ตอนที่ 261: ทำไมถึงซื้อหยกของเธอ?
มีรูปภาพแนบให้ดู ถึงแม้จะเป็นรูปกู้หนิงแต่ก็ยังดูไม่ออกว่าใช่หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าพวกเขารึเปล่า
ครั้งที่แล้วเธอทำเงินไปถึง 345 ล้านหยวนด้วยหยกสี่ชิ้น และครั้งนี้เธอมีหยกอยู่ในมือแล้วหกชิ้นซึ่งนั่นหมายความว่าเธอจะทำเงินได้มากกว่าครั้งที่แล้ว
แม้ว่าหยกที่เธอตัดออกมาได้ส่วนใหญ่จะเป็นหยกระดับกลางค่อนสูงและราคาของมันก็ไม่ได้สูงมากมาย แต่ก็ถือว่ามากแล้วในสายตาของคนทั่วไป และอีกอย่างคือเธอยังตัดหินไม่เสร็จ
คนจำนวนมากรีโพสข่าวนี้และช่วยเพิ่มจำนวนคนอ่านข่าว คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงวิ่งไปที่ถนนแห่งการพนันหินเพื่อดูด้วยตาของพวกเขาเอง
กู้หนิงตัดหยกระดับสูงออกจากหินก้อนที่แปด เป็นหยกแก้ว หยกชิ้นที่เก้ายังเป็นหยกระดับสูง เป็นหยกม่วง
หวางหงหมิงตัวสั่นเทิ้มเกือบเป็นบ้าเพราะความโกรธและผิดหวัง
ทำไม? ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงตัดหยกออกมาได้มากขนาดนี้? ทำไม?
ส่วนหวางซินหยวนนั้นตัวแข็งทื่อไปแล้ว เธอภาวนาให้ตัวเองฝันไป
กู้หนิงหยิบหินก้อนที่สิบออกมา ข้างในนั้นมีหยกระดับท็อปอยู่
เมื่อคนงานประกาศว่ามีหยกอยู่ข้างใน ผู้คนก็ไม่ประหลาดใจแล้วเพราะพวกเขาเริ่มชินแล้ว แต่เมื่อพวกเขารู้ว่าเป็นหยกชนิดใด เสียงเซ็งแซ่ก็ดังกระหึ่มขึ้นเพราะมันเป็นหยกฮกลกซิ่ว!
คนงานตัดหินทำงานมาไม่ต่ำกว่าเจ็ดปีแต่ไม่เคยตัดหินที่มีหยกระดับท็อปมาก่อน ซึ่งนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงตื่นเต้นมากขนาดนี้
ถ้าเจ้านายของเขาจะไล่เขาออกด้วยสาเหตุนี้ เขาก็จะไม่พูดอะไรสักคำ
“อะไรนะ? นี่ฉันได้ยินถูกไหม? หยกฮกลกซิ่ว!?”
หวางหงหมิงเกือบเป็นลมไปแล้ว
ถึงแม้ตระกูลหวางจะไม่ได้ขาดหยก แต่หยกระดับสูงและระดับท็อปนั้นหายากมากโดยเฉพาะหยกระดับท็อป พวกเขาต้องตัดหยกกว่าพันก้อนถึงจะพบหยกระดับท็อปสักชิ้น แต่กู้หนิงกลับตัดหยกระดับสูงและระดับท็อปได้ง่ายๆจากร้านของเขาเอง
หลังจากที่หยกชิ้นที่สิบถูกตัดออกมา กู้หนิงก็หันไปหาหวางหงหมิง “นายท่านหวาง ฉันคิดว่าผลการแพ้ชนะออกมาแล้วนะคะ ไม่ทราบว่าท่านจะโอนเงินหรือว่าจ่ายเป็นเช็คดีคะ?”
“คุณปู่....” หวางซินหยวนต้องการห้ามปู่ของเธอ แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบประโยค หวางหงหมิงก็มองเธอด้วยสายตาเกรี้ยวกราด เธอหุบปากลงทันที
แน่นอนว่าหวางหงหมิงไม่ยินดี แต่ตอนนี้สายไปแล้วที่จะปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงต้องโอนเงินให้กู้หนิง
ผู้คนเริ่มส่งเสียงดังขึ้นอีกครั้ง
“คุณถังสุดยอดมาก! คนอะไรทั้งโชคดีและเก่งไปพร้อมๆกัน”
“เธอมีพลังวิเศษรึเปล่า? รู้ว่ามีหยกอยู่ข้างในไรงี้?”
