หลังจากสรุปเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ซูฮั่นหยวนก็ฉีกบทออกเป็นชิ้น ๆ ไม่มีทางที่เธอจะกลายมาเป็นแค่ตัวละครเสริม! เธอไม่เคยเป็นคนขี้ขลาด! เพื่อจัดการกับคนใจร้ายเหล่านี้ เธอจะปล่อยให้พวกเขาทำตามใจไม่ได้! มีสามคำสำหรับขยะพวกนี้คือ ‘ไปตายซะ!’
หลังจากสรุปเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ซูฮั่นหยวนก็ฉีกบทออกเป็นชิ้น ๆ ไม่มีทางที่เธอจะกลายมาเป็นแค่ตัวละครเสริม! เธอไม่เคยเป็นคนขี้ขลาด! เพื่อจัดการกับคนใจร้ายเหล่านี้ เธอจะปล่อยให้พวกเขาทำตามใจไม่ได้! มีสามคำสำหรับขยะพวกนี้คือ ‘ไปตายซะ!’
ความโกรธนี้ติดอยู่ในลำคอของหลินชิงอี้มาตลอด จนทำให้เธออารมณ์เสียมากแม้กระทั่งตอนทำงานในช่วงบ่าย
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน เธอรีบออกจากแผนกเป็นคนแรกและจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
เมื่อเจียงกัวเห็นพฤติกรรมที่แปลกไปของหลินชิงอี้ เขารีบเก็บข้าวของและวิ่งตามเธอออกไป ทั้งสองตรงไปยังป่าละเมาะทางด้านตะวันออกของโรงงาน
ปกติไม่ค่อยมีใครมาที่นี่ ทุกครั้งที่หลินชิงอี้เจอเรื่องไม่พอใจ เธอมักจะมาที่นี่เพื่อเตะต้นไม้สองสามต้น ระบายโทสะและร้องไห้เล็กน้อย หลังจากที่ได้ระบายแล้วถึงรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
เจียงกัวตามเธอไปและเห็นหลินชิงอี้เตะต้นไม้ในป่าเพื่อระบายความโกรธ
“เกิดอะไรขึ้น ใครทำให้เธอโกรธ” เขาเดินเข้ามาและดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน “บอกผมมาสิ”
“จะบอกเธอไปทำไม?” เธอผลักเขาออก “อย่ามากอดฉัน ฉันยังไม่ได้ตกลงจะคบกับเธอสักหน่อย!”
“ได้ ๆ ๆ ” เจียงกัวปล่อยเธอ “เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“หนิ่วหงเซี่ย!” หลินชิงอี้กัดฟัน “รู้ไหมว่าเธอเข้าข้างซูฮั่นหยวนมากแค่ไหน? เฉียวชุนฮว่าที่น่ากลัวนั่นมาหาเรื่อง แต่หนิ่วหงเซี่ยก็จัดการได้ แถมยังเพิ่มรายการแสดงที่เราตัดออกไปกลับมาอีก! เธอคิดว่าเธอมีความสัมพันธ์อะไรกับซูฮั่นหยวนถึงได้ช่วยเหลือกันขนาดนี้! แล้วฉันล่ะ? ครั้งก่อนฉันทำผิด เธอก็ด่าฉันซะไม่เหลือชิ้นดี ด่าฉันจนแทบไม่มีที่ยืน!”
“รู้แล้ว ๆ เบาเสียงหน่อย เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน” เจียงกัวทำท่าให้เธอเงียบลง แม้ว่าท้องฟ้าจะเริ่มมืดแล้ว แต่อาจมีคนอยู่ในป่าก็ได้
ถ้าคนอื่นได้ยินและเอาไปพูดต่อ เธอจะไม่จบเห่จริงๆ หรือ?
“คิดว่าฉันกลัวหรือไง” หลินชิงอี้ขึ้นเสียง “ฉันไม่กลัวหรอก! หนิ่วหงเซี่ยต้องรับสินบนจากซูฮั่นหยวนแน่ ๆ ถึงได้ช่วยกันขนาดนี้ เดี๋ยวนี้นิสัยของยัยนั่นแย่ลงทุกวัน กล้าหือกับฉันด้วย!”
“เอาล่ะ ๆ… หยุดตะโกนได้แล้ว…”
“นายจะกลัวอะไร?” หลินชิงอี้มองเขาอย่างหงุดหงิด “ใครจะรู้ว่าฉันด่าใคร ตอนนี้ทุกคนกำลังไปรับอาหารในโรงอาหาร ใครจะมาที่นี่? อีกอย่าง ฉันยังระบายไม่พอเลย!”
ที่อีกด้านของป่า จู้หลินกำลังเก็บกิ่งไม้แห้ง เธอเตรียมเอาไปให้คนงานในโรงงานใช้เสริมโต๊ะของเธอ จากระยะไกล เธอได้ยินเสียงโวยวายจึงตั้งใจฟัง เมื่อได้ยินหลินชิงอี้ด่าซูฮั่นหยวน เธอก็ขมวดคิ้วและลุกขึ้นเดินจากไป
เธอจะไปหาซูฮั่นหยวนและบอกเรื่องนี้ให้ทราบ เมื่อเห็นซูฮั่นหยวน หล่อนกำลังถือกล่องอาหารไปที่โรงอาหาร
“ไปกับฉัน!” จู้หลินดึงซูฮั่นหยวนออกไป
“จะไปไหน” ซูฮั่นหยวนทำหน้างง
“หลินชิงอี้จากแผนกของเธอกำลังด่าเธอกับหัวหน้าอยู่ ผู้หญิงคนนั้นน่ารังเกียจจริง ๆ ครั้งก่อนก็พูