ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
ภาพในหัวคิดถึงแต่ตัวเอง บุคลิกแบบนี้ท่าทางห้าวเป้งยอมหักไม่ยอมงอ แพรวแทบจะเห็นเจนิสเป็นตัวของเธอเองเมื่อตอนเป็นเด็ก! ตานิดจมูกหน่อยผมสั้นปะบ่าแววตามุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว แถมยังรักเพื่อนพ้องเอามากๆ โกรธไม่ลงบอกตรงๆ! เจนิสยังเด็กและคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าอย่างเธอ ก็จำเป็นเหลือเกินที่จะต้องสอนให้น้องเข้าใจในสถานการณ์ที่เป็นอยู่
.
แพรวเตะกระป๋องก๊าซตกระเบียงอาคารไปหน้าตาเฉย!
.
“แกร๊งงงงง!!!”
.
สร้างความมึนงงให้แก่ทุกคนโดยรอบ ก่อนที่เธอจะตะเบ็งเสียงเป็นคำสั่งออกมา
.
“แยกย้ายกันไปนอนได้แล้ว… ยกเว้นเธอเจนิส! ตามฉันมา! ถ้าไม่แสดงตัวอย่างให้เห็นเธอก็จะเถียงฉันอยู่แบบนี้ไม่จบไม่สิ้น! ไม่เชื่อฉันก็ได้! แต่จงเชื่อสายตาตัวเองโอเค๊??!!”
.
คนที่เครียดกับกลายเป็นเพื่อนๆ พวกหล่อนเป่าปากพรูไม่สบายใจ กลุ่มเพื่อนสาววัยใสต่างสืบเท้าถอยห่างออกมา พลางจ้องมองเจนิสกับแพรว ที่กำลังเดินลับตาออกไปด้วยความเป็นห่วง
.
“แกว่าพี่เค้าจะพาเจนิสไปไหนวะ?”
.
“ไม่รู้ดิ… ข้างล่างมั้ง? หวังว่าคงไม่โดนจับไปอีกนะ ถนนข้างนอกไม่น่าไว้ใจเลย แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี”
.
เป็นประโยคกระซิบที่เคลือบความกังวลไว้สูงมาก เหลือกันอยู่แค่นี้แค่ 4 ชีวิต! กลุ่มเด็กหลงทางล้วนไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว กว่าพวกเขาจะหาแคลนและสังคมผู้รอดชีวิต ที่ท่าทางมั่นคงขนาดนี้ได้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย! พวกเธอจึงได้แต่หวังว่าเจนิสจะยอมสงบปากสงบคำลง และหวังว่าสิ่งที่แพรวพาไปดูนั้น จะมีน้ำหนักพอให้เกิดการโน้มน้าวใจ
.
.
สองขาก้าวย่างลงบันไดเลื่อนที่ไม่มีแม้แต่ไฟฟ้าหล่อเลี้ยง อุปกรณ์ทุกชิ้นที่นี่อยู่ในสภาพเก่าเขรอะและง่อนแง่นเจียนอยู่เจียนไปเต็มที ดูทรงแล้วให้เต็มที่ก็คงอยู่ได้อีกไม่เกินสิ้นเดือน ทว่าแพรวก็ยังตั้งใจจะนำทางน้องด้วยการเดินลงมาต่อ ระหว่างนั้นแพรวยังได้ถามถึงที่มาที่ไป ของกลุ่มเด็กมัธยมว่าเดินทางมาจากไหน? , มีเป้าหมายอะไร? , เมืองหลวงในตอนนี้อันตรายจะตาย มันไม่ใช่ที่ๆ เด็กๆ จะออกมาเดินเตร็ดเตร่เช่นนี้เลย
.
“ไง? ตอบฉันมาสิ…ก่อนที่เราจะลงไปถึงชั้นล่าง? "
แพรวตวาดใส่แบบไม่หันมอง สวนทางกับเจนิสที่ถึงกับต้องกระชับฝ่ามือลงบนราวจับบันไดเลื่อน ยึดแน่น!
.
“กึก!”
.
“ไม่เหลือแล้วค่ะพี่… ทุกคนตายหมดแล้ว… พวกเราล้วนแต่บ้านแตก… ทุกคน… ไม่เหลือ… ไม่เหลืออะไรเลย..”
.
ทว่าแทนที่แพรวจะอึ้งหรือสลดใจตามมาตรฐานของสามัญชนคนทั่วไป เธอกลับเลือกที่จะยักไหล่ให้ พลางแสยะยิ้มออกมาแทน
.
“หึ…ก็นะ! ฉันถึงได้บอกไงว่าข้างนอกมันอันตราย! ทีนี้รู้รึยังล่ะว่าก๊าซที่ฉันให้มันจำเป็นแค่ไหน! มันไม่ใช่ยารักษาโรคก็จริง แต่มันจะทำให้พวกเธอไม่ติดเชื้อไปสักระยะ… ถ้าไม่อยากตายเหมือนคนที่รักก็ควรจะรับไว้… ซึ่งเธอก็ปฏิเสธ?!”
หัวหน้าแคลนประชดประชันราวกับตัวเองเป็นนางเอกละคร แพรวยังคงก้าวเดินต่อไปแบบเนิบช้า จนกระทั่งลงมาถึงชั้นหนึ่งซึ่งมีลักษณะเป็นห้องโถงกว้างๆ พื้นกระเบื้องแตกระแหง มีเสาซีเมนต์คำยันสถานีหลายต้นแต่ก็ผุพังเต็มที กระจกที่แต่ก่อนเคยกั้นไว้เป็นผนัง บัดนี้แตกกระจายเกลื่อนทุกทิศทุกทาง! บริเวณดังกล่าวจึงกลายเป็นพื้นที่ๆ เปิดโล่งและมีเพียงห้องซ่อมบำรุงเล็กๆ ตั้งอยู่ตรงหัวมุมเท่านั้น! ถัดจากมันออกไปก็เป็นถนนด้านนอกแล้ว ถนนหนทางที่เพิ่งถูกใช้เป็นสมรภูมิรบไปเมื่อครู่!
.
ไม่รอช้าให้เสียเวลา แพรวนำทางเจนิสให้ก้าวพ้นชายคาออกมา แล้วจึงหยุดฝีเท้าลง!
.
“กึก!!!”
.
“พี่ต้องการจะสื่ออะไรกับหนูกันแน่! ข้างนอกอีกแล้ว?! หรือพี่จะหลอกหนูออกมาแล้วขับไล่ออกจากแคลน!!! , หนูไปก็ได้พี่!!! เพราะเท่าที่เห็นพี่ก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรเลย เป็นหัวหน้าได้ไงก็ไม่รู้?! หนูกับเพื่อนไปหาที่อยู่ใหม่ก็ได้ไม่เห็นต้องง้อ!!”
เจนิสบ่นอุบ เธอก็ยังเป็นเธอยังคงเถียงฉอดๆ ราวกับลืมไปแล้วว่าผ้าพันแผลบนหัวตัวเองนั้นใครเป็นคนพันให้ แพรวจึงต้องโต้กลับ แต่ใช้น้ำเสียงที่ซอร์ฟกว่าจนฟังดูเยือกเย็นน่ากลัวเลยทีเดียว
.
“ก็ถูกของเธอ… พี่ไม่ได้มีความสามารถอะไรเหนือกว่าชาวบ้านเขาหรอก ก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง , ใช้อาวุธก็ไม่คล่อง , ความเป็นผู้นำก็ไม่มี , แต่พี่ดันมีอาวุธเป็นการเจรจาต่อรองน่ะสิ! พี่มีปากที่ช่วยพวกเราไว้ได้หลายครั้งหลายครา… รวมไปถึงเมื่อกี้นี้ด้วย ในกรณีของน้อง!”
