Your Wishlist

จะรักชั่วนิรันดร์ (ตอนที่ 11 คำปรึกษา)

Author: ้hanna hb

นิยายเรื่องนี้จะเล่าถึงความรักของเทพผู้พิทักษ์กับมนุษย์ เมื่อเทพผู้พิทักษ์เลือดบริสุทธิ์เพียงคนเดียวที่มีพลังแตกต่างจากเทพคนอื่น ๆ พลังนี้แข็งแกร่งช่วยปกป้อง รักษาผู้ที่อ่อนแอได้ เขาเกลียดมนุษย์แต่กลับต้องมาปกป้องมนุษย์ผู้หนึ่งเพราะศิลาเพลิงในตำนานได้ปรากฏขึ้น ความรักได้ก่อกำเนิดพร้อมกับภัยสงครามที่จะกลืนกินโลกมนุษย์ ภัยแห่งปีศาจเงามืดที่กำลังจะถูกปลดปล่อย ความหายนะก่อตัวขึ้นทั่วทุกดินแดน

จำนวนตอน :

ตอนที่ 11 คำปรึกษา

  • 30/03/2566

บทที่ 11

ตอน คำปรึกษา

คฤหาสน์โยคี ในห้องทำงาน

พวกเขานั่งหารือกันในคราบร่างมนุษย์ โยคีเพียงคนเดียวที่แสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดออกมา ทำให้ทุกคนเงียบ

โยคีพูด   “ทำไมพวกเจ้าถึงเอาเจ้ามนุษย์มาไม่ได้”

ชายคนหนึ่งพูดขึ้น   “ข้างกายเจ้าเด็กนั้น มีเทพผู้พิทักษ์อยู่”

โยคีพูด   “เทพผู้พิทักษ์เหรอ องค์ชาย...เจ้าจะเป็นปรปักษ์กับข้าให้ได้เลยใช่มั้ย….ดี…ดี…ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว” เขายิ้ม

ทุกคนมองหน้ากัน   “ท่านโยคี ท่านหมายความว่า”

โยคีพูด “ออกตามหาศิลาอีกแผ่นให้พบ ส่วนเจ้าเด็กนั้นถ้ามีโอกาสก็จัดการนำตัวมันมา แต่ระหว่างนี้ เราต้องทำให้พวกเทพและเซียน พวกมนุษย์ ทุกเผ่าจะต้องอยู่ไม่เป็นสุข ส่วนองค์ชายอีกไม่นานเราจะได้เจอกัน… ฟังข้าสหายเหล่ามารค้นหาศิลาแผ่นที่สี่ให้พบ ใครขัดขวางฆ่า ตั้งแต่นี้ทุกดินแดนจะเกิดสงคราม” ทุกคนรับคำสั่งทันที

ณ.วังภูผา ในห้องของเวน วิวพยายามออกจากห้องตลอด แต่ก็ไม่สามารถทำได้ หากไม่มีคำสั่งจากเวนทุกคนก็ไม่มีใครกล้าให้เขาออกจากห้อง หลายวันมานี้วิวได้แต่นั่ง ๆ นอน ๆ

“เบื่อ ๆ ๆ จะอ้วนเป็นหมูแล้วนะ” เขายื่นบ่น นอนบ่น นั่งบ่น วนไปวนมาอยู่แบบนั้น ตลอดทั้งวัน

“องค์ชายบ้า” เขาตะโกนสุดเสียง “นายจะขังฉันไว้อย่างนี้ไม่ได้นะ เจ้าบ้า หายหัวไปไหน”

เสียงเปิดประตู

“เอ๊ะ..ได้เวลาอาหารแล้วเหรอ”

หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา  “คุณชาย เชิญทางนี้”

วิวตกใจ “หะ...ผมจะได้ออกไปข้างนอกเหรอ”

วิวดีใจมาก รีบเดินตามนางไปทันที เส้นทางที่เดินรายล้อมไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ มีแค่แผ่นหินเล็ก ๆ ที่เรียงรายเป็นทางเท้าให้เดินท่ามกลางทุ่งดอกไม้ มีผีเสื้อหลากหลายสีราวกับกำลังร่ายรำอย่างมีความสุข