“ฉันคิดว่าเธอมีตาทิพย์ที่เห็นว่ามีหยกอยู่ข้างใน”
ทุกคนเริ่มคาดเดากันไปเรื่อยๆ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
ตอนนี้หวางหงหมิงกำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่ใช่เพราะเขาเสียเงินไป 20 ล้าน แต่เป็นเพราะกู้หนิงเอาหยกล้ำค่ามากมายจากร้านของเขา หยกก้อนนั้นมีมูลค่ามากกว่ายี่สิบล้านหยวน
เธอมีตาทิพย์จริงๆเหรอ? หวางหงหมิงคิดกับตัวเอง เป็นไปไม่ได้หรอกเรื่องพรรค์นี้มีที่ไหนกัน
คนสุดท้ายที่หวางหงหมิงต้องการเห็นบนโลกนี้คือกู้หนิง แต่เขายังไม่ได้จากไปในทันทีเพราะเขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้สามารถตัดหยกได้กี่ชิ้นและเขาก็สนใจหยกฮกลกซิ่วด้วย
แม้หวางหงหมิงจะเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในเมืองเถิงและคนเมืองเถิงไม่กล้าแย่งหยกฮกลกซิ่วกับเขา แต่ไม่ใช่กับนักธุรกิจค้าอัญมณี กฎก็คือใครเสนอราคามากที่สุดคนนั้นก็ได้ไป
หยกฮกลกซิ่วชิ้นนี้มีขนาดไม่เล็กเลย ดังนั้นราคาเริ่มต้นการประมูลย่อมสูงไปด้วย
“ห้าสิบล้านหยวน!”
“หกสิบล้านหยวน!”
“สามร้อยยี่สิบล้านหยวน!”
หวางหงหมิงประมูลหยกฮกลกซิ่วไปในราคาสามร้อยยี่สิบล้านหยวน เขาทำการโอนเงินอีกครั้ง
หวางหงหมิงมีความรู้สึกที่หลากหลายยากจะอธิบายเพราะเขาต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อหยกจากร้านของตัวเอง ถ้าหากเขาเป็นคนตัดหยกชิ้นนี้ออกมาเอง เขาไม่ต้องจ่ายเงินสักแดงเดียว น่าเสียดายที่เขามีโชคไม่พอ
“คุณปู่ ทำไมต้องซื้อหยกจากเธอด้วย?” หวางซินหยวนที่อายุเกือบยี่สิบปีแต่ถูกเลี้ยงตามใจ เธอเอาอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลและขาดการตัดสินใจที่ดีในมุมมองของนักธุรกิจ
“หรง พาเธอออกไปเดี๋ยวนี้” หวางหงหมิงอารมณ์ไม่ดีแต่หลานสาวเอาแต่บ่นอยู่ข้างหูซึ่งทำให้เขารำคาญหงุดหงิดใจ ดังนั้นเขาจึงสั่งให้คนขับรถพาเธอออกไปก่อน
“คุณปู่....”
“กลับบ้านไป!” หวางหงหมิงหมดความอดทน หวางซินหยวนจึงดื้อดึงอยู่ต่อไม่ได้อีก ในขณะที่เธอกำลังเดินออกไป เธอจ้องกู้หนิงอย่างกินเลือดกินเนื้อ อยากจะบีบคอกู้หนิงให้ตายเดี๋ยวนี้
กู้หนิงไม่ได้สนใจ เพราะหวางซินหยวนสู้เธอไม่ได้อยู่แล้ว
มีคนโพสต์ข่าวบนอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง หัวข้อข่าวล่าสุดคือ ‘ราชินีหยกตัดหยก10 ชิ้นจนถึงตอนนี้ หนึ่งในนั้นคือหยกฮกลกซิ่วซึ่งขายในราคา 320 ล้านหยวน!’
มีภาพของหยกแนบไปด้วย
ข่าวดังกล่าวทำให้เกิดการแตกตื่น แม้แต่สมาชิกจากสมาคมหยกก็พากันเข้ามาในร้านโดยไม่รอช้า
หยกประเภทแก้วและสีม่วงนั้นหายากแต่ไม่ขนาดแรร์ไอเท็ม ในขณะที่หยกฮกลกซิ่วเป็นของหายากอย่างแท้จริง พวกเขาได้ยินว่ามีคนตัดหยกฮกลกซิ่วได้หนึ่งชิ้นในรอบสองสามปี
ตอนที่ 262: หมดอาลัยตายอยาก
หลายคนรู้สึกอิจฉาตาร้อนที่กู้หนิงทำเงินได้มากมาย
ขณะนี้ราชินีหยกเป็นที่รู้จักกันในโลกอินเทอร์เน็ต
“คุณถัง คุณจะตัดหินส่วนที่เหลืออีกไหมครับ?” มีคนถามขึ้น
ตัวแทนบริษัทเครื่องประดับมีอยู่เจ็ดบริษัท ได้หยกไปแค่สองสามชิ้นซึ่งมันแทบไม่พอ
แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกอิจฉาในความโชคดีที่น่าตกตะลึงและความสามารถในการตัดหยกของเธอ แต่พวกเขาก็ยินดีรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเธอเพื่อความร่วมมือในอนาคต
“ค่ะ!” กู้หนิงตอบ เธอตั้งใจซ้ำเติมหวางหงหมิง จะจบได้ยังไงเธอเพิ่งเริ่มเอง
หินที่กำลังจะนำมาตัดเป็นหินจากห้อง A
พวกมันมีชั้นหินสีเขียวบาๆปรากฏให้เห็นแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงเชื่อว่ามีหยกระดับกลางอยู่ข้างใน แต่เมื่อตัดออกมาสีก็เริ่มเปลี่ยน
“สีม่วง! เป็นสีม่วงได้ยังไง?” คนงานตะโกนขึ้นด้วยความตกใจและตื่นเต้น
“อะไรนะ? สีม่วง ไม่ใช่สีเขียวหรอ?”
“ไม่ ไม่ เป็นเป็นหยกระดับสูง หยกม่วง!”
“อะไรนะ? ระดับสูง สีม่วง?”
ว้าว!
ตอนนี้ไม่มีใครเสียใจไปกว่าหวางหงหมิงแล้ว เขาหมดอาลัยตายหยาก ผู้หญิงแปลกหน้าซื้อหยกล้ำค่าทั้งหมดและเขาก็สูญเสียโชคภายในหนึ่งวัน เขาคิดว่ามีเพียงหยกระดับกลางในหินที่มีหน้าต่างดังนั้นเขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจกับมันมากนัก
อย่างไรก็ตามมีบางอย่างที่น่าตื่นเต้นกว่ากำลังจะเกิดขึ้น
คนงานอีกคนตัดผิวชั้นนอกออกและเริ่มทำความสะอาดหินก้อนที่สองจากห้อง A ไม่นานหยกที่มีสีเขียวสดใสก็ปรากฏเข้ามาในสายตาของทุกคน มันไร้ที่ติและราบรื่น เป็นหยกประเภทแก้วหลุมเก่า
หวางหงหมิงตัวแข็งทื่อ ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ
อะไรกัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?
ตอนนี้กู้หนิงกลายเป็นเทพธิดาในสายตาของทุกคนที่อยู่ที่นี่แล้ว เพราะการคาดคะเนที่แม่นยำ 100% ของเธอ ไม่มีใครสามารถทำแบบนั้นได้มาก่อน
หวางหงหมิงก็ยังไม่อาจยอมรับความจริงได้ ความโกรธผสมความผิดหวังและความขายหน้ากำลังลุกไหม้เป็นไฟในใจของเขา
“ฉันไม่คิดว่าเป็นหยกม่วงเฉยๆ มันต้องเป็นหยกม่วงดอกไม้เขียว” มีคนพูดขึ้นเมื่อหยกที่สันนิษฐานว่าเป็นหยกม่วงถูกตัดออกไปมากกว่าครึ่ง
“อะไรนะ? หยกม่วงดอกไม้เขียว?”
หยกม่วงดอกไม้สีเขียวเป็นหยกระดับท็อป แม้ว่าจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับหยกจักรพรรดิได้ ได้ แต่ก็มีค่ามากกว่าหยกแก้วหลุมเก่า
“ฉันได้ยินมาว่ามีคนตัดหยกม่วงดอกไม้เขียวเมื่อห้าปีก่อน น้ำหนัก 12 ปอนด์และขายในราคาพันล้านหยวน ฉันคิดว่าอันนี้น่าจะหนักประมาณ 8 ปอนด์ มูลค่าไม่น่าต่ำกว่าห้าร้อยล้านหยวน” ชายคนหนึ่งกล่าวเสริม
ทุกคนต่างตะลึงกับราคาของมัน แต่ในขณะเดียวกันบางคนก็โมโหที่ชายคนนี้เปิดเผยราคาที่แท้จริงของมัน ในกรณีนี้พวกเขาไม่สามารถเสนอราคาที่ต่ำกว่าได้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่มีใครตะลึงมากไปกว่าหวางหงหมิง
เขาควบคุมตัวเองให้สงบมานานแล้วและทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าเลือดของเขาพุ่งขึ้นในลำคอ เขาส่งสายตาให้เลขาของเขาทันทีและเดินจากไปโดยไม่รอช้า
กู้หนิงสังเกตทุกการกระทำของหวางหงหมิง ตอนนี้เขาคลั่งไปแล้วและเกือบควบคุมตัวเองไม่ได้
นาทีที่หวางหงหมิงเดินออกจากร้านไป เขาก็กระอักเลือดและล้มลงไป โชคดีที่เลขาของเขามาช่วยพยุงได้ทัน คนขับรถพาเขาไปโรงพยาบาลทันที
กู้หนิงใช้ตาทิพย์ส่องดูด้านนอก เธอไม่มีความเห็นใจต่อหวางหงหมิงเลยสักนิดเพราะเขาสมควรได้รับแล้ว เธอไม่ใช่คนที่ตั้งใจอยากทำร้ายเขาตั้งแต่แรก
ถ้าหวางหงหมิงปล่อยเรื่องนี้ไม่มาเอาเรื่องกับเธอ กู้หนิงก็จะปล่อยเขาไป แต่ถ้าเขาคิดแก้แค้นแน่นอนว่าเธอไม่อยู่เฉยแน่ เขาจะโดนยิ่งกว่านี้
มีคนที่อยู่บนถนนเห็นหวางหงหมิงกระอักเลือดออกจากปาก พวกเขาเริ่มกระซิบกระซาบกัน
“นี่ ฉันเห็นนายท่านหวางกระอักเลือดด้วยล่ะ”
“อะไรนะ? นายท่านหวางกระอักเลือด?”
“ก็พอเข้าใจได้อยู่ วันนี้เขาเสียหยกมีค่าไปมากมายไปในคราวเดียว!”
“ถ้าฉันเป็นเขาก็คงรับไม่ได้เหมือนกัน”
“น่าตกใจจริงๆ ถังอันหนิงคนนี้เป็นใครกัน? เธอน่าทึ่งมาก”
“ใช่ ฉันอิจฉาเธอชะมัด”
มีคนอ่านข่าวมากขึ้นเรื่อยๆ
พวกเขารู้เพียงว่ามีคนตัดหยกออกไปหลายชิ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่รู้ประเภทของหยกเหล่านั้น การที่จะมีโอกาสได้เห็นหยกม่วงดอกไม้เขียวกับหยกแก้วหลุมเก่านั้นยากมาก
ต่างคนต่างเชื่อว่านี่เป็นความฝันเพราะมันดีมากจนไม่ใช่เรื่องจริง!
นอกเหนือจากความตกใจ ความชื่นชม และความอิจฉาแล้ว กู้หนิงยังสัมผัสได้ถึงความเป็นปรปักษ์จากผู้คนรอบตัวเธอ
เธอทำเงินได้มหาศาลภายในระยะเวลาอันสั้นซึ่งค่อนข้างดึงดูดความใจได้มากพอสมควร
มีขโมยและโจรจำนวนมากอยู่รอบๆถนนนี้ เพราะถนนแห่งการพนันหินเป็นที่รวมของคนรวย
อย่างไรก็ตามกู้หนิงไม่สนใจ เธอได้เตรียมการมาอย่างดีเนื่องจากเธอเลือกที่จะตัดหยกในที่สาธารณะ หากโจรเหล่านั้นกล้าโจมตีเธอ พวกเขาก็ควรเตรียมใจที่จะรับผลดังกล่าวด้วย
ตัวแทนของบริษัทขายเครื่องประดับจำนวนมากกำลังยุ่งอยู่กับการสนทนากับกู้หนิงและแลกเปลี่ยนนามบัตรกับเธอ
เธอมีนามบัตรอยู่ในมือแล้ว 16 ใบรวมถึงบริษัทเครื่องประดับในประเทศ 13 แห่งซึ่งครอบคลุม 2 ใน 3 ของแบรนด์เครื่องประดับยอดนิยมในประเทศนี้ และอีกสามแห่งเป็นบริษัทเครื่องประดับระดับนานาชาติ
จ้าวหยูเฟิงก็มาที่ร้านเหมือนคนอื่นๆ แต่เขาจำกู้หนิงไม่ได้ และกู้หนิงก็ปฏิบัติกับเขาเฉกเช่นเดียวกับคนอื่นๆเพื่อไม่เป็นการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอ