Your Wishlist

Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (nc18+) (บทที่ 84 : มิวท์อย่างโหด)

Author: L.sunanta

ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน

จำนวนตอน :

บทที่ 84 : มิวท์อย่างโหด

  • 29/12/2564

ความตรึงเครียดทวีความรุนแรง เมื่อเสียงปืนดังขึ้นไม่ว่าจะเป็นจากแห่งหนตำบลไหนก็ย่อมเรียกร้องความสนใจได้เสมอ รถเก๋งคันงามจอดในองศาที่ผิดสังเกต คนในรถสาดกระสุนออกมาด้วยความบ้าระห่ำ หนำซ้ำยังมีผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์เข้ามารุมสกรัมทำร้าย สถานการณ์เช่นนี้มีหรือกลุ่มแคลนผู้อยู่รอดที่แทรกซึมอยู่ตามจุดต่างๆ จะไม่เห็นโอกาส

.

ตามซอกตึกและมุมมืดในละแวก เหล่าประชาชนผู้มีชีวิตรอดต่างโหยหาต่อสิ่งนี้มาตลอด มองปราดเดียวพวกเขาก็รู้แล้วว่ายานยนต์ล้อฟรีคันดังกล่าวคือยนตรกรรมของพวกAP บริษัทเอกชนส้นตีนที่ทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงจนถึงขั้นวิกฤตอย่างที่เป็นอยู่ ด้วยอาวุธที่พวกชุดดำใช้ตอบโต้ออกมา ยุทโธปกรณ์ทรงคุณค่าเหล่านี้จะช่วยแคลนต่างๆ ได้มากถ้าย้ายตัวเองมาอยู่ในการครอบครองของพวกเขา

.

ประกอบกับความเกลียดชังที่มีต่อเจ้าหน้าที่อยู่เก่าก่อน เห็นคนของ AP โดนถล่มหนัก กลุ่มชาวเมืองที่หลบซ่อนจึงมีแต่ความสะใจและออกมาผสมโรงรุมสกรัมช่วยกันให้พรึบ! กลายเป็นการปะทะกันระหว่างคนหลายฝ่ายที่ต่างก็มีจุดยืนเป็นของตัวเอง ซอมบี้ผู้ติดเชื้ออยากจะกินเนื้อมนุษย์ , คนชุดดำอยากจะรีบไปช่วยคน , ในขณะที่อีกฝั่งก็จ้องจะปล้นสดมป์

.

มิวท์ที่ตาลีตาเหลือกอยู่ในรถจึงร้องอุทานขึ้น

.

“ไม่ไหวแล้วพี่…หนูขอออกไปก่อนนะ มีคนลงมาเติมมิหยุดหย่อนเลย!”

เธอพูดไปพลางคลานต่ำออกจากรถทางประตูด้านหลัง สอดคล้องกับคนในทีมที่ก็เห็นพ้องต้องกัน

.

“รีบเลยครับคุณมิวท์ เราอาจจะต้านไว้ได้ไม่นานปริมาณเราเสียเปรียบ ฝากภารกิจที่เหลือด้วยนะครับ”

.

“ปังๆๆๆ , ปังๆๆๆๆ , ปังๆๆๆๆๆ”

.

ปลายกระบอกปื้นร้อนฉ่า พวกเขาทำได้เพียงสอดปืนออกมาผ่านช่องว่างใต้กระจก แต่ดวงหน้านั้นกลับถูกตะปบจนแหว่งไปครึ่งซีก! ส่วนอีกคนก็โดนทั้งก้อนหินแล้วก็ไม้เบสบอลกระหน่ำฟาดเข้ามาจากทางนอกรถ ประตูด้านข้างคนขับถูกกระชากออก อาวุธที่อุตส่าห์ขนมาก็เลยโดนปล้นไปเกือบหมดสิ้น

.

และแม้ว่านี่จะไม่ใช่แผนที่ซ้อมกันมาก่อน แต่ก็นับว่าเป็นทีมเวิร์คชั้นเยื่ยมที่มนุษย์ปกติกับผู้ติดเชื้อได้กระทำร่วมกันแบบมีนัยยะ มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมากๆ ถึงสุดท้ายแล้วจุดจบของเรื่องจะเป็นการตายของทหารรับจ้างจำนวน 3 นาย แล้วอาวุธอันทรงอานุภาพของพวกเขาก็ได้ไปตกอยู่ในมือของกลุ่มผู้อยู่รอด แต่ก็เป็นผู้อยู่รอดเองนั่นแหละที่ใช้สรรพวุธดังกล่าวจัดการกับกลุ่มผู้กลายพันธุ์ในคราบของพนักงานเก็บขยะได้สำเร็จ

.

“ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง!”

.

ศพกระจายเกลื่อนกลาด เลือดเจิ่งนองเต็มพื้น มิหนำซ้ำแต่ละศพยังถูกราดรดด้วยน้ำมันเบนซินและจุดไฟเผากันสดๆ ณ เดี๋ยวนั้นเลย! เพื่อเป็นการยับยั้งการระบาดของเชื้อโควิด-19

.

มิวท์เห็นสิ่งนี้กับตาตัวเอง มาอย่างหงส์แต่ลงอย่างเหี้ย! คือสำนวนเปรียบเปรยที่เหมาะกับเธอเป็นที่สุด เหมือนทุกอย่างมันจะกลับตาลปัตร เผลอแป๊บเดียวจากจะไปช่วยเขามิวท์กลับต้องกลายเป็นคนซุ่มหนีและเอาตัวรอดแทนซะอย่างงั้น

.

“ให้ตายเถอะ! นี่เล่นเผากันเถื่อนๆ กลางถนนอย่างงี้เลยหรอ?”

“โหดร้ายที่สุด… บ้านเมืองเรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง?”

เธอคิดในใจ ในขณะที่สองขาก็ก้าวคร่อมขึ้นไปบนอานมอเตอร์ไซต์ของใครสักคนที่จอดอยู่แถวนั้น มันน่าจะกำพร้าเจ้าของหรือไม่เจ้าของก็คงจะเป็นหนึ่งในสมาชิกศพที่ไฟกำลังลุกท่วม

.

ไม่รู้ล่ะเห็นมีกุญแจเสียบอยู่ นาทีนี้การสละชีพของทหารรับจ้างทั้ง 3 อาจจะไม่คุ้มค่า ถ้าเธอสานต่อภารกิจที่ตัวเองเป็นต้นหนไม่ลุล่วง

.

การแว๊นมอเตอร์ไซต์ครั้งที่สองของชีวิตจึงบังเกิด ครั้งแรกน่าจะตอนอายุ 15 เพราะโดนทางบ้านหลอกว่าถ้าไม่ทำใบขับขี่มอเตอร์ไซต์ก่อนก็จะออกของรถยนต์ไม่ได้ แล้วหลังจากนั้นมาคุณหนูมิวท์ก็แทบจะไม่เคยนั่งซ้อนมอเตอร์ไซต์ให้สายลมกระซาบผิวสวยอีกเลย

.

“เช๊อะ!…ก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่นี่นา ดีซะอีกเพราะเราจะลัดไปออกที่ถนนอีกฟากทำให้ถึงหอวัคซีนได้เร็วขึ้น”

.

การขับขี่ดูมีแววกว่าที่คิด พอเอาจริงขึ้นมาแม้แต่เสื้อผ้าหน้าผมสุดทะมัดทะแมงก็แทบจะกลืนไปกับพฤติกรรม ยิ่งไปกว่านั้นมิวท์ยังสามารถปล่อยมือออกข้างหนึ่ง แล้วควักเอาปืนกลมือ SMG Sig Sauer ที่สะพายอยู่ข้างเอวขึ้นมายิงขู่ขึ้นฟ้าเพื่อเปิดทางจากกลุ่มคนผู้อยู่รอดที่ดักอยู่ตามมุมตึกได้อีกด้วย

.

“แว๊นนนน!!!ๆๆๆ , แว๊นนนน!!!!”

.

“กรุณาหลีกทางด้วยค่ะ ฉันไม่มีเวลาแล้วนะ อย่าให้ทุกอย่างมันเลวร้ายมากไปกว่านี้เลย”

.

“ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! ,ปัง! , ปัง! ,ปัง! , ปัง!”

.

ลงเอยสุดท้ายด้วยการยกล้อกระโดดจั๊มพ์เนินราวกับนักกายกรรม ลอยมันทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะคอนโทรลรถตอนลงสู่พื้นได้ไหม รู้แต่ว่าชั่วขณะจิตที่รถมอเตอร์ไซต์ลอยขึ้นสูงจากพื้น มิวท์มองเห็นแต่เพียงถนนคอนกรีตเบื้องล่าง กับหลังคารถยนต์ที่จอดระเกะระกะสนิมเขรอะอยู่เต็มท้องถนน

.

ด้านหลังเธอคือซอกตึกแคบๆ ที่โผทะยานออกมา ส่วนด้านหน้าคือป้ายโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง และถัดจากป้ายเข้าไปอีก 2 - 3 ช่วงตึกนั่นแหละคือที่อยู่ของหอผลิตวัคซีน สถานที่ๆ เธอต้องรีบเข้าไปยุติเรื่องทุกอย่างให้เร็วที่สุด

.

“โครมมมมมมมม!!!!”

.

เทกระจาดช่างหัวพ่อหัวแม่ง! ลำตัวบอบบางสไลด์ครูดไปกับพื้นปูนลานซีเมนต์ ก่อนจะสปริงตัวลุกขึ้นวิ่งต่อไปได้อย่างหน้าตาเฉย ราวกับการล้มเมื่อครู่เป็นทักษะการล้มของ “มาคอส อลอนโซ่” แชมป์โลกมอเตอร์ไซต์ MOTOR GP จากประเทศสเปนก็มิปาน แจ็คเก็ตหนังช่วยเซฟมิวท์เอาไว้ ผนวกกับเจ้าหล่อนเองก็รีบเกินไปจนไม่รู้สึกรู้สาถึงความเจ็บปวดแสบชาที่จะไล่ตามทันในภายหลัง

.

“ถึงแล้วข้างหน้านี่เอง กำลังนัวกันอยู่เลย!”

.

พูดไม่พูดเปล่าพานท้ายปืน SMG ยังประทับเข้าสู่ร่องไหล่พรั่งพร้อม ใส่แมกกาซีนตบคันรั้งเข้าที่ ต่อด้วยการแตะปลายนิ้วลงที่ขมับเพื่อเปลี่ยนโหมดหน้ากากครอบแก้วให้เข้าสู่โหมดจู่โจม

.

แผนที่ต่างๆ นาๆ และแผนการรบที่ชายชุดดำให้มาถูกเนรมิตขึ้นตรงหน้า มิหนำซ้ำยังได้ยินเสียงวิทยุจากหน่วยหน้าที่ส่งสัญญาณเข้ามาในหูด้วย ว่าแต่นี้ต่อไปให้มิวท์เป็นคนออกคำสั่งแทนทั้งหมด

.

“ครืดดดด…ด…ด…ด…ด คุณมิวท์มาถึงแล้วเหรอครับ ครืด…ด…ด…ด ได้ยินไหมครับ ทราบแล้วเปลี่ยน!!”

.

“ครืดดดดด…ด…ด…ด…ด”

.

“ไม่ค่อยชัดค่ะ…แต่ยังได้ยินอยู่ ทุกคนคงรู้แล้วว่าระหว่างทางเกิดอะไรขึ้น เอาอย่างงี้นะทุกคน! ไม่ต้องเชื่อฟังฉัน แต่ให้ด้นสดไปเลย! ภารกิจนี้ไม่มีอะไรมากเราโฟกัสแค่เด็กๆ ที่เป็นจุดสีฟ้าในแผนที่ก็พอ พวกเขาอยู่ส่วนในสุดของโถงทางเดิน ลุยเข้าไปในนั้นฆ่าผู้ติดเชื้อทุกคนแล้วเอาเด็กไปไว้ที่เซฟเฮาส์ ฉันจะอัปโหลดแผนที่ให้…”

.

“ไม่รักษาพวกเขาเหรอครับ…? เราอาจจะยังจับเป็นได้! กระสุนปืนเร็วพอสำหรับพวกมัน ถ้ายิงที่ขาเพื่อสะกัดการวิ่งไว้ล่ะก็…”

.

“ไม่ต้องค่ะพี่! ไม่มีใครรักษาใครได้อีกแล้ว! ถ้าจะรักษาก็มีอยู่ทางเดียวคือต้องเอาพวกเด็กๆ ออกมาอย่าให้พวกเขาถูกแพร่เชื้อใส่!!! แล้วเราจะจบภารกิจนี้ด้วยระเบิด C4 ทำลายหอวัคซีนแห่งนี้ไปพร้อมกับพวกเขาซะ!”

“เท่านี้ล่ะค่ะ…แยกย้ายได้! ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง!”

.

“ครับผม! , Yes madam , Let'go go! go! go! go! go!”

.

สารพัดเสียงตอบรับผ่านวิทยุจากชายฉกรรจ์นับสิบ พวกเขาสมกับได้ชื่อว่าเป็นทหารรับจ้างจริงๆ เพราะต่อให้คนสั่งจะเป็นผู้หญิงแต่ก็ยังทำหน้าที่ได้อย่างเต็มศักยภาพ ไม่มีอิดออดโอดโอยสักแอะ ต่างก็พากันวิ่งกรูเข้าไปด้านในพร้อมกับลั่นกระสุนไปตลอดเส้นทาง โดยมีมิวท์วิ่งตามเข้าไปเป็นคนสุดท้าย

.

เสียงร้องคำรามของผู้ติดเชื้อดังแทรกออกมาแทบจะตลอดเวลา มิวท์ไม่มีที่จะให้กลัวอีกแล้วลุยมาขนาดนี้แล้วยังไงก็ต้องไปให้สุด จุดสีฟ้ากับจุดสีแดงในแผนที่บนหน้ากากทยอยหายไปทีละจุด ทุกดวงไฟที่มอดดับคือชีวิตหนึ่งชีวิต คือสามี คือญาติพี่น้องของใครต่อใครที่ต้องสูญเสีย

.

มันจะไม่มากไปกว่านี้มันจะจบกันแค่นี้และมิวท์นี่แหละที่จะเป็นคนหยุดการระบาดไว้ที่หอวัคซีนแห่งนี้เอง

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า