“คุณคิดว่าจะหนีจากฉันไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? ชิ ชิ คุณฮัน คุณประเมินฉันต่ำไปจริงๆ” “ฉันจะตามล่าคุณจนเจอ แม้ว่าคุณจะพยายามซ่อนตัวจากฉันสุดล่าฟ้าเขียวแค่ไหนก็ตาม” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย
“คุณคิดว่าจะหนีจากฉันไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? ชิ ชิ คุณฮัน คุณประเมินฉันต่ำไปจริงๆ” “ฉันจะตามล่าคุณจนเจอ แม้ว่าคุณจะพยายามซ่อนตัวจากฉันสุดล่าฟ้าเขียวแค่ไหนก็ตาม” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย
ชวี่หน่วนตอนนี้อายุ 21 ปีและในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เธอได้ประสบพบเจอกับพฤติกรรมบางอย่างของพ่อแม่ของเธอที่มีต่อเธอและกู้ชินเหริน
แม้จะเข้ามาอยู่ในครอบครัวแล้ว เธอไม่เคยได้สัมผัสความรักแบบครอบครัวเลย
เจียงเยว่รู้สึกแย่กับชวี่หน่วนเมื่อเธอมองผ่านความทรงจำของเธอในชาติที่แล้ว เธอออกจากบ้านเมื่ออายุได้ 18 ปี พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน และเธอไม่ต้องการต่อสู้เพื่อำนาจและมรดกในตระกูลเจียง
เธอออกจากบ้าน เธอเริ่มต้นการเดินทางในฐานะเด็กฝึกใน QY เอ็นเตอร์เทรนเม้นท์ และในไม่ช้าก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของวงเกิร์ลกรุ๊ปและกลายเป็นสมาชิกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวง
การเดินทางของเธอไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เธอภูมิใจในตัวเองที่ไม่ยอมแพ้และพิสูจน์คุณค่าของเธอให้โลกเห็น แม้ว่าเธอจะอยู่ในตระกูลนักธุรกิจที่ร่ำรวยและมั่งคั่ง เธอเริ่มได้รับความนิยมโดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว มันเป็นเพียงการทำงานหนักและความสามารถของเธอเท่านั่นที่นำเธอไปถึงตำแหน่งนี้ในอุตสาหกรรม
เธอพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าไม่จำเป็นต้องมีภูมิหลังทางครอบครัวหรือสถานะทางการเงินเพื่อให้บรรลุสถานะนี้ คุณสามารถเติบโตสู่ชื่อเสียงได้ตราบเท่าที่คุณมีความสามารถและมีความตั้งใจที่จะไม่ยอมแพ้ การทำงานหนักของคุณจะแสดงผลของมันในสักวันหนึ่ง
นั่นเป็นเหตุผลที่เธอสัมผัสได้ถึงการรักษาภาวะทดท้อใจของชวี่หน่วนที่เธอเห็นในครอบครัวกู้ แม้จะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย แต่แล้วเธอก็กลายเป็นแค่ลูกบุญธรรม
ไม่เพียงเท่านั้น แต่เธอยังได้เห็นพ่อแม่ของเธอให้ความรักกับกู้ชิงเหริน ขณะที่พวกเขาทำตัวอึดอัดใจเมื่ออยู่ใกล้ๆเธอ และปฏิบัติต่อเธอเหมือนเป็นคนนอก
“เธอมีชีวิตที่น่าหดหู่จริงๆ” เจียงเยว่บ่นขณะที่เธอรู้สึกไม่ดีต่อชวี่หน่วนและมากกว่านั้นสำหรับตัวเธอเอง
มันเป็นการทำงานหนักของเธอมาหลายปีกว่าจะมาถึงจุดนี้ในอาชีพการทำงาน แต่ตอนนี้เธอกลับมาอยู่ที่ศูนย์
เดี๋ยวนะ ไม่ใช่ศูนย์สิ มันแทบจะติดลบด้วยซ้ำ
