เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
หากไม่ได้ผลแสดงว่าก้อนหินก้อนนี้มันเน่าแล้ว! เธอยังต้องการเขาไปอีกทำไม? หูชื่อเหวินชะงัก นี่อาจจะเป็นการเปรียบเปรยที่ดูแปลกๆ ไปสักหน่อย
“ถ้าอย่างนั้น… ฉันจะลองทำดูก็ได้!”
หลี่หยงฟางคิดว่าถ้าลองสักหน่อยก็ไม่เสียหาย อย่างแย่ที่สุดเธอก็จะพุ่งเป้าเข้าชนแบบหน้าด้านๆ เช่นเดิมนั่นแหละ ต่อให้พี่หูเต๋อหลินจะไม่ชอบวิธีเช่นนี้แต่เขาก็ไม่ได้ดุด่าเธอนี่นะ
“ชื่อเหวิน อยู่นี่เอง ฉันตามหาเธอมาสักพักแล้ว”
หูชื่อเหวินหันไปเห็นจางหมิงเยี่ยนเดินมา
“เธอซ้อมเสร็จแล้วหรือ?”
“ซ้อมเสร็จแล้ว กลับหอพักกันเถอะ!”
จางหมิงเยี่ยนพูดจบเธอก็พยักหน้าให้หลี่หยงฟางเพื่อเป็นการทักทาย แม้ว่าเธอจะไม่คุ้นเคยกัน แต่เมื่อยู่ในไร่มาสามสี่ปีอย่างไรก็ต้องคุ้นหน้ากันอยู่บ้าง
“นี่หลี่หยงฟางจากโรงบ่มสุรา ส่วนนี่คือจางหมิงเยี่ยนทำงานเป็นครูศิลปะที่โรงเรียน”
หูชื่อเหวินแนะนำพวกเขาให้รู้จักกัน
หลี่หยงฟางรู้สึกผิดปกติไปอยู่บ้างเมื่อเห็นจางหมิงเยี่ยน แน่นอนว่าเธอย่อมรู้จักผู้หญิงคนนี้เพราะทุกคนในไร่ก็รู้ว่าหูเต๋อหลินไล่ตามจางหมิงเยี่ยนมานานแล้ว
“สวัสดี!”
“สวัสดี!”
สุดท้ายจางหมิงเยี่ยนเป็นคนยื่นมือมาหาเธอก่อน หลี่หยงฟางจึงยื่นมือของเธอไปเช่นกันหญิงสาวทั้งสองจับมือทักทายกัน
หลี่หยงฟางไม่มีท่าทางเป็นศัตรูกับจางหมิงเยี่ยน อย่างไรเสียเธอก็เป็นหญิงสาวที่สวยและมีพรสวรรค์ในสวนแห่งนี้ เป็นเรื่องปกติที่จะมีใครบางคนไล่ตามขอความรักจากเธอ หูเต๋อหลินชอบเธอแต่เธอก็ไม่ได้ชอบเขาสักหน่อย จริงไหม?
หญิงสาวทั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้ม
หูชื่อเหวินแอบพูดในใจว่า
แม่คะนี่คือผู้สืบทอดของแม่ที่ฉันหามาได้
เธอจะทำให้ดีที่สุดเพื่อจับคู่ทั้งสองคน แม้ว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะเจอคนที่เหมาะสมและมีความรักให้กันอย่างแท้จริง แต่ชีวิตนี้เธอหวังว่าพ่อและแม่จะพบกับคนที่เหมาะสมและมีความสุขตลอดไป
“พวกเธอจะไปแล้วหรือ?” หลี่หยงฟางถามขึ้น
“ใช่ ฉันซ้อมเสร็จแล้ว” จางหมิงเยี่ยนประหลาดใจ
“นั่นพี่เต๋อหลิน…”
หลี่หยงฟางพูดพร้อมเตรียมออกตัววิ่งฝ่าฝูงชน
“ทำอะไรน่ะ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
“ฉัน… ฉันแค่จะไปหาพี่ชายเต๋อหลิน!”
หลี่หยงฟางหยุดมองไปที่หูชื่อเหวินด้วยสายตาสงสัย พวกเขากำลังแยกย้ายกันแล้ว ปกติเธอจะตามหูเต๋อหลินไป!
“เธอ… เธอไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเมื่อกี้เลยใช่ไหม?”
หูชื่อเหวินโกรธมากที่หลี่หยงฟางกำลังจะวิ่งไล่คนที่ไม่สนใจตัวเองอีกแล้ว
วิญญาณของหูชื่อเหวินไม่สัมพันธ์กับอายุ ทำให้ไม่ว่าจะเจอเรื่องหงุดหงิดขนาดไหนการแสดงออกของเธอจะคล้ายกับหญิงชราขี้โมโหแม้ว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอจะเป็นสาวงามก็ตาม
“อ๋อ… จริงด้วยสินะ ฉันลืม… อยากให้เริ่มตอนนี้เลยไหม?”
หลี่หยงฟางดูเหมือนลูกสะใภ้ตัวน้อยที่ถูกรังแก เธอทำแบบนี้มาตลอดสิบปีจะให้เปลี่ยนไปในชั่วพริบตาได้อย่างไร
“ก็ต้องเป็นแบบนั้นไม่ใช่หรือ? ถ้าไม่ทำตอนนี้แล้วจะเริ่มเมื่อไหร่ จำที่ฉันพูดไว้ให้ขึ้นใจเลยนะ ห้ามใจอ่อนเด็ดขาด เธอจะหยุดทำไม่ได้แม้ว่าเขาจะเมินเธอในช่วงสองสามวันก็ตาม เข้าใจไหม?”
หูชื่อเหวินเข้มงวดกับการสอนนักเรียนคนนี้มาก
หลี่หยงฟางพยักหน้าเร็วๆ เหมือนไก่จิกข้าวสาร
“ได้! ฉันจะจำไว้!”
หูชื่อเหวินไม่ลืมที่จะย้ำหลี่หยงฟางก่อนไปพร้อมกับขู่เธอด้วยการชูกำปั้นเล็กๆ
“แน่นอน! ฉันรู้แล้ว”
หลี่หยงฟางตอบรับอย่างไม่เต็มใจ
เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำจนกระทั่งหูชื่อเหวินเดินไปไกลแล้ว เธอเป็นแม่พริกไทยตัวน้อยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่กำลังถูกคุกคามโดยคนอื่นงั้นหรือ?
ฉันจะยกโทษให้เธอแล้วกัน เห็นแก่ที่เธอให้คำแนะนำเรื่องการตามจีบพี่ชายเต๋อหลิน
หลี่หยงฟางออกมาจากหลังต้นไม้เห็นหูเต๋อหลินกำลังพูดคุยกับยุวชนหญิงสองสามคนเธออยากเข้าไปอุ้มเขาหนีไปให้ไกล แต่หญิงสาวจำเป็นต้องทำตามสิ่งที่หูชื่อเหวินพูด เธอจึงแสร้งทำเป็นไม่เห็นแล้วตรงกลับหอพัก
เมื่อหูเต๋อหลินเห็นหลี่หยงฟาง เขาก็เตรียมจะวิ่งหนีแต่กลับกลายเป็นว่าหลี่หยงฟางไม่แม้แต่จะมองเขาเลย
นี่… เธอไม่เห็นเขาหรือ?
ไม่หรอก… ไม่ว่าเขาจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหน หลี่หยงฟางจะตามหาตัวเขาเจอได้เหมือนแมวได้กลิ่นปลา ครั้งนี้… อาจจะเป็นเพราะไม่เห็นเขาก็เป็นได้
ผ่านไปหลายวันติดต่อกันหลี่หยงฟางก็ยังคงทำเป็นไม่เห็นหูเต๋อหลินต่อไป อย่างมากสุดเธอก็แค่พยักหน้า พูดสวัสดีกับเขาแล้วจากไป บางครั้งเธอไม่แม้แต่จะทักทายเขาด้วยซ้ำ แค่เหลือบมองเขาแล้วเดินไปเฉยๆ
แต่เมื่อเจอกับยุวชนชายคนอื่นๆ กลับพูดคุยหัวเราะได้เหมือนเดิม
หูเต๋อหลินสงสัยว่าทำไมหญิงสาวคนนี้ถึงเปลี่ยนไป? ทำไมหยุดทำตัววุ่นวายรอบๆ ตัวเขาตอนนี้?
นี่เป็นเรื่องที่ดีแล้ว ในอนาคตเขาจะได้ไม่ต้องวิ่งหนีเธออีก
วันนี้หลี่หยงฟางค่อนข้างประหม่าและไม่สบายใจ เธอไม่รู้ว่าวิธีของหูชื่อเหวินจะได้ผลบ้างไหม?
ทุกครั้งที่เห็นหูเต๋อหลินมือและเท้าของเธอจะรู้สึกคันยุบยิบ แม้แต่ลำคอก็ยังรู้สึกคันตามไปด้วย สัญชาตญาณของเธอต้องการจะวิ่งไล่ตามเขาไม่ก็ตะโกนเรียกเขาเหมือนทุกทีตลอด
“หูเต๋อหลินหยุดนะ! นายจะไปไหน!”
แต่หูชื่อเหวินบอกให้เธออดกลั้นเอาไว้ โดยเฉพาะช่วง 2-3 วันแรกหลังจากเริ่มแผนการ
“ชื่อเหวินวิธีนี้ได้ผลจริงๆ ใช่ไหม? ผ่านมาหลายวันแล้วนะ แต่พี่เต๋อหลินยังไม่สนใจฉันเหมือนเดิมอยู่เลย!”
หลี่หยงฟางมองหูชื่อเหวินด้วยความไม่พอใจระหว่างพูด
“ทำไมต้องรีบร้อนด้วย? เธอไล่ตามเขามาตั้งสิบกว่าปีแค่สองสามวันก็ทนไม่ไหวแล้วหรือไง?”
หูชื่อเหวินมองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า
“ก็จริง แต่ฉันกลัว…”หลี่หยงฟางพึมพำ
“กลัวอะไรของเธอ อย่างแย่ที่สุดก็แค่ย้อนอดีตไม่ได้ ถามหน่อยเถอะตอนนี้พอเขาเห็นเธอยังวิ่งหนีอยู่ไหมล่ะ?”
“ไม่วิ่งหนีแล้ว…”
หลี่หยงฟางคิดแล้วก็พบว่าหูชื่อเหวินเห็นเธอแล้วไม่วิ่งหนีจริงๆ บางครั้งยังมองเธอด้วยสายตาที่แปลกไปด้วย
“ก็ดีแล้ว ไม่ใช่ว่านี่คือการเริ่มต้นที่ดีหรือไง?”
หูชื่อเหวินมองหลี่หยงฟางอย่างมั่นใจ
“ถ้างั้นฉันจะฟังเธอ!”
หลี่หยงฟางพยักหน้าอย่างแรงราวกับว่าได้ตัดสินใจเรื่องที่ยิ่งใหญ่ลงไป
ทันใดนั้นเธอก็คว้าแขนหูชื่อเหวินอย่างวิตกกังวลจนหูชื่อเหวินก็รู้สึกเจ็บที่แขนทันที
“ใจเย็นก่อนสิ!”
“อย่าพึ่งพูด! หยุดก่อน ไม่เห็นหรือว่าพี่เต๋อหลินกำลังเดินมา!”
ในขณะที่พูดเธอทำม่าราวกับสูญเสียจิตวิญญาณไปและต้องการจะหลบซ่อนตัวอยู่หลังหูชื่อเหวิน
“ไม่ต้องกลัวหรอก เขามาก็ดีแล้ว! เดินกับฉันแล้วไม่ต้องมองไปเขา” หูชื่อเหวินจับแขนหลี่หยงฟางพูดคุยขณะที่เดินไปด้วยกัน
“หัวเราะออกมาสิ หัวเราะเร็วๆ”หูชื่อเหวินพูดลอดไรฟันด้วยเสียงต่ำ
“หัวเราะ… เธอจะให้ฉันหัวเราะอะไร”
“ถ้าฉันบอกให้เธอหัวเราะ เธอก็แค่หัวเราะออกมา ไม่ต้องถามอะไรไร้สาระ”
“ฮะฮ่าฮ่าฮ่า” ปากของหูชื่อเหวินกระตุกเมื่อเห็นใบหน้าแสนโง่เขลาของหลี่หยงฟางที่หัวเราะในตอนนี้
เมื่อเดินผ่านด้านข้างของหูเต๋อหลิน หูชื่อเหวินก็หยุดกะทันหันจากนั้นก็ค่อยๆ สางผมด้านข้างของหลี่หยงฟาง หญิงสาวลูบผมจากใบหูของหญิงสาวไปทัดที่หลังหูของเธอ
“แล้วก็… หลังจากอาหารเย็น ฉันจะไปดูยุวชนชายเล่นบาส เธอก็ควรจะไปด้วยเหมือนกัน อย่าลืมแต่งตัวดีๆนะ เธออาจจะเจอใครคนนั้นก็ได้”
หูชื่อเหวินตั้งใจพูดให้ดูคลุมเครือ
“อะไร…” หลี่หยงฟางมองไปที่หูชื่อเหวินด้วยความสับสน ไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดถึงอะไรหรือใครที่ไหน?
หูชื่อเหวินจึงแอบหยิกหลี่หยงฟางเป็นการบอกใบ้ให้ร่วมมือกับเธอ
“ก็ได้ในเมื่อใครบางคนจะไป งั้นฉันก็จะไปด้วย!” หลี่หยงฟางสัมผัสได้ถึงเจตนาของเธอในทันที จากนั้นก็คว้ามือของหูชื่อเหวินไว้และพูดเสียงดัง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจและดูเหมือนเธอกระโดดไปมาอย่างมีความสุข