“คุณคิดว่าจะหนีจากฉันไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? ชิ ชิ คุณฮัน คุณประเมินฉันต่ำไปจริงๆ” “ฉันจะตามล่าคุณจนเจอ แม้ว่าคุณจะพยายามซ่อนตัวจากฉันสุดล่าฟ้าเขียวแค่ไหนก็ตาม” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย
“คุณคิดว่าจะหนีจากฉันไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? ชิ ชิ คุณฮัน คุณประเมินฉันต่ำไปจริงๆ” “ฉันจะตามล่าคุณจนเจอ แม้ว่าคุณจะพยายามซ่อนตัวจากฉันสุดล่าฟ้าเขียวแค่ไหนก็ตาม” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย
ฮันจื่อห่าวจ้องเธอด้วยใบหน้าน่ากลัว เขารวย หน้าตาดี และฉลาด คนอยากอยู่กับเขาแทบตาย แต่สาวน้อยคนนี้เรียกเขาว่าแก่? เขาดูแก่มุมไหน?
เขาเย้ยหยันเมื่อได้ยินคำพูดของเธอและยืนกอดอกจ้องเธอด้วยสีหน้ามืดมน
" คุณพูดอะไร?" เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
"-_-"
ชวี่หน่วนกระพริบตาเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา ฉันพูดอะไรผิด?
เธอสับสนและพยายามลำดับคำพูดในใจ เขาโกรธที่ฉันเอ่ยชื่อแฟนเขาไหม?
“คุณฮัน ฉันขอโทษที่ล่วงเกิน ฉันแค่พูดในสิ่งที่มีอ่านบนอินเทอร์เน็ต ฉันไม่สนใจที่จะสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่น ฉันไม่สนหรอกว่าคุณจะเดทกับใครหรือไม่ ฉันมีความสนใจเป็นศูนย์ในเรื่องนั้น ฉันแค่คิดว่าบ้านหลังนี้เป็นของ….” เธอยังคงพูดอย่างสนุกปากซึ่งทำให้เขาหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น
เขากัดฟันและพูดว่า "ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น คุณเรียกผมว่าแก่ไหม? ผมดูแก่เหรอ?" เขาตะโกนด้วยสีหน้ามืดมน
"-_-"
มีความเงียบยาวนานระหว่างพวกเขา เธอเม้มริมฝีปากและจ้องเขาด้วยท่าทางที่ไม่สามารถอธิบายได้
เธอไม่เคยคิดว่านักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่อย่างคุณฮันจะของขึ้นเมื่อถูกเรียกว่าแก่
เธอรู้สึกขบขันเมื่อเห็นปฏิกิริยาอันน่าทึ่งของเขา
ริมฝีปากของเธอขดขึ้นด้วยรอยยิ้มขณะที่เธอพยายามควบคุมตัวเองและไม่หัวเราะออกมาดังๆ สักพักเธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆ และกระแอมในลำคอ “อะแฮ่ม คุณฮัน คุณอายุ 29 ปี ส่วนฉันอายุยี่...21” เธอพูดติดอ่าง เธอเกือบจะบอกว่า 25
เธอพูดต่อ “ฉันหมายความว่า คุณอายุมากกว่าฉันแปดปี ในกรณีนี้ มันถูกต้องที่ฉันเรียกคุณว่าแก่กว่า ฉันผิดหรือ? แต่ถ้าคุณรู้สึกอาย ฉันจะไม่เรียกคุณ 'แก่'"
“ฉันรู้มันต้องน่าอายที่ยังโสดอยู่เมื่ออายุเท่านี้ เพราะหลายคนในวัยนี้แต่งงานแล้ว อย่างไรก็ตาม คุณฮัน ฉันแนะนำให้คุณตกลงกับแฟนเร็ว ๆ มิฉะนั้น คุณจะหาคู่ครองดีๆได้ยาก” เธอให้ความเห็นขณะโรยเกลือลงบนบาดแผลของเขา
ฮันจื่อห่าวกำหมัดของเขาและจ้องหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าเขา
“เธอ...ดูเหมือนเธอจะไม่หิวนะ ไปทำอาหารกินเองเถอะ ผมไม่ทำอาหารให้เด็กเหลือขอแบบเธอ” เขาโพล่งออกมาด้วยความโกรธและบอกให้เธอกลับบ้านไป
แม้จะกลัวเสียงเขาที่ระเบิดออกมา เธอหัวเราะคิกคักและเริ่มหัวเราะดัง
ฮันจื่อห่าวถูกสะกดด้วยพฤติกรรมของเธอเพราะโดยทั่วไปแล้วผู้คนจะกลัวเมื่อเขาตะโกนใส่ แต่เธอหัวเราะ? เธอไม่รู้สึกกลัวเขาบ้างเลยเหรอ?
