Your Wishlist

เกิดใหม่ยอดหญิงนักธุรกิจ (Chapter 19: ทำไมหนูต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะคะ?)

Author: AKS Team แปล

ชีวิตในชาติก่อน เธอถูกทำให้อับอายและถูกรังแกทุกวัน ญาติพี่น้องดูถูก เพื่อน ๆ ก็เล่นตลกกับเธอ! แม่และพี่ชายเสียชีวิตทีละคนก่อนวัยอันควร เธอจำเป็นต้องกัดฟันสู้และเอาชีวิตรอดจากความทุกข์ยากเพียงลำพัง แต่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เพียง 26 ปีเท่านั้น! เมื่อเธอลืมตาอีกครั้ง เธอพบว่าตัวเองย้อนเวลากลับไปเมื่อยี่สิบปีก่อน เธอควรกล้ำกลืนคำดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างเงียบๆ และปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอย่างนั้นหรือ? หากไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงได้ เธอจะเกิดใหม่ไปเพื่ออะไร! เธอขอท้าทายโชคชะตาด้วยตัวเองอีกครั้ง ต่อหน้าคนอื่น เธอเป็นนักเรียนธรรมดาที่มีบุคลิกเฉยเมย โดดเดี่ยว ไม่แยแสใคร เธอทำงานทีละขั้นตอนเพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจที่ยอดเยี่ยมและไม่ธรรมดา

จำนวนตอน : N/A

Chapter 19: ทำไมหนูต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะคะ?

  • 24/10/2564

Translator: AKS Team

 

เสียงแหลมของหลิวชุนเซี่ยบาดหูคนฟัง ทุกคนขมวดคิ้วตามสัญชาตญาณ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีความประทับใจที่ดีต่อแม่ของหลี่หยุนเหม่ย ผู้หญิงคนนี้จัดฉากให้หลี่หยุนเหม่ยดูบาดเจ็บหนัก ทว่าไม่สามารถกระตุ้นความเห็นใจของใครได้

 

ทางด้านหลี่หยุนเหม่ยที่นั่งบนรถเข็น ทำหน้ารู้สึกผิด เธอแสดงได้ดี

 

“คุณหลิว ในเมื่อนักเรียนเจียนอ้ายก็อยู่ที่นี่แล้ว มันก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าโรงเรียนของเรากำลังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด” ในขณะนั้นครูใหญ่ ‘ซุนป๋อโหยว’ เดินไปข้างหน้าและพูดกับแม่ของหลี่หยุนเหม่ย “พวกเราทุกคนรู้ว่าคุณรู้สึกแย่ แต่ในเมื่อเป็นเหตุการณ์ที่นักเรียนได้รับบาดเจ็บ ในฐานะโรงเรียน เราจะชี้แจงเรื่องนี้อย่างแน่นอน หากโรงเรียนของเราละเลยต่อหน้าที่ พวกเราก็หนีไม่พ้นความผิดนี้ ส่วนนักเรียนเจียนอ้าย หากมันเป็นความผิดของเธอ ทางเราจะลงโทษเธออย่างแน่นอน และจะให้คำอธิบายที่น่าพอใจแก่คุณ”

 

คำพูดของครูใหญ่ซุนนั้นยุติธรรมและเป็นกลาง ในฐานะครูใหญ่ของเอ้อจง เขามีความชอบธรรมที่มองไม่เห็นซึ่งทำให้ผู้คนไม่กล้าที่จะดูหมิ่น

 

ได้ยินเช่นนั้น หลิวชุนเซี่ยก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และจ้องเจียนอ้ายด้วยสายตาดุร้าย เธอพูดว่า “ก็ได้ แต่ว่าฉันอยากฟังคำอธิบายของเธอ โรงพยาบาลพิสูจน์อาการบาดเจ็บของลูกสาวฉันแล้ว เธอจะปฏิเสธยังไง?”

 

เมื่อเห็นว่าในที่สุดหลิวชุนเซี่ยก็หยุดตะโกน ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ครูใหญ่ซุนมองผ่านครูหลี่ไปที่เจียนอ้าย เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “นักเรียนเจียนอ้ายใช่ไหม? บอกพวกเราว่าทีสิว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับหลี่หยุนเหม่ยหลังเลิกเรียนเมื่อวานนี้ พวกเธอตบตีกันรึเปล่า? ขาของหลี่หยุนเหม่ยได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร?”

 

“บอกครูใหญ่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ไม่ต้องกลัว” ครูหลี่ไม่ลืมให้กำลังใจเจียนอ้าย

 

เจียนอ้ายพยักหน้า เธอเดินออกมาจากด้านหลังครูหลี่ขึ้นมาข้างหน้า ร่างกายเล็กกะทัดรัดของเธอตั้งตร

 

“หลังจากเลิกเรียนเมื่อวานนี้ กวนเตากับหนูกำลังจะเดินไปขึ้นรถบัสเพื่อกลับบ้าน....”

 

ความทรงจำเมื่อวานยังกระจ่างชัดเจน เธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ได้อย่างคล่องแคล่ว น้ำเสียงของเธอราบเรียบราวกับว่าเธอกำลังเล่าเรื่องของคนอื่น

 

ประโยคสุดท้าย เจียนอ้ายก็ไม่ลืมที่จะพูดเสริมว่า “อาการบาดเจ็บของหลี่หยุนเหม่ยเกิดจากการเตะของเธอเอง ถ้าเธอไม่ออกแรงมาก เธอจะได้รับบาดเจ็ดขนาดนี้ได้ยังไงคะ? ถ้าตอนนั้นหนูไม่ได้หลบตามสัญชาตญาณ คงจะเป็นหนูที่ต้องนอนในโรงพยาบาลในวันนี้”

 

“เหลวไหล!”

 

หลี่หยุนเหม่ยอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกเมื่อ เธอตะโกนใส่เจียนอ้ายด้วยใบหน้าแดงเข้ม

 

 “เจียนอ้ายไม่พูดเหลวไหล หลี่หยุนเหม่ย เรื่องเมื่อวานนี้เป็นเธอที่เป็นคนเริ่มก่อนนะ” กวนเตาที่ยืนอยู่ด้านข้างรีบเอ่ยปากเป็นพยานให้เจียนอ้าย

 

“อายุแค่นี้ก็อำมหิตขนาดนี้แล้วเหรอ? เธอไม่รู้สึกผิดเลยรึไงที่ทุบตีเพื่อนร่วมห้องแบบนั้น?!” หลิวชุนเซี่ยไม่เชื่อเจียนอ้าย ลูกสาวของเธอบอกว่าเจียนอ้ายเป็นคนก่อเรื่อง

 

“รู้สึกผิด? ทำไมหนูต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะคะ?” เจียนอ้ายไม่สนใจแม่ของหลี่หยุนเหม่ยแม้แต่น้อย เธอพูดช้าๆ ว่า “มันเหมือนกับว่าจู่ๆ หมูก็วิ่งเข้าหาหนูอย่างสุดกำลัง ในฐานะคนปกติ หนูก็ต้องหลบเลี่ยงตามสัญชาตญาณอยู่แล้ว จากนั้นหมูตัวนั้นก็ชนต้นไม้เอง หนูจะต้องถูกตำหนิงั้นเหรอคะ? หนูต้องรู้สึกผิดต่อหมูด้วยหรือเปล่า?”

 

 

ทุกวัน
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป