ตอนที่ 289: นี่แค่เริ่มต้น
และด้วยความประหลาดใจของทุกคน หวางหยวนเฟิงได้ก่ออาชญากรรมมากมายกว่าที่พวกเขาเคยรู้จัก พวกเขาคิดมาตลอดว่าหวางหยวนเฟิงทำมันด้วยแรงกระตุ้น แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือหวางหยวนเฟิงชอบทำมันจริงๆ
แม้ว่าตระกูลหวางจะมีอิทธิพลในเมืองเถิง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถฝ่าฝืนกฎหมายได้ตลอดเวลา ตอนนี้หวางหยวนเฟิงยอมรับด้วยตัวเองแล้ว ดังนั้นหวางป๋อกวงจึงไม่มีทางหักล้างได้
อย่างไรก็ตามผู้ที่บังคับให้หวางหยวนเฟิงยอมรับการก่ออาชญากรรมของเขายังคงเป็นปริศนา หวางหงหมิงและหวางป๋อกวงไม่เพียงแต่อยากรู้ ประชาชนทั่วไปก็อยากรู้เช่นกัน ในเวลาเดียวกันตระกูลหวางก็ตกอยู่ในความโกลาหล
“คุณพ่อคะ ช่วยป๋อกวงกับหยวนเฟิงด้วยค่ะ!” ภรรยาของหวางป๋อกวง ‘หลี่เหมิงเจีย’ ร้องไห้อ้อนวอนหวางหงหมิง
“ช่วยยังไง? หยวนเฟิงรับสารภาพไปแล้ว จะให้ฉันช่วยเขายังไง?” หวางหงหมิงตวาดเสียงดัง เขาเองก็อยากจะช่วยลูกชายและหลานชายใจจะขาด แต่เรื่องนี้มันเกินความควบคุมของเขาไปแล้ว
ตระกูลหวางมีอำนาจและมีอิทธิพลในเมืองเถิงก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะต่อต้านกฎหมายและหลบหนีไปได้ตลอดเวลา ถ้าหวางหยวนเฟิงยังไม่ยอมรับสารภาพ ก็ยังพอมีทางช่วยเขาได้ แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีโอกาสแล้ว
หวางหงหมิงกระอักเลือดหลายครั้งตั้งแต่เมื่อวานและตอนนี้ร่างกายของเขาอ่อนแอ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะยืนหยัดในวันนี้ หลังจากความสับสนวุ่นวายมาหลายวัน ผมของหวางหงหมิงก็เปลี่ยนเป็นสีเทาอย่างรวดเร็ว
หวางป๋อกวงมีคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง แต่หลังจากเรื่องอื้อฉาวของลูกชายของเขา คนที่อยู่เบื้อหลังได้สลัดหวางป๋อกวงทิ้งไปแล้ว ในสถานการณ์ที่อ่อนไหวเช่นนี้ ไม่มีใครเต็มใจที่จะมีส่วนร่วมในความยุ่งเหยิงของตระกูลหวาง พวกเขากำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างมากในขณะนี้
“แล้วพวกเราจะทำอย่างไรดีคะ?” หลี่เหมิงเจียถามด้วยความสิ้นหวัง ล้มลงบนพื้น เธอเข้าใจถึงความร้ายแรงของสถานการณ์นี้ดี แต่เธอไม่อาจเฝ้าดูสามีและลูกชายของเธอถูกตัดสินจำคุกหรือแม้แต่ประหารชีวิตได้ ถึงกระนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
