ผมชื่อก้องครับ แม่ผมเคยเล่าว่าตอนผมเด็กๆ แม่ไปดูหมอมา หมอดูบอกว่าผมมีดวงแบบนักรักตัวยง มีเสน่ห์สาวติดเพียบ นารีอุปถัมภ์ ฯลฯ ผมไม่รู้เรื่องหรอกครับว่าเค้าพูดอะไรกัน มารู้ก็เมื่อผมเรียนอยู่ ม. 1
ผมชื่อก้องครับ แม่ผมเคยเล่าว่าตอนผมเด็กๆ แม่ไปดูหมอมา หมอดูบอกว่าผมมีดวงแบบนักรักตัวยง มีเสน่ห์สาวติดเพียบ นารีอุปถัมภ์ ฯลฯ ผมไม่รู้เรื่องหรอกครับว่าเค้าพูดอะไรกัน มารู้ก็เมื่อผมเรียนอยู่ ม. 1
ผมแค่เปิดกระโปรงของเธอขึ้น
และแบะเสื้อนักเรียนเธอออกให้เต้าออกมาชัดๆ
ก่อนจะจ่อควยที่ปากทางและกดมันลงไปช้า
แม้แบมเองจะไม่คับแน่นเหมือนเก๋ แต่แบมก็ติดท้อป 10 ของผม
"โอ๊ย พี่ก้องคะ เบาๆนะคะ"
ผมก้มลงไปดูดปาก กลิ่นควยผมยังอยู่ที่ปากของแบมเลย
ผมกดควยลงไปช้าๆ หน้าตาของแบมบ่งบอกถึงความพอใจ
เราทำกันมานานแล้ว ผมรู้ว่าสาวน้อยคนนี้ของผมต้องการอะไร
เธอกลัวความรุนแรงเพราะเธอโดนพ่อข่มขืนมาก่อน
ผมทำเธอแรงแต่นิ่มนวลตามที่แบมต้องการ
ผมดึงขึ้นมาเกือบหมดก่อนกดลงไป ช้าๆจนมันสุดลำ
ผมก้มลงดูเห็นแคมทั้งสองข้างยู่ยวบลงไป
ตามแรงกดของผมและพอผมลากออกมามันก็กลับออกมาใหม่
แบมร้องด้วยความคับแน่นที่พุ่งเข้ามาในตัวเธอ
ผมกดคาไว้ก่อนจะบดปากจูบกะแบม
"ดีมั๊ยแบม พี่ไม่อยากให้แบมไปเลยอ่ะ..."
"แบม...เอ่อ โอ๊ยพี่..เสียวมาก โอ๊ยพี่ ... แบมเสียว อย่าทำแบบนี้สิคะ"
ผมกดปลายควยไปที่ปากมดลูก
และควานลำให้ปลายควยถูกะปากมดลูกของเธอ
แบมร้องลั่นเมื่อเธอรู้สึกถึงการเสียดสีข้างในตัวเธอ ผมไม่รอช้า
เริ่มกระเด้าเด็กนักเรียนพาณิชย์ที่นอนต่อหน้าผม
แบมดูมีอารมณ์มากมายท่วมท้นกะชุดนักเรียนที่ผมยังไม่ถอดมันออกไป
จริงสินะ แบมไม่เคยเจอกะผมแบบดิบๆเลย ท่าทางเธอคงชอบแบบนี้
ผมเสียบซอยแบมไม่นานนักเธอก็ไปต่อไม่ไหว
ระบายความใคร่ไปยังหีน้อย ปล่อยให้มันบีบลำควยผมเป็นระยะ
"เป็นไงมั่ง พี่ก้องยังเหมือนเดิมมั๊ย"
"โหวพี่... โอ้ว อย่าเพิ่งพี่ มันเสียวมากอ่ะ พี่ก้องอ่ะ
ช่วงหลังไปอยู่กะพี่แอลบ่อยๆเลยใช่มั๊ยอ่ะ แบมอิจฉาพี่แอลจัง"
"ตอนนี้พี่อยู่ในตัวแบม ยังอิจฉาพี่แอลอีกเหรอ งั้นมานี่ ต้องแบบนี้แล้ว"
ผมจัดท่าประหลาดที่ไม่เคยเล่นกะแบมมาก่อน
ผมดึงเธอเดินอ้อมมาหลังโซฟา
แล้วกดให้เธอก้มพาดพนักโซฟา ก้นเธอโด่งขึ้น
