ตอนที่ 271: ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ
หวางซินหยวนพูดโดยไม่รู้ตัว เธอพูดต่อไปว่า “การที่ฉันสนใจคุณนับว่าเป็นเกียรติของคุณแล้วต่างหาก!”
เลิ่งเชาถิงขมวดคิ้ว ความไม่พอใจฉายชัดในดวงตา เขารู้สึกรังเกียจถ้อยคำของหวางซินหยวน
“นี่คือผู้ชายของฉัน อยู่ให้ห่างจากเขาด้วย” กู้หนิงมองหวางซินหยวนด้วยสายตาแทบจะฆ่าคนได้
“แก..!” หวางซินหยวนทั้งโกรธและอิจฉา เธอไม่สามารถยอมรับความจริงได้ว่าผู้ชายหน้าตาดีคนนี้เป็นแฟนของกู้หนิง
“ออกไปซะ นี่เป็นเวลากินข้าวของเรา ฉันอาจจะตบคนที่ขวางทางตอนที่ฉันกำลังหิวก็ได้” กู้หนิงเอ่ยสำทับ เธอไม่อยากเสียเวลากับหวางซินหยวน
“แก...” หวางซินหยวนตื่นตระหนกภายใต้แรงกดดันจากกู้หนิง
เลิ่งเชาถิงกลัวว่ากู้หนิงจะหิว เขาจึงมองพวกหวางซินหยวนอย่างเย็นชาและพูดว่า “ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”
หวางซินหยวนและเพื่อนของเธอตกใจกลัว รีบออกจากห้องไปทันที
มีผู้ชายสองคนในวัยยี่สิบต้นๆ พวกเขาไม่หยิ่งยโสเหมือนหวางซินหยวน ยามที่เผชิญหน้ากับเลิ่งเชาถิง พวกเขาไม่กล้าที่จะต่อต้านเลย
เลิ่งเชาถิงหันมามองผู้จัดการ ผู้จัดการตัวสั่นด้วยความกลัว เอ่ยเสียงละล่ำละลักว่า “เอ่อ..ผม ผมจะไปบอกบริกรให้เข้ามาเดี๋ยวนี้ครับ” จากนั้นเขาก็ออกไปอย่างไม่รอช้า
หวางซินหยวนไม่รู้ว่าตัวว่าตัวเองถูกไล่ออกจากห้องจนกระทั่งเธอเดินออกมาจากห้องทานอาหารส่วนตัวแล้ว เธอรู้สึกอายมาก แต่ไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปข้างในและเผชิญหน้ากับเลิ่งเชาถิง
“ไปกินร้านอื่นเถอะ!” หวางซินหยวนเอ่ยเสียงเรียบ แสร้งว่าตัวเธอไม่ได้แคร์อะไร
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนตระกูลหวาง?” เลิ่งเชาถิงถามกู้หนิง ถึงแม้เขาจะได้รับคำตอบจากเจ้าตัวเป็นการยืนยันแล้ว
“ใช่” กู้หนิงตอบ
เลิ่งเชาถิงไม่ได้ถามอะไรต่ออัก เขามีแผนในใจแล้ว
ไม่นานบริกรก็เดินเข้ามา เหตุการณ์เมื่อสักครู่ไม่มีผลต่อความอยากอาหารของกู้หนิงและเลิ่งเชาถิง พวกเขาสั่งเมนูจานพิเศษของร้าน
เมื่อบริกรกลับออกไป เลิ่งเชาถิงก็ล้วงเอากล่องขนาดเท่าฝ่ามือ ยื่นไปตรงหน้ากู้หนิง “นี่สำหรับคุณ”
“อะไรคะ?” กู้หนิงทำหน้างุนงง
เป็นเครื่องประดับอีกแล้วหรอ? เธอคิดในใจ แต่เมื่อเปิดกล่องออกดู เธอก็ต้องตะลึงกับของที่อยู่ข้างใน ปืนอยู่ในกล่อง
“นี่...”
“อันก่อนเป็นแค่ปืนธรรมดาไม่ถูกกฎหมาย คุณไม่สามารถพกติดตัวได้ แต่คุณสามารถพกปืนกระบอกใหม่นี้ได้ มีใบอนุญาตอาวุธปืนอยู่ข้างใต้จึงถูกกฎหมาย” เลิ่งเชาถิงกล่าว
“ขอบคุณค่ะ...”
กู้หนิงยังพูดไม่จบประโยค เลิ่งเชาถิงก็พูดแทรกขึ้นว่า “คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมหรอก”
ในเมื่อเลิ่งเชาถิงพูดเช่นนั้น กู้หนิงก็ไม่พูดอะไรต่อ เธอจูบเขาที่ริมฝีปากเบาๆ ถ้าพวกเขาไม่ได้อยู่ในที่สาธารณะ เลิ่งเชาถิงไม่มีวันปล่อยเธอไปง่ายๆ
แม้ว่าหวางซินหยวนจะรู้สึกกลัวเลิ่งเชาถิง กระนั้นเธอก็ยังโทรให้คนไปช่วยจัดการเลิ่งเชาถิงกับกู้หนิงให้เธอ
เมื่อเลิ่งเชาถิงและกู้หนิงออกจากร้านอาหาร พวกเขาก็เห็นว่ามีคนกำลังสะกดรอยตามพวกเขา พวกเขารู้ได้ทันทีว่าหวางซินหยวนต้องส่งคนมาแก้แค้นแทนเธอ
กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงสบตากันและเดินไปข้างหน้าตามปกติ พวกเขาไม่สนใจคนที่สะกดรอยตาม เพราะพวกมันสู้พวกเขาไม่ได้อยู่ดี
เมืองเถิงเป็นเมืองโบราณที่มีเสน่ห์ พร้อมทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงามและพลุกพล่านไปด้วยผู้คน ดังนั้นกู้หนิงและเลิ่งเชาถิงจึงวางแผนที่จะทัวร์รอบๆ โดยเฉพาะถนนโบราณ
พวกเขาเดินไปที่ลานจอดรถใต้ดิน ตามมาด้วยผู้ชายหลายคนที่สะกดรอยตามมา
ภายในลานจอดรถมีแสงสลัว และมีคนเพียงไม่กี่คน ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับพวกมันในการโจมตีกู้หนิงและเลิ่งเชาถิง
เมื่อกู้หนิงและเลิ่งเชาถิงเดินมาถึงลานจอดรถ คนที่สะกดรอยตามมาก็วิ่งกรูเข้ามาล้อมกู้หนิงและเลิ่งถิง
เลิ่งเชาถิงอยากจะต่อยพวกมันให้ล้มคว่ำ แต่ถูกกู้หนิงหยุดไว้ก่อน กู้หนิงกวาดสายตามองผู้ชายห้าคน เอ่ยถามพวกเขาช้าๆว่า “หวางซินหยวนส่งพวกแกมาใช่ไหม?”
เธอรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ถามเพื่อจะได้เก็บเป็นหลักฐาน
ชายหัวโล้นหัวเราะเยาะ “ในเมื่อรู้อยู่แล้วก็ไม่น่าไปหาเรื่องตระกูลหวาง”
“โอ้ แล้วพวกแกต้องการจะทำอะไรอ่ะ?” กู้หนิงถาม
“คุณหนูหวางสั่งพวกเราให้ข่มขืนแกก่อน แล้วก็กรีดหน้าแกให้เละ ส่วนไอ้ผู้ชาย ถ้าเต็มใจเป็นแฟนคุณหนูหวางก็จะปลอดภัย ไม่อย่างนั้นก็ต้องถูกทำให้เสียโฉมเหมือนกัน” ชายหัวโล้นพูดอย่างหมดเปลือก
ตอนนี้เลิ่งเชาถิงโกรธจนเลือดขึ้นหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกมันบอกว่าจะข่มขืนกู้หนิง เขาทนไม่ไหว เตะชายหัวโล้นอย่างแรงเมื่อเขาพูดจบประโยค ชายหัวโล้นถูกเตะออกไปไกลหลายเมตรและล้มลงบนพื้นอย่างแรงพร้อมกับร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
มันเกิดขึ้นเร็วมากจนนักเลงอีกสี่คนไม่รู้ตัว
เลิ่งเชาถิงกวาดตามองคนที่เหลือเหมือนจะฆ่าพวกมันทั้งหมด พวกมันสั่นสะท้านด้วยความกลัวและถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ไม่สามารถรอดพ้นจากการโจมตีของเลิ่งเชาถิงได้
ภายในไม่กี่วินาที เลิ่งเชาถิงก็ต่อยพวกมันทั้งสี่คนจนลงไปนอนกองกับพื้น ร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวด
ตอนที่ 272: ท่ามกลางจูบอันเร่าร้อน
“บอกหวางซินหยวนว่า ถ้าเธอต้องการทำให้เราเดือดร้อน เธอควรหาคนที่มีความสามารถ พวกแกก็เป็นแค่ขยะ และบอกให้เธอรอการแก้แค้นจากฉันด้วยล่ะ เพราะครั้งนี้เธอทำให้ฉันรำคาญจริงๆ!” กู้หนิงเตือนพวกเขา จากนั้นก็จากไปพร้อมเลิ่งเชาถิง
หลังจากที่กู้หนิงกับเลิ่งเชาถิงจากไปแล้ว หนึ่งในนักเลงก็โทรหาหวางซินหยวนและบอกเธอว่าพวกเขาทำงานไม่สำเร็จ หวางซินหยวนโกรธมากและตวาดพวกเขาเสียงดังลั่นโทรศัพท์
หวางซินหยวนไม่เชื่อว่ากู้หนิงจะมีความสามารถแก้แค้นเธอได้ แต่เธอรู้สึกไม่สบายใจที่ถูกขู่ อารมณ์ดีๆถูกทำลายหมด!
