ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
จ้วงขาออกไปพร้อมกับการเชิดหน้า บานประตูกลายเป็นที่รองตีนให้เหยียบย่ำ ประดังความแค้นสุมทรวงทำให้แพรวแสดงออกเช่นนี้! เธอหยุดเจรจาพาทีมุ่งหน้าออกไปจากอพาร์ทเมนต์แห่งนี้โดยเร็ว! และถึงแม้ว่าพีจะพยายามตะโกนไล่หลัง พลันวิ่งเปลือยท่อนบนออกมาตาม แพรวก็ไม่สนอีกแล้ว!
.
“้อีแพรวเดี๋ยว! ชุดมึงมันไม่เรียบร้อย มึงจะโนบลาออกไปเดินโทงๆ ไม่ได้!”
.
เห็นแต่หลังเดินลงบันไดไปไกลลิบ ผมเพ้ากระเซอะกระเซิงตามสไตล์ของคนที่เพิ่งเสียตัว! พีหยุดแล้วแต่แพรวไม่ยอมหยุด เขาไม่ใช่พระพุทธเจ้านี่ แล้วแพรวก็ไม่ใช่องคุลีมาล ไม่มีทางที่จะตรัสรู้ชอบได้ตนเองหรอก กระเทยหนุ่มเลยต้องปล่อยเลยตามเลย เดินวกกลับเข้าไปในห้องพร้อมกับยกบานประตูทั้งบานเอาไปประกบไว้คืนที่
.
“อีห่า… ค่าส่วนกลางกูก็ต้องจ่ายอีก! ขอให้มึงไม่ท้อง อย่าให้กูต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการแต่งมึงเป็นเมียเลย… อี๋!! ขนลุกกุ๊กกู๋!!!”
.
.
ตัดภาพมาที่หญิงสาวเพื่อนสนิท เธอยังคงมุ่ยหน้าเดินเหวี่ยงลงบันไดมาด้วยความหงุดหงิด ห้องของพีอยู่ชั้นบนสุดคือชั้น 5 ซึ่งไม่สูงพอที่จะทำให้อพาร์ทเมนต์แห่งนี้มีลิฟท์ไว้อำนวยความสะดวก สาวเจ้าจึงได้แต่เดินแล้วก็เดิน.. เดินไปคิดไปว่ายังไงซะสถานที่ๆ จะไป ก็คงไม่พ้นร้านขายยาที่ไหนสักแห่งที่ไม่ใช่ร้านของเปรม! นิสิตหนุ่มโดนจับตัวเข้า State quarantine ไปแล้วในฐานะของบุคคลสำคัญที่ผลิตเชื้อสายพันธุ์ใหม่จากการร่วมเพศ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ร้านของเขาจะไม่ถูกสั่งปิด!
.
“ตุบ , ตุบ , ตุบ , ตุบ ,”
ฝีเท้ากระทบขั้นบันไดหนักแน่น แก้มบวมตุ่ยอมพะนำกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกกลัวว่าตัวเองจะท้องกับเพื่อน และนั่นเท่ากับว่าแพรวก็ไม่ใช่คนดีอะไร.. เผินๆ จะแรดกว่ามิวท์ที่เอากับพี่เปรมซะอีก..!
.
“สาธุขอให้มีสักร้านเหอะ…เราไม่อยากไปซื้อยาคุมฉุกเฉินไกลๆ ยิ่งเข้าใกล้ผู้คนน้อยเท่าไหร่ยิ่งปลอดภัยเท่านั้น..”
แพรวอธิษฐาน แต่ท่วงท่าก็หาใช้การยกมือประนมจรดหน้าผากไม่ เธอดันเลือกที่จะวาดฝ่ามือลงมานาบกับหน้าอก พลางบีบจับปรับให้เข้ารูปป้องกันการดีดเด้ง!
.
“ดึ๋ง , ดึ๋ง , ดึ๋ง , ดึ๋ง ,”
.
“ชิ! บันไดสูงชะมัด!”
.
“ดึ๋ง , ดึ๋ง , ดึ๋ง , ดึ๋ง ,”
.
“ดันลืมบลาไว้บนห้องอีพีซะได้! ช่างเหอะเสียเวลา! ไปมันทั้งๆ โป้ๆ อย่างงี้แหละ! ยังไงซะพอออกไปข้างนอกเราก็ต้องใส่หน้ากากครอบแก้วคลุมทั้งหน้าอยู่แล้ว”
.
.
ชั้น 5 ผ่านไปไล่ไปถึงชั้น 4 ลดมาถึงชั้น 3 แพรวจึงเริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ! ลองจินตนาการถึงประตูห้องที่เรียงกันเป็นตับแต่สุดแสนจะเงียบเหงาสิ! ใช่! มันควรจะเป็นอย่างนั้น! ทุกคนควรจะเก็บตัวเงียบเพื่อความปลอดภัย แต่ไม่ใช่ที่ชั้น 3 แห่งนี้! แพรวประหลาดใจมากจนต้องใช้แผ่นหลังอันบอบบางพิงกับกำแพง แล้วหยุดฝีเท้ารอตรงบันไดทางลง
.
“เหมี๊ยววววว!!”
เสียงแมวปุกปุยร้องระงม
.
“แมวมาจากไหน? .. ที่นี่เขาห้ามมีสัตว์เลี้ยงไม่ใช่เหรอ?”
หญิงสาวคิด
.
“เหมี๊ยวววว!!!”
มันแผดเสียงร้องแบบไม่หยุดหย่อน ก่อนที่ต่อมาจะกระโจนพรวดลงบันไดวิ่งตื๋อตัดหน้าแพรวลงไปยังชั้น 2 คล้ายกับตื่นคน แล้วก็หายลับตาไป
.
“เอ๋..หรือจะเป็นแมวที่คนแอบเลี้ยงไว้นะ แกหนีออกมาจากห้องหรอ? หรือหิว? เป็นไปได้! อาจจะขาดอาหารเพราะเจ้าของหนีออกจากกรุงเทพไปแล้วก็ได้!?”
“ซึ่งถ้าเป็นงั้นจะน่าสงสารมากเลย.. แกถูกทิ้ง.. แกคงเป็นของเล่นชั่วครั้งชั่วคราว พอเขาหมดสนุกแล้วก็ปล่อยทิ้งขว้างให้พบกับชะตากรรมอันแสนเจ็บปวด…ฮือ..อ…อ…อ”
“ฮืออ..อ..อ..ชีวิตพวกเรานี้ช่างเหมือนกันเหลือเกินเจ้าแมวตัวเล็ก.. ฉันไม่ได้น่ารักเหมือนแกหรอก ฉันน่าสงสารเหมือนแกต่างหาก ฮือ..อ..อ..ฮือ..อ..อ”
.
คิดเองเออเองเป็นฉากๆ หนักกว่าทฤษฎีจับแพะชนแกะก็คือการจับแมวมาชนเมียนี่เอง! ดูเหมือนจิตใจแพรวจะเจ็บช้ำขั้นสุด ทุกอย่างที่คิด ทุกจิตที่ทำ ทุกการกระทำที่รู้สึก จึงมีแต่เรื่องของเปรมกับมิวท์อยู่ในหัว จากที่เคยกลัวว่าตัวเองจะท้องและรีบเดินทางตามหายาคุม ไปๆ มาๆ ด้วยความหวั่นไหวกึ่งสงสาร เธอกลับเลือกที่จะแวะออกข้างทางเพื่อตามหาแมวผู้ร่วมอุดมการณ์ตัวนี้ซะก่อน
.
เธอหักเลี้ยวไปด้านซ้ายเมื่อเดินลงบันไดชั้น 3 มาจนสุด มันเป็นทิศที่เจ้าเหมียววิ่งลับตาไปครั้งล่าสุด และเธอจะต้องตามตัวมันจนเจอให้ได้
.
“เหมี๊ยว…เหมี๊ยว….เหมี๊ยว…เจ้าเหมียวออกมาเร๊ววว! มากับฉันนี่มาฉันมีของกินด้วยนะ เหมี๊ยว..ว..วๆ”
.
ป้องปากร้องเรียกพอเป็นพิธี ระหว่างนั้นสองขาเจ้ากรรมก็ย่ำเดินสำรวจไปพลางด้วย ภาพที่แพรวเห็นมีเพียงโถงทางเดินกว้างๆ ที่ปูพรมสีแดงฉาน กับห้องหับต่างๆ ที่ปิดประตูเงียบสนิท หลอดไฟเพดานยังคงสว่างไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนหนังผีแต่อย่างใด แต่ทำไมเจ้าเหมียวถึงไม่ยอมโผล่มา อันนี้เธอก็มิทราบ?
.
“เอ๊ะ! …หรือเราจะคิดผิดนะ?”
.
“ไม่สิ! นั่นไง..มันอยู่นั่น!!!”
.
“เหมี๊ยววววว!!!!!”
“แคว๊กๆ , แคว๊กๆ , แคว๊กๆ , แคว๊กๆ”
.
เจ้าเหมียวอยู่สุดทางเดินอีกฟาก เหมือนมันกำลังตะกุยพื้นมุดเข้าไปในห้องเบอร์หนึ่งด้วยความลำบากลำบน
"มันต้องได้กลิ่นของกินในนั้นแน่ๆ , หยุดนะเจ้าเหมียวขืนเธอทำต่อไปเท้าจะเป็นแผลนะ!!!”
.
นิสิตสาววิ่งแจ้นเข้าไปดู อพาร์ทเมนต์แห่งนี้มีบันไดขึ้นลงสองทางคือฝั่งซ้ายสุดกับขวาสุดและแพรวกำลังวิ่งจากซ้ายไปขวา จากห้องเบอร์ 10 ไปถึงห้องเบอร์ 1 ซึ่งมีแมวเหมียวขนสีทองกำลังตะกุยพรมหน้าห้องอย่างขมีขมัน! มันกำลังหวาดกลัวไม่ได้หิวอย่างที่แพรวคิด! การกัดฟันแยกเขี้ยวบ่งบอกตามสัญชาตญาณสัตว์เลี้ยงว่ามันต้องการจะเอาตัวรอด.. ไม่ใช่อยากได้อาหารอย่างที่แพรววิเคราะห์
.
“เหมี๊ยว…เหมี๊ยว…เหมียว..ว..ว.. ชู่วววว…หยุดนะหยุดโอ๋…โอ๋…”
.
“อ๊ะ!!!”
.
“ฮึบ! (ใครอ่ะ?) ”
.
เดชะบุญที่ระหว่างจะเอื้อมตัวลงไปอุ้มพอจะมีช่องว่างตรงซอกประตูให้สาวเจ้าใช้หลบ แพรวถึงกับอุทานกับตัวเองว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นใคร? และเพราะเหตุใดถึงออกันอยู่เต็มชั้นล่าง?
.
พวกเขากลุ่มใหญ่เดินตรงขึ้นบันไดมา โดยมีเป้าหมายเป็นเจ้าแมวตัวนี้! ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพูดผ่านวิทยุ..
.
“พบแล้วครับบอสรูปพรรณสันฐานเป็นสัตว์สี่เท้าไฟลัม: Chordata คลาส: Mammalia สีทอง ขนาดอัณฑะบิดเบี้ยวเสียรูป! มีรอยฉีกขาดบริเวณทวาร! เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงสูงเป็นสิ่งมีชีวิตข้ามเพศ! ขออนุมัติคำสั่งจับกุมตัวครับ!! ”
.
“ครืดดดด… ครืดดดด….ครืดดด…"
เสียงวอดังสนั่นหวั่นไหว ท่ามกลางความเงียบสงัดของชั้นสองที่ประตูทุกห้องปิดสนิท เจ้าเหมียวจวนตัวเสียแล้ว! และในที่สุดแพรวก็รู้จนได้ว่ามันกำลังหนีอะไร
.
กลุ่มคนพวกนี้มีกันนับสิบชีวิต พวกเขาใส่ชุดคล้ายกับชุด PPE ของหน่วยตรวจเชื้อเชิงรุก แต่คาดปลอกแขนสีรุ้ง มิหนำซ้ำสีของเครื่องแบบก็ไม่ใช่สีขาวบริสุทธิ์แบบที่เคยเห็นในข่าว หากแต่เป็นสีเขียวเข้มๆ คล้ายกับชุดของคุณหมอในห้องผ่าตัด แพรวได้แต่นิ่งเงียบ เธอสั่นเทาไปหมด แต่ก็ยังไม่สู้เจ้าเหมียวที่เหมือนจะรู้ชะตากรรมทันทีที่อีกฟากของวิทยุตอบกลับมา..
.
“ครืดดดด… ครืดดดด….ครืดดด…"
.
“จัดการเลย! , ล่าพวกวิปริตมาให้หมด ไอ้พวกสองเพศ! จะคนหรือสัตว์ก็กวาดให้เกลี้ยงตึก!”
.
“รับทราบครับ”
.
สิ้นสุดคำสั่งเสียงปืนยิงตาข่ายพร้อมกระสอบป่านก็เข้าประจำที่ พวกเขาใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีจับเจ้าเหมียวตุ๊ดซี่ยัดใส่ในถุง! หนึ่งคนแบกมันลงไปด้านล่าง ส่วนที่เหลือพากันวิ่งกรูขึ้นไปข้างบน เพื่อเคาะไล่ทีละห้องหาเหยื่อรายต่อไปทีละประตู!
.
แต่ทว่า!
.
“ติ๊ด , ติ๊ด , ติ๊ด , ติ๊ด”
.
“เดี่ยวก่อน! สัญญาณจากเครื่องเซ็นเซอร์แจ้งว่ายังมีพวกสองเพศ อยู่บนชั้นนี้อีกหนึ่ง?!”
เจ้าหน้าที่คนเดิมหยุดชะงัก! เขาคว้าไหล่ทีมงานคนอื่นเอาไว้พลางบอกว่าอย่าเพิ่งขึ้นไป
.
“เอ้า! ก็แมวสีทองในกระสอบไง นั่นล่ะนับเป็นหนึ่ง!”
.
“เหรอ! งั้นก็ไปต่อได้.. ขอโทษที”
.
ทำเอาแพรวถึงกับโล่งอก เธอยังคงซุ่มดูอยู่ตรงซอกประตู ดวงเธอดีมากที่คณะตรวจเชื้อกลุ่มนี้ทยอยวิ่งผ่านชั้นสองไปทีละคนสองคน บางทีอาจจะเป็นเพราะเจ้าเหมียวที่ช่วยเธอไว้ ถ้าไม่ได้มันชั้นนี้ทั้งชั้นคงถูกตรวจสอบ แล้วก็คงจะเป็นเธอที่โดนสอบสวน
.
“ฮู่วววว….”
เป่าปากพรูหลังเจ้าหน้าที่คนสุดท้ายวิ่งผ่านไป
.
เหงื่อนองท่วมหน้า สาวเจ้าค่อยๆ ย่องลงบันไดมาช้าๆ จนถึงชั้นล่าง ก่อนจะเดินออกจากอพาร์ทเมนต์แห่งนี้ได้สำเร็จ โดยไม่ลืมที่จะกดปุ่มเรียกใช้หน้ากากกันแก็สที่ผลิตโดยบริษัท AP
.
“ฟรึบ! , ฟับ! , ฟรึบ , ฟับ!”
.
หมุนเวียนเปลี่ยนสลับราวกับหนังทรานฟอร์เมอร เพียงเท่านี้ใบหน้าของแพรวก็ถูกอำพรางไว้ด้วยกระจกครอบแก้วแล้ว! เดินไปไหนก็ไม่มีใครสงสัย กลมกลืนกับผู้คนแถมยังปลอดภัยจากไวรัสสุดๆ อีกต่างหาก
.
“เอาล่ะ..ทีนี้ก็แค่เดินหาร้านยา.. ท่ามกลางบ้านเมืองและถนนหนทางที่มีแต่รถคุณหมอ?”
“มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ยะ? แค่แวะไปอึบกันแป๊บเดียวทำไมด้านนอกถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้!!!”
.
ไม่แปลกที่แพรวจะตื่นตูม! ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากเหมือนกับเวลาคนอึบกันแล้วหลั่งไวเกินควรนั่นแหละ! ยวดยานคันอื่นจอดนิ่งข้างทาง ที่วิ่งอยู่จึงมีแต่รถพยาบาลที่เปิดหวอไซเรน กับคาราวานตรวจโรคเชิงรุกที่มีเปรมเป็นหัวหน้าชุด รถของหน่วยนี้ทุกคันถูกทาเป็นสีม่วง มีธงสีรุ้งผูกอยู่ตรงสปอยเรอน์ด้านหลังเพื่อให้ประชาชนทุกคนสังเกตเห็น การตรวจโควิด-19 ได้เปลี่ยนรูปแบบไปแล้ว พวกเขายกเลิกการตรวจหาผู้ติดเชื้อ แต่เปลี่ยนมาตรวจจับบุคคลผู้มีรสนิยมรักร่วมเพศแทน ซึ่งก็อย่างที่เห็นว่าตรวจแม้กระทั่งกับสัตว์!
.
ทั้งหมดทั้งมวลก็ไม่ใช่เพราะใคร… มันถูกออกแบบมาเพื่อเปรม! พลังการรักษาของเขาทำให้กระเทยไทยตกอยู่ในสภาวะความเสี่ยง!
.
แพรวแหงนมองย้อนขึ้นไปบนอพาร์ทเมนท์ หน้ากากครอบแก้วทำให้เธอมองเห็นห้องของพีชัดเจนแม้จะอยู่ในทิศย้อนแสง
.
.
“อีพี? มึงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วเพื่อน!!”