ำแอปเปิ้ลหมดแก้วในครั้งเดียว

 

บิลเริ่มกังวลว่าเด็กน้อยอาจจะเริ่มเลียนแบบพฤติกรรมการดื่มของเขา

 

เขาส่ายหัวกับความคิดที่ว่าเลย์ลาจะกลายเป็นขี้เมา

 

ฉันจะยอมให้วันนี้วันเดียวเท่านั้นนะเด็กน้อย

 

บิลโน้มน้าวตัวเอง

 

วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ และในช่วงเวลานั้น บิลคิดถึงเหตุผลที่เขาไม่สามารถเลี้ยงดูเลย์ลาได้และสงสัยว่าจะส่งเด็กคนนี้ไปที่ไหนดี

 

เลย์ลา เด็กน้อยที่น่ารักและยุ่งยากวุ่นวายซึ่งปรากฏตัวในชีวิตของเขาอย่างกะทันหัน

 

ในช่วงเวลาที่บิลยังคงสงสัยไม่สิ้นสุด เลย์ลาก็เติบโตขึ้นทุกวัน

 

เสื้อผ้าใหม่ที่บิลซื้อให้เลย์ลากลายเป็นสั้นมากจนเผยให้เห็นน่องสีขาวนวลของเธอ ห้องที่เหมือนคลังสินค้าที่เคยถูกจัดไว้สำหรับให้เลย์ลาอาศัยชั่วคราวก็แปรเปลี่ยนไปเป็นห้องของผู้หญิงเต็มตัว เด็กน้อยที่เคยกระโดดโลดเต้นไปตามเส้นทางในป่า บัดนี้เติบโตเป็นสาวน้อยที่ก้าวเดินอย่างนุ่มนวลราวกับลอยบนผิวน้ำ

 

บิลนั่งอยู่บนเก้าอี้ใต้ระเบียงมองเลย์ลาด้วยสีหน้างุนงง หญิงสาวที่ถือกระเช้าหวายเต็มไปด้วยราสเบอร์รี่กำลังโบกมือให้เขา

 

“ลุงคะ วันนี้กลับมาเร็วจัง”

 

เลย์ลาวิ่งมาหาเขาอย่างเบาๆ ราวกับกำลังเต้น ผมบลอนด์ที่น่าดึงดูดของเธอที่ถูกรวบเป็นเปียเส้นเดียวสั่นไหวใต้ขอบหมวกฟางใบกว้าง แก้มแดงทั้งสองของเธอสดใสเหมือนดอกกุหลาบพันธุ์ใหม่ที่บิลเพิ่งปลูก

 

“เข้าไปในป่าอีกแล้วสินะ”

 

“ใช่ค่ะ วันนี้เก็บได้เยอะเลยว่าไหมคะ”

 

เลย์ลายกตะกร้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ

 

“พรุ่งนี้หนูจะไปเก็บอีก หนูวางแผนจะทำแยมราสเบอร์รี่เยอะๆ”

 

“เธอจะเปิดธุรกิจหรือไง”

 

“นั่นก็ไม่เลวเหมือนกันค่ะ”

 

เลย์ลายิ้มสดใสขณะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ บิล บิลสังเกตเห็นทันทีว่ามีเก้าอี้สองตัวบนระเบียง และไม่ใช่แค่เก้าอี้สองตัว ก่อนที่เขาจะรู้ตัว เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดในกระท่อมถูกจัดเตรียมสำหรับสองคน ถึงแม้ว่าบิลยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับเลย์ลา

 

เลย์ลาวางตะกร้าลงบนพื้นและค้นหาลูกพีชป่าจากในนั้น เธอยื่นลูกพีชให้บิล บิลรับลูกพีชมาอย่างเป็นธรรมชาติ แบ่งครึ่งแล้วส่งส่วนที่ดูดีให้เลย์ลา

 

ทั้งสองนั่งเคียงข้างกันและชมป่าไปพร้อมกับกินลูกพีช เสียงใบไม้ที่พัดผ่านท้องฟ้าสดใสทำให้จิตใจเบิกบาน และเสียงนกร้องจากที่ไกลๆ ใสแจ๋วเหมือนเสียงของเลย์ลา

 

“อีกครั้งที่ฤดูร้อนมาเยือน”

 

บิลพึมพำโดยไม่รู้ตัว เลย์ลายิ้มเงียบๆ และถอดหมวกออกก่อนจะเหยียดแขนอย่างเกียจคร้าน เมื่อบิลเห็นกระเป๋าหนังเก่าๆ ที่ยาวลงไปถึงใต้เข่าของเลย์ลา เขาหัวเราะเสียงดัง กระเป๋าใบนั้นเป็นของขวัญชิ้นแรกที่เขาให้เธอในปีที่เธอมาถึง

 

“เธอคิดจะใช้เจ้าของเก่าจนกว่าจะสึกหรอเลยหรือไง”

 

“หนูชอบมันเพราะมันสบายดีค่ะ มันยังมีประโยชน์อยู่”

 

เลย์ลายกกระเป๋าขึ้นแล้วเขย่าแรงๆ บิลสามารถเดาเสียงกระทบกันได้อย่างง่ายดาย มันคือกล่องดินสอดีบุก มีดพก สมุดโน้ตเก่าๆ และขนนกกับกลีบดอกไม้สวยๆ หลายกลีบ ในบางแง่มุม เธอก็ยังไม่เปลี่ยนไปมากนัก

 

วันนี้เป็นเย็นธรรมดาวันหนึ่ง

 

บิลสับฟืนขณะที่เลย์ลานำผ้าที่แห้งออกมาและจัดระเบียบให้เรียบร้อย ขณะที่เธอเตรียมอาหารเย็นอย่างคล่องแคล่ว เธอก็ไม่ลืมให้อาหารไก่และแพะ เมื่อทั้งสองนั่งประจันหน้ากันจากฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ ดวงอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว

 

“พรุ่งนี้ไคล์จะมาหาค่ะ พวกเราจะติวหนังสือด้วยกันแล้วก็ทานข้าวเย็นด้วยกัน ตกลงไหมคะ”

 

เลย์ลาถามขณะที่วางจานอาหารที่มีกลิ่นหอมเย้ายวนลงบนโต๊ะ

 

"ทำไมไอ้เด็กนั่นถึงชอบมากินข้าวบ้านฉันนักนะ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีพ่อที่รวยจะตายคอยเลี้ยงอยู่แล้ว"

 

"ถึงลุงจะพูดแบบนั้น แต่หนูรู้ว่าลุงชอบเขา”

 

"โชคร้ายจริงๆ"

 

บิลพ่นลมออกจมูกอย่างไม่พอใจ เลย์ลาหัวเราะเบาๆ ขณะที่วางแก้วเบียร์ที่เติมไม่เต็มแก้วตรงหน้าบิล

 

"อะไรเนี่ย ทำไมไม่เต็มแก้วล่ะ"

 

"ลุงควรลดการดื่มเพื่อสุขภาพบ้าง"

 

"ไอ้เด็กตะกละนั่นบอกเธอมาสินะ"

 

"ลุงคะ!"

 

"เจ้าหนุ่มไม่ได้เรื่องนั่น"

 

บิลบ่นพึมพำ แต่เขาก็ไม่ได้โต้แย้งคำพูดของเลย์ลา

 

ค่ำคืนดำเนินไปพร้อมกับมื้อเย็นที่อบอุ่น เลย์ลาอาบน้ำอย่างสบายใจหลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้วจึงกลับไปที่ห้องของเธอ แม้ว่าเธอจะง่วง แต่เธอก็ตัดสินใจเปิดโคมไฟและนั่งลงที่โต๊ะ การสอบใกล้เข้ามาแล้ว และความสุขในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนของเธอก็ขึ้นอยู่กับผลสอบนั้น

 

เสียงนกร้องในยามค่ำคืนถูกพัดพาไปตามสายลม เสียงดินสอที่ขีดเขียนลงบนกระดาษก้องอยู่ในห้อง

 

เลย์ลาที่ตั้งใจเรียนมาเป็นเวลานาน ปล่อยดินสอหลุดมือไป ไม่สามารถทนต่อความเมื่อยล้าของสายตาและอาการปวดศีรษะเบาๆ ที่เข้ามาได้ สายตาของเธอที่ไม่ค่อยดีตั้งแต่แรก ดูเหมือนจะแย่ลงกว่าเดิม ตั้งแต่เธอยังเด็ก เธอต้องหรี่ตาเพื่อมองเห็นให้ชัดเจน

 

เลย์ลาดับไฟและล้มตัวลงนอนบนเตียง เธอเกือบจะบรรลุเป้าหมายในการสั่งตัดแว่นตาสำหรับเธอแล้ว

 

แยมราสเบอร์รี่ยี่สิบขวด ไม่สิ ควรจะเป็นสามสิบขวดดีไหมนะ?

 

ไม่ว่าจะยังไง มันก็ไม่ไกลเกินเอื้อมเกินไปนัก

 

แม้ว่าเธอจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยบอกกับลุงบิล แต่เธอกลัวว่าจะเป็นการเพิ่มภาระให้เขา เขาได้มอบหลายสิ่งหลายอย่างให้เธอมากมายจนเธอไม่สามารถตอบแทนได้หมดแล้ว

 

เมื่อเขาประกาศว่าจะส่งเลย์ลาไปโรงเรียน ผู้คนส่วนใหญ่ต่างหัวเราะเยาะเขา พวกเขาบอกว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะให้การศึกษากับเด็กกำพร้า พวกเขาบอกว่าเมื่อโตขึ้นเธอก็คงต้องกลายเป็นสาวใช้ของตระกูลเฮอร์ฮาร์ด แต่บิลยืนกรานในคำพูดของเขา เขาพูดกับเธอทุกวันว่า "เลย์ลา เธอจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้แน่ๆ"

 

อาการปวดหัวของเลย์ลาเริ่มบรรเทาลงเมื่อเธอหลับตา เธอพยายามที่จะนอนหลับ แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ จิตใจของเธอก็ยิ่งกระจ่างชัดขึ้น ในคืนเช่นนี้ ความคิดประหลาดๆ เริ่มเข้ามาเติมเต็มจิตใจที่ว่างเปล่าของเธอเหมือนเช่นปกติ

 

การกลับมาของนก แผนการสำหรับฤดูร้อนนี้ และผู้ต้องสงสัยในนวนิยายลึกลับที่น่าสนใจในหนังสือพิมพ์รายวัน และดยุคเฮอร์ฮาร์ด

 

เมื่อชื่อเขาเข้ามาในความคิด เลย์ลาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ท่ามกลางความมืดมิดที่คุ้นเคย เธอสามารถมองเห็นทิวทัศน์นอกหน้าต่างได้

 

กิ่งไม้ที่ไหวโยกเล็กน้อย ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ส่องแสงอยู่เหนือกิ่งไม้เหล่านั้น ดวงจันทร์และดวงดาว

 

เธอจ้องมองแสงสีขาวที่พร่ามัวจากระยะไกล เผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว

 

ดยุคซึ่งจบการศึกษาจากวิทยาลัยได้รับการแต่งตั้งเป็นนายทหารหลังจากสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนทหารหลวงตามประเพณีของตระกูล เขาไม่ได้กลับมาเยือนที่ดินนี้หลายปีแล้วเพราะถูกส่งไปประจำการที่ชายแดนต่างประเทศ ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่สงบสุขสำหรับทั้งเลย์ลาและนกในป่า

 

แต่ในฤดูร้อนนี้ เขากำลังจะกลับมา

 

เจ้าแห่งอาร์วิส ดยุคเฮอร์ฮาร์ด

 

และนี่ก็เป็นจุดสิ้นสุดของเลย์ลาในวัย 12 ปี

 

ตอนนี้ดยุคกลับมาแล้ว และเลย์ลาก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว เรื่องราวที่แท้จริงกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป