อีฟ้าหลุดเข้ามาในเกมส้นตีxอะไรไม่รู้ มันติดอยู่ในหุบเขาประหลาด เจอผู้เล่นประสาทแดกมากมาย แถมยังต้องวิ่งหนีไอ้ผีหื่น ที่ไล่จับมันไป...เอ่อ........
อีฟ้าหลุดเข้ามาในเกมส้นตีxอะไรไม่รู้ มันติดอยู่ในหุบเขาประหลาด เจอผู้เล่นประสาทแดกมากมาย แถมยังต้องวิ่งหนีไอ้ผีหื่น ที่ไล่จับมันไป...เอ่อ........
เป็นผีแน่นะ?
ฟ้ายังคงงุนงงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น เธอมองดูชุดใหม่ที่กายเสกให้ ซึ่งเป็นชุดเดรสสีขาวสวยหรูที่ดูไม่เข้ากับบรรยากาศในหุบเขามืดมนนี้เลยแม้แต่น้อย ฟ้ารู้สึกเหมือนตกอยู่ในความฝันที่เต็มไปด้วยความแปลกประหลาด แต่เธอก็ยังไม่พร้อมจะเชื่อถือหรือวางใจในกายได้
“นี่นาย...เป็นผีหรือพ่อมดกันแน่?” ฟ้าถามพลางขมวดคิ้ว ความไม่แน่นอนเต็มไปหมดในหัวของเธอ
กายยิ้มกว้าง แววตาเขาสุกสกาว “ฉันบอกเธอแล้ว ว่าอาจจะเป็นพ่อมดก็ได้”
ฟ้าถลึงตาใส่ “ก็อย่าเล่นลิ้นสิ! ฉันจริงจังนะ! มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ทำไมนายถึงทำแบบนี้ได้?”
“โอเค โอเค ไม่เล่นลิ้นแล้ว” กายยกมือขึ้นเหมือนยอมแพ้ แต่รอยยิ้มมุมปากของเขายังคงเต็มไปด้วยความขี้เล่นและสนุกสนาน “ถ้าจะให้พูดตามตรง...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันเป็นอะไรจริงๆ”
“ไม่รู้? นายหมายความว่ายังไง?” ฟ้าถามเสียงแข็ง ใจของเธอเต้นแรงขึ้นเมื่อเธอคิดถึงคำตอบที่อาจจะได้รับ
“ฉันเป็นทั้งผี ทั้งพ่อมด ทั้งอะไรก็ได้ที่เธออยากให้ฉันเป็น” กายตอบพลางเดินวนรอบฟ้า เขาดูเหมือนพยายามจะทำให้เธอสับสนมากขึ้น ฟ้ารู้สึกเหมือนเธอเป็นแค่ของเล่นในเกมที่เขากำลังเล่น
“งั้นถ้านายเป็นอะไรก็ได้ที่ฉันอยากให้นายเป็น...งั้นนายก็เป็นคนธรรมดาแล้วออกไปจากชีวิตฉันเดี๋ยวนี้สิ!” ฟ้าตะคอกกลับด้วยความโกรธ เธอรู้สึกเหมือนถูกกายปั่นหัวเล่นอีกครั้ง
กายหยุดเดินแล้วมองฟ้าด้วยสายตาที่เคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย “ฟ้า เธอไม่เข้าใจหรอก...ฉันไม่ได้เลือกที่จะเป็นแบบนี้ แล้วก็ไม่ได้เลือกที่จะอยู่ในชีวิตเธอ”
ฟ้าส่ายหน้าและขมวดคิ้วหนักขึ้น “ถ้านายไม่ได้เลือก งั้นทำไมไม่ปล่อยฉันไป? ทำไมนายต้องมาเล่นเกมกับฉันแบบนี้?”
“เพราะฉันไม่สามารถออกจากที่นี่ได้...และตอนนี้เธอก็เหมือนกับฉัน ติดอยู่ที่นี่ด้วยกัน” กายตอบเสียงต่ำลงและจริงจังขึ้น
ฟ้ารู้สึกถึงความเย็นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ ราวกับว่าเธอเพิ่งถูกดึงลงไปในน้ำแข็ง เธอเริ่มเข้าใจว่ากายไม่ได้เป็นเพียงผีหื่นที่มาคอยไล่ตามเธอเท่านั้น แต่เขาเองก็อาจอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้เช่นกัน
“แล้วนายต้องการอะไรจากฉัน?” ฟ้าถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง แต่ยังคงเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่ไว้วางใจ
กายมองฟ้าด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ดูเหมือนว่าเขาจะลังเลก่อนที่จะตอบ “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน...บางทีฉันอาจแค่อยากรู้จักเธอมากขึ้น หรือบางที...ฉันอาจจะต้องการเธอเพื่อต่อสู้กับบางสิ่งบางอย่างที่ฉันยังไม่เข้าใจ”
ฟ้าสังเกตเห็นความไม่แน่นอนในดวงตาของกาย ซึ่งทำให้เธอรู้สึกได้ว่าเขาเองก็ไม่รู้จักตัวตนของตัวเองดีพอ และความสัมพันธ์ของพวกเขายังห่างไกลจากการเป็นความรัก ฟ้าสับสนในความรู้สึกของตัวเอง เธอรู้ว่าไม่ควรไว้ใจกาย แต่ก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความจริงที่ว่าเธอติดอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเขา
“ถ้านายไม่รู้จักตัวเอง แล้วฉันจะไว้ใจนายได้ยังไง?” ฟ้าพูดเสียงเบา แต่มีน้ำหนัก เธอเริ่มเห็นว่าการพยายามเข้าใจในตัวกายอาจเป็นกุญแจสำคัญในการหาทางออกจากหุบเขานี้
กายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มเล็กน้อยและพูดเบาๆ “ฉันก็ไม่คาดหวังให้เธอไว้ใจฉัน...อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ แต่ฉันหวังว่าเราจะหาทางออกจากที่นี่ด้วยกันได้”
ฟ้ารู้สึกถึงความซับซ้อนที่แฝงอยู่ในคำพูดของกาย เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเชื่อใจเขาดีหรือไม่ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องร่วมมือกับเขาเพื่อหาทางออกจากหุบเขานี้
“งั้นเรามาลองดูกัน นายต้องการอะไรจากฉันจริงๆ และฉันจะหาทางออกจากที่นี่ให้ได้...ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร” ฟ้ากล่าวด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น เธอรู้ว่ามันไม่ใช่เกมที่ง่าย แต่เธอก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน
กายยิ้มออกมา “ตกลง ถ้าเธอพร้อม...ฉันก็พร้อมที่จะสู้ไปกับเธอ แต่ฉันต้องเตือนเธอว่า...ทางข้างหน้าอาจไม่ง่ายอย่างที่เธอคิด”
ฟ้าสบตากับกาย ความท้าทายและความลึกลับที่แฝงอยู่ในหุบเขานี้ทำให้เธอรู้สึกถึงการผจญภัยที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น แต่เธอก็ยังคงไม่ไว้ใจกายเต็มที่
“ถ้างั้นเราก็ไปกันเลย ฉันพร้อมจะเผชิญกับอะไรก็ตามที่จะมาเจอข้างหน้า” ฟ้าพูดพลางเดินออกจากตรงนี้ พร้อมกับความมุ่งมั่นในใจ
กายเดินตามหลังเธอ เขายิ้มแฝงไปด้วยความนัย แต่ในใจของเขาเองก็ยังมีคำถามที่ต้องหาคำตอบ