ตอนที่ 367 เกาอี้ชนะอีกครั้ง
นักมวยหมายเลข 1 มีชื่อว่าต้าเผิง อายุ 35 ปี สูง มีกล้าม แข็งแรงมาก และยังเก่งกว่าเถี่ยจุนไม่อย่างนั้นคงไม่ท้าสู้เกาอี้หลังจากเถี่ยจุนแพ้ แม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจ 100% ว่าจะเอาชนะเกาอี้ได้หรือไม่ เพราะเกาอี้เป็นนักสู้ที่เก่งกาจมาก การได้สู้กับนักสู้ที่ฝีมีเก่งกาจนั้นน่าตื่นเต้นจะตายไป ต้าเผิงไม่อยากพลาดโอกาสยอดเยี่ยมนี้เพียงเพราะเถี่ยจุนแพ้ ต่อให้เขาแพ้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
“ไม่มีปัญหา แต่ฉันขอกำหนดอัตราเดิมพันเอง” เกาอี้ยอมรับคำท้า เขายังรู้สึกสนุกไม่พอ!
“ได้” ต้าเผิงตอบ
ก่อนการแข่งขันจะเริ่มรอบใหม่ ผู้ชมก็เริ่มวางเดิมพัน
ในรอบที่แล้วเกาอี้ได้รับเงิน 12.652 ล้านหยวนจากผู้ที่เดิมพัน และเงินของเถี่ยจุนอีกหนึ่งแสน เขาทำเงินได้ทั้งหมด 12.752 ล้านหยวน เงินทั้งหมดถูกโอนเข้าบัตรธนาคารที่กู้หนิงมอบให้เขา แทนที่จะเป็นบัตรธนาคารของเขาเอง เพราะมันสะดวกกว่า
ก่อนที่รอบสองจะเริ่ม ทุกคนก็ถกเถียงกันว่าใครจะเป็นผู้ชนะ
แม้ว่าเกาอี้จะชนะเถี่ยจุน แต่ลูกค้าของตี้ฮ่าวคลับต่างรู้ว่าต้าเผิงเก่งกว่าเถี่ยจุน ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่หมดศรัทธาต่อต้าเผิงหลังจากความพ่ายแพ้ของเถี่ยจุน
“นายคิดว่าใครจะชนะ?”
“บอกยาก เกาอี้เก่งมาก แต่ต้าเผิงก็ไม่ได้อ่อนแอและยังเก่งกว่าเถี่ยจุน”
“งั้นฉันควรพนันใครดีล่ะ?”
“ต้าเผิงกล้าท้าทายเกาอี้ ดังนั้นเขาต้องมีความมั่นใจที่จะชนะอยู่หลายส่วน ฉันจะพนันข้างต้าเผิง”
“ฉันจะพนันข้างเกาอี้”
“ฉันจะพนันข้างต้าเผิง”
“ผู้ชายคนนั้นต้องเก่งพอสมควรถึงได้ท้าทายเกาอี้ บอสคิดว่าไง?” ฮ่าวหรันถามกู้หนิง ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อใจเกาอี้ แต่เขาเชื่อใจกู้หนิงมากกว่า
“เกาอี้จะเป็นฝ่ายชนะ” กู้หนิงยังยืนยันคำตอบเดิม
กู้หนิงเชื่อใจเกาอี้และทุกคนเชื่อกู้หนิง ในเมื่อกู้หนิงบอกว่าเกาอี้จะชนะ พวกเขาจึงลงพนันข้างเกาอี้รวมทั้งหยูหมิงซีด้วย
การแข่งรอบที่สองเริ่มต้นขึ้น จำนวนคนพนันข้างเกาอี้พอๆกับคนที่พนันข้างต้าเผิง
สิ้นเสียงการประกาศว่าการแข่งขันเริ่มต้น ต้าเผิงก็กระแทกกำปั้นไปที่หน้าอกของเกาอี้ การโจมตีของเขารวดเร็วและทรงพลัง เกาอี้หลบอย่างหวุดหวิด แต่ต้าเผิงก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วเช่นกัน เขาหันไปทางที่เกาอี้ที่เบี่ยงหลบ มันเป็นช่วงเวลาที่ตึงเครียด คราวนี้เกาอี้ไม่ได้หลบอีกต่อไป แต่สวนหมัดของต้าเผิงโดยตรง เมื่อหมัดของพวกเขาปะทะกันกลางอากาศ ทั้งคู่ก็ถูกแรงกระแทกจนต้องถอยหลังไปสองสามก้าว
ไม่กี่นาทีผ่านไป นักสู้ทั้งสองก็เพิ่มความแรง ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ทั้งเตะทั้งต่อย เริ่มต้นดูเหมือนจะสูสีกัน แต่พอเวลาผ่าไปกลายเป็นเกาอี้ค่อยๆควบคุมทิศทางของต้าเผิงโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว ทันใดนั้นต้าเผิงต้องยอมรับว่าเกาอี้เก่งกว่าตัวเองมาก แต่เขาไม่อยากยอมรับ เขารู้ว่าผลสุดท้ายคงไม่พ้นความพ่ายแพ้ อย่างไรก็ตามการได้สู้กับเกาอี้ เขาสนุกมาก
รอบที่สองกินเวลานานกว่ารอบแรกเพียงหนึ่งนาที และต้าเผิงก็พ่ายแพ้ในที่สุด
เมื่อเกาอี้ต่อยต้าเผิงจนตกจากเวที บรรดาผู้ที่เดิมพันข้างเกาอี้ต่างส่งเสียงโห่ร้องและปรบมือ บางคนเสียใจที่ไม่ได้เดิมพันข้างเกาอี้
หยูหมิงซีที่มีงบประมาณจำกัด ตอนนี้มีเงินสองแสนหยวนในกระเป๋า เธอไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อน และมือของเธอก็สั่นเมื่อได้รับบัตรเครดิตธนาคารคืน
หลังจากรอบที่สอง เกาอี้ก็ได้รับเงินอีก 4.377 ล้านหยวน จนถึงตอนนี้เกาอี้ทำเงินได้เกือบยี่สิบล้านหยวน
นักมวยหมายเลข 3 อ่อนแอกว่านักมวยหมายเลข 1 ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าท้าทายเกาอี้ เพราะเขารู้ว่าเขาไม่มีทางชนะ
ไม่มีใครท้าสู้เกาอี้ ดังนั้นเขาจึงกลับมายังห้องที่พวกกู้หนิงอยู่
“เกาอี้ คุณเก่งมาก!”
“ใช่ๆ สอนพวกเราบ้างสิ?”
เกาอี้ไม่ได้ตอบคำถามของพวกเขา ไม่ใช่เพราะเขาไม่ต้องการ แต่เพราะมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขา
“เอาล่ะ ฉันจะให้เขาสอนพวกนายถ้าเขาว่าง” กู้หนิงพูด ในเมื่อกู้หนิงเห็นด้วย เกาอี้ก็ไม่ปฏิเสธ
พวกกู้หนิงไม่ได้อยู่ที่ตี้ฮ่าวนาน พวกเธอกลับออกมาก่อนเที่ยงคืน เพราะว่าพวกเธอดื่มแอลกอฮอล์ คนขับรถของตี้ฮ่าวจึงไปส่งพวกเธอกลับบ้าน
หยูหมิงซีและอ้ายยี่กลับกับฉู่เพ่ยหาน ส่วนเด็กหนุ่มคนอื่นๆกลับกับฮ่าวหรัน ในขณะที่กู้หนิง เกาอี้และเฉียวหยา นั่งแท็กซี่กลับเฟิ่งหัวแมนชั่น
“ฉันซื้อห้องชุดให้พวกเธออยู่ พวกเธอสามารถพักอยู่ที่นั่นได้” กู้หนิงเอ่ย
“ครับ/ค่ะ” เกาอี้และเฉียวหยาตอบ
เมื่อกู้หนิงมาถึงเฟิ่งหัวแมนชั่น กู้หนิงไม่ได้พาทั้งเข้าไปข้างในด้วย เธอพาพวกเขาไปยังโรงแรมที่อยู่ใกล้ๆ “ห้องตกแต่งเสร็จแล้ว แต่ไม่มีข้าวของเครื่องใช้และยังไม่ได้ทำความสะอาด คืนนี้พวกเธอพักอยู่ที่โรงแรมนี้ไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยย้ายเข้า”
“ครับ/ค่ะ” เกาอี้และเฉียวหยาตอบ
กู้หนิงยื่นกุญแจให้พวกเขา “นี่เป็นกุญแจอพาร์ทเม้นท์ใหม่ของพวกเธอ ห้องหมายเลข 1201 โซน F ฉันอยู่ห้องหมายเลข 901 โซน G พวกเราพักอยู่ตึกฝั่งตรงกันข้าม อีกหกเดือนพวกเราจะย้ายไปอยู่เมืองหลวง พรุ่งนี้ไปซื้อรถ อยากได้รุ่นไหนก็ตัดสินใจเอาเองแล้วกัน สำหรับวันนี้มีแค่นี้ ถ้ามีอะไรฉันจะโทรเรียกเอง
“ได้ครับ/ค่ะ” เกาอี้และเฉียวหยาตอบพร้อมกัน
หลังจากนั้นกู้หนิงก็กลับไปที่บ้านของเธอ เวลานี้ดึกมากแล้ว และกู้ม่านก็หลับไปแล้ว กู้หนิงพยายามเดินให้เบาที่สุด เธอเข้าไปอาบน้ำก่อนเข้านอน เธอนอนไม่หลับ คิดถึงเลิ่งเชาถิงแต่ติดต่อเขาไม่ได้
วันต่อมา กาเม่ยบิวตี้ซาลอนก็จัดงานประจำปี
กู้ชิงตื่นเจ็ดโมงเพื่อมาเตรียมอาหารเช้าให้ครอบครัว
เมื่อเห็นกู้หนิง เจียงซินหยูก็ดีใจ เธอไม่เห็นกู้หนิงมาสักพักใหญ่แล้ว จึงเอาแต่ชวนกู้หนิงคุยไม่หยุด
ตอนที่ 368 เรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่ในเมือง G
ระหว่างทานข้าว กู้หนิงก็ถามเจียงซู่ว่า “ลุงคะ ช่วงนี้กู้ฉินเซียงได้สร้างปัญหาอะไรให้ลุงหรือเปล่าคะ?”
“เขากำลังแข่งราคางานตกแต่งโรงแรม เมื่อวานเขาเชิญผู้บริหารฉวนไปทานข้าว ตอนนั้นลุงอยู่กับคุณฉวนด้วย ไม่รู้ว่าคนที่โทรมาหาคุณฉวนคือกู้ฉินเซียง ลุงก็เลยไปทานข้าวกับพวกเขาด้วย กู้ฉินเซียงก็เลยรู้ว่าลุงเป็นเจ้าของร้านวัสดุก่อสร้างซูรี เขากลัวว่าลุงจะพูดไม่ดีเรื่องเขาให้คุณฉวนฟัง ทั้งๆที่กลัวนะแต่ก็ยังหวังให้ลุงช่วยพูดเพื่อเขาให้ได้งาน แต่ลุงปฏิเสธ” เจียงซู่เอ่ย
ถึงแม้ว่าเจียงซู่จะไม่ค่อยชอบกู้ฉินเซียง เขาก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ พูดไม่ดีให้คนอื่น แต่จะให้ช่วยกู้ฉินเซียง เขาก็ไม่ช่วยเช่นกัน
“ในเมื่อกู้ฉินเซียงรู้แล้วว่าลุงเป็นเจ้าของร้านซูรี หนูคิดว่ายายก็ต้องรู้แล้วเหมือนกัน ยายได้โทรมาไหมคะ?” กู้หนิงถาม
“ไม่ บางทีกู้ฉินเซียงคงห้ามไว้ เขาคงไม่อยากให้ลุงพูดไม่ดีเรื่องเขาต่อหน้าคุณฉวน” พวกเขารู้ดีว่าคนอย่างกู้ฉินเซียงมีนิสัยอย่างไร
“เฮ้อ ป้าล่ะกลัวว่าวันรวมญาติจะไม่สงบสุขเสียแล้วสิ” กู้ชิงถอนหายใจ แม้ว่ายายของกู้หนิงจะไม่ได้โทรมาต่อว่าพวกเธอ แต่วันรวมญาติก็ไม่แน่
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่ว่ายายจะพูดะไร ก็ไม่มีความหมายอะไร” กู้หนิงไม่ชอบนิสัยของหญิงชรา กระนั้นเธอก็ไม่อยากข้องแวะด้วย
หลังจากรับประทานข้าวเช้าเสร็จแล้ว กู้ชิงและกู้ม่านก็ไปที่ร้านของพวกเธอ วันนี้กู้หนิงยังมีเรื่องต้องจัดการ ดังนั้นเธอจึงไม่รีบ อยู่บ้านพูดคุยกับเจียงซินหยูสักพัก
ราวๆสิบโมง อ้ายกวงเหยาก็โทรมา “บอส ผมได้รับบัตรเชิญจากตระกูลเกาที่ร่ำรวยอันดับหนึ่งในเมือง F พวกเขาจะจัดงานเลี้ยงวันมะรืนนี้ และนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจะมาร่วมงานนี้ด้วย พวกเขาหวังว่าจะได้พบกับเจ้าของตัวจริงของเจิ้งหัวเรียลเอสเตท บอสคิดว่าไงครับ?” อ้ายกวงเหยาถาม
“ฉันยังไม่อยากเปิดเผยตัวตนตอนนี้ค่ะ คุณลุงไปในนามของเจิ้งหัวและบอกพวกเขาว่าเจ้าของตัวจริงตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่เมือง F” กู้หนิงเอ่ย
“ได้ครับ” อ้ายกวงเหยาตอบ
จากนั้นกู้หนิงก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของหยูหมิงซีให้เขาฟัง และบอกเขาให้เตรียมสัญญาไว้ด้วย เธอจะไปบ้านหยูหมิงซีพร้อมทนายทีหลัง
หลังจากวางสายจากกู้หนิง อ้ายกวงเหยาก็ขอให้เลขาเตรียมสัญญาและหาอพาร์ทเม้นท์ที่ดีที่สุดไว้ หลี่เซ่อเหวินโทรหากู้หนิง บอกว่าเขาพร้อมจะออกไปข้างนอกกับเธอแล้ว
กู้หนิงโทรหาหยูหมิงซีล่วงหน้าก่อนแล้ว ครอบครัวของเธอกำลังยุ่งอยู่กับร้านอาหารยามเช้า ดังนั้นกู้หนิงและหลี่เซ่อเหวินจึงไปพบพวกเธอตอนนี้
เมื่อพวกกู้หนิงมาถึง พ่อแม่ของหยูหมิงซีก็เซ็นสัญญาหลังจากอ่านสัญญาแล้ว แต่ถึงแม้จะเซ็นสัญญาแล้ว อพาร์ทเม้นท์ก็ยังไม่ใช่ของพวกเขาในทันที เพราะเจี๋ยฮั้วการ์เด้นยังไม่สามารถออกทะเบียนบ้านให้ได้ อย่างไรก็ตามสัญญามีผลทางกฎหมายแล้ว
เมื่อเสร็จธุระตรงนี้ กู้หนิงก็เดินทางไปที่ร้านกาเม่ยบิวตี้
ในตอนเช้ามีคนมากมายที่ร้าน และส่วนใหญ่เป็นลูกค้าวีไอพี หลายคนก็เพิ่งเข้าร่วมคลับวีไอพี ลูกค้าวีไอพีทุกคนได้รับของขวัญเล็กๆ ไม่แพงไม่ถูก
ลูกค้าวีไอพีบางท่านยังชนะรางวัล สร้างความสนุกสานให้แก่พวกเขา คนที่โชคดีที่ได้ชนะรางวัลได้รับจี้หยกไป แต่ละคนมีโอกาสจับฉลากแค่คนละครั้งเท่านั้น
กู้หนิงไม่ได้อยู่ที่ร้านนาน เธอออกไปตอนเที่ยง
หลังจากออกมาจากที่ร้านกาเม่ยบิวตี้ เกาอี้ก็โทรมา เขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาได้ซื้อรถแลนด์โรเวอร์สีดำ
เกาอี้และเฉียวหยายังไม่ได้ทานข้าว กู้หนิงจึงชวนพวกเขาไปทานเข้าด้วยกัน
ประมาณบ่าย 3 โมง เรื่องอื้อฉาวก็ถล่มเมือง G ราวกับพายุพัดกระหน่ำ รองนายกเทศมนตรีหลิวจื่อคุน หัวหน้ากรมการขนส่งเว่ยเฉิงกวน ประธานกลุ่มบริษัทหงหยุนฟางซางเจิ้ง พร้อมด้วยข้าราชการหลายคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหลิวจื่อคุนถูกตำรวจจับกุมในเวลาเดียวกัน หลักฐานความผิดทางอาญาของพวกเขาค่อยๆ เปิดเผย หลิวจื่อคุน รองนายกเทศมนตรีถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานทุจริต จำนวนเงินที่เขายอมรับว่าได้มาอย่างผิดกฎหมายเกินหนึ่งพันล้านหยวน และเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมหัวหน้ากรมการขนส่งคนก่อน
หัวหน้ากรมการขนส่ง เว่ยเฉิงกวน ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานติดสินบนและทุจริต สินบนส่วนใหญ่มาจากหงหยุนกรุ๊ป และเจ้าหน้าที่รัฐอีกหลายคนก็ถูกจับในข้อหาเดียวกัน
ฟางซางเจิ้ง ประธานกลุ่มหงหยุน ได้ก่ออาชญากรรมหลายประเภทในช่วงสามปีที่ผ่านมา โรงแรมและร้านอาหารภายใต้ชื่อหงหยุนกรุ๊ปก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาวมากมายนี้เช่นกัน
มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหลิวจื่อคุนและคนอื่นๆกลายเป็นใบ้เมื่อถูกจับกุม พวกเขาแทบไม่มีข้อโต้แย้งเมื่อถูกมัดแน่นด้วยหลักฐาน
พันธมิตรทางการเมืองของหลิวจื่อคุนได้พยายามใช้อำนาจของตัวเองพื่อยุติเรื่องอื้อฉาวนี้ แต่เรื่องดังกล่าวก็แพร่ระบาดไปทั่วโลกออนไลน์และทั่วประเทศภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ดังนั้นเพื่อไม่ให้ตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย หลิวจื่อคุนและพรรคพวกจึงถูกทอดทิ้งโดยพันธมิตรทางการเมืองของเขา
สิ่งที่หลิวจื่อคุนและพรรคพวกได้ทำลงไป สร้างความเกลียดชังแก่ผู้คนเป็นจำนวนมาก
กู้หนิงได้ทำการจองเข้าซื้อกิจการบางแห่งของหงหยุนกรุ๊ป อย่างไรก็ตามทรัพย์สินยังไม่ถูกยึด มันจะถูกนำขึ้นประมูลทันทีหลังจากที่ฟางซางเจิ้งถูกศาลตัดสินจำคุก แม้ว่าจะมีหลักฐานที่แน่ชัดในสิ่งที่พวกเขาได้ทำลงไป แต่ก็ยังต้องใช้เวลาในการดำเนินการทางกฎหมายให้เสร็จสิ้น
กู้หนิงยิ้มอ่อนเมื่อได้ยินข่าว หึ คนชั่วก็ต้องได้รับกรรมที่ตัวเองก่อนั้นถูกต้องที่สุดแล้ว!