เลิ่งเชาถิงสีหน้าไม่สู้ดี เขาไม่พอใจมาก ถึงแม้พวกมันจะทำอะไรกู้หนิงไม่ได้ แต่แค่คิดเขาก็รับไม่ได้แล้ว
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ อย่าอารมณ์เสียเพราะพวกมันเลย” กู้หนิงไม่อยากเห็นเลิ่งเชาถิงไม่มีความสุข
“พวกมันวางแผนทำร้ายคุณ!” เลิ่งเชาถิงเอ่ยเสียงเย็น เขาผ่อนคลายเล็กน้อยหลังจากู้หนิงพูดปลอบเขา แต่เขายังอารมณ์เสียอยู่
“ตอนนี้ฉันปลอดภัยแล้ว พวกมันทำร้ายฉันไม่ได้หรอกค่ะ” กู้หนิงพยายามพูดปลอบเขา
“ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง” เรื่องเชาถิงกล่าว ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้าทำร้ายคนที่เขารักก็ยอมต้องรับผลที่ตามมาให้ได้ เขามีแผนที่จะสั่งสอนตระกูลหวางอยู่แล้ว
“ได้ค่ะ” กู้หนิงไม่ปฏิเสธ
ในที่สุดเลิ่งเชาถิงก็กลับมาอารมณ์ดีดังเดิมเพราะกู้หนิงเต็มใจให้เขาช่วยเธอ
จากนั้นทั้งคู่ก็เดินเล่นบนถนนในเมืองโบราณ จับมือกันเหมือนคู่รักทั่วไป
ตอนนี้เป็นฤดูหนาว เมืองโบราณจึงไม่ค่อยมีกิจกรรมหมือนในฤดูร้อน แต่ก็ยังคงมีผู้คนพลุกพล่าน
คู่รักหน้าตาดีอย่างเลิ่งเชาถิงและกู้หนิงได้รับความสนใจจากผู้คนรอบข้างในไม่ช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสาวๆเห็นเลิ่งเชาถิง พวกเธอก็ทำตาโต ตะลึงกับรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาเป็นพิเศษของเขา
“พระเจ้า! เขาหล่อมาก!”
“เป็นดาราหรือไอดอลรึเปล่า?”
“คิดว่าไม่ใช่นะ ดาราไม่มาเดินกับแฟนข้างนอกแบบนี้หรอก”
“เขาหน้าตาดีมากเลย น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่นักแสดง!”
“ใช่ ถ้าเขาเป็นนักแสดงนะ ฉันว่าเขาน่าจะมีแฟนคลับตรึมเลย”
“จริงๆ”
“ฉันอยากมีแฟนหล่อๆแบบนี้มั่งจัง”
“ฉันว่าเธอสวยให้ได้ครึ่งหนึ่งของแฟนเขาก่อนเถอะย่ะ”
เมื่อได้ยินการสนทนาของสาวๆ กู้หนิงไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เธอภูมิใจสุดๆ
เลิ่งเชาถิงไม่ชอบการเป็นจุดสนใจของคน แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
แม้ว่าของเก่าในตอนกลางคืนจะมีจำนวนน้อยกว่าในช่วงกลางวัน แต่ก็ยังมีจำนวนมาก
กู้หนิงไม่พลาดแวะดูของเก่าตามร้านแผงลอยข้างทาง เธอสนุกกับการแยกแยะของแท้ของปลอมด้วยตัวเอง
ของเก่าเป็นที่นิยมมานานหลายปี ดังนั้นจึงมีของเก่าที่เป็นของแท้เหลืออยู่ตามท้องถนนน้อยมาก ของแท้มักอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ดังนั้นกู้หนิงจึงไม่พบของเก่าจริงๆแม้แต่ชิ้นเดียวหลังจากที่เธอเดินไปได้ครึ่งถนน
เมื่อเดินไปจนเกือบสุดถนน กู้หนิงก็สังเกตเห็นของเก่าที่มีไอพลังวางอยู่บนขาตั้ง มันเป็นชามเคลือบสีน้ำเงินและสีขาวสูง 8.5 ซม. มูลค่าประมาณสองล้านหยวน แต่กู้หนิงจ่ายเงินเพียงสามพันหยวนเท่านั้น
สี่ทุ่มพวกเขาจึงพากันกลับ ระหว่างทางกลับ กู้หนิงรู้สึกตื่นเต้นและประหม่าเมื่อเธอนึกถึงความจริงที่ว่าเธอจะอยู่ห้องเดียวกับเลิ่งเชาถิงในคืนนี้
ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงโรงแรม
เมื่อเดินเข้ามาในห้องพัก เลิ่งเชาถิงก็ล็อคประตูห้องและคว้ากู้หนิงมากอด กระหน่ำจูบเธออย่างบ้าคลั่งราวกับว่าเขาอดทนมานาน กู้หนิงตกใจแต่ไม่ได้ผลักเขาออก เธอโอบเอวเขาและจูบเขากลับ
เขาไม่ได้เจอเธอมาหลายวันแล้ว และตอนนี้พวกเขาก็อยู่กันตามลำพัง เขาแทบรอไม่ไหวที่จะได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น ยิ่งกู้หนิงจูบเขากลับอย่างเร่าร้อนเท่าใด เขาก็ยิ่งต้องการเธอมากขึ้นเท่านั้น
ทั้งคู่ค่อยๆเคลื่อนตัวไปที่โซฟา เขากดตัวเธอลงนอนที่โซฟาและระดมจูบเธอไม่หยุด
ทั้งคู่หายใจหอบ เลิ่งเชาถิงแทบคลั่งตาย เขาเกือบควบคุมตัวเองไม่ได้ ท่ามกลางบรรยากาศวาบหวาม ทันใดนั้นเสียงแผดร้องของโทรศัพท์มือถือก็ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
เลิ่งเชาถิงสะดุ้ง ทันใดนั้นความโกรธก็พุ่งขึ้นมา ไอ้บ้าตัวไหนโทรมาเวลานี้!
กู้หนิงอดหัวเราะไม่ได้ “รับโทรศัพท์ก่อนเถอะค่ะ”
คนที่มีเบอร์ส่วนตัวของเลิ่งเชาถิงมีไม่กี่คน คนที่โทรมาต้องมีเรื่องสำคัญ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู คนที่โทรมาคือซู่จินเฉิน
“มีอะไร?” น้ำเสียงของเลิ่งเชาถิงไม่ปิดบังความโกรธ ซึ่งทำให้ซู่จินเฉินคอหดด้วยความกลัว
เกิดอะไรขึ้นกับบอสของเขา? ทำไมต้องโมโหด้วยเล่า?
ซู่จินเฉินเสียใจในทันทีที่โทรหาเลิ่งเชาถิง เพราะจริงๆแล้วเขาไม่มีเรื่องด่วนอะไร ไหนๆก็โทรไปแล้ว ถ้าเขาไม่พูดอะไรเลยมันคงจะแย่กว่านี้ เขาจึงพูดตะกุกตะกักว่า “เอ่อ...ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน?”
“แค่บอกมาว่ามีเรื่องอะไร” เลิ่งเชาถิงไม่อยากตอบคำถามไร้สาระ
“ไม่มี ไม่อะไร ฉันแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของผู้บังคับบัญชาของฉันเท่านั้นเอง” ซู่จินเฉินตอบ
“มีอะไรอีกไหม?” เลิ่งเชาถิงถาม เขาเริ่มหมดความอดทน
“ไม่ ไม่มี...” เสียงของซู่จินเฉินสั่น
“ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญ ก็อย่าโทรหาฉันอีก” เลิ่งเชาถิงเอ่ยเสียงเย็นก่อนกดวางสาย เขาถือว่าเป็นคนอดทนคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมและเขากำลังทรมานจากความต้องการของตัวเอง
ซู่จินเฉินอึ้ง วันนี้ปฏิกิริยาบอสของเขาแปลกมาก!