ตอนที่ 85: วิวาทในห้าง
เจียงซู่ไปจัดการเรื่องธุรกิจ ในขณะที่กู้หนิง กู้ม่าน และกู้ชิงนั่งแท็กซี่มุ่งไปยังห้างสรรพสินค้าในเมือง
กู้หนิงจะไปซื้อเสื้อผ้าก่อนเป็นอันดับแรก แต่ถูกกู้ชิงเบรคเอาไว้ก่อน
“หนิงหนิง หนูซื้อเสื้อผ้าให้พวกเราแล้วเมื่อวาน พวกเราไม่อยากเปลืองเงินซื้อเสื้อผ้าใหม่อีกแล้ว
“นั่นมันยังไม่พอค่ะ หนูกับแม่ทิ้งเสื้อผ้าเก่าๆไว้ที่บ้านเดิม หนูต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่หมด อย่าคิดมากสิคะ หนูไม่ได้จะซื้อแบรนด์เมืองนอกหรอกค่ะ
พวกเธอไม่ต้องการเสื้อผ้าหรูหราราคาแพงหลายชุด เสื้อผ้าพวกนั้นเอาไว้ใส่ออกงานสำคัญๆและโอกาสพิเศษ
ในชีวิตประจำวันพวกเธอสวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาๆ
ผู้คนส่วนใหญ่มักสวมใส่แบรนด์ดีไซเนอร์ชื่อดังเพื่ออวดกันมากกว่า แบรนด์ระดับกลางจำนวนมากก็มีคุณภาพดีเช่นกัน
สุดท้ายกู้ชิงจึงยอมฟังกู้หนิง ทั้งสามจึงเดินไปร้านเสื้อผ้าแบรนด์กลางๆเพื่อซื้อให้กู้ม่านและกู้ชิง
ถึงแม้จะไม่ใช่ยี่ห้อดังแต่ก็ยังหรูหราสำหรับกู้ม่านและกู้ชิงอยู่ดี เพราะว่าพวกเธอไม่เคยมาร้านแบบนี้มาก่อน
ดังนั้นพวกเธอจึงถูกมองอย่างเหยียดหยามเมื่อเดินเข้ามาในร้าน
กู้ม่านและกู้ชิงไม่ได้ใส่ชุดราคาแพงและพวกเธอก็เหมือนคนจนมากๆด้วย บวกกับความไม่มั่นใจขณะก้าวเดิน พวกเธอเดินเก้ๆกังๆ ดังนั้นพนักงานขายจึงคิดว่าพวกเธอคงไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้าในร้านได้ จึงทำเป็นไม่สนใจและไม่เข้ามาทักทาย
กู้หนิงก็ไม่สนใจพนักงานขายเช่นเดียวกัน เธอพากู้ม่านและกู้ชิงเดินดูรอบ ๆอย่างสบายอกสบายใจ ถ้าพวกเธอชอบชุดไหนพวกเธอก็จะซื้อชุดนั้น ถ้าไม่ชอบก็แค่เดินไปดูร้านอื่น
กู้ชิงหยิบชุดตัวหนึ่งมาดู เธอพลิกป้ายราคาดูและตกใจ
“จิ๊ ตั้งหนึ่งพันแปดร้อยหยวน!” ราคานี้เท่ากับเงินเดือนเธอทั้งเดือน
ถึงแม้จะรู้ว่าเสื้อผ้าที่กู้หนิงซื้อมาฝากจะราคาแพงกว่านี้มาก แต่เธอก็ยังคิดว่าราคาชุดตัวนี้ก็ยังแพงเกินไปอยู่ดี
ในขณะนั้นมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นอย่างเหน็บแหนม “ถ้าไม่มีปัญญาซื้อหนึ่งพันแปดร้อยหยวนก็ไม่ควรเข้ามาในนี้แต่แรกนะ ดูเธอสิแต่งตัวอะไรกัน แต่ฉันว่าเธอก็เหมาะกับเสื้อผ้าถูกๆ”
กู้ชิงอับอาย เธอก้มหน้าลงต่ำ
กู้หนิงไม่พอใจ เธอมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นซึ่งดูคุ้นตาคลับคล้ายคลับคราว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน จากนั้นกู้หนิงก็ยกมุมปากแสยะยิ้ม เธอเหมือนปีศาจสาวที่กำลังออกล่าเหยื่อ
“โอ้ นั่นใช่คุณนายจินรึเปล่าคะ?”
เมื่อผู้หญิงคนนั้นได้ยินเสียงกู้หนิง ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนสีทันที
“เธอ เธอเป็นใคร? ฉัน ฉันไม่รู้จักเธอสักหน่อย!”
กู้หนิงยามนี้แน่ใจแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ได้เอาเครื่องประดับไปตรวจดูแล้ว เพราะเธอดูตื่นตระหนกที่ได้เจอกู้หนิง ถ้าหากเครื่องประดับของเธอเป็นของแท้ เธอคงโกรธและโวยวายใส่กู้หนิงไปแล้ว
“จำไม่ได้เหรอคะ? เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วในร้านขายเครื่องประดับ...” กู้หนิงจงใจพูดทวนความจำ
“หุบปาก!” ผู้หญิงคนนั้นตื่นตระหนกและพูดขัดกู้หนิงก่อนที่เธอจะพูดจบ
“เกิดอะไรขึ้น?” ในระหว่างนั้นผู้หญิงอายุสี่สิบต้นๆ แต่งตัวหรูหราเดินตรงเข้ามา ดวงตาของเธอจับจ้องที่กู้หนิงและครอบครัวของเธอ
กู้ชิงและกู้ม่านประหลาดใจและไม่สบายใจที่ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้
กู้หนิงชายตามองอย่างเย็นชา
ผู้หญิงคนนี้ก็คือหลินหลี่หยวน แม่ของกู้เซียวเซียว
“กู้ชิง กู้ม่าน พวกเธอมาทำอะไรที่นี่?” หลินหลี่หยวนถามอย่างแปลกใจ
หลินหลี่หยวนคาดไม่ถึงว่ากู้ชิงและกู้ม่านจะปรากฏตัวในที่แบบนี้ ในสายตาของเธอพวกเขามักใส่ชุดราคาถูกๆจากร้านหาบเร่ข้างถนน
กู้ชิงและกู้ม่านไม่อยากจะตอบคำถามของหลินหลี่หยวน แต่ถึงยังไงพวกเธอก็เป็นญาติกัน มันคงไม่เหมาะที่จะทำเป็นไม่สนใจคำถามของเจ้าหล่อนในที่สาธารณะ
ดังนั้นกู้ชิงจึงเอ่ยตอบเสียงเรียบ “ก็แค่เข้ามาเดินดู”
กู้ชิงไม่ต้องการให้เธอรู้ว่าพวกเธอมาเพื่อซื้อเสื้อผ้า ต่อหน้าหลินหลี่หยวน พวกเธอต้องแกล้งทำเป็นคนจน
“โอ้ ฉันล่ะหลงนึกว่าพวกเธอเก็บเงินได้เลยกล้าเดินเข้ามาในร้านแบบนี้ได้!” หลินหลี่หยวนเปลี่ยนโทนเสียง เธอไม่ปิดบังความไม่พอใจของตัวเอง
“หลิน เธอรู้จักพวกเขาด้วยหรือ?