ผมเลิกกระโปรงเด็กพาณิชย์ขึ้น ของแบมเด่นชัดขึ้นมา
มันมีรอยแดงจากการกระทำเมื่อกี้ของผม
ผมจับควยผมมาจ่อที่ปากทางและกดลงไปช้าๆ แบมร้องลั่น
ท่านี้ลำควยผมครูดผนังของเธออย่างเต็มที่ มันเสียวมากจริงๆ
ปากช่องทางแบมรัดควยผมแน่น ผมเริ่มกระเด้าเสียบซอยเข้าในตัวแบม
เธอฟุบหน้ากับโซฟาร้องอู้อี้ หีเธอฟิตมากขึ้นตามลำดับ
แบมคงพลาดท่าผมแล้ว เธอปลุกอารมณ์ผมไม่พอ
ตอนนี้เธอต้องใช้ตัวเธอมารับภาระความเงี่ยนของผม
ผมจัดเต็มหนักหน่วง แบมทนไม่ไหวจนถึงจุดอีกครั้ง
"โอ๊ย....พี่ ไปเอาท่านี้มาจากไหนเนี่ย แบมเสียวมากๆอ่ะ"
"ยังไม่จบเลยแบม..."
ผมดึงสาว ปวช
ขึ้นจากโซฟาให้เธอนอนคว่ำตามยาวไปกะพนักโซฟาและให้เอาขาข้างนึง
พาดโซฟาไว้ ผมเข้าข้างหลังพรวดเดียวมิด
แบมร้องกรี๊ดเมื่อมันเข้าไปสัมผัสส่วนในสุด ผมเร่งทันที
น้ำของแบมหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย เธอเกร็งไปทั้งตัว
"ให้พี่ถอดเสื้อเด็กพาณิชย์หน่อยนะแบม"
ผมยกตัวเธอขึ้น ปลดกระดุมทุกเม็ดก่อนจะดึงเสื้อออกจากตัวแบม
แบมเป็นแนวอวบๆ แต่ไม่อ้วนมากมาย แบมเป็นแนวน่ารักกอดสนุก
ผมก้มลงทาบแผงอกลงบนหลังของแบม
"5555 เป็นไงเด็กพาณิชย์โดนนักเรียน ม ปลาย เอา สนุกมั๊ยแบม"
"พี่ก้อง แบม โอ้วๆๆๆ พี่ก้อง เสียวมากนะ ไม่ไหวแล้ว"
แบมเสียวมากจนเสร็จไปอีกที
สาวน้อยของผมดูจะหมดแรงกับการกระทำของผม
ผมดึงเธอมาที่โซฟาอีกครั้ง
ให้เธอนั่งเอาก้นมาหมิ่นปลายๆเบาะโซฟาแล้วผมยกขาเธอขึ้น
เอามือกดขาทั้งสองเธอแบะออก ท่าฉีกทุเรียนของผมทั้งเจ็บทั้งเสียว
แบมกำลังจะเจอท่านี้ ผมเอาปลายควยจ่อที่ปากทาง
แล้วกดลงเต็มๆโดยไม่สนใจเสียงร้องโวยวายของแบม
มันพุ่งลงไปจนสุดทางของแบม จากนั้น ผมจัดเต็มแบม
แบมอ่อนแรงไปมากหลังจากถึงจุดแรงๆไปหลายหน
เธอไม่ต่อสู้ สายตาเบิกโพลงด้วยความเสียวที่มหาศาล
แบมจะรับมันไม่ไหวแล้ว และเธอก็ถึงจุดอีกครั้ง
ผมต้องส่งท้ายเด็กพาณิชย์โดยการกระเด้าต่อเนื่อง แบมร้องลั่น
"โอ๊ย แบมไม่ไหวแล้วพี่ก้อง พอเหอะ แบมปวดแล้ว โอ้วๆๆๆๆ"
"อีกนิดเดียวแบม พี่ใกล้แล้ว"
และผมก็เลิกสนใจแบมอีก เริ่มเล่นแบมเต็มที่
แบมถึงจุดต่อเนื่องจากครั้งที่แล้วอย่างรุนแรง
แรงบีบราวกับมือขยำทำให้ผมหมดความอดทน
ผมดึงควยออกจากตัวแบม และรูดคำควยอีกเพียงสองครั้ง
น้ำผมกระฉูดออกมา
ครั้งแรกมันเลยหัวแบมและที่เหลือสาดลงบนใบหน้า
และอกของแบมอย่างมากมายจนไหลลงมาเปื้อนที่ท้องและโซฟา
ผมเอาเสื้อของแบมมาเช็ดคราบน้ำกามที่เปรอะเปื้อนก่อนจะจูบแบม
"คืนนี้มาอยู่กะพี่ก้องแล้วกัน"
แบมย้ายของไปลพบุรีจริงๆเมื่อสอบเสร็จแล้ว
ผมและแบมต่างอาลัยอาวรณ์กันมาก
แม้ผมไม่เคยคิดเป็นแฟนกับแบม
แต่แบมเหมือนเพื่อนสนิทมากๆคนหนึ่งของผม
ที่จะจากไปโดยไม่กลับมาหาผมอีก
คนที่อาลัยแบมมากกว่าผมน่าจะเป็นเก๋
เพื่อนซี้ที่นอนห้องเดียวกันกะแบมมาเป็นปี สองคนนี้ไม่เคยทะเลาะกัน
อาจเป็นเพราะมีผัวคนเดียวกัน ไม่เคยหึงหวงกัน ไม่อิจฉากัน
ผมให้ตังค์แบมไป 5000
บอกแบมว่าช่วยงานศพแม่แบมและบอกแบมว่ามาหาผมเมื่อไหร่ก็ได้
พี่มุพาแบมไปส่งที่ขนส่ง แบมไม่ได้มีของมากมาย
กระเป๋าใบนึงกะของส่วนตัวอีกลังนึงเท่านั้น
ผมสอบเสร็จจากโรงเรียนแล้ว ตามประสาเด็ก ม 6
วันใส่เสื้อนักเรียนวันสุดท้ายมาถึง ผมถือปากกาเมจิก
เดินเขียนเสื้อให้เพื่อนๆทั้งหลาย และคนนึงที่ผมเจอ
"เจน...ขอเขียนเสื้อนะ"
ผมพูดกับคนที่ผมชอบมากที่สุด รักมากที่สุดไม่แพ้ซาย่า
ซึ่งตอนนี้ผมทำใจได้แล้วว่าเราคงลดฐานะเป็นแค่เพื่อนกัน
ผมไม่คาดหวังอะไรกับเจนอีก
ขอเก็บความรู้สึกที่ดีเพียงครั้งเดียวของเราไว้ในใจ
"เอาสิ เราเขียนให้ก้องด้วย มาหันหลังมา"
เจนเขียนยุกยิกบนปกเสื้อผม ผมมองไม่เห็นว่าเจนเขียนยังไง
ผมเขียนให้เจนในที่เดียวกัน
"รักเจนเสมอ... จากเพื่อนที่ดี ก้อง"
พอเราเขียนให้กันเสร็จ เจนยิ้มให้ผม จับมือผมทั้งสองข้าง
สายตาของเธอเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ
"ก้อง ขอบใจมากสำหรับมัธยมที่ผ่านมานะ เราจะไม่ลืมก้อง
อนาคตเราอาจจะได้เจอกันหรือไม่เจอกันก็ไม่รู้
แต่เราจำสิ่งที่ก้องทำให้เราได้เสมอ"
ผมดึงเจนเข้ามากอดแน่นๆ สิ่งที่ผมทำมันเห็นชัดท่ามกลางหมู่เพื่อน
ซึ่งมีเสียงโห่ฮามาจนเจนวิ่งหนีไปด้วยความเขินอาย
ผมก็ไล่เตะไอ้เอ็ม ไอ้เม เพื่อนเหี้ยที่เป็นต้นเสียงแก้เขินอายเหมือนกัน
เจนเขียนให้ผมว่า "เก็บความคิดถึงไว้....จนกว่าเราจะพบกันใหม่ เจน"
นั่นเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆที่ผมเจอเจน
และแล้ววันสอบเอ็นท์ก็มาถึง....
