หลังจากสรุปเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ซูฮั่นหยวนก็ฉีกบทออกเป็นชิ้น ๆ ไม่มีทางที่เธอจะกลายมาเป็นแค่ตัวละครเสริม! เธอไม่เคยเป็นคนขี้ขลาด! เพื่อจัดการกับคนใจร้ายเหล่านี้ เธอจะปล่อยให้พวกเขาทำตามใจไม่ได้! มีสามคำสำหรับขยะพวกนี้คือ ‘ไปตายซะ!’
หลังจากสรุปเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ซูฮั่นหยวนก็ฉีกบทออกเป็นชิ้น ๆ ไม่มีทางที่เธอจะกลายมาเป็นแค่ตัวละครเสริม! เธอไม่เคยเป็นคนขี้ขลาด! เพื่อจัดการกับคนใจร้ายเหล่านี้ เธอจะปล่อยให้พวกเขาทำตามใจไม่ได้! มีสามคำสำหรับขยะพวกนี้คือ ‘ไปตายซะ!’
“อยากรู้เหรอ?”
“อยากสิ...”
“หัวหน้าบอกว่ามีคนจากสหภาพมาร้องเรียนฉัน เธอเลยมาเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์”
หลินชิงอี้เมินเฉยต่อคำว่า 'ร้องเรียน' และถามต่อว่า “แล้วเธอโดนว่าอะไรไหม หัวหน้าพูดอะไรบ้าง”
“ไม่เลย” ซูฮั่นหยวนนั่งลงที่เก้าอี้ของตัวเอง นั่งขาไขว่ห้างอย่างสบาย ๆ แล้วพูดต่ออย่างผ่อนคลายว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฉัน หลังจากฉันอธิบายทุกอย่างก็เรียบร้อยดี”
“หัวหน้าไม่โกรธเลยเหรอ” หลินชิงอี้ดูเหมือนจะไม่เชื่อ
“ใช่แล้ว” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของซูฮั่นหยวน “หัวหน้าเป็นคนดีมาก ถึงจะโมโหบ้างแต่ก็ไม่ใช่คนที่จะทำงานแบบไร้เหตุผล ทำไมล่ะ หรือเธออยากให้หัวหน้าโกรธฉัน”
“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น...” หลินชิงอี้รีบโบกมือปฏิเสธ
“งั้นก็ดีแล้ว” ซูฮั่นหยวนหันไปเปิดลิ้นชักและหยิบหนังสือทบทวนภาษาอังกฤษออกมาโดยไม่พูดอะไรอีก
สิ่งที่เธอได้ยินก่อนหน้านี้ เธอเก็บไว้ในใจ หนี้หนนี้จากหลินชิงอี้ถูกบันทึกไว้แล้ว เมื่อมีโอกาส เธอจะต้องตอบแทนมันอย่างแน่นอน เธอจะทำให้หลินชิงอี้ได้ลิ้มรสการถูกโยนลงไปในหลุมที่คนอื่นขุดไว้บ้าง!
ตามหลักแล้ว เรื่องนี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ในช่วงบ่าย โรงงานก็เกิดความวุ่นวาย โดยเฉพาะที่ห้องทำงานของสหภาพ เฉียวซาซ่าร้องไห้หนักมากและบอกทุกคนว่าซูฮั่นหยวนจากแผนกประชาสัมพันธ์กำลังแก้แค้นหล่อน
หล่อนอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก และยังถูกสาดน้ำใส่จนไม่ต่างจากการถูกตบหน้าเลยทีเดียว
ทุกคนในสหภาพรู้ดีว่าเฉียวซาซ่าชอบเป็นจุดสนใจ หล่อนต้องการงานในสถานีวิทยุของแผนกประชาสัมพันธ์ ซึ่งการแสดงนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับหล่อนเพื่อให้ผู้นำได้เห็นและเพื่อสร้างรากฐานให้ตัวเองในอนาคต
นอกจากนี้ การแสดงเดี่ยวยังเป็นการแสดงร้องเพลงภาษาอังกฤษ ถ้าเธอร้องได้ดี จะดึงดูดความสนใจได้มาก! แต่สุดท้ายซูฮั่นหยวนกลับทำลายโอกาสทองนี้ ถ้าไม่ใช่การแก้แค้น แล้วมันคืออะไร?