  เขายิ้ม “ไม่อยากเชื่อบนโลกจะมีดินแดนแบบนี้ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมกลิ่นกายเขาถึงหอม”

หญิงสาวพูดขึ้น  “คุณชาย เชิญค่ะ” 

เธอพาเขามาหยุดตรงหน้าห้องหนึ่ง ภายในห้องทำด้วยไม้แกะสลักสวยงาม เป็นห้องโถงใหญ่ มีผู้คนจำนวนหนึ่ง นั่งอยู่ทั้งสองข้างทางที่เขาจะเดิน

พูดพร้อมมองหน้าเธอ “นี่แม่นางจะให้ผมเดินเข้าไปเหรอ”

เธอได้แต่ยิ้มแล้วเดินจากไป วิวมองไปข้างใน เขาเห็นเวนนั่งอยู่สูงกว่าทุกคน และเหล่าองครักษ์ก็ยืนอยู่ข้างกายเขาทั้งสองข้าง หัวใจเขาตื่นเต้นมาก ก้าวขาเดินแทบไม่ออก ในใจก็คิดราวกับเดินอยู่บนพรหมแดง แต่พรหมแดงนี้ช่างน่ากลัว ทุกสายตาจับจ้องมาที่เขาด้วยความสงสัย เสียงพูดดังขึ้นแบบแผ่วเบา

“เขาเป็นมนุษย์”

วิวหยุดเดินตรงบันไดขั้นแรก มองหน้าเวนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หินหยกสีขาวสูงกว่าทุกคน  ชายชราคนหนึ่งลุกจากโต๊ะโค้งคำนับทางเวน เขาอยู่ในชุดนักรบสีเขียวเข็ม มีเกราะสวมสีดำ ชุดยาวดูหนักแน่นพูดขึ้น  “องค์ชายท่านผู้นี้คือ”

องค์ชายตอบ “สหายของเราเอง เขาขอลี้ภัยมาอยู่ที่นี่”

วิวยืนเงียบ สหายเหรอ นักโทษซิไม่ว่า เขาบ่นพึมพำอยู่ในใจ แววตาดูตำหนิเวนเล็กน้อย

องค์ชายพูด“ที่ข้าเรียกพวกท่าน ทั้ง 12 เขตมาในวันนี้ อยากให้พวกท่านทุกคนตรึงกำลังทหาร ทั้ง 12 ประตู อย่าให้มีสิ่งใดผ่านเข้ามาได้”

ชายชราพูดขึ้น “องค์ชาย เกิดอะไรขึ้น”

องค์ชายพูด“เมื่อหลายวันก่อน ผนึกมีรอยร้าว ได้เกิดภูเขาไฟระเบิด แผ่เป็นวงกว้าง ทำให้เหล่าอสูรปีศาจเล็ดลอดออกมา”

ทุกคนตกใจ “เป็นไปได้อย่างไร”

ชายชราพูดขึ้น “ผนึกถูกปิดมาหลายพันปีแล้ว เหตุใดได้เกิดรอยร้าว”

องค์ชายพูด “เรื่องนี้ข้าจะหาคำตอบเอง”

ชายชราพูด “แล้วเกี่ยวอะไรกับมนุษย์ผู้นี้”

องค์ชายพูด “เจ้ามนุษย์ผู้นี้ช่วยชีวิตเราไว้”

องครักษ์มองหน้ากัน วิวเองก็รู้ว่าไม่ใช่ความจริงทั้งหมด

องค์ชายพูดต่อ “ตั้งแต่นี้มนุษย์ผู้นี้จะอาศัยอยู่ที่นี่ ขอให้พวกท่าน กำชับเหล่าภูตทุกตนอย่าได้แตะต้องคนของข้า” ทุกคนได้ยินอย่างนั้น โค้งคำนับรับคำโดยไม่มีคำถามอีก

ชายชราพูด “รับบัญชาองค์ชาย” แม้ชายชราจะรู้สึกสงสัยแต่ก็ไม่คิดที่จะถามอีก

องค์ชายพูด “เชิญทุกท่านกลับได้” แล้วทั้ง 12 คน ก็เดินออกจากห้องไปทันที

วิวมองไปรอบ ๆ เขารู้สึกโล่งอกทันที เขาพูด “องค์ชาย ท่านให้คนของท่านพาฉันมาที่นี่ทำไม”

องค์ชายพูด “พรุ่งนี้ นายต้องไปหลังหุบเขา ฉันจะให้ซันพานายไป”

ฟางพูดทันที “องค์ชายข้าขอไปกับซันด้วย”

องค์ชายมองมาทางฟางแล้วยิ้มเล็กน้อย “ได้ พวกเจ้าไปหลังหุบเขา”

วิวถาม “แล้วนาย....องค์ชายไม่ไปด้วยเหรอ”

องค์ชายพูด “ตอนนี้โลกกำลังวุ่นวาย สงครามกำลังจะเกิด ฉันเองคงไม่ว่างจะปกป้องเด็กอ่อนหัดอย่างนายหรอกนะ”

วิวขมวดคิ้ว  “นี่..นาย..” เขามององครักษ์ที่หันมองเขา สิ่งที่จะพูดวิวกลับต้องกลืนมันไปไม่กล้าพูดอีก

ซันพูดขัดวิว  “แต่องค์ชายข้าอยากไปลาดตระเวนกับองค์ชาย”

องค์ชายพูด “เราเชื่อว่าเจ้ากับฟาง จะดูแลเจ้าเด็กนี้ได้”

วิวคิดอยู่ในใจ อะไรก็เด็กนะเจ้านี้

องค์ชายพูด “พาเขาไปพบกับท่านอาของข้า บางที่ท่านอาอาจจะรู้ว่าต้องทำอย่างไร”

แล้วอยู่ ๆ วิวก็รู้สึกแสบที่หน้าอก เขาจับหน้าอกของตนเองสีหน้าบ่งบอกถึงอาการเจ็บ เวนสังเกตเห็น ร่างผอมบางกำลังจะล้มลงกองกับพื้นแล้วเวนได้หายตัวมารับเขาไว้ได้ทัน

วิวพูด “เจ็บจัง”

เวนมองหน้าองครักษ์ก่อนจะพูด “เดี๋ยวฉันจะพานายกลับห้อง ยีนกับลุคคืนนี้พวกเจ้าลาดตระเวนเขตรอบนอก ระวังตัวด้วย”

ทั้งสองรับคำ  “ครับ”  พร้อมกับโค้งคำนับ

องค์ชายมองมาทางซันกับฟาง  “พวกเจ้าไปเตรียมตัว พรุ่งนี้ก่อนฟ้าสางออกเดินทาง” ทั้งสองรับคำสั่ง แม้ซันจะไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไร เวนหันกลับมาอุ้มร่างของวิว เขาเดินผ่านเส้นทางเดิมที่วิวเดินมา

วิวพูด  “นี่องค์ชาย ปล่อยฉันลงเถอะ องค์ชายไม่อายหรือไง

องค์ชายพูด “เรียกฉันเหมือนที่นายเคยเรียก”

วิวพูด “ไม่ได้ ถ้าเรียกแบบเดิมมีหวังคอขาด แต่ตอนนี้องค์ชายปล่อยก่อนได้มั้ย”

เวนหยุดเดิน มองหน้าวิว  “ถ้านายเรียกฉันแบบที่นายเรียกก็จะปล่อย”

วิวพูด “ก็ได็ นายปล่อยฉันลงเถอะ”

แล้วเวนก็ปล่อยร่างของเขาลง “หายเจ็บแล้วหรือ”

วิวตอบ “อืม.รู้สึกดีมากแล้ว เหมือนมีพลังวิ่งในร่างฉันอยู่”

เวนยืนมอง เขาคิด จริงซิ เจ้าเด็กคนนี้ดึงพลังเราได้แม้จะไม่มากแต่ก็ทำให้เขาไม่อ่อนแอ

วิวพูด “นายจะพาฉันไปห้องขังไว้อย่างนั้นอีกใช่มั้ย กว่าจะออกมาได้ ขอดูธรรมชาติสวย ๆ หน่อยนะ”