' เฮ้อ'
"ปัง!" เธอตกใจเมื่อประตูห้องพยาบาลเปิดออกมาทันใด และมีร่างเพรียวบางเข้ามาในห้อง
หญิงสาวสวมชุดเดรสแขนกุดสีชมพูพาสเทล ผมสีดำสลวยๆของเธอก็ปล่อยลงมาบนไหล่
แม้ว่าหญิงสาวจะดูสวยและมีความรู้สึกไร้เดียงสาบนใบหน้าของเธอ แต่เจียงเยว่ก็ขมวดคิ้วเมื่อได้เห็นเธอ
มันคือกู้ชินเหริน เจ้าหญิงตัวปลอมของตระกูลกู้
อย่างไรก็ตาม นอกจากการเป็นเจ้าหญิงตัวปลอมแล้ว เธอมีอีกชื่อหนึ่ง เรียกว่าดอกบัวขาว
(ดอกบัวขาว ในนิยายใช้เรียกตัวอิจฉาที่ทำตัวใสซื่อไร้เดียงสา)
เจียงเยว่เม้มริมฝีปากและจ้องไปที่กู้ชินเหรินด้วยความเฉยเมย เธอยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงและไม่สนใจการมีตัวตนของกู้ชินเหรินในห้อง
ในทางกลับกัน กู้ชินเหรินขมวดคิ้วเมื่อไม่เห็นปฏิกิริยาใดๆบนใบหน้าของชวี่หน่วน ปกติแล้ว เธอมักจะทำตัวขี้ขลาดอยู่ตลอด แต่ตอนนี้เธอกำลังจ้องตาของเธอนิ่ง
เธอกระแอมในลำคอและเดินเข้าไปหาชวี่หน่วน “ฉันได้ยินจากหมอว่าเธอจำอะไรไม่ได้เลยถูกไหม?”
เจียงเยว่ขมวดคิ้วและจำได้ว่าหลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมาในห้องนี้เธอก็ได้รับความทรงจำของชวี่หน่วน
เธอเม้มปากไม่พูดอะไร
กู้ชินเหรินยิ้มเยาะและถามว่า “เธอกำลังแสดงละครอยู่ถูกไหม? เพื่อให้ได้รับความเห็นอกเห็นใจจากทุกคน? ชวี่หน่วน ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้ว เธอไม่มีค่าอะไรเลย”
"ในตระกูลกู้ ฉันคือเจ้าหญิง ในขณะที่เธอเป็นเพียงสมาชิกที่ไม่มีความสำคัญ พ่อแม่ของเธอไม่ได้มาเยี่ยมเธอเลยด้วยซ้ำในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ ตอนนี้เธอเห็นแล้วใช่ไหมว่าเธอมีค่ากับเขามากแค่ไหน” เธอเยาะเย้ยเมื่อสังเกตเห็นการแสดงออกที่ไม่แยแสของชวี่หน่วน
เมื่อได้ยินเสียงบางอย่างจากภายนอก เธอยืดตัวขึ้นและโยนเหยือกน้ำลงบนพื้น ทำให้น้ำในเหยือกทั้งหมดกระเซ้นเต็มพื้นหินอ่อน
เจียงเยว่หรือที่รู้จักกันในนามชวี่หน่วนจ้องมองกู้ชินเหรินด้วยความสนใจ ตัวร้ายนี่เล่นละครน่าสนใจแสดงตรงหน้าเลย
ประตูห้องพักโรงพยาบาลถูกผลักเปิดออกด้วยความบ้าคลั่งและพ่อแม่ที่แท้จริงของชวี่หน่วน หลินหรันและกู้จางเข้ามาในห้องอย่างเร่งรีบเมื่อได้ยินเสียง
พวกเขาเห็น ‘ลูกสาว’ กู้ชินเหรินของพวกเขาที่ชุดเปียกเล็กน้อยและน้ำก็กระจายเต็มพื้นพร้อมด้วยเศษแก้วที่ตกแตก
หลินหรันตะโกนด้วยความเป็นห่วง “ชินเหรินเกิดอะไรขึ้น? ลูกเจ็บตรงไหนไหม? มันเกิดขึ้นได้ยังไง?” เธอถามในขณะที่จับมือกู้ชินเหรินอย่างระแวดระวังและดึงตัวลูกสาวเข้าหาเธอ
"-_-"
ชวี่หน่วนเลิกคิ้วเมื่อเธอเห็นเรื่องประโลมโลกต่อหน้าต่อตา ลูกสาวของเธอนอนแบบอยู่บนเตียง แต่เธอไม่แม้แต่จะมอง ไม่มีความกังวลใดๆให้ลูกสาวเธอเลยเป็นไปไม่ได้