“ใช่ รู้จักสิ ก็ที่ฉันเคยบอกเธอก่อนหน้านี้ไง พวกเขาเป็นน้องสามีฉันเอง” หลินหลี่หยวนเยาะเย้ย
ดูเหมือนว่าหลินหลี่หยวนจะพูดถึงกู้ชิงและกู้ม่านในทางที่ไม่ดีแน่ๆ
ผู้หญิงคนนั้นมองที่กู้ม่านและกู้ชิงทันทีด้วยความไม่ชอบใจ แต่เนื่องจากกู้หนิงอยู่ที่นี่ด้วย เธอจึงไม่กล้าหัวเราะเยาะพวกเขา
“กู้ม่าน เธอกล้ามากเลยนะที่ย้ายออกจากบ้านแทนที่จะขอโทษพวกเรา” ถึงแม้หลินหลี่หยวนจะยังโมโหให้กู้หนิง แต่กู้ม่านและกู้ชิงก็ได้รับบทลงโทษแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่ได้อารมณ์เสียหงุดหงิดเหมือนเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ได้เห็นกู้ชิงอยู่กับกู้ม่าน หลินหลี่หยวนเชื่อว่ากู้ชิงต้องแอบช่วยกู้ม่านโดยให้พักอยู่ที่บ้านด้วย หลินหลี่หยวนจึงเริ่มไม่สบอารมณ์อีกครั้ง
“กู้ชิง เธอให้กู้ม่านไปอยู่ด้วยงั้นเหรอ? คุณแม่ยังพูดไม่ชัดรึยังไง ถ้าเธอกล้าให้กู้ม่านไปอยู่ด้วย พวกเราจะไม่ช่วยเหลืออะไรเธออีก”
หลินหลี่หยวนพูดเหมือนตัวเองช่วยเหลือกู้ชิงอย่างไรอย่างนั้น
กู้หนิงที่เงียบเฉยมาตลอดอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแดกดัน
หลินหลี่หยวนที่ไม่ได้สังเกตเห็นกู้หนิงจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ เมื่อเธอหันไปมองกู้หนิง เธอก็ประหลาดใจกับภาพที่เห็น
ใช่ เธอประหลาดใจและทึ่ง เพราะกู้หนิงดูเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน
เด็กคนนี้สวยขึ้นกว่าเดิมมากและไม่ได้ดูเศร้าหมองอย่างแต่ก่อน เธอดูเจิดจรัส
“พูดอย่างกับว่าครอบครัวของคุณคอยช่วยเหลือป้าของฉันมาตลอดอย่างนั้นแหละ เท่าที่ฉันจำได้ ป้าของฉันพึ่งตัวเองมาตลอดตั้งแต่แต่งงาน” กู้หนิงจ้องหลินหลี่หยวนเขม็งและไม่ปิดบังความไม่พอใจไว้เหมือนกัน
หลินหลี่หยวนชักสีหน้าไม่พอใจทันที
เธอถูกคำพูดกู้หนิงทำอับอายต่อหน้าสาธารณะ
จากนั้นกู้ชิงก็เอ่ยเสริมขึ้นมาว่า “หลินหลี่หยวน พูดให้ชัดนะ พวกฉันไม่เคยได้รับความช่วยเหลืออะไรจากเธอ! อ้อ กู้ม่านก็ไม่ได้พักอยู่ที่บ้านฉันด้วย”
เธอไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากกู้ฉินเซียงจริงๆ เธอไม่อาจปล่อยให้หลินหลี่หยวนพูดจาเข้าข้างตัวเองและเอาเปรียบเธอได้
“แก...” ใบหน้าหลินหลี่หยวนถมึงทึง แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธความจริงข้อนี้
ตอนที่ 86: คิดว่าตัวเองเป็นใคร?
หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลินหลี่หยวนจึงพูดโกหกอย่างหน้าตาเฉยๆ
“กู้ชิง พวกเราเป็นญาติกัน แล้วฉันจะไม่เข้าไปช่วยเหลือเธอยามที่เธอเดือดร้อนได้ยังไงกัน? ประเด็นคือเธอไม่เคยพูดปัญหาให้พวกเราฟังเลยต่างหาก ส่วนกู้ม่าน บ้านหลังเก่านั้นก็เป็นของลูกชายคุณแม่ แต่พวกเราอนุญาตให้เธออาศัยอยู่ที่นั่นมาหลายปี พวกเราทำอะไรให้พวกเธอตั้งมากมาย!
“พวกเขาจ่ายค่าเช่า! นอกจากนี้เธอยังเป็นคนไล่พวกเขาออกจากบ้านตอนที่พวกเขากำลังมีปัญหา!” กู้ชิงเถียง
ทันใด้นั้นหลินหลี่หยวนก็โกรธจนตัวสั่น “มันเป็นเพราะกู้หนิงตีลูกสาวของฉันและยังไม่ยอมขอโทษ พวกเขาสมควรโดนแล้ว!”
“เธอเองก็สมควรโดน” กู้หนิงเผชิญหน้ากับหลินหลี่หยวนโดยปราศจากความกลัว
“แก...” หลินหลี่หยวนทั้งหงุดหงิดและแปลกใจระคนกันที่กู้หนิงกล้าพูดกับเธอตรงๆแบบนั้น
สมาชิกตระกูลกู้โดยเฉพาะคนที่อายุน้อยกว่าล้วนเคารพเธอเป็นที่สุด แต่กู้หนิงต่างออกไป เธอกล้าต่อว่ากู้เซียวเซียวต่อหน้าเธอ
“แกคิดว่าแกเป็นใครถึงกล้าตีลูกสาวฉัน?” หลินหลี่หยวนเอ่ย
“แล้วเธอคิดว่าเธอเป็นใครถึงกล้าดูถูกฉัน?” กู้หนิงไม่ตอบแต่ถามกลับ
“อะไรนะ? แกคิดว่าแกเป็นใคร ห้ะ? วิเศษวิโสมาจากไหน นังเด็กไม่มีพ่อ!” หลินหลี่หยวนด่าทอกู้หนิงอย่างหยาบคายต่อหน้าสาธารณชน เธอทำตัวเหมือนผู้หญิงบ้า
“เงียบนะ!” ทั้งกู้ชิงและกู้ม่านพูดขึ้นพร้อมกัน
“หลินหลี่หยวน หนิงหนิงเป็นลูกสาวของฉัน ฉันไม่อนุญาตให้เธอมาพูดจาว่าร้ายลูกสาวฉันได้!” กู้ม่านต่อว่าอย่างรุนแรง
กู้ม่านเป็นคนสุภาพอ่อนโยนหรือบางทีก็อ่อนแอ แต่เมื่อเป็นเรื่องกู้หนิง เธอจะกลายเป็นเม่นที่พร้อมสลัดขนใส่ศัตรู
“ก็ลูกของเธอไม่มีพ่อ นังเด็กไม่มีพ่อ! นังเด็กเหลือขอ!” หลินหลี่หยวนไม่ได้รู้สึกผิดเลยสักนิด
ในขณะนั้นเอง หลินหลี่หยวนก็รู้สึกถึงเงาดำทะมึน ใบหน้าของกู้หนิงขยายใหญ่เต็มตาของเธอ
ในแววตาของกู้หนิงมีความหนาวเย็นยะเยือก หลินลี่หยวนรู้สึกกดดันอย่างฉับพลัน เธอไม่สามารถหายใจหรือเคลื่อนไหวได้เลย
จากนั้นกู้หนิงก็พูดน้ำเสียงนิ่งๆ “อย่าคิดว่าคุณแก่กว่าฉันแล้วฉันจะไม่กล้าตบคุณ ถ้าฉันได้ยินคำว่าลูกไม่มีพ่อจากปากเน่าๆของคุณอีก คุณได้เจอดีแน่”
คำพูดของกู้หนิงเหมือนเวทย์มนตร์ซึ่งเสียดแทงลึกลงไปในใจของหลินหลี่หยวน เธอยืนนิ่งตะลึงไม่ได้พูดอะไร เธอรู้สึกหวาดกลัว
“แม่ ป้า ไปกันเถอะค่ะ” กู้หนิงไม่สนใจหลินหลี่หยวนอีก เธอจากไปพร้อมกู้ม่านและกู้ชิง เธอไม่ต้องการโต้เถียงกับหลินหลี่หยวนต่อหน้าคนมากมาย โดยเฉพาะกู้ม่านและกู้ชิงอยู่ที่นี่ด้วย
หลินหลี่หยวนอาจจะไม่อยากรักษาหน้าตัวเอง แต่กู้ม่านและกู้ชิงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก
เมื่อกู้หนิงและครอบครัวของเธอจากไปแล้ว หลินหลี่หยวนก็ตั้งสติได้เพราะเสียงจากผู้หญิงที่อยู่ข้างเธอ ถึงแม้หลินหลี่หยวนจะยังรู้สึกเกรงกลัวกู้หนิง แต่เธอโมโหกู้หนิงมากกว่าที่กล้าทำกับเธอแบบนี้
ทำไม? กู้หนิงทำได้ยังไง?
หลินหลี่หยวนเพิ่งตระหนักได้ว่ามีสายตาจากผู้คนจ้องมองมาที่เธอ เพราะเธอเพิ่งทำตัวเหมือนผู้หญิงเสียสติ เธอรู้สึกเสียใจขึ้นมาและรีบเดินออกจากร้านโดยไว
แม้ว่าหลินหลี่หยวนจะคอยเจ้ากี้เจ้าการและดูใจร้ายกับครอบครัวของตัวเอง แต่เธอให้ความสำคัญกับหน้าตาตัวเองยามอยู่ต่อหน้าคนอื่น วันนี้เธอไม่เป็นตัวของตัวเอง
กู้ชิงและกู้ม่านต่างก็หงุดหงิดรำคาญใจ แต่พวกเธอรู้ว่าหลินหลี่หยวนเป็นคนยังไง ดังนั้นพวกเธอจึงเคยชินกับนิสัยของหลินหลี่หยวน
“เอาล่ะค่ะ อย่าไปอารมณ์เสียกับคนที่ไม่สำคัญเลยค่ะ พวกเราไปช้อปปิ้งกันต่อดีกว่า” กู้หนิงเอ่ยปลอบใจ
กู้ชิงและกู้ม่านถอนหายใจหนักๆ ความจริงแล้วพวกเธอกังวลว่ากู้หนิงจะเจ็บช้ำใจ แต่กู้หนิงยังรักษาความนิ่งไว้ได้ พวกเธอจึงคลายกังวลและเริ่มผ่อนคลาย
ผ่านไปชั่วครู่ พวกเธอก็สดชื่นร่าเริง แต่ละคนถือถุงกันเต็มไม้เต็มมือ
พวกเธอซื้อของมากมาย ไม่ได้ซื้อให้แต่ตัวเองเท่านั้นแต่ยังซื้อให้เจียงซู่และเจียงซินหยูอีกด้วย
ผู้หญิงรักการช้อปปิ้ง แม้ว่ากู้ม่านและกู้ชิงจะไม่อยากใช้จ่ายเงินจำนวนมากในตอนแรก แต่เวลาเพียงไม่นานพวกเธอก็ลืมหมดในขณะที่ช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า
จากนั้นพวกเธอก็พากันไปซื้อผ้าปูที่นอน
กู้หนิงและแม่ซื้อมาสี่ผืน ทุกห้องจำเป็นต้องมีผ้าปูที่นอนเอาไว้เปลี่ยน ที่บ้านของพวกเธอมีห้องนอนสามห้อง จึงต้องมีเก้าผืน อย่างไรก็ตามก็มีผ้าปูในบ้านใหม่แล้ว พวกมันเป็นของใหม่เพียงแต่ต้องเอามาซักก่อน
พวกเธอซื้อแล้วเมื่อวานสองผืน และจำเป็นต้องซื้อเพิ่มอีกสี่ผืน
ถึงแม้ว่าห้องนอนรับแขกจะยังว่างเปล่าเกือบตลอดเวลา พวกเขาก็อยากทำให้มันดูอบอุ่น
กู้ชิงซื้อหกผืนสำหรับสามห้องเช่นกัน
ผ้าปูเหล่านี้หนักเกินกว่าจะถือไหว กู้หนิงเองก็ไม่สามารถเก็บมันไว้ในพื้นที่กระแสจิตได้ เพราะมันอาจจะเปิดโปงตัวตนของเธอ
ดังนั้นพวกเธอจึงขอให้ทางร้านจัดส่งไปที่บ้านให้ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ค่อยส่งตอนที่พวกเธอกำลังจะกลับ
ภายในห้างสรรพสินค้ามีร้านอาหารมากมายอยู่ชั้นใต้ดินของห้าง เครื่องสำอางอยู่ชั้นหนึ่ง เครื่องประดับอยู่ชั้นสอง เสื้อผ้าผู้หญิงอยู่ชั้นสาม เสื้อผ้าผู้ชายชั้นสี่ เฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้านอยู่ชั้นห้าและเสื้อผ้าเด็กกับเครื่องเขียนอยู่ชั้นหก ในขณะที่เครื่องดนตรีและอุปกรณ์กีฬาอยู่ชั้นเจ็ด
กู้หนิงลงไปชั้นสองเพื่อซื้อเครื่องประดับให้กู้ม่านและกู้ชิง
ถึงแม้ว่าทองจะดูจืดชืดไปไปหน่อย แต่มันก็เหมาะสมกับอายุของกู้ม่านและกู้ชิง
แน่นอนว่าหยกเหมาะมากกว่า แต่มันยังทำไม่เสร็จ กู้หนิงต้องรอฉินอี้ฟานกลับมาก่อน ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจซื้อทองให้แม่กับป้าใส่ก่อน
พวกเธอได้คนละชุด
สร้อยคอ ตุ้มหู สร้อยข้อมือและแหวน
ทองราคาไม่แพง หนึ่งชุดราคาประมาณสี่หมื่นหยวน
จากนั้นพวกเธอก็ไปรับบัตรวีไอพีจากร้านเสริมสวยสุดหรูที่อยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้า อย่างไรก็ตามเวลาวันนี้ของพวกเธอมีจำกัด ดังนั้นพวกเธอจึงยังไม่ใช้มันทันที
หลังจากได้รับบัตรมาก็เกือบห้าโมงเย็นแล้ว พวกเธอจำต้องกลับบ้านเพราะเจียงซินหยูกำลังเลิกเรียนและกลับไปบ้านใหม่
พวกเธอกลับบ้านพร้อมกับรถส่งของจากร้านเครื่องนอน
รถส่งของจอดอยู่บริเวณหน้าโซนจี ดังนั้นกู้หนิง กู้ม่านและกู้ชิงจึงช่วยกันถือเข้าไปเอง
โชคดีที่เจียงซินหยูกลับมาถึงแล้ว เธอจึงเข้ามาช่วย
เจียงซินหยูถือสองชิ้น กู้ม่านและกู้ชิงคนละชิ้น ส่วนกู้หนิงถือส่วนที่เหลือ
เมื่อพวกเธอมาถึงบ้านก็เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น เป็นเวลากินข้าวเย็นพอดี
กู้ชิงโทรหาเจียงซู่ถามว่าเขาจะกลับถึงบ้านกี่โมง เจียงซู่บอกว่าเขากำลังเดินทางกลับ ดังนั้นกู้ชิงจึงขอให้เขาซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารระหว่างทางกลับบ้านด้วย
แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันที่เหน็ดเหนื่อยแต่พวกเขาก็สนุกกันมาก
เจียงซินหยูกระโดดไปรอบๆเสื้อผ้าชุดใหม่ เธอไม่เคยมีเสื้อผ้าสวยๆมากมายขนาดนี้มาก่อน