“คุณฮัน ทำไมคุณถึงน่ารักขนาดนี้? ฉันแค่ล้อเล่น แน่นอนว่าคุณยังไม่แก่ อายุ 29 ปีไม่แก่เลย แถมคุณยังมีเสน่ห์ เป็นคนมีความสามารถมาก ฉันจะกล้าเรียกคุณว่าแก่ได้ยังไง?” เธอพูดหลังจากหยุดหัวเราะ
การแสดงออกของเธออ่อนลงเมื่อเธอจ้องมองเขาและพูดจริงจัง ไม่ได้ดูเหมือนล้อเล่น
ฮันจื่อห่าวตกตะลึงเมื่อเห็นทัศนคติของเธอเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
เขากระแอมเบา ๆ และหันหน้าหนี อย่างไรก็ตาม เขาหันไปหาเธออีกครั้งเมื่อนึกอะไรขึ้นได้
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมมีแมนชั่นอยู่ทางเหนือของเมือง?” เขาถามด้วยความสงสัย
เพราะข่าวนี้ไม่ใช่สิ่งที่ตีพิมพ์ในสื่อหรือนิตยสารธุรกิจใดๆ ไม่มีใครรู้ว่าเขามีแมนชั่นอยู่ทางเหนือของเมือง แล้วผู้หญิงคนนี้รู้เรื่องได้ยังไง?
ชวี่หน่วนกัดริมฝีปากล่างของเธอขณะที่ตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง เธอไม่ได้อ่านมันในบทความใด ๆ มันเป็นเพียง...ข้อมูลพื้นฐาน เธอค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมกับที่อยู่ของเขา
การหาที่อยู่ของเขาไม่ใช่เรื่องใหญ่ เธอไม่ได้ทำสิ่งนี้ด้วยเจตนาร้าย มันเป็นเพียงเพราะความอยากรู้
เธอตาโตขึ้นเมื่อไม่มีอะไรจะพูด
“เอ่อ...อ่า ฉันรู้สึกเวียนหัว” เธอยกมือขึ้นและจับศีรษะเบา ๆ ขณะที่ร่างกายของเธอโอนเอนในอากาศ
ฮันจื่อห่าวจับไหล่ของเธอเพื่อให้ความมั่นคง
“คุณ.. คุณโอเคไหม?” เขาถามด้วยความเป็นห่วงในขณะที่กอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ และทำเหมือนหายใจลำบาก “คุณฮัน ฉันรู้สึกไม่สบาย ฉันไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า คุณช่วยทําอาหารให้ฉันกินแล้วจะได้ยาได้ไหม? ไม่อย่างนั้นคุณต้องพาฉันไปโรงพยาบาลอีกครั้ง” เธอพูดขณะที่เขาช่วยเธอนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่น
เขาเม้มริมฝีปากเมื่อเห็นสภาพของเธอและไม่พูดอะไร เขายื่นแก้วน้ำให้เธอและเดินเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหาร
ริมฝีปากของเธองอขึ้นเมื่อเขาจากไป
'ว้าว เจียงเยว่ การแสดงของเธอพัฒนาขึ้นมากทีเดียว ไม่เลวๆ' เธอชมตัวเองหลังจากหลอกเขาได้สำเร็จ
เธอนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นและเห็นว่าเขาทำอาหารให้ทั้งสองคนได้เร็วและชำนาญเพียงใด เขาดูเย้ายวนอย่างยิ่งเมื่อยกแขนขึ้นและพับแขนเสื้อขึ้น และกระดุมเสื้อสองเม็ดถูกปลดออก
'เวลาทำอาหารทำไมเขาถึงได้ดูเซ็กซี่ขนาดนี้?' ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ของเธอถึงคลั่งไคล้พ่อของเธอมาก ผู้ชายที่ทำอาหารเป็น จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันและมีเสน่ห์
เธอนั่งบนโซฟาแกว่งขาในอากาศอย่างเกียจคร้าน เธอหรี่ตาเมื่อสังเกตเห็นบางอย่างบนโต๊ะกระจก
เธอเอนไปข้างหน้าและหยิบเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ
“มูลนิธิให้ชีวิต?” เธออ่านชื่อที่เขียนในไฟล์ออกมาดัง ๆ โดยไม่รู้ตัว