“แม่ค่ะ หนูสบายดี หนูแค่พยายามถามชวี่หน่วนเกี่ยวกับอาการป่วยของเธอ แต่ดูเหมือนเธอไม่ชอบที่หนูมาเยี่ยมเธอค่ะ หนูคิดว่าหนูควรกลับก่อน แม่พูดคุยกับเธอเลยนะคะ เพราะแม่เป็นพ่อแม่ที่แท้จริงของเธอ” ชินเหรินพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ขณะที่เช็ดน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริง
หลินหรันขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว เธอเหลือบมองชวี่หน่วนด้วยความไม่พอใจและพูดว่า “ชวี่หน่วน บอกกี่ครั้งแล้วว่าถึงเธอจะเป็นลูกสาวเรา ชินเหรินเป็นลูกสาวของเราเหมือนกัน”
"เธอแค่ยอมรับชินเหรินไม่ได้เหรอ? ชินหรันเป็นเด็กผู้หญิงที่น่าสงสาร เธอแค่ยอมรับชะตากรรมและก้าวต่อไปไม่ได้เชียวเหรอ? เราเป็นคนที่ตัดสินใจไม่ประกาศตัวตนของเธอให้โลกรู้เอง ต้องโหดร้ายกับพี่สาวเธอขนาดนี้ไหม?" หลินหรันรู้สึกแย่เมื่อเห็นน้ำตาในดวงตาของซินเหริน
กู้จางยืนอยู่ข้างๆและไม่พูดอะไร
ชวี่หน่วนเหลือบมองเขาแล้วหันไปหาหลินหรัน
"มันคือกู้หน่วน"
"เอ๊ะ?"
หลินหรันประหลาดใจเมื่อได้ยินคำตอบของชวี่หน่วน นี่เธอหมายความว่ายังไงกัน?
ชวี่หน่วนหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “มันเป็นกู้หน่วนไม่ใช่ชวี่หน่วน เชื่อมันหรือไม่...หนูเป็นลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลกู้ ในทางเทคนิคแล้วมันเป็นกู้หน่วน”
“นอกจากนี้ แม้ว่าคุณจะยืนยันที่จะเรียกหนูว่าลูกบุญธรรม มันก็ยังเป็นกู้หน่วน เพราะหลังจากการรับเป็นบุตรบุญธรรม หนูจะถูกเรียกว่ากู้ไม่ใช่ชวี่” เด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าใช้นามสกุลนำหน้าชื่อ เพราะเป็นนามสกุลของหัวหน้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
"-_-"
"-_-"
คำพูดของเธอทำให้ทุกคนตกตะลึง โดยเฉพาะหลินหรัน เธอมักจะมองชวี่หน่วนว่าเป็นเด็กสาวเงียบๆ ที่ไม่เคยตั้งคำถามใดๆ และทำในสิ่งที่เธอบอก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธออยู่ลำพังกับชินเหริน เธอมักจะทำตัวสำรวยและรักแกชินเหริน นั่นเป็นเหตุผลที่เธอรู้สึกว่าชวี่หน่วนกลายเป็นคนชั่วและหยาบคายในขณะที่อาศัยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ชวี่หน่วนพูดแบบนี้ต่อหน้าเธอ เธอมักจะเรียกหล่อนว่าชวี่หน่วนและไม่เคยสนใจที่จะเรียกหล่อนว่ากู้หน่วน เพราะเธอไม่เคยเชื่อว่าเด็กสาวคนนี้คือกู้
ชวี่หน่วนหัวช้าในเรื่องเรียนตั้งแต่เธอยังเด็กและไม่ได้เข้าเรียนในวิทยาลัยเพราะผลการเรียนไม่ดีของเธอ แม้จะมาอาศัยอยู่ที่ตระกูลกู้แล้วก็ตาม ผลการเรียนของเธอก็ไม่ดีขึ้น และเธอก็สอบเข้าวิทยาลัยดีๆไม่ได้
นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่ชอบชวี่หน่วน อีกด้านหนึ่ง กู้ชินเหรินไม่เพียงแต่สวย แต่เธอฉลาดและสง่างามเหมือนกับเธอ ทุกคนยกย่องชินเหรินสำหรับความฉลาดว่าได้เธอมา แต่เธอรู้สึกละอายที่จะแนะนะชวี่หน่วนว่าเป็นลูกสาวของเธอ