รองประธานสหภาพเฉียวชุนฮว่าไม่สามารถอยู่เฉยได้อีกต่อไป ในฐานะผู้นำ หล่อนไม่สนใจเรื่องที่ซูฮั่นหยวนตัดรายการของหลานสาวออกไป แต่การที่ซูฮั่นหยวนสาดน้ำใส่หลานสาวของหล่อนนั้นไม่ใช่เพียงแค่การตบหน้าหลานสาวของหล่อนเท่านั้น แต่ยังเป็นการตบหน้าตัวหล่อนเองด้วย
ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น
ก็แค่รายการแสดงหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่หรือ? แค่เพิ่มรายการกลับไปมันจะตายหรือยังไง? จำเป็นต้องทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้เลยหรือ?
ดังนั้นหล่อนจึงตรงไปที่แผนกประชาสัมพันธ์เพื่อถามหนิ่วหงเซี่ย และใช้โอกาสนี้เพื่อแสดงอิทธิพลของตัวเองด้วย!
เฉียวชุนฮว่าผลักประตูแผนกประชาสัมพันธ์และมองเข้าไปข้างใน เมื่อเห็นว่ามีเพียงพนักงานคนเดียวอยู่ในห้อง กร่อนก็กระแอมในลำคอและถามว่า “หัวหน้าหนิ่วไม่อยู่เหรอ”
เมื่อหลินชิงอี้ได้ยินเสียงนี้ เธอก็เงยหน้าขึ้นทันที สิ่งที่เธอเห็นคือใบหน้าดำคล้ำของรองประธานสหภาพ เธอเข้าใจทันทีว่าซูฮั่นหยวนจะต้องลำบากแน่ ๆ คราวนี้
“หัวหน้าไม่อยู่ค่ะ ฉันคิดว่าเธอไปที่สำนักงานวางแผนการจัดการ”
เฉียวชุนฮว่าปิดประตูและออกไป ขณะที่เดินไปโรงงาน เธอก็พบกับหนิ่วหงเซี่ย “หัวหน้าหนิ่ว ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
“ได้เลยค่ะ รองประธาน มีอะไรจะคุยกับฉันหรือคะ?”
“เกิดอะไรขึ้นกับซูฮั่นหยวนจากแผนกของคุณ? เธอตัดรายการของเฉียวซาซ่าและยังสาดน้ำร้อนใส่หลานฉันอีก! หลานสาวของฉันโกรธมากจนร้องไห้กลับมา และถึงกับไม่ยอมกินข้าวกลางวัน!” เฉียวชุนฮว่าเป็นคนที่ปกป้องหลานสาวมาก หลานสาวถูกทำให้เจ็บขนาดนี้ หล่อนจึงต้องระบายความโกรธไม่ว่ากรณีใดก็ตาม “มันไม่เกินไปหน่อยหรือ? คุณจะไม่ทำอะไรสักอย่างเลยหรือไง? คุณจะไม่ลงโทษเธอหรอกหรือ?”
“จะให้ลงโทษยังไงล่ะคะ” หนิ่วหงเซี่ยรู้จักท่าทางและบุคลิกของเฉียวชุนฮว่าเป็นอย่างดี ผู้หญิงคนนี้มักจะเอาชนะด้วยความไม่สมเหตุสมผลและไม่มีใครสามารถยั่วยุหล่อนได้
“หักเงินเดือนหรือทำเครื่องหมายลบ! ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไล่เธอออกจากแผนกประชาสัมพันธ์และย้ายเธอไปทำงานในโรงงาน!” ใบหน้าของเฉียวชุนฮว่าผอมแห้งอยู่แล้ว ทำให้โหนกแก้มของหล่อนดูเหมือนถูกมีดสลัก พอทำหน้าตาโกรธจัดแบบนี้ก็ยิ่งดูดุดันขึ้นไปอีก