ด้วยผีมือการติวของพี่แอล มันเลยไม่ยากมากสำหรับผม
ผมไม่ลืมสัญญาว่าหากเอ็นท์ติดจะไปไต้หวันกะพี่แอล
ส่วนเก๋พอสอบจบ ปวช ก็เตรียมขนย้ายของ
เก๋กลับไปทำงานที่บ้านตามที่แม่ผมบอก
วันเสาร์นี้เก๋ก็จะกลับแล้ว ผมร่ำลาเก๋อย่างชนิดที่เรียกว่า
"ตัวแห้งหมดน้ำ" แม้ผมรู้ว่าเก๋จะไม่ไปลับ
คงกลับมาหาผมทุกอาทิตย์เพื่อเก็บกวาดคอนโดและทำ "อย่างอื่น"
เล็กน้อย แต่มันไม่เป็นเหมือนสามปีที่ผ่านมาที่เมื่อต้องการ
เก๋และแบมจะอยู่กะผมเสมอ ผมคงคิดถึงสองคนนี้มาก
ตอนนี้ต้องอยู่ด้วยตัวเองแล้วสิ....ทำไงดีเนี่ย
"ก็...เย็นนี้ออกไปเลี้ยงพี่ไง..."
เจ้าของไอเดียอยู่ชั้นบนของผมเอง พี่แอลยังไม่ได้ไปไหน
โทรมาชวนผมไปกินข้าว ผมยินดีอยู่แล้ว
ตอบรับพี่แอลอย่างไม่ยากเย็นนัก
และพอห้าโมงพี่แอลก็มากดกริ่งห้องผม
พี่แอลใส่เสื้อคอกลมสีขาว มีเสื้อคลุมสีดำทับ ใส่กระโปรงยีน ตัวสั้น
แต่ไม่น่าเกลียดนัก
เราตกลงไปแถวสยามกัน ไปรถไฟฟ้าง่าย
ใกล้และมีของกินแยะ พอลงรถไฟ เราเปลี่ยนใจจะไปเวิร์ดเทรดแทน
ระหว่างเดินไปนั้น เราผ่านเด็กนักเรียนคนนึงเล่นกีตาร์อยู่
แต่ไม่มีใครฟัง
กีตาร์โปร่งเองก็มีเสียงดังสู้กับเสียงจราจรและผู้คนแถวนั้นไม่ได้
พี่แอลหยุดหน้าน้องคนนั้น แล้วตั้งอกตั้งใจฟัง
ฝีมือกีตาร์ของน้องนั่นดีทีเดียว
เพลงฤดูที่แตกต่างที่แกะมาเป็นเวอร์ชันกีตาร์ที่ดีมาก
ที่หน้าน้องคนนั้นเปิดกล่องกีตาร์ มีเหรียญอยู่หลายเหรียญ
แต่ผมคำนวณด้วยตาไม่เกิน 200 บาท มีป้ายเขียนว่า....
"หาทุนเรียนครับ ไม่มีเงินเรียนแล้วครับ"
พี่แอลหยุดฟังนานมากก่อนจะเปิดกระเป๋า
หยิบแบ้งค์ยี่สิบใส่ลงกล่องกีตาร์ 1 ใบ
น้องคนนั้นยิ้มให้พี่แอลและโค้งคำนับ และยังคงร้องเพลงต่อไป
พี่แอลดึงมือผมเดินต่อ ขณะที่เรารอเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น