เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
หลี่หยงฟางทุบหน้าอกของโจวเสวี่ยเหวินอย่างไม่ได้ตั้งใจ ท่าทางแบบนี้ของเธอทำให้หูชื่อเหวินหัวเราะ
โจวเสวี่ยเหวินเองก็ไม่ได้ใส่ใจการกระทำนี้ของเธอเท่าไหร่นัก เขาเพียงแค่เซเล็กน้อยหลังจากถูกทุบตี ชั่วครู่เขาก็กลับมายืนยิ้มแป้นส่งเสียงหัวเราะ
“ฮะฮ่า”
“ในเมื่อนายเล่นเสร็จแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลากลับของฉันด้วย งั้นเราค่อยเจอกันใหม่นะ!” หลังจากการแข่งขันเสร็จสิ้นหลี่หยงฟางก็อยากจะกลับไปที่หอพักทันที
“แล้วคราวหน้าเธอจะมาดูอีกไหม?”
น้ำเสียงของโจวเสวี่ยเหวินเจือไปด้วยความคาดหวัง
“ก็… ถ้ามีเวลาอาจจะมาดูก็ได้” หลี่หยงฟางคิดก่อนตอบอยู่สักพัก
ถึงยังไงช่วงนี้เธอก็ว่างไม่ได้ทำอะไร รวมถึงต้องงดการไล่ตามหูเต๋อหลินไปสักพัก ดูการแข่งขันแก้เบื่อก็ไม่เลว
“อืม จริงนะ! คราวหน้าต้องมาให้ได้นะ!” หลังจากโจวเสวี่ยเหวินพูดจบ เขาก็โบกมือลาหลี่หยงฟางพร้อมกับเลี้ยงลูกบาสในมือตอนเดินจากไป
ความตื่นเต้นหลังจากได้ดูการแข่งขันยังไม่หมด ดังนั้นหลี่หยงฟางจึงพูดคุยกับหูชื่อเหวินขณะเดินกลับ
แต่หูชื่อเหวินพูดไม่ออก เธอไม่รู้เรื่องบาสเกตบอลเลยสักนิด เพราะเอาแต่แอบมองเธอกับหูเต๋อหลินตลอดทั้งการแข่งขัน
“เสี่ยวฟาง!” เสียงของหูเต๋อหลินดังมาจากด้านหลัง
หลี่หยงฟางหันไปมองหูเต๋อหลินด้วยความแปลกใจ ไม่นึกว่าหูเต๋อหลินจะมาที่นี่เหมือนกัน
“มานี่หน่อย ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
หูเต๋อหลินทำท่าเหมือนผู้อาวุโสดุเด็กเล็กแบบนั้น
หลี่หยงฟางมองหูเต๋อหลินสลับกับหูชื่อเหวิน หญิงสาวพยักหน้าให้เป็นเชิงอนุญาต
หลี่หยงฟางเดินไปหาด้วยความลังเล เธอรู้สึกว่าวันนี้พี่ชายเต๋อหลินดูดุกว่าปกติและทำให้เธอกลัวขึ้นมา เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย
หูเต๋อหลินเห็นว่าตอนเขาถามหลี่หยงฟางต้องหันไปขออนุญาตหูชื่อเหวินก่อน ยิ่งเห็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ เด็กสาวเคยเชื่อฟังเขามากกว่าใครแต่ตอนนี้กลับเริ่มไปเชื่อฟังคนอื่นแทนแล้ว?
หูชื่อเหวินเห็นหูเต๋อหลินมองตัวเองด้วยสายตาขุ่นเคืองทำให้เธอรู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย
พ่อค่ะ สิ่งที่ทำลงไปก็เพื่อตัวพ่อเองทั้งนั้นแหละ เขานี่ช่างไม่รู้อะไรดีอะไรไม่ดีเลยจริงๆ !
เพราะสายตาของเขาทำให้เธอรู้สึกประหม่าขึ้นมา เพราะอย่างไรชาติก่อนเธอก็กลัวพ่อมาก แม้ว่าหูเต๋อหลินจะไม่เคยทุบตีหรือดุเธอก็ตาม โดยปกติแล้วพ่อเป็นคนร่าเริงและมีชีวิตชีวา แต่ถ้าเธอสร้างปัญหาขึ้นมาเขาก็จะเข้มงวดกับเธอมากจริงๆ
พอเป็นเช่นนี้แล้วต่อให้เธอมีความรู้สึกไม่พอใจหูเต๋อหลินในชาติก่อนมากขนาดไหน เธอก็ยังอดที่จะเกรงกลัวพ่อคนนี้อยู่ลึกๆ ในใจไม่ได้
ยิ่งมองไปที่ดวงตาของหูเต๋อหลิน ความกลัวที่ฝังรากลึกก็ทำให้เธอหนาวสั่นขึ้นมาเล็กน้อย
“เธอกำลังคบกับโจวเสวี่ยเหวินอยู่หรือ?”
เมื่อหลี่หยงฟางเข้ามาใกล้ หูเต๋อหลินก็พูดคำถามออกมาทันที
“ห่ะ? ไม่! ทำไมต้องมาสนใจเรื่องของฉันด้วย?”
แม้ว่าหลี่หยงฟางจะกลัวหูเต๋อหลินที่ดูจริงจังในตอนนี้ แต่เธอคือใคร? เธอคือแม่พริกขี้หนูผู้โด่งดัง เธอปฏิเสธทันทีด้วยท่าทีไม่มั่นใจเล็กน้อย
นายไม่ใช่คนรักของฉันสักหน่อย ทำไมต้องมาสนใจเรื่องของฉัน
“ฉัน… ฉันเป็นพี่ชายของเธอ! ในเมื่อตอนนี้ไม่มีใครจากบ้านของเธออยู่ที่นี้ ฉันเลยต้องเป็นคนรับผิดชอบเธอ!”
จู่ๆ หูเต๋อหลินก็รู้สึกอารมณ์เสีย ใช่ไง! ก็เพราะว่าฉันต้องดูแลเธอ! ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมแต่เขารู้สึกว่าเป็นหน้าที่ของเขา
“หูเต๋อหลินนายบอกว่าตัวเองเป็นพี่ชายของฉันใช่ไหม? แต่พี่ชายของฉันเขาอยู่ที่บ้านไม่ใช่ที่นี่! แล้วฉันก็รับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ ไม่ต้องการให้นายมาช่วยดูแล ฉันจะทำอะไรก็ได้ที่ฉันอยากจะทำ!”
หลี่หยงฟางโมโหรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ฉัน…”
หูเต๋อหลินพูดไม่ออกรู้สึกผิดขึ้นมา เขากำลังทำอะไรอยู่? ใช่…ต้องเป็นเพราะฉันกลัวเธอถูกล่อลวง ก็เพราะกลัวว่าเด็กสาวอายุยังน้อยถูกความรักบังตาจนมองอะไรไม่เห็น
“เธอยังเด็ก ในอนาคตก็ต้องกลับไปที่เมือง ส่วนโจวเสวี่ยเหวินเป็นคนจากทางใต้ซึ่งไกลจากบ้านเธอเกินไป คิดดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต?”
ในที่สุดหูเต๋อหลินก็มีเหตุผลที่ดีให้กับตัวเอง
“งั้นฉันจะกลับไปทางใต้กับเขา!”
เมื่อเห็นหูเต๋อหลินยังคงพูดเหมือนเดิมหลี่หยงฟางก็รู้สึกผิดหวัง ดวงตาของเธอแดงระเรื่อ จากนั้นเธอก็หันหลังวิ่งหนีพร้อมตะโกนเสียงดัง
อีกแล้ว… เธอวิ่งหนีเขาอีกแล้วงั้นหรือ?
หูเต๋อหลินมองตามหลี่หยงฟางด้วยความโกรธ
จากนั้นสายตาก็ตวัดมามองหูชื่อเหวินอย่างโมโห
“อย่าพาเธอมาเที่ยวเล่นแบบนี้อีก!”
“หลี่หยงฟางเป็นผู้หญิงโตแล้ว เธอมีสิทธิ์ที่จะเลือกใครก็ตามที่เธอชอบ ยิ่งถ้าคนคนนั้นจริงใจกับเธอ แต่งงานไปทางใต้ก็ไม่แย่ อย่างไงก็ดีกว่าไล่ตามคนที่ไม่ชอบตัวเองแถมยังเกลียดเธอเสียอีก จริงไหม? ”
หูชื่อเหวินดึงความกล้าของตัวเองออกมาจ้องไปที่พ่อของเธอ
“ฉัน… ฉันพูดว่าเกลียดเธอตอนไหน… อย่างไงก็เถอะฉันไม่มีความจำเป็นจะต้องคุยกับเธอ”
หูเต๋อหลินปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว ทัศนคติต่อหลี่หยงฟางก่อนหน้านี้อาจจะน่ารังเกียจไปสักหน่อย แต่ก็เพราะว่าเธอยุ่งวุ่นวายกับเขามากเกินไปและชอบพูดไร้สาระตลอดเวลา แต่เขาไม่ได้เกลียดเธอจริงๆ
ช่วงสองสามวันมานี้เธอไม่มาให้เขาเห็นเลย หูของเขาเลยได้พักผ่อน แต่ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างขาดหายไป
หูเต๋อหลินมองหูชื่อเหวินด้วยสายตาหงุดหงิด
ผู้หญิงคนนี้หน้าตาก็ดีแต่นิสัยแย่มาก
เขาหันกลับไปด้วยความโกรธ
หูชื่อเหวินรู้สึกสับสน หัวใจของเธอเจ็บปวดจากการถูกพ่อของตัวเองไม่พอใจ
แต่ดูจากการแสดงออกของพ่อแล้ว เขาไม่ได้เกลียดหลี่หยงฟางมากอย่างที่คิด บางทีเขาอาจจะมีความสนใจต่อเธออยู่บ้าง เพียงแต่เขาไม่เคยสังเกตมาก่อน
ไม่ใช่ความผิดของพ่อเลย แต่เดิมแล้วเขาก็เป็นคนไร้หัวใจ วุฒิภาวะไม่สูงเท่าที่ควร
เป็นธรรมดาที่จะมองข้ามน้องสาวข้างบ้านที่เติบโตมาด้วยกัน
จู่ๆ หูชื่อเหวินก็เกิดคำถามในใจ เหตุผลที่เธอไม่เคยเห็นหลี่หยงฟางในชีวิตที่แล้วแม้แต่ครั้งเดียว อาจจะเป็นเพราะหลังจากพ่อแม่แต่งงานกันเธอก็เลยแต่งงานกับคนอื่น?
โจวเสวี่ยเหวินเป็นคนไม่เลว เขาชอบหลี่หยงฟางมากถ้าไม่ใช่เพราะเธอมีคนที่ชอบแล้วก็นึกอยากจับคู่ให้แม่ของเธอชะมัด
พอกลับมาถึงหอพักจางหมิงเยี่ยนกำลังเริ่มปูผ้านวม เมื่อเห็นหูชื่อเหวินเดินเข้ามาเธอจึงหยุดมือ
“กลับมาแล้วหรือ? ช่วงนี้เธอดูยุ่งๆ นะ”
“อ๋อ ..ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่ไปดูการแข่งกับหลี่หยงฟางนะ”
หูชื่อเหวินมองจางหมิงเยี่ยน เร็วๆ นี้แม่ของเธอร่าเริงขึ้นมาก หลังจากได้ทำงานที่ชอบและไม่ต้องออกไปทำงานแต่เช้าแล้วกลับดึกอีกต่อไปเธอก็เปลี่ยนแปลงบางอย่างได้สำเร็จ หญิงสาวตรงหน้าดูไม่เหนื่อยล้า ผิวดูสว่างและเนียนขึ้น
“พี่เยี่ยน ซ้อมการแสดงเป็นไงบ้าง?”
“อืม… วันจริงใกล้เข้ามาแล้ว ฉันเลยพึ่งกลับมาจากการซ้อมเหมือนกัน” จางหมิงเยี่ยนปูผ้าต่อไป
“เตรียมชุดสำหรับการแสดงรึยัง? เธอเป็นนักร้องนำนะ”
“โอ้… ฉันยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย แค่ใส่อะไรก็ได้ใช่ไหม?” จางหมิงเยี่ยนเคยเป็นแค่คอรัสมาก่อน ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่ได้เป็นนักร้องนำ ทำให้เธอลืมเรื่องเครื่องแต่งกายไปได้
“ไม่เป็นไร! พี่เยี่ยน ฉันจะเตรียมให้เธอเอง ถึงวันงานเมื่อไหร่รับรองได้เลยว่าทุกคนจะต้องประหลาดใจ!”
หูชื่อเหวินพูดพร้อมกับเดินไปกอดจางหมิงเยี่ยน โดยซุกตัวเองลงในอ้อมแขนของเธอ
จางหมิงเยี่ยนแปลกใจกับความกระตือรือร้นของเธอ แม้จะลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่เธอก็ตบหลังหูชื่อเหวินอย่างอ่อนโยน
“ไม่เป็นไร แค่ใส่ชุดที่สบายสักหน่อยก็ได้แล้ว ไม่ต้องลำบากหรอกมันก็แค่งานในไร่เท่านั้นเอง”
“ทำแบบนั้นได้ที่ไหน? ต้องทำให้พวกเขาตาพร่าไปเลยตอนที่เห็นนักร้องนำครั้งแรก!”
หูชื่อเหวินเงยหน้าจากแขนของจางหมิงเยี่ยนอย่างไม่เต็มใจขณะพูด
เธอคิดถึงอ้อมกอดของแม่มาก เพราะรู้สึกว่าแม่ทำตัวราวกับว่าเธอเป็นเด็กอยู่ตลอดก็เลยต่อต้านไม่อยากทำตัวใกล้ชิดกับแม่ ยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งอายที่จะกอดแม่อ้อนแม่ราวกับเป็นเด็กเล็กๆ
แต่เมื่อกลายเป็นผู้ใหญ่ เวลาที่เธอรู้สึกหดหู่และท้อแท้กับชีวิต หูชื่อเหวินมักจะคิดถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นของแม่ ตอนนี้อ้อมกอดของแม่ได้กลายเป็นสิ่งหรูหราสำหรับเธอไปแล้ว!