“พ่อ เราไม่มีวิธีอื่นแล้วหรอครับ?” ลูกชายคนโตของหวางหงหมิง พ่อของหวางซินหยวน ‘หวางป๋อเหวินถาม’
หวางหงหมิงมีลูกชายสามคนนอกนั้นเป็นลูกสาว ลูกชายคนโตของเขา ‘หวางป๋อเหวิน’ มีส่วนร่วมในธุรกิจ ลูกชายคนที่สอง ‘หวางป๋อกวง’ ทำงานด้านการเมือง และ ‘หวางป๋อหยวน’ ลูกชายคนเล็กของเขาก็เป็นนักธุรกิจที่ทำงานร่วมกับหวางป๋อเหวิน
“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ฉันจะทำอะไรได้? พวกแกทั้งหมดต้องอยู่ให้ห่างจากเรื่องนี้ ถ้ามีใครกล้าฝ่าฝืนคำสั่งของฉันเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ ก็ไสหัวไปให้พ้นจากตระกูลหวาง!” หวางหงหมิงเตือนลูกๆ ถึงแม้จะดูเลือดเย็น แต่เขาก็ต้องเลือกระหว่างลูกชาย หลานชาย และตระกูลหวาง
“พ่อคะ” หลี่เหมิงเจียร้องไห้คร่ำครวญ เธอยอมรับไม่ได้
“หุบปากแกซะ ถ้าแกไม่ยอมก็ไปช่วยผัวกับลูกแกเอง!” หวางหงหมิงหมดความอดทน หลี่เหมิงเจียจึงหุบปากไม่พูดอะไรอีก
หลังจากนั้นหวางป๋อเหวินก็ประคองหวางหงหมิงกลับไปที่ห้องนอนของเขา แม้ว่าหวางหงหมิงจะไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้เช่นนั้น หวางป๋อกวงและหวางหยวนเฟิงต่างก็เป็นลูกชายและหลานชายของเขา เขาจะลองดูไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นอกจากนี้เขายังตัดสินใจที่จะค้นหาว่าใครเป็นผู้เปิดโปงเรื่องอื้อฉาวนี้ หวางหงหมิงเตรียมตัวเพื่อแก้แค้น
เพราะเรื่องอื้อฉาว หวางหงหมิงจึงลืมกระจายข่าวว่าผู้ให้บริการหยกหลากสีมีความเกี่ยวข้องกับราชินีหยก
ในขณะนั้นกู้หนิงกำลังทานอาหารเช้ากับเลิ่งเชาถิงในห้องอาหารของโรงแรม ทันใดนั้นผู้หญิงโต๊ะถัดไปก็พูดเสียงดังด้วยความประหลาดใจว่า “พระเจ้า! ลูกชายรองนายกเทศมนตรีก่อคดีข่มขืนอย่างน้อย 10 ครั้ง! หนึ่งในเหยื่อเป็นลูกสาวของครู เธอถูกฆ่าเมื่อปีก่อน! หวางป๋อกวงยังทำให้เด็กชายอีกคนเป็นแพะรับบาปเพื่อให้ลูกชายของเขาปลอดภัย โหดร้ายจริงๆ!”
คำพูดของหญิงสาวทำให้ทุกคนในห้องอาหารตกใจ
รองนายกเทศมนตรี? เขาไม่ได้เป็นสมาชิกของตระกูลหวางหรอกหรือ?
ลูกชายของเขาก่อคดีข่มขืนสิบครั้งและฆ่าเด็กผู้หญิง?
