ตอนที่ 115: ราชินีแห่งหยก
มีรูปแนบที่กระทู้ข่าว เป็นรูปของกู้หนิงที่โชว์ให้เห็นเสี้ยวด้านข้างของเธอ ดังนั้นมันจึงยากที่จะระบุหน้าเธอ
คนหลายคนเห็นข่าว รวมถึงฉินอี้ฟาน ลี่เจินเจินและพี่ชายของเธอ เพื่อนของกู้หนิงและญาติพี่น้อง แต่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นกู้หนิง
ภายในไม่กี่ชั่วโมง กระทู้ข่าวนั้นก็กลายมาเป็นกระทู้อันดับหนึ่งและมีคนคลิกเข้าไปดูมากที่สุดเป็นแสนๆคนพร้อมกับคนเม้นพันๆคอมเม้น
ถึงแม้กู้หนิงจะตกเป็นเป้าสายตาในถนนพนันหินเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ไม่มีใครโพสอะไรบนอินเทอร์เน็ต เรื่องราวของเธอเป็นข่าวอยู่ภายในถนนพนันหินเท่านั้น
ไม่อย่างนั้นตัวตนของกู้หนิงคงถูกเปิดเผยออกมาในที่สาธารณะไปแล้ว
ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ต่างแสดงความคิดเห็นในเชิงอิจฉา พวกเขาหวังว่าตัวเองจะมีโชคดีแบบนั้นบ้าง สามร้อยสี่สิบห้าล้านหยวนเป็นเงินจำนวนมาก! ด้วยเงินจำนวนมากขนาดนี้ พวกเขาไม่ต้องทำงานไปทั้งชีวิตแล้ว
ในขณะนั้นทุกคนพากันทายว่าหญิงสาวเป็นใคร บางคนบอกว่าหญิงสาวคนนี้ต้องมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยที่ทำธุรกิจขายเครื่องประดับมาหลายรุ่น หรือไม่เธอก็ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ
บางคนก็เชื่อว่าเธอแค่โชคดี ในขณะที่ส่วนที่เหลือก็เดากันว่าเธออาจจะมีตาทิพย์
ถึงแม้ตาทิพย์จะเป็นเรื่องจริง แต่ก็ไม่มีใครเชื่อว่ามันจะมีอยู่จริง มันอยู่ไกลจากความรับรู้ของพวกเขา
สุดท้าย ทุกคนจึงเรียกผู้หญิงคนนี้ว่า ‘ราชินีหยก’
นักธุรกิจค้าพลอยทั้งหลายต่างก็ตามหาราชินีหยกคนนี้ พวกเขาต้องการติดต่อเธอ แต่ก็ไม่พบอะไรเพิ่มเติม
ทั้งกู้หนิงและโจวเจิ้งหงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในโลกอินเทอร์เน็ต ถึงต่อให้รู้พวกเขาก็ไม่สนใจอยู่ดี เพราะไม่มีใครจำได้ว่าผู้หญิงคนนั้นก็คือกู้หนิง
ในขณะนี้ พวกเขามาถึงโรงงาน
นี่คือพื้นที่โรงงาน ข้างในมีโรงงานมากมาย และประตูทางเข้าก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่โรงงานเท่านั้นถึงจะเข้าไปได้ ในขณะที่คนนอกต้องลงทะเบียนเข้าออกและทิ้งบัตรประชาชนไว้ที่ รปภ มีกล้องวงจรปิดอยู่ทั่วทุกพื้นที่ของโรงงาน ดังนั้นมันจึงมีความปลอดภัยสูงในระดับหนึ่ง
โจวเจิ้งหงได้รับบัตรผ่านของเขาแล้วในตอนที่เขามาเช่าโรงงานแปรรูป แต่เขามีเพียงบัตรผ่านสำหรับเขา นักออกแบบและช่างแกะสลักเท่านั้น แต่ต้องแสดงบัตรประชาชนและรูปถ่ายขนาดมาตรฐานหนึ่งนิ้วเพื่อรับบัตร
ดังนั้นกู้หนิงจึงใช้บัตรประชาชนของเธอลงทะเบียนในครั้งนี้ และยังกรอกเอกสารเพื่อขอบัตรผ่าน
กู้จะต้องจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ดังนั้นเธอจึงเตรียมเอกสารที่จำเป็นมาพร้อมและรูปถ่ายขนาดหนึ่งนิ้ว
เธอจะได้รับบัตรผ่านพรุ่งนี้
นักออกแบบและนักแกะสลักได้รับข้อมูลจากโจวเจิ้งหงก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงมาถึงโรงงานก่อนกู้หนิง
โจวเจิ้งหงไม่ได้ปิดบังความจริงว่ากู้หนิงคือเจ้าของบริษัทที่แท้จริง ในตอนแรกพวกเขาก็สับสนงุนงงและผิดหวัง ที่พบว่าความจริงแล้วหัวหน้าของพวกเขาคือเด็กสาววัยรุ่นอายุสิบแปดปี
อย่างไรก็ตาม โจวเจิ้งหงก็บอกว่าถึงแม้หัวหน้าของพวกเขาจะยังเด็ก แต่เธอนั้นฉลาดเป็นกรด และมีความสามารถที่โดดเด่น และยังต่อสู้ได้อีกด้วย
เรื่องที่เกิดขึ้นที่ร้านอาหารกลายมาเป็นหัวข้อข่าวดังอยู่สักพัก ทุกคนก็รู้เรื่องนี้ ถึงแม้จะไม่รู้รายละเอียดมากนัก
โจวเจิ้งหงบอกพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนที่กู้หนิงฉวยปืนจากมือคนร้าย และล้มเขาลงบนพื้น พวกเขาได้ฟังและพากันตกใจ ตอนนี้พวกเขาให้ความเคารพกู้หนิงโดยไม่มีข้อสงสัยใดใด
พวกเขาทำงานให้โจวเจิ้งหงมานานกว่าสิบปี พวกเขารู้จักโจวเจิ้งหงดี ดังนั้นพวกเขาจึงเชื่อในสิ่งที่โจวเจิ้งหงพูด
แต่โจวเจิ้งหงก็ได้พูดเตือนพวกเขาเหมือนกับที่กู้หนิงได้เคยเตือนเขาก่อนหน้านี้ พวกเขาเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้สัมผัสหยก พวกเขาต้องจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่องานที่ทำและบริษัท ถึงแม้โจวเจิ้งหงจะเชื่อใจพวกเขา แต่ก็ยังต้องการคำมั่นสัญญา
หลังจากที่ได้ยินความสามารถที่โดดเด่นของกู้หนิง ก็ไม่มีใครกล้าหือกับเธอ อีกอย่างพวกเขาเป็นคนซื่อตรงซึ่งได้รับความไว้วางใจจากโจวเจิ้งหง
เมื่อกู้หนิงและโจวเจิ้งหงเดินเข้ามา นักออกแบบสามคนและนักแกะสลักก็นั่งพักผ่อนในห้อง พวกเขาได้ยินเสียงคนเปิดประตู ดังนั้นพวกเขาจึงลุกขึ้นยืนทันที
เมื่อพวกเขาเห็นกู้หนิง พวกเขาก็แปลกใจ ไหนว่าหัวหน้าของพวกเขาอายุแค่สิบแปด? ผู้หญิงคนนี้อายุก็ยี่สิบกว่าแล้วไม่ใช่เหรอ
หรือว่าเธอไม่ใช่หัวหน้าของพวกเขา พวกเขาหันไปมองโจวเจิ้งหงเพื่อขอคำตอบ โจวเจิ้งหงจึงเปิดปากพูดขึ้นว่า “นี่คือบอสของพวกเรา กู้หนิง”
พวกเขาทักทายกู้หนิง ถึงจะงุนงงก็ตาม “ยินดีที่ได้พบครับ บอส”
จากนั้นโจวเจิ้งหงก็แนะนำพวกเขาให้กู้หนิงรู้จัก “นี่คือนักออกแบบหวังจื่อหยง ส่วนสองคนนี้เป็นนักแกะสลัก ชางชิงชวนและเจาหรง”
พวกเขาอายุเท่ากับโจวเจิ้งหง
“ยินดีที่ได้พบค่ะ จากนี้ไปพวกเราคือทีมเดียวกัน ตราบใดที่พวกคุณจงรักภักดีต่อฉัน ฉันสัญญาว่าพวกคุณจะมีอนาคตที่สดใสแน่นอนค่ะ” กู้หนิงกล่าวอย่างใจดี เธอไม่ได้ถือตัว พวกเขาจึงชื่นชมเธอในใจ
พวกเขาเชื่อคำสัญญาของกู้หนิง เธอจ้างพวกเขาด้วยเงินเดือนสูงมาก
กู้หนิงใจป้ำยิ่งกว่าโจวเจิ้งหง พวกเขามั่นใจว่าไม่อาจหางานไหนที่จะได้เงินเดือนสูงเท่านี้
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนงานฝีมือดี แต่พวกเขาก็ไม่มีใครรู้จัก มีเพียงนักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำเท่านั้นที่จะได้รับเงินเดือนระดับสูง
นอกจากนี้ พวกเขายังได้โบนัส ไม่มีใครขี้เกียจด้วยภายใต้ข้อเสนอนี้
“ได้ครับ บอส” พวกเขาตอบเธอด้วยความตื่นเต้น
“ดีค่ะ ช่วยไปขนก้อนหินจากรถเข้าไปไว้ในห้องนิรภัยด้วยค่ะ ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อก่อน” กู้หนิงบอก จากนั้นก็เดินไปเข้าห้องน้ำหญิง
แม้ว่าเธอไม่รู้ว่าตัวเองเป็นที่นิยมในโลกออนไลน์ไปแล้ว เธอรู้สึกว่ากลับไปเป็นตัวเธอเองดีที่สุด
นักออกแบบและนักแกะสลักก็ตามโจวเจิ้งหงไปเอาก้อนหิน
โรงงานแปรรูปมีพื้นที่ขนาดหนึ่งร้อยหกสิบตารางเมตร มีพื้นที่สำหรับเครื่องตัดหิน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องประชุมยี่สิบตารางเมตร และห้องนิรภัยสิบตารางเมตร
ภายในห้องนิรภัย มีระบบความปลอดภัยจากขโมยและไฟ สำหรับคนภายนอก หยกจะปลอดภัย แต่สำหรับคนภายใน มันก็ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนดูแลความปลอดภัย
.
มันเป็นไปไม่ได้ที่กู้หนิงจะไว้วางใจพนักงานของเธอร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เธอก็ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ด้วยตัวเอง เธอจำเป็นต้องมีคนช่วยเธอ
ไม่มีอะไรดีโดยไม่เสี่ยง
ตอนที่ 116: หยกจักรพรรดิอีกครั้ง
เมื่อพวกเขาพบว่ามีก้อนหินหลายก้อนในรถ พวกเขาต่างประหลาดใจ
“ประธานโจว บอสของพวกเราช่างยอดเยี่ยมจริงๆ มีหยกอยู่ในหินทุกก้อนหรือเปล่า?” ชางชิงชวนเอ่ยถาม ถ้าพวกมันมีหยกอยู่ข้างในจริงๆ พวกเขาคงมีโชคมหาศาล
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ไว้รอดูตอนตัดพวกมันออกมาทั้งหมดละกัน” โจวเจิ้งหงตอบ ถึงเขาจะเชื่อมั่นในฝีมือกู้หนิง แต่เขาไม่ต้องการคุยโม้ต่อหน้าชางชิงชวน และคนอื่น ๆ
พวกเขาพากันเคลื่อนย้ายก้อนหิน และกู้หนิงก็เปลี่ยนเสื้อผ้ากลับคืนก่อนที่พวกเขาจะกลับเข้ามา เธอสวมชุดธรรมดาและลบเครื่องสำอางออก เธอมัดผมเป็นลูกซาลาเปา และตอนนี้ก็ดูเหมือนเด็กนักเรียน ซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
นอกจากโจวเจิ้งหงแล้ว ทุกคนก็พากันประหลาดใจอีกครั้งหนึ่ง ถ้าพวกเขาไม่รู้ว่ากู้หนิงเป็นคนเดียวที่เป็นผู้หญิง พวกเขาคงจะคิดว่าเธอเป็นคนนอกอย่างไม่ต้องสงสัย
กู้หนิงไม่ได้รบกวนการทำงานของพวกเขา เธอเพียงบอกให้พวกเขาทำงานให้หนักและทำเครื่องประดับให้ได้มากที่สุดก่อนร้านเปิด เธอกำหนดวันเปิดร้านเป็นวันเสาร์อีกสองอาทิตย์ข้างหน้า พวกเขามีเวลาแค่สองอาทิตย์ แต่มีงานต้องให้ทำอีกเยอะ ดังนั้นพวกเขาต้องทำงานหนักมาก
ตอนนี้พวกเขาพร้อมที่จะตัดหินแล้ว เพราะมีเครื่องตัดอยู่เครื่องเดียว คนหนึ่งจึงใช้เครื่องตัด อีกคนจึงเจียระไน พวกเขาทำงานในวงการนี้มาสิบปี ถึงจะไม่เคยตัดได้หยกมูลค่าสูงมาก่อน พวกเขาก็คุ้นเคยกับการพนันหิน
ภายในห้องนิรภัย กู้หนิงขีดเส้นด้วยตัวเอง เธอมีตาทิพย์ ดังนั้นจึงสามารถหลีกเลี่ยงการตัดที่เสียเวลาไปได้มาก เมื่อกู้หนิงขีดเส้น เธอก็แอบเปลี่ยนหินที่มีพลังกล้าแกร่งกับหินที่เก็บไว้ในพื้นที่กระแสจิต
มีความเป็นไปได้สูงมากว่ามันจะมีหยกระดับสูงอยู่ในก้อนหินพวกนั้น กู้หนิงยังไม่ต้องการให้หยกระดับสูงหลายก้อนเปิดเผยสู่สาธารณะ ข้างนอกมีอยู่แล้วหนึ่งอัน
เธอวางแผนที่จะตัดก้อนหินขนาดสองกำปั้นที่พลังที่แข็งแกร่งที่สุด
ด้านนอก ชางชิงชวนก็ตัดชั้นหินด้านนอก และสีเขียวก็ปรากฏให้เห็น มือของเขาสั่นด้วยความตื่นเต้น
“โอ้ สีเขียว แค่ชั้นแรกก็เจอแล้ว บอสขีดเส้นได้แม่นยำมาก! ไม่สิ ต้องเป็นเพราะความสามารถพิเศษของบอส แค่ครั้งเดียวก็เจอชั้นสีเขียวแล้ว!” ชางชิงชวนกล่าวอย่างตื่นเต้น
โจวเจิ้งหงเองที่เห็นกู้หนิงตัดหยกออกมาได้จากการสุ่ม แต่เขาก็ยังประหลาดใจที่เห็นอีกครั้ง
พวกเขาก็เคยได้ยินจากโจวเจิ้งหง แต่ก็ยังตกใจเมื่อพวกเขาเป็นคนตัดมันเอง
พวกเขาใช้น้ำชำระล้างฝุ่นและหยกก็เผยโฉมออกมา มันเป็นหยกระดับกลางค่อนสูง หยกน้ำแข็ง พวกเขาต่างกลั้นลมหายใจ
พวกเขาทำงานให้โจวเจิ้งหงมาหลายปี แต่ก็แทบไม่เคยเห็นหยกระดับกลางค่อนสูง หยกส่วนใหญ่ที่พวกเขาเห็นคือหยกระดับล่างหรือต่ำ นอกจากจะไม่ได้เห็นหยกระดับกลางค่อนสูงแล้ว ร้าวโจวฝูก็เป็นร้านขายเครื่องประดับที่ทำจากหยกระดับกลางค่อนไปทางต่ำ พวกเขาไม่มีเงินซื้อหยกระดับกลางหรือสูงได้
หลังจากหายตกใจ พวกเขาก็ทำงานต่อ
หลังจากนั้นไม่นานโจวเจิ้งหงและคนอื่น ๆ ก็เห็นสีเขียวที่เผยออกมาอย่างต่อเนื่อง หยกสองก้อนเป็นหยกระดับกลางค่อนสูง หยกไฮบิซคัซและหยกรากบัวสีชมพู และอีกประเภทเป็นหยกระดับสูง หยกแก้ว ทั้งสามคนตกตะลึง พวกเขาตัวสั่นเทาและรู้สึกว่ากำลังฝันไป
เมื่อกู้หนิงออกมา ทุกคนก็มองเธออย่างชื่นชม
“บอส คุณเป็นเทพธิดาใช่ไหม?” จางหรงเอ่ย แน่นอนว่าเขาล้อเล่น
“ฉันคิดว่าไม่ใช่ ต่อให้เป็นเทพธิดาก็ไม่อาจตัดหยกได้ทุกครั้ง แต่บอสของเราทำได้ ฉันคิดว่าบอสต้องมีความสามารถพิเศษแน่!” หวังจื่อหยงกล่าว เขาเองก็พูดหยอกล้อเช่นกัน
กู้หนิงรู้ว่าพวกเขาหยอกล้อเธอ แต่เธอก็ไม่ได้ห้ามพวกเขา เธอจึงพูดว่า “เอาล่ะ พอได้แล้วค่ะ อย่าบอกคนอื่นถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในนี้นะคะ ฉันไม่อยากให้คนอื่นรู้”
“ได้ครับ บอส อย่ากังวลไปเลย พวกเราจะไม่บอกใครทั้งนั้น”
จากนั้นกู้หนิงก็นั่งลง ขัดหินต่อไป กู้หนิงพูดถูก มีหยกระดับสูงอยู่ข้างใน มันมีสีเขียวคลาสสิคกับสีน้ำเงิน
นี่คือหยกจักรพรรดิ
กู้หนิงกลั้นลมหายใจ จากนั้นก็ถอนหายใจและพูดว่า “หยกจักรพรรดิ”
ทุกคนตื่นตะลึง
“อะไรนะครับ? หยกจักรพรรดิ?”
ในเวลานั้นแม้แต่โจวเจิ้งหงก็ไม่สามารถสงบได้ เขาวางก้อนหินทันที วิ่งไปหากู้หนิง
คนอื่นนอกจากชางชิงชวนที่กำลังตัดหินอยู่ ก็วิ่งมาหากู้หนิง พวกเขาเกือบล้มระหว่างวิ่ง! ไม่มีใครโทษที่พวกเขากำลังตื่นเต้น หยกจักรพรรดิเป็นหยกที่อยู่เหนือหยกทุกประเภท
เมื่อพวกเขาเห็นหยกจักรพรรดิจริงๆในมือของกู้หนิง ทุกคนก็กลั้นลมหายใจ หยกจักรพรรดิจริงๆด้วย! หยกจักรพรรดิ!
“ก่อนที่จะเปิดร้าน พวกเราจะใช้หยกจักรพรรดิโปรโมตร้านของเรา ฉันเชื่อว่าลูกค้าหลายคนต้องสนใจมันแน่” กู้หนิงกล่าว
ทุกคนเห็นด้วย
เมื่อข่าวเรื่องหยกจักรพรรดิแพร่ออกไป นักธุรกิจในเมือง G ทั้งหลายก็จะมาที่ร้านถึงแม้จะไม่ได้รับเชิญ ไม่สำคัญว่าเขาจะมีบริษัทใหญ่โตหรือไม่ เชื่อได้เลยว่าพวกเขาคงไม่มีหยกจักรพรรดิแน่นอน
ถึงแม้หยกบิวตี้จิวเวอรี่จะมีเป้าหมายเป็นร้านเครื่องประดับระดับไฮเอนท์ แต่มันก็เริ่มต้นจากร้านเล็กๆ พวกเธอยังไม่มีชื่อเสียงพอที่จะเชิญบริษัทใหญ่ๆมาร่วมงานเปิดตัว ถึงต่อให้เชิญ บริษัทใหญ่เหล่านั้นก็คงไม่มา ดังนั้นพวกเธอจึงต้องดึงดูดให้บริษัทใหญ่มาให้ได้
ตราบใดที่มีคนมีชื่อเสียงหลายคนมาปรากฏตัวที่งานเปิดตัวร้านของเธอ แบรนด์หยกบิวตี้ จะต้องมีชื่อเสียงในเวลาอันสั้น นั่นเป็นสิ่งที่พวกเธอต้องการ
กู้หนิงเองก็วางแผนจะไปเยี่ยมอาจารย์ฝูและอาจารย์หยวนด้วยเช่นกัน
แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีอิทธิพลมากพอที่จะเชิญบุคคลทั้งสองที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง กู้หนิงก็มั่นใจว่าพวกเขาจะมา นอกจากนี้เมื่อพวกเขารู้ว่าหยกจักรพรรดิอยู่ที่นี่พวกเขาจะมาแน่นอน
พวกเขาอาจจะตำหนิเธอ ที่ไม่ได้บอกพวกเขา! กู้หนิงจึงต้องการเชิญพวกเขาด้วยตัวเอง แทนที่จะปล่อยให้พวกเขารู้ด้วยตัวเอง
เมื่อทุกคนเสร็จงานของตัวเอง ก็หกโมงเย็น เป็นเวลาทานอาหารเย็น กู้หนิงบอกให้พวกเขาเอาหยกเข้าไปเก็บในห้องนิรภัย และพากันออกไป พวกเขาจะกลับมาทำงานต่อพรุ่งนี้
โจวเจิ้งหงกำลังจะสั่งอาหารจากร้านอาหาร และทานอาหารเย็นด้วยกัน แต่กู้หนิงปฏิเสธและใช้ข้อแก้ตัวว่าเธอจะไปพบเพื่อนของเธอ