หลังจากสรุปเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ซูฮั่นหยวนก็ฉีกบทออกเป็นชิ้น ๆ ไม่มีทางที่เธอจะกลายมาเป็นแค่ตัวละครเสริม! เธอไม่เคยเป็นคนขี้ขลาด! เพื่อจัดการกับคนใจร้ายเหล่านี้ เธอจะปล่อยให้พวกเขาทำตามใจไม่ได้! มีสามคำสำหรับขยะพวกนี้คือ ‘ไปตายซะ!’
หลังจากสรุปเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ซูฮั่นหยวนก็ฉีกบทออกเป็นชิ้น ๆ ไม่มีทางที่เธอจะกลายมาเป็นแค่ตัวละครเสริม! เธอไม่เคยเป็นคนขี้ขลาด! เพื่อจัดการกับคนใจร้ายเหล่านี้ เธอจะปล่อยให้พวกเขาทำตามใจไม่ได้! มีสามคำสำหรับขยะพวกนี้คือ ‘ไปตายซะ!’
“เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณหัวหน้ามากค่ะ” ซูฮั่นหยวนตอบกลับอย่างมีความสุข
“อืม อีกเรื่องหนึ่ง พี่ฉีป่วยหนักมากคราวนี้ ถ้าพวกเธอมีเวลา ไปเยี่ยมพี่ฉีหน่อยนะ ฉันเกรงว่าหล่อนอาจต้องเกษียณก่อนกำหนด พวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานกัน อย่าลืมกันและกันเชียว” หนิ่วหงเซี่ยกล่าว
หนิ่วหงเซี่ยเป็นคนซื่อตรงและยุติธรรม ดูแลลูกน้องในแผนกอย่างเท่าเทียมกันทุกคน
“ได้ค่ะ ไม่ต้องห่วง พวกเราจะหาเวลาไปเยี่ยมพี่ฉีค่ะ”
“ไปได้แล้ว”
หลังจากคุยกันเสร็จ ซูฮั่นหยวนก็เดินกลับไปที่ห้องทำงาน
พอถึงหน้าประตู เธอได้ยินเสียงพูดคุยจากข้างใน เป็นเสียงของหลินชิงอี้และเจียงกัว
“นี่ไม่ใช่ความผิดของพวกเรานะ นายก็เห็นสีหน้าของรองประธานและเห็นว่าหล่อนยืนกรานที่จะหาให้ได้ว่าใครเป็นคนคิด! ไม่ใช่ซูฮั่นหยวนเหรอไง? ถ้าฉันไม่พูด มันจะทำให้เราสองคนลำบากนะ... อย่าลืมสิ การคัดเลือกที่จะจัดขึ้นสิ้นปีนี้ สหภาพกับแผนกขนส่งจะเลือกพร้อมกัน…”
“ก็ใช่ แต่ถ้าซูฮั่นหยวนไม่ยอมรับล่ะ” เจียงกัวถาม
“ตอนนั้นมีแค่เราสามคน ถ้าเราร่วมมือกัน ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น ผู้นำต้องเชื่อเรา!”
“นั่นก็จริง”
ซูฮั่นหยวนหยุดเดิน เธอเข้าใจแล้ว คนขี้ขลาดสองคนนี้ไม่กล้าทำให้สมาชิกสหภาพขุ่นเคือง จึงวางกับดักให้เธอตกลงไปแทน
หลินชิงอี้เก่งเรื่องสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล หล่อนไต้เต้าขึ้นไปด้านบนด้วยการเลียแข้งเลียขาผู้มีตำแหน่งสูงและเหยียบย่ำผู้มีตำแหน่งต่ำกว่าให้จมดิน
การที่หล่อนทำเช่นนี้เพราะกลัวจะเสียโอกาสเป็นพนักงานดีเด่น
“นายบอกว่าน้องสาวของนายเก่งเรื่องวาดรูปและหล่อนอยากเข้าร่วมแผนกประชาสัมพันธ์ของเราไม่ใช่เหรอ คนอื่นในโรงงานต่างก็มีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งและมั่นคง แต่ซูฮั่นหยวนไม่ใช่ ถ้าไล่หล่อนออกไป น้องสาวของนายก็จะได้มีโอกาสเข้ามาทำงานแทน” หลินชิงอี้บอกใบ้ให้
“จริงด้วย เธอฉลาดมาก! ผมยังคิดไม่ได้เลย”
ซูฮั่นหยวนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น งานของเธอเป็นที่ต้องการมากขนาดนี้เลยหรือ?
โรงงานนี้เป็นของรัฐและเป็นงานที่มั่นคง ผู้คนมากมายพยายามหาทางเข้ามาทำงานที่นี่ ในยุคนี้ คนที่ทำงานในโรงงานมีโอกาสแต่งงานง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในอีกสองสามปีต่อมา โรงงานจะล่มสลาย การเป็นคนงานในตอนนี้เป็นที่อิจฉา แต่ในอนาคตล่ะ? ในช่วงต้นทศวรรษ 90 จะมีการเลิกจ้างพนักงานมากมาย คนส่วนใหญ่มีการศึกษาถึงแค่มัธยมต้น ดังนั้นจึงหางานอื่นได้ยากเมื่อถูกเลิกจ้างจากโรงงาน คนเหล่านี้จะต้องลำบากมาก
เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับยุค 1980 จากหนังสือ หลังจากทะลุมิติมาที่นี่ เธอรู้สึกถึง ‘กระแสสอบเข้ามหาวิทยาลัย’ ที่กำลังเติบโตในสังคม
เพราะเธอรู้ชะตากรรมของโรงงาน เธอต้องคว้าโอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตัวเอง
งานในแผนกประชาสัมพันธ์นั้นง่ายและสบายสำหรับเธอ เธอจึงมีเวลามากในการศึกษาและเรียนรู้ ซึ่งดีกว่าแผนกอื่น ๆ ดังนั้นเธอจะไม่ยอมสละงานปัจจุบันง่าย ๆ หรอก
ส่วนหลินชิงอี้ที่มีแผนจะกำจัดเธอ... ฮ่า! นั่นคือความผิดพลาดของหล่อนโดยแท้!
ซูฮั่นหยวนผลักประตูเข้าไปด้วยเสียงดังปัง
หลินชิงอี้หยุดพูดทันทีและหันมามองซูฮั่นหยวนด้วยรอยยิ้มที่อึดอัด “กลับมาแล้วเหรอ? หัวหน้าพูดอะไรกับเธอบ้าง?”