ถ้าเป็นเรื่องจริง ตระกูลหวางก็เป็นสัตว์เดรัจฉานแล้ว! กู้หนิงคิดกับตัวเอง
หลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงจากวิดีโอที่หวางหยวนเฟิงสารภาพทุกอย่างที่เขาทำผิด
“ตระกูลหวางเป็นสัตว์เดรัจฉานจริงๆ!” กู้หนิงโกรธมาก
ทันใดนั้นกู้หนิงก็นึกถึงอีเมลที่ K ส่งมา เธอรีบหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาทันทีและคลิกเปิดกล่องอีเมล เอกสารที่แนบมากับอีเมลบันทึกข้อเท็จจริงที่ว่าหวางหยวนเฟิงเคยก่ออาชญากรรมข่มขืนอย่างน้อย 10 ครั้ง แต่เขาไม่เคยถูกลงโทษ
กู้หนิงสงสัย ใครกันที่เป็นคนปล่อยข่าวนี้ตัดหน้าเธอ
ทันใดนั้นกู้หนิงก็มองไปที่เลิ่งเชาถิงด้วยความสงสัย เธอคิดว่าเลิ่งเชาถิงอาจจะเป็นคนทำแต่ก็ไม่แน่ใจ
“ผมเองแหละ” เลิ่งเชาถิงยืนยันความสงสัยของเธอ
กู้หนิงอ้าปาก แต่ไม่รู้จะพูดอะไร เธอรู้สึกสะเทือนใจอย่างยิ่งที่ผู้ชายคนนี้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อเธอโดยไม่ลังเล
“นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น” เลิ่งเชาถิงเอ่ยเสียงเย็น ตระกูลหวางกล้าทำร้ายกู้หนิงและเขาจะไม่ปล่อยพวกมันเอาไว้ เขาตัดสินใจจะถอนรากถอนโคนตระกูลหวาง
“ไม่ต้องกังวลค่ะ ฉันมีหลักฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายของตระกูลหวางแล้ว วันนี้ฉันสามารถเปิดโปงตระกูลหวางได้” กู้หนิงเอ่ยแล้วให้เลิ่งเชาถิงอ่านอีเมลที่ K ส่งมา
เมื่ออ่านรายงานหลักฐานแล้ว เลิ่งเชาถิงรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง เขารู้ชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ทางการพวกนั้นทำผิดกฎหมาย โดยปกติเขาจะเพิกเฉย หากเขาไม่ยังไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัดๆ แต่ตระกูลหวางนั้นแตกต่างออกไป พวกเขาพยายามทำร้ายกู้หนิงหลายต่อหลายครั้ง และเลิ่งเชาถิงจะไม่ปล่อยให้พวกเขาหนีไปง่ายๆ
ไม่นานกู้หนิงก็ได้รับโทรศัพท์จากหยวนซูหยา เธอถามกู้หนิงด้วยความตื่นเต้นว่า “กู้หนิง เธอเป็นคนทำหรอ?”
หยวนซูหยารู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อเธอทราบข่าว
ตอนที่ 290: ถอนรากถอนโคนตระกูลหวาง
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เกลียดตระกูลหวางจนถึงขึ้นอยากทำลายพวกเขาให้สิ้นซาก แต่เธอก็ไม่ชอบใจตระกูลหวางมานาน สิ่งที่ตระกูลหวางทำนั้นเป็นสิ่งที่ใครก็ยอมรับไม่ได้ หยวนซูหยารู้ว่าตระกูลหวางมีศัตรูหลายคน แต่ครั้งนี้คนที่แวบเข้ามาในหัวของเธอคือกู้หนิง
“ใช่ ฉันเอง” กู้หนิงยอมรับแต่ไม่ได้อธิบายอะไรต่อ
เมื่อได้รับคำตอบยืนยันจากกู้หนิง หยวนซูหยาไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งที่กู้หนิงทำนั้นไม่ถูกต้อง ตอนนี้เธอกลับชื่นชมกู้หนิงมากขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าจะมีใครบางคนที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังกู้หนิง แค่กู้หนิงคนเดียวก็แทบถอนรากถอนโคนกู้หนิง!
