บทที่ 42
ตอน ท่านผู้อาวุโสจะฆ่าเขา
หน้าห้องท่านหญิง มีทหารยืนเฝ้าอยู่ พวกเขาเคาะประตูแล้วเปิดให้เวนกับวิวเดินเข้าไป แต่ซันยืนอยู่ข้างนอกกับฟาง วิวปล่อยมือเวนเมื่อเข้าห้องมา ซึ่งในห้องมีเหล่าผู้อาวุโสที่ไม่ได้รับบาดเจ็บยืนดูอาการนางอยู่ แต่เวนไม่ยอมปล่อยมือเขา
เวนพูด “ท่านอา ท่านหญิงเป็นอย่างไรบ้าง”
ท่านอามองมือทั้งคู่ “วางใจได้ ท่านหญิงไม่เป็นอะไรมาก”
ท่านผู้อาวุโสคนหนึ่งพูด “ค่อยเบาใจ อย่างนั้นพวกเราขอตัว ให้นางพักผ่อน”
เวนเดินเข้าไปหาท่านหญิงที่นอนหลับอยู่ เขานั่งข้าง ๆ เขาจับมือนางขึ้นมาแล้วถ่ายพลังให้นาง แค่ไม่กี่วินาทีสีหน้าของท่านหญิงก็ดูดีขึ้น วิวยืนมองด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง
เขาคิด นายนี่นะ กำลังทำให้เราโกรธเหรอ หรือประชดเรากันแน่ หงุดหงิดจังทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นการรักษา แต่ก็ยังหงุดหงิดอยู่ดี เมื่อเวนถ่ายพลังรักษาเสร็จ
ท่านอาพูด “หลานรัก ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”
เวนมองหน้าท่านอา แล้วมองหน้าวิว เขารู้ทันทีว่าเขาต้องกลับไปก่อน
วิวพูดขึ้น “อย่างนั้นผมขอตัวก่อนครับ”
ท่านอายิ้ม “ลำบากเจ้าแล้วเจ้าหนู”
เขายิ้ม แล้วเดินออกจากห้องนอนของท่านหญิง เขาเดินผ่านองครักษ์ทั้งสองไปโดยไม่พูดจาอะไร ทั้งมองหน้ากัน
ซันพูด “เดี๋ยวข้าตามเขาไปเอง” ฟางพยักหน้า
ทางด้านท่านอา
“ท่านอา….”ไม่ทันได้พูดอะไร
ท่านอาแทรกพูดขึ้นมาก่อน “เหตุใดเจ้าต้องพาตัวเองให้เจ็บปวดด้วย”
เวนเดินออกจากห้องท่านหญิง ท่านอาเดินตามเขาไป ฟางซึ่งเป็นองครักษ์ได้เดินตามองค์ชายไปด้วย เขาเดินห่างจากองค์ชายพอสมควร
ท่านอาบอก “เจ้าเองก็รู้ว่าเจ้าเด็กนั้นไม่มีโอกาสจะรอดด้วยซ้ำ”
เวนหยุดเดิน หันมองท่านอา เขาพูดด้วยสีหน้าที่เศร้า
“ท่านอาหลานทราบดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป แต่ความรักเราจะหนีอย่างไรให้พ้น”
“ความรักของเจ้ามันจะทำให้เจ้าเจ็บปวดเจียงตาย เจ้าจะทนรับมันได้อย่างนั้นหรือ ครั้งนี้เจ้าเด็กนั้นประกาศที่จะปล่อยราชาจอมมารเพื่อแลกกับผู้ให้กำเนิด เจ้าคิดว่าตอนนี้เหล่าผู้อาวุโสไม่ตัดไฟก่อนหรือไง”
เวนหันมอง เขาตกใจ “ท่านผู้อาวุโสจะฆ่าเขาเหรอ”
ท่านอาเงียบ ทำให้เวนมองฟาง ทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดต่างตกใจ รีบหายตัวไปยังห้องพักทันที
ท่านอาบ่นเบา ๆ “ข้าช่วยเจ้าได้เท่านี้แหละ”
ด้านของวิวกับซัน พวกเขาเดินมาได้ครึ่งทาง ซันสังเกตเห็นมีเหล่าทหาร กำลังเดินตามพวกเขาพร้อมอาวุธและธนู ท่านผู้อาวุโส 2 คน หายตัวมาดักหน้าทั้งคู่ไว้
ซันถาม “เหตุใดท่านผู้อาวุโสถึงได้ดูดุดันยิ่งนัก”
แล้วทหารก็ล้อมพวกเขาไว้ ซันมองไปรอบ ๆ
วิวถอนหายใจ เขาพูด “พวกเขาจะมาฆ่าผม”
ท่านอาวุโสทั้งสองมองหน้ากัน คนหนึ่งพูดขึ้น “หากเจ้าปล่อยราชาจอมมารทุกอย่างจะดับสูญ พวกเราเห็นพ้องกัน เจ้าจะปล่อยราชาจอมมารไม่ได้”
ซันพูด “ท่านเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่พวกเราให้ความเคารพ นี้คือวิธีของเหล่าเทพหรือ”
ท่านผู้อาวุโสพูด “หากเจ้ารับปากจะไม่ปล่อยราชาจอมมาร เราก็จะปล่อยเจ้าไป”
“ผมต้องปล่อยราชาจอมมาร มันเป็นวิธีเดียวที่ผมจะฆ่ามันได้”
ท่านผู้อาวุโสพูด “เจ้าไม่แข็งแกร่งพอที่จะฆ่าเขา”
วิวพูด “ถ้าผมสู้กับพวกท่านชนะได้ ท่านจะยอมหรือมั้ย”
ซันมองวิว สายตาที่ดูกังวล เป็นครั้งแรกที่การท่าทางของวิวทำให้เขาคิดถึงองค์หญิงขึ้นมา
ท่านผู้อาวุโสทั้งสองคิด แต่ทันใดนั้น ท่านผู้อาวุโสคนหนึ่ง เดินเข้ามาหาวิว เขาคือประมุขของเหล่าผู้อาวุโสหรืออีกนามคือบิดาแห่งเหล่าอาวุโส นามว่า การุณ
เขาพูด “อย่างนั้นเจ้าสู้กับข้า” เสียงชายหนุ่มพูดขึ้น
วิวพูด “ท่านเป็นใคร”
ผู้อาวุโสท่านหนึ่งพูด “ประมุขของเหล่าอาวุโสหรือบิดาแห่งเรา ท่านการุณ”
วิวคิด นึกว่าจะแก่ชรามากซะอีก แต่ทำไมถึงดูหนุ่มละ
ซันโค้งคำนับ “เหตุใดท่านถึงคิดจะฆ่าเด็กผู้นี้”
ท่านการุณพูด “ผิดเหรอที่ทุกคนจะกลัวสิ่งที่เขาจะทำ หากเขาพลาดทุก ๆ อย่างก็ล้มสลาย แล้วความสมดุลจะหายไป สายน้ำจะกลายเป็นโลหิต ท้องฟ้าจะปกคลุมด้วยเงามืด เจ้ามั่นใจตัวเองแค่ไหนในสิ่งที่เจ้าจะทำ”
เขาเดินเข้าใกล้วิว แล้วทันใดนั้นเวนกับฟางก็หายตัวเข้ามาขวาง
เวนพูด “แต่ถ้าท่านจะฆ่าเขาเราคงต้องเปิดศึกสงครามกันก่อน”
ท่านการุณหยุดชะงัก “องค์ชาย ท่านเชื่อใจเด็กหนุ่มผู้นี้ขนาดนั้นเลยเหรอ”
เวนพูดเสียงแข็งและมั่นใจ “ข้าเชื่อเขา”
ท่านการุณพูด “ข้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเขาจะคืนความสมดุลได้จริง ถ้าเขาปลดปล่อยแล้วไม่สามารถกำจัดเขาได้ องค์ชายเจ้ารู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“แต่ตอนนี้ ถ้าท่านการุณฆ่าเขา ผนึกก็ถูกทำลายเช่นกัน”
“อย่างน้อยราชาจอมมารก็ยังถูกกักขังต่อไป”
วิวพูดแทรกขึ้น “แล้วสงครามเหล่า มันจะหยุดได้อย่างไร โปรดฟังผมหน่อย พวกท่านคือเหล่าเทพ เทพที่มนุษย์ต่างพากันศรัทธาและเคารพ ผมเป็นมนุษย์ที่ต่ำต้อยในห่วงโซ่แห่งนี้ แต่มนุษย์ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ไม่เคยหมดศรัทธา ไม่เคยสิ้นหวัง ผมเชื่อการที่ผมจะปลดปล่อยราชาจอมมารให้เป็นอิสระ เป็นวิธีเดียวที่ผมกับนางจะสร้างสมดุลครั้งใหม่ได้อย่างหยั่งยืน ผมจะทำลายผนึก ผมจะทำลายศิลา ผมจะจองจำพวกมันตลอดกาล”
ท่านการุณพูด “แต่นั้นต้องแลกด้วยชีวิตของเจ้า เจ้ายอมหรือ”
เวนยืนฟังด้วยใจที่เจ็บปวด
“ผมยอม”
ท่านการุณมองแววตาวิวที่มุ่งมั่น ก่อนจะถอนหายใจ “ขอให้เจ้าคิดถูก หากเจ้าคิดผิดเจ้าคงรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
วิวพยักหน้า ท่านการุณมองหน้าเวน “วันนี้ข้าคงไม่ต้องเปิดศึกกับเจ้านะองค์ชาย”
“ขอบพระทัยท่านการุณ”
ท่านการุณมองทุกคนที่นั้น “ทุกอย่างยุติแค่นี้”
ผู้อาวุโสท่านหนึ่งพูด “ท่านการุณ”
ท่านการุณพูด “มนุษย์ศรัทธาเรามาตลอด พวกเขาเชื่อมั่นในตัวเหล่าเทพ ถึงเวลาแล้วที่เราจะเชื่อมั่นพวกเขาบ้าง การฆ่าเจ้าเด็กนี้ก็ไม่ได้ทำให้สงครามหยุด บางทีมนุษย์อาจเปลี่ยนแปลงสมดุลได้อย่างที่เราไม่คาดคิด”
ผู้อาวุโสทั้งสองน้อมรับคำตัดสินใจของท่านการุณ แล้วนำทหารออกไปทันที ส่วนท่านการุณเขาเองก็เดินเข้าหาวิวอีกครั้ง
เขาพูด “อย่าทำให้ความเชื่อมั่นที่ข้ามีต่อเจ้าหายไปละ” เมื่อเขาพูดจบเขาก็เดินออกไป
เวนมองมาทางองครักษ์ เขาพูด “พวกเจ้าไปพักผ่อนเถอะ”
ฟางกับซันโค้งคำนับแล้วเดินกลับไป วิวยืนนิ่ง เขารู้ดีว่าเวนตอนนี้คงรู้สึกสับสนและกังวล แถมคงโกรธเขามากที่สุดแน่นอน วิวคิด จะทำอย่างไรดีที่จะทำให้เวนรู้สึกดีนะ ไม่ทันได้คิดว่าจะทำอย่างไร เวนก็จับแขนเขาลากเดินไปโดยไม่พูดไม่จา เขาได้แต่เดินตามไปอยู่อย่างนั้น เขาคิดทำไมเราถึงสัมผัสได้ถึงความเศร้าของเวนนะ