นิ้วชี้เล็กเรียวชี้ขึ้นไปข้างบน ในทิศ 12 นาฬืกาเฉียงขึ้นบน 45 องศา เผยให้เจนิสเห็นถึงป้ายไฟ LED ขนาดใหญ่ยักษ์ ที่ปัจุบันดับแสงไปเป็นที่เรียบร้อย! มีรอยแตกร้าวเป็นรูโหว่จำนวนมาก แถมยังหักพับครึ่งโค้งลงมาเป็นมุมหลังคาให้ใช้กันแดดกันฝน!
.
ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น! หากแต่เป็นภาพของ “เปรม” และ “มิวท์” ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์คู่กันอยู่บนป้าย LED ชำรุดนี้ต่างหาก!
.
แพรวเริ่มพูดต่อ
.
“สองคนนั้นคือ “อดีต” เพื่อนสนิทของพี่เอง… ถ้าไม่ใช่เพราะพี่เอาสิทธิ์ตรงนี้มาอ้าง พวกทีมงานล่ากระเทยคงจัดการกับแคลนเราไปนานแล้ว! พวกเราคงถูกกวาดต้อนไปรีดเลือดกันหมด คนที่ยังไม่เป็นกระเทยก็คงจะถูกจับไปผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรท์ให้เป็นกระเทย เพราะงั้นเธอจึงต้องอยู่กับพี่! เชื่อฟังพี่แล้วพวกเธอจะปลอดภัย!”
.
เจนิสรีบส่ายหน้า! เธอแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน คนแบบแพรวเนี่ยะนะ!? มองมุมไหนก็ไม่ใกล้เคียงกับฐานันดรของสองคนที่อยู่ในรูปเลยสักนิด!
.
“พี่ล้อหนูเล่นเปล่าเนี่ยะ? นั่นน่ะคุณเปรมเจ้าของสิทธิบัตรก๊าซ กับ คุณมิวท์แห่งบริษัท AP เชียวนะ! ถ้าเขารู้จักพี่จริงเขาก็ต้องเอาพี่ไปอยู่ด้วยสิ จะปล่อยให้พี่กับคนอื่นๆ มานอนข้างถนนหวิดจะติดเชื้อแบบนี้ทำไม? มันไม่สมเหตุสมผลเลย?”
“แล้วอีกอย่าง! ทำไมถึงใช้คำว่า “อดีตเพื่อน” ด้วยล่ะ…ทะเลาะกันหรอ? คงต้องทะเลาะแรงมากสินะถึงวงแตกขนาดนี้ แต่ถึงกระนั้นพี่ก็ยังเป็นลูกค้าที่ใช้ก๊าซอัดกระป๋องของพวกเขาอยู่ดี โน่น! กระป๋องก๊าซที่พี่เพิ่งเตะลงมา ยังกลิ้งอยู่ตรงโน้นอยู่เลย ยังไม่นับหน้ากากครอบแก้วของบริษัท AP ที่หนูเองก็เห็นหลายๆ คนใส่อยู่!”
.
นิ่งไปในชั่วขณะจิต แพรวยอมจำนนต่อหลักฐานและเลี่ยงที่จะเล่าที่มาที่ไปอันแสนโสมมให้น้องฟัง พลันหันมาให้ความสำคัญกับการรั้งตัวเด็กมัธยมอย่างเจนนิสและเพื่อนๆ เอาไว้แทน เธอบอกกับน้องว่าที่ทำไปก็เพราะเป็นห่วง… การใช้ก๊าซป้องกันจะทำให้พวกเด็กๆ ปลอดภัยได้ดีที่สุด แม้จะได้แค่ระยะเวลาสั้นๆ แต่เด็กอย่างพวกเธอย่อมมีความเสี่ยงสูงที่จะโดนจับตัว
.
มีข่าวลือเข้ามาสักพักแล้วว่าเทคโนโลยีของ AP นั้นสามารถแปลงคนให้เป็นกระเทยได้ เด็กที่ยังไม่รู้เดียงสาหรือเด็กวัยรุ่นที่ยังต้องใช้เวลาค้นหัวตัวตน จึงเข้าข่ายอันตราย! แพรวสังหรณ์ใจมาสักระยะแล้วว่าถ้ากระเทยหมดไปจากเมืองหลวง พวกพี่เปรมจะไปหาวัตถุดิบที่ไหนมาผลิตเป็นก๊าซ? ซึ่งพอคิดแบบนี้คำตอบมันก็จะลงล็อคพอดี! เด็กและเยาวชนนี่แหละ! ที่จะเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่จะโดนจับตัวในโอกาสถัดไป
.
รอยยิ้มอันอ่อนโยนปรากฎขึ้นบนใบหน้า สมมติฐานตรงนี้ยังถูกเก็บไว้ในใจด้วยเพราะหลักฐานยังอ่อน และเพื่อไม่ให้ตื่นตระหนก แพรวจึงจำต้องพยายามหว่านล้อมต่อไป
.
“เธอไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก ฉันเองก็มีแค่กระป๋องเดียวเท่านั้นแหละที่ตั้งใจจะบริจาคให้พวกเธอ พักหลังเราปล้นสะดมเอาของพวกนี้ออกมาจากตู้กดอัตโนมัติได้น้อยมาก ยิ่งหน้ากากครอบแก้วยิ่งหาลำบาก สินค้าขาดตลาดถ้าไม่ฉกชิงวิ่งราวเอา ก็จะเป็นเรื่องยากถ้าอยากจะได้มาครอบครอง”
“เธอได้ก๊าซไปถือเป็นบุญนะรู้ไหม?!! เพราะถ้าไม่รับ! ฉันก็จะจัดอีกหนึ่งมาตรการที่เข้มข้นกว่านี้ให้เธออยู่ดี เพื่อดำรงค์สภาพความบริสุทธิ์และปลอดเชื้อเอาไว้ อันที่จริงเราก็เพิ่งค้นพบวิธีนี้เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนนี่เอง สรรพคุณของมันเทียบเท่ากับก๊าซอัดกระป๋องเลยล่ะ ไม่ได้รักษา.. แต่ก็พอจะต้านไม่ให้เชื้อลามลงปอดได้”
.
“คืออะไร , ยังไงเหรอคะพี่?”
เจนิสถามด้วยความสงสัย
.
แพรวก็เลยจูงมือน้องเดินย้อนกลับเข้ามายังชั้นหนึ่งของอาคารสถานีร้างอีกรอบ ทว่าคราวนี้พิกัดได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเธอเริ่มได้ยินเสียงของผู้ชายร้องโอดโอยออกมา เป็นเสียงของคนสองคนที่ทั้งซีดปาก , หอบเหนื่อย , และครือครางเหมือนคนกำลังตื่นเต้น มันดังแว่วออกมาจากห้องคอนโทรลเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ตรงมุมห้องโถง
.
แพรวปล่อยมือและเริ่มเดินออกห่าง เธอดันหลังเจนิสขึ้นหน้าไปแทนที่ แล้วก็พูดออกมาเบาๆ
.
“เธอน่าจะโตพอที่จะรับรู้เรื่องแบบนี้ได้แล้ว! จงเปิดหูเปิดตาซะ! แล้วดูเอาเองซะเถอะ! ว่าถ้าไม่ใช้ก๊าซอัดกระป๋องจาก AP ป้องกันการติดเชื้อแล้วล่ะก็.. บั้นปลายจะต้องทำยังไงเชื้อที่มีอยู่ในตัวถึงจะลดระดับลง…”
.
ชะเง้อคอเขย่งเท้าแทรกหน้ายื่นเข้าไปดู พลางเริ่มสังเกตเห็นเงาตะคุ่มของคนสองคนที่กอดกันจากทางด้านหลัง มีการก้มโค้ง และมีการกระแทกก้นอัดเข้าหากันอย่างรุนแรงรวดเร็ว!!!
.
“ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ!”
.
เสียงกระแทกดังระงม! ตลกร้ายเกิดขึ้น! เมื่อเสียงคนที่ครางลอดออกมาดังกล่าว ดันเป็นเสียงของผู้ชายทั้งคู่!!!