ก่อนที่ตระกูลหวางจะสามารถรู้ได้ว่าใครเป็นผู้เปิดเผยเรื่องอื้อฉาวนี้ ก็มีการเปิดเผยหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายของพวกเขา เกิดความฮือฮาอีกครั้งในเมืองเถิง
หวางป๋อเหวินถูกสงสัยว่าเลี่ยงภาษีเป็นเงินอย่างน้อยหลายร้อยล้านหยวน ในขณะที่หวางป๋อหยวนเป็นหัวหน้าแก๊งที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเถิง และเขาเคยเกี่ยวข้องกับคดีค้ายาเสพติดและการฆาตกรรมหลายคดี เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าตระกูลหวางมีความลับสกปรกมากมาย แต่ความจริงก็ยังน่าตกใจอยู่ดี
ภายในระยะเวลาอันสั้นตระกูลหวางหลายคนถูกจับ ในท้ายที่สุดเหลือเพียงหวางหงหมิงและผู้หญิงเท่านั้นที่ปลอดภัย ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเกินไปสำหรับคนในตระกูลหวางที่จะเตรียมตัว ดังนั้นจึงไม่มีใครมีโอกาสหนีไปได้
ตระกูลหวางยังพยายามปฏิเสธหลักฐานโดยเปล่าประโยชน์
หวางหงหมิงเป็นชายชราอายุมากซึ่งสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง และคราวนี้เขาล้มป่วยเพราะโกรธจัด
ทำไม? เหตุใดจึงมีการเปิดเผยความลับสกปรกเหล่านี้ในเวลานี้? ใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้?
เป็นศัตรูทางการเมืองของหวางป๋อกวง หรือกู้หนิง? หวางหงหมิงคิดกับตัวเอง ถ้าเป็นกู้หนิง เขาต้องยอมรับว่าตอนนี้เขารู้สึกเสียใจจริงๆที่ไปหาเรื่องเธอ แต่มันก็สายเกินไปที่จะเสียใจแล้ว หวางหงหมิงฉลาดมาตลอดชีวิต แต่ตอนนี้ทั้งครอบครัวของเขาพังพินาศเพราะการแก้แค้นของเขาเอง เขาทนไม่ได้กับผลลัพธ์และเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน
ชื่อเสียงขอตระกูลหวางได้ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิงในตอนนี้ ไม่มีใครยอมให้อภัยหรือลืมสิ่งที่พวกเขาทำลงไป
ในขณะเดียวกันผู้คนต่างก็สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของบุคคลที่มีอำนาจในการถอนรากถอนโคนตระกูลหวาง
ตระกูลหวางถูกถอนรากถอนโคนแล้ว สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วเมืองเถิง แต่มันเกิดขึ้นเร็วเกินไปและทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับว่ามันไม่จริง
เช้าวันต่อมา พันธมิตรของหวางป๋อกวงทั้งหมดถูกลงโทษหรือถูกตัดสินจำคุก คราวนี้กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เป็นคู่แข่งทางการเมืองของหวางป๋อกวงเป็นคนจัดการ
คู่แข่งทางการเมืองของหวางป๋อกวงต้องการที่จะปลดเขามาโดยตลอด แต่ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน นอกจากนี้ตระกูลหวางยังเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเมืองเถิง แต่ตอนนี้มีใครบางคนโยนหวางป๋อกวงเข้าคุกและคู่แข่งทางการเมืองของเขาก็ไม่สามารถรอได้อีกที่จะขย้ำเขาให้ตาย
กู้หนิงไม่สนใจชะตากรรมของตระกูลหวาง เพราะพวกเขาถูกลงโทษในสิ่งที่ทำไปแล้ว
ระหว่างเดินทางกลับโรงแรม จู่ๆเลิ่งเชาถิงก็มอบของขวัญให้กู้หนิง กู้หนิงตาโตลุกวาวและแทบจะกระโดดขึ้นด้วยความตื่นเต้นเมื่อเธอเห็นมัน เอกสารนี้เป็นเอกสารของสิทธิในการแสวงหาประโยชน์จากวัตถุดิบของตระกูลหวาง ในกรณีนี้กู้หนิงได้เข้ามาแทนที่ตระกูลหวางแล้ว และกลายเป็นหนึ่งในสามผู้จัดหาวัตถุดิบที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเถิง ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับกู้หนิงเป็นอย่างมาก
ในความเป็นจริงกู้หนิงได้วางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบในเมืองเถิง และเธอได้ซื้ออาคารโรงงานขนาดใหญ่ดังกล่าวและก่อตั้งผู้ให้บริการหยกด้วยจุดประสงค์เดียวกัน ด้วยความช่วยเหลือจากตาทิพย์ของเธอ มันเป็นเรื่องง่ายมากที่เธอจะหาภูเขาหรือเหมืองหยก ที่สำคัญตระกูลหวางสูญเสียอำนาจและตำแหน่งในเมืองเถิงไปแล้ว มันจะง่ายยิ่งขึ้นสำหรับกู้หนิงถ้าเธอเข้ามาแทนที่ตระกูลหวาง และรักษาฐานลูกค้าของตระกูลหวาง
แต่ใครจะคิดว่าเลิ่งเชาถิงก็มีความคิดแบบเดียวกัน และได้เอกสารสิทธิ์มาให้เธอเรียบร้อยแล้ว
“คุณจ่ายไปเท่าไหร่?” กู้หนิงถาม เธอเข้าใจว่ามันต้องมีราคาแพงและเธอลังเลที่จะรับของขวัญจากเขาโดยไม่ได้ให้อะไรเขาเลย จริงๆแล้วเงินไม่ได้เป็นประเด็นในสายตาของเลิ่งเชาถิง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากู้หนิงจะยอมรับมัน
“เป็นเพียงของขวัญ” เลิ่งเชาถิงเข้าใจสิ่งที่อยู่ในใจของกู้หนิง แต่เขาไม่เต็มใจที่จะพูดคุยเรื่องเงินกับเธอ เขาให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของพวกเขามากกว่าเงิน
“แล้วจะฉันให้ทำยังไง....” กู้หนิงรู้สึกผิดและไม่สบายใจ
“ถ้าคุณต้องการตอบแทนผมจริงๆ อันที่จริงก็มีวิธี…” เลิ่งเชาถิงมองไปที่กู้หนิงด้วยสายตากรุ้มกริ่ม กู้หนิงตระหนักได้ทันทีว่าเขาต้องการอะไร ก่อนที่เธอจะหลบหนี เลิ่งเชาถิงกอดเธอแน่น
กู้หนิงบ่นอุบอิบ “ช่วงนี้ความต้องการของคุณชักจะมากเกินไปแล้วนะคะ ถ้าฉันไม่อยู่ด้วยแล้วคุณจะทำยังไง?”
เขาจะหันไปหาผู้หญิงคนอื่นไหมนะ? กู้หนิงคิดในใจ ถึงแม้เธอจะเชื่อว่าเลิงเชาถิงจะทำแบบนั้น แต่เธอไม่ใช่เขาและเธอไม่ใช่ผู้ชาย ดังนั้นแม้ว่าเลิ่งเชาถิงจะรักเธอมาก เธอก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะซื่อสัตย์กับเธอตลอดเวลา ถ้าเขานอกใจเธอ เธอจะทิ้งเขาโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา กู้หนิงไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องพึ่งพาผู้ชายในการดำรงชีวิต
เลิ่งเชาถิงหน้าเสียและกอดกู้หนิงไว้ในอ้อมแขนของเขาทันที “หนิงหนิง ไม่ต้องกังวลนะ ผมสัญญาว่ามีเพียงคุณเท่านั้นที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้”
เมื่อเห็นเลิ่งเชาถิงทำหน้าจริงจัง กู้หนิงก็รู้สึกเขินขึ้นมาและรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ฉันหิวแล้วค่ะ”
“งั้นเหรอ?” เลิ่งเชาถิงหรี่ตามองและยิ้มชั่วร้าย
กู้หนิงหน้าแดง ผู้ชายคนนี้ชักจะมากเกินไปแล้วนะ!
“ฉันหิวข้าว!” กู้หนิงแกล้งโมโห แต่เธอดูน่ารักในสายตาของเลิ่งเชาถิง
เลิ่งเชาถิงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกแล้ว กู้หนิงก็ผลักเขาออกไปทันที