เวนคิด ก่อนจะเปลี่ยนเส้นทางเดิน นำวิวหยุดตรงหน้าผา ซึ่งมีศาลาที่พักให้นั่งชมธรรมชาติ ซึ่งในตอนนั้นวิวก็รู้สึกแปลก ๆ กับความรู้สึกของตัวเอง แค่ชั่วขณะความรู้สึกนั้นก็หายไปเพราะสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าช่างงดงามเหลือเกิน

ภูเขาสูงเสียดฟ้า เรียงรายมากมาย แสงอาทิตย์สีส้มอ่อน ละอองหมอกมากมายจับตัวเป็นก้อนลอยตามสายลม

วิวพูด “สวยจัง เมืองขององค์ชายนี่” เสียงกระแอมคล้ายตำหนิของเวน

วิวยิ้ม “ขอโทษ เมืองของนายนี้ช่างงดงามนัก”

เวนพูด “นางชอบที่นี่มากที่สุด”

วิวหันมองเล็กน้อย สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นเศร้าไปทันที

วิวพูด “ฉันเชื่อนะว่านางจะกลับมา แม้วันนั้นต้องแลกด้วยชีวิตของฉันเอง ฉันก็ยอม”

เวนมองหน้าเขาที่กำลังมองท้องฟ้าด้วยแววตาที่เป็นประกายในคำพูดนั้น เวนจ้องเขาอยู่นาน เขาเริ่มสับสนกับตัวเองที่มีต่อมนุษย์ วิวหันมายิ้ม

เวนพูด “หวังว่านายคงรักษาคำพูด”

วิวพูด“ชัว..เชื่อใจได้” แล้วอยู่ ๆ วิวก็จับหน้าอกอีกครั้ง เวนเข้ามาพยุงร่างเขา

เวนพูด“กลับห้องพักผ่อนเถอะ ตอนนี้ร่างกายนายไม่แข็งแรงพอที่จะทนต่อพลังของที่นี่ได้”

วิวพูด “ทนอะไร ฉันอยู่ห้องนายตั้งนายไม่เห็นเป็นอะไร”

เวนพูด “นั่นเป็นเพราะพลังของฉันปกคลุมที่นั่นอยู่ ไม่มีเหล่าภูตเข้าใกล้ที่นั่นได้ แต่ที่นี่ มีแต่เหล่าภูต แม้พวกมันจะไม่ทำร้ายนาย แต่พลังพวกมันก็ดึงพลังชีวิตนายโดยไม่ได้ตั้งใจ”

วิวพูด “นั้นเหรอ นั่นซิเวียนหัวจัง” เวนประคองร่างของดิวน์กลับห้องทันที

เวนพูด   “นอนซะ”

วิวจับแขนเวน “ทุก ๆ คืน นายนอนที่ไหน”

เวนพูด “ถามทำไม”

วิวปล่อยแขนเวนแล้วลุกนั่ง “แค่สงสัย ก็ฉันยึดห้องของนายอยู่”

เวนพูด “วังนี้เป็นของฉัน จะไม่มีที่ให้ฉันนอนเลยเหรอ”

วิวพูด  “ก็จริง”

เวนถาม  “มีอะไรอีกมั้ย”

วิวพูด  “มี..”

เวนมองหน้าวิว “มีอะไรอีก”

วิวพูด  “คือ..ถ้านายได้ไปเมืองมนุษย์อีก ฉันอยากรบกวนนาย สืบข่าวเรื่องพ่อของฉันให้หน่อยได้มั้ย”

เวนถอนหายใจ “ได้ ถ้าฉันได้ข่าวอะไรจะบอกนายแล้วกัน”

วิวยิ้ม “ขอบใจนะ” เวนพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้องไป

เขาได้ล้มตัวลงนอน เรารู้สึกดีขึ้นเมื่ออยู่ในห้องนี้ “พ่อ ผมจะช่วยพ่ออย่างไรดี จะออกจากที่นี่อย่างไร แค่ออกจากห้องนี้ ร่างกายก็ไม่มีแรงแล้ว”

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป