ตอนที่ 317 ภาพวาดอักษรที่ประเมินค่าไม่ได้?
ได้ยินที่กู้หนิงพูด เลิ่งเชาถิงก็ร่าเริงขึ้นมา เขาไม่รังเกียจที่กู้หนิงจะเอาสมบัติของเขามาเป็นของเธอ “งั้นผมขอรับของขวัญชิ้นนี้ในนามของคุณปู่แล้วกัน”
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กลับไปที่บ้าน ไม่นานข่าวที่มีคนตัดหยกจักรพรรดิได้ก็แพร่ไปทั่วถนนพนันหิน คนหลายคนตะลึงกับข่าวและรู้สึกอิจฉาในคราวเดียวกัน
เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น เลิ่งเชาถิงทำกับข้าวให้กู้หนิงที่บ้าน ตอนนี้กู้หนิงอยู่ระหว่างมีประจำเดือน ดังนั้นเขาจึงบอกให้เธอพักผ่อน ถึงแม้เธอจะไม่ได้เป็นประจำเดือนเขาก็ยังคงทำกับข้าวให้เธอทานอยู่ดี เลิ่งเชาถิงเป็นพ่อครัวที่ยอดเยี่ยม อย่างน้อยก็ดีกว่ากู้หนิงมาก
ระหว่างทานอาหาร โทรศัพท์มือถือของเลิ่งเชาถิงก็ดังขึ้น คนที่โทรมาคือซู่จินเฉิน ซู่จินเฉินชวนพวกเขาไปเข้าร่วมการประมูลพรุ่งนี้บ่ายสองโมง
กู้หนิงได้ยินข่าวก็สนใจ เธอถามซู่จินเฉินว่าเธอจะมีโอกาสเอาของเก่าของเธอมาร่วมประมูลด้วยได้ไหม ความจริงแล้วกู้หนิงอยากขายของเก่าเพื่อความสนุกไม่ใช่เพื่อเงิน
“คุณก็มีของเก่าด้วยหรอ? เป็นอะไรอ่ะ?” ซู่จินเฉินถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
กู้หนิงคิดสักครู่ก่อนที่เธอจะพูดว่า “ที่ล้างพู่กัน” เธอแค่อยากจะเข้าร่วมการประมูลเพื่อความสนุกสนานดังนั้นเธอจึงไม่ต้องการที่จะนำสิ่งของที่มีราคาแพงเกินไปสำหรับมัน
“ได้สิ ไม่มีปัญหา” ซู่จินเฉินตอบ เขารู้เกี่ยวกับของเก่าเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับภาพวาดลายมือของกู้หนิง ในการประมูลมีผู้ประเมินที่รับผิดชอบในการประเมินวัตถุอยู่แล้ว แน่นอนว่าผู้ประเมินไม่ได้ถูกต้องเสมอไป ดังนั้นในบางครั้งอาจมีการจำลอง ของบางคนดูเหมือนจริงและผู้เชี่ยวชาญหลายคนไม่สามารถบอกความแตกต่างจากของจริงได้ อย่างไรก็ตามก่อนการประมูลผู้ซื้อที่มีศักยภาพสามารถตรวจสอบวัตถุได้ด้วยตนเอง ดังนั้นพวกเขาจะต้องรับผิดชอบต่อการเลือกของตนเอง โรงประมูลไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใด ๆ และชื่อเสียงของโรงประมูลจะไม่เสียหายเพราะนั่นคือกฎในวงการนี้
ไม่กี่นาทีต่อมา นายท่านเลิ่งก็โทรหาเลิ่งเชาถิงอีกครั้งเกี่ยวกับการประมูล
นายท่านเลิ่งเป็นคนรักของเก่า ดังนั้นเขาจึงสนใจงานประมูล เขาถามหลานชายว่าพรุ่งนี้ว่างไปเป็นเพื่อนเขาหรือไม่ มีภาพวาดของซูเป่ยหงในการงานประมูล เขาอยากซื้อมันมาสะสม
เลิ่งเชาถิงตอบอย่างไม่อ้อมค้อมว่าพรุ่งนี้เขาไม่ว่างเพราะเขาจะไปงานประมูลกับกู้หนิง อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้บอกเหตุผลกับปู่ไม่อย่างนั้นปู่คงจะมาพบพวกเขาแน่ๆ
เพื่อหยุดยั้งไม่ให้ปู่มา เลิ่งเชาถิงจึงพูดว่า “ถ้าปู่ต้องการภาพวาด ผมจะซื้อไปให้ ที่งานประมูลมีคนเยอะ ผมว่าปู่อยู่บ้านน่าจะดีกว่า
“ฉันต้องไปตรวจสอบด้วยตัวเอง! ถ้ามันเป็นของปลอมล่ะ? ฉันไม่อยากเสียเงินไปกับของปลอม” นายท่านเลิ่งกล่าว
“งั้นผมจะหาภาพที่ดีกว่าภาพของซูเป่ยหง ปู่จะได้ไม่ต้องไปร่วมงานประมูล” เลิ่งเชาถิงเอ่ย เขาพยายามทุกวิธีทางเพื่อไม่ให้ปู่ไปงานประมูล
“ปู่อยากได้ภาพของซูเป่ยหงหรือหลัวเจินฝูของจ้าวเหมิงฝู?” เลิ่งเชาถิงถาม
“อะไรนะ?” นายท่านเลิ่งประหลาดใจระคนตื่นเต้น “แกแน่ใจนะว่ามีหลัวเจินฝู?”
“ครับ” เลิ่งเชาถิงตอบ
ด้วยคำตอบยืนยันจากเลิ่งเชาถิง นายท่านเลิ่งยิ่งกว่าตื่นเต้น เขาแทบรอไม่ไหว “เอามาให้ปู่เดี๋ยวนี้!”
“ผมสัญญาว่าจะเอาไปให้ภายหลัง” ในเมื่อเลิ่งเชาถิงพูดถึงหลัวเฉินฝู เขาวางแผนที่เอาของขวัญไปให้ปู่ของเขาในวันนี้ เลิ่งเชาถิงรู้จักนิสัยของคุณปู่เป็นอย่างดี ถ้าปู่ไม่ได้ภาพวาด ปู่จะนอนไม่หลับในตอนกลางคืน และเลิ่งเชาถิงไม่ต้องการให้ปู่ของเขานอนดึก คุณปู่ของเขาอายุมากแล้ว
“เมื่อไหร่? ไม่สิ แกต้องเอามันมาให้ปู่ให้เร็วที่สุด!” นายท่านเลิ่งสั่ง
“ตอนนี้ผมกำลังกินข้าว กินข้าวเสร็จผมจะแวะเอาไปให้ครับ”
“วิเศษ แกอย่ามัวเสียเวลากินข้าว รีบๆเอามันมาให้ปู่!”
เลิ่งเชาถิงวางสายและบอกกู้หนิงว่าเขาจะแวะกลับบ้าน กู้หนิงได้ยินบทสนทนาระหว่างปู่กับหลาน หลังจากทานข้าวเสร็จเลิ่งเชาถิงก็กลับไปที่บ้านตระกูลเลิ่งพร้อมกับภาพวาดตัวอักษรและหยกจักรพรรดิในมือ
กู้หนิงส่งข้อความถึงลู่เจินและต้วนลี่ซิน โดยบอกว่าเธอได้จัดการหาอาคารสำนักงานและบริษัทใหม่แล้ว ลู่เจินและต้วนลี่ซินต่างสบายใจหลังจากอ่านข้อความของกู้หนิง จากนี้ไปพวกเขาจะทำงานให้กับเฟิ่งหัวเอนเตอร์เทนเมนท์ แน่นอนว่าพวกเขาต้องเซ็นสัญญาก่อน
ภายในคฤหาสน์ตระกูลเลิ่ง นายท่านเลิ่งนั่งรออย่างกระสับกระส่ายและบอกแม่บ้านคอยชะโงกหน้าออกไปดูข้างนอกว่าเลิ่งเชาถิงกลับมาบ้านหรือยัง
เป็นเวลากว่าหนึ่งทุ่ม ดังนั้นครอบครัวของเลิ่งหยวนเฉียนจึงอยู่บ้านพร้อมกับคุณปู่เลิ่ง พวกเขารู้ว่าประมุขครอบครัวกำลังกระสับส่ายเพราะหลานชายคนโต ครอบครัวของเลิ่งหยวนเฉียนไม่ค่อยพอใจนัก ในสายตาพวกเขาเลิ่งเชาถิงเป็นคนนอก ถึงแม้จะเป็นหลานคนโตของตระกูลก็ตาม
“คุณปู่ เมื่อวานพี่เชาถิงก็มาแล้วนี่ครับ ทำไมคุณปู่ต้องตื่นเต้นดีใจอีกล่ะ?” เลิ่งเชาซุนเอ่ยถามอย่างสงสัย ไม่เพียงแต่เลิ่งเชาซุนแต่ทุกคนต่างก็อยากรู้เหมือนกัน พวกเขาไม่เคยเห็นประมุขของบ้านตื่นเต้นดวงตาเป็นประกายเพียงเพราะเลิ่งเชาถิงกลับบ้านมาก่อน
“แกไม่รู้อะไร เชาถิงจะเอาหลัวเฉินฝู!มาให้ปู่ มันเป็นภาพอักษรที่ประเมินค่าไม่ได้เชียวล่ะ!” นายท่านเลิ่งตอบอย่างมีความสุข เขาไม่ปิดบังความชื่นชมต่อหลานชายคนโตซึ่งทำให้ครอบครัวของเลิ่งหยวนเฉียนไม่พอใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับว่าเลิ่งเชาถิงมีความสามารถที่หาของเก่าแก่เช่นนี้มาได้ ใครๆก็อยากทำให้ประมุขของบ้านพึงพอใจ ทุกคนรู้ว่านายท่านเลิ่งชอบของเก่ามากแค่ไหน แต่การหาของแท้สักชิ้นช่างยากเหลือเกินต่อให้มีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อได้
“หนูไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ตรงไหน ก็แค่ภาพวาดไร้ราคา” เลิ่งเชาเจี๋ยเบ้ปาก เธอหงุดหงิดมากๆ
“เชาเจี๋ย ระวังคำพูดของลูกด้วย” เลิ่งหยวนเฉียนตำหนิบุตรสาว ใครๆก็รู้ว่าพ่อของเขาเป็นนักสะสมของเก่า และคำพูดของลูกสาวของเขาอาจทำให้พ่อของเขาไม่พอใจได้
ตอนที่ 318 แฟนของแกสุดยอดมาก!
นายท่านเลิ่งไม่พอใจอย่างมาก มองหลานสาวปากพล่อยด้วยสายตาตำหนิ เลิ่งเชาเจี๋ยก้มหน้างุดด้วยความกลัว เธอไม่กล้าสบตากับปู่
นายท่านเลิ่งทราบดีว่าสมาชิกในครอบครัวคิดเห็นอย่างไรต่อเลิ่งเชาถิง แต่ตราบใดที่พวกเขาละมุนละม่อมต่อกัน เขาก็จะไม่เข้าไปก้าวก่าย แต่หากมีใครแสดงความคิดหรือกระทำไม่เหมาะสมต่อหน้าเขา เขาย่อมไม่นิ่งดูดาย การรักใคร่กลมเกลียวในครอบครัวมันยากนักหรือยังไง?
เลิ่งเชาซุนรับไม่ได้ที่เลิ่งเชาเจี๋ยกระแหนะกระแหนเลิ่งเชาถิงที่เขานับถือ “พี่เชาเจี๋ย พวกเราต่างก็รู้ว่าคุณปู่ชื่นชอบของเก่า ทำไมพี่ยังพูดว่ามันไร้ค่า? พี่หมายถึงพี่เชาถิงหรือคุณปู่? การที่มีคนไม่ชอบของสิ่งนั้นก็กลายเป็นสิ่งไร้ค่างั้นหรือ? ถ้างั้นการออกแบบของพี่ก็ไร้ค่าเหมือนกัน!”
เลิ่งเชาเจี๋ยสนใจการออกแบบ ถึงแม้เธอจะยังว่างงานอยู่ในตอนนี้ เธอออกแบบเสื้อผ้ามากมายตอนที่ยังไม่มีอะไรทำ เลิ่งเชาซุนตั้งใจพูดให้เธออับอายต่อหน้าคุณปู่เพราะเลิ่งเชาเจี๋ยพูดไม่ไว้หน้าเลิ่งเชาถิงหลายครั้ง แม้ว่าเธอจะไม่กล้าพูดต่อหน้าเลิ่งเชาถิงแต่ก็แอบพูดไม่ดีลับหลังเขาตลอดเวลา
“นาย…” เลิ่งเชาเจี๋ยโมโห แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะคุณปู่ยังนั่งอยู่ด้วย
ความจริงแล้วครอบครัวของเลิ่งหยวนเจินเข้ากันไม่ค่อยได้กับครอบครัวของเลิ่งหยวนเฉียนเช่นกั
ครอบครัวของเลิ่งหยวนเฉียนคิดว่าพวกเขาควรสืบทอดความมั่งคั่งของตระกูลเลิ่ง เพราะลูกชายคนโตของเลิ่งเว่ยหัวได้ล่วงลับไปแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นครอบครัวของเลิ่งหยวนเจินก็เป็นปัญหาสำหรับครอบครัวของเลิ่งหยวนเฉียนด้วย อย่างไรก็ตาม พวกเขาล้วนรู้ว่าตระกูลที่ทรงอิทธิพลต้องเป็นครอบครัวที่ปรองดองกัน ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เข้ากันได้ แต่พวกเขาก็เก็บเป็นความลับในหมู่พวกเขา
“ระวังคำพูดของลูกด้วยเชาซุน!” เลิ่งหยวนเจินตำหนิเลิ่งเชาซุนผู้เป็นลูกชาย
สิ่งที่เลิ่งเชาเจี๋ยพูดทำให้นายท่านเลิ่งหงุดหงิด เขาไม่อยากเห็นหน้าหล่อนอีก นายท่านเลิ่งกลับไปยังห้องหนังสือ และบอกเลิ่งเชาซีให้บอกเลิ่งเชาถิงไปพบเขาที่ห้องหนังสือ
เลิ่งเชาถิงมาถึงบ้านตอนสองทุ่ม เขาทักทายทุกคนก่อนที่จะเดินขึ้นบันได
“พี่เชาถิง ผมไปกับพี่ด้วยได้ไหม?” เลิ่งเชาซุนถาม เขาอยากเห็นภาพวาดอักษรด้วยเหมือนกัน
“พี่มีเรื่องจะคุยกับคุณปู่ ถ้านายอยากดูค่อยไปดูทีหลัง” เลิ่งเชาถิงไม่อยากให้เลิ่งเชาซุนทราบความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกู้หนิง ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธ
“ก็ได้ครับ”
เลิ่งเชาถิงเคาะประตูห้องหนังสือ นายท่านเลิ่งรีบเดินมาเปิด นายท่านเลิ่งคว้าภาพวาดตัวอักษรเดินกลับไปที่โต๊ะและคลี่ออกดูก่อนจะเริ่มตรวจสอบว่าใช่ของจริงหรือไม่ ไม่ใช่เพราะนายท่านเลิ่งไม่เชื่อเลิ่งเชาถิงแต่มันเป็นนิสัย ของปลอมมีเกลื่อน หลานชายของเขาอาจซื้อของปลอมมาก็ได้ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของนายท่านเลิ่ง เขาสรุปได้ว่าภาพวาดตัวอักษรนี้เป็นของจริง มือของเขาสั่นระริก
“ฮ่าๆ ของจริง! ไม่นึกไม่ฝันว่าฉันจะสามารถสะสมของล้ำค่าเช่นนี้ได้!” น้ำเสียงของนายท่านเลิ่งยินดีปรีดา “ปู่ต้องเอาไปอวดเพื่อนๆของปู่ พวกเขาจะต้องอิจฉาปู่แน่ๆ”
“อ้อ ว่าแต่แกไปเอามาจากไหน?” นายท่านเลิ่งถามด้วยความอยากรู้
“หนิงหนิงซื้อมาจากถนนขายของเก่าโดยบังเอิญ เป็นของขวัญปีใหม่ของปู่ครับ” คุณปู่ของเขารู้ว่าเขามีแฟนแล้ว ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังแต่คุณปู่ยังไม่รู้ภูมิหลังของกู้หนิง ไม่ต้องถาม นายท่านเลิ่งก็ทราบทันทีว่ากู้หนิงเป็นใคร ต้องเป็นแฟนสาวของเจ้าหลานชายคนโตของเขา อย่างไรก็ตามเขาก็ยังตะลึงที่กู้หนิงซื้อมันมาโดยบังเอิญ
“แฟนแกนี่สุดยอดจริงๆ” นายท่านเลิ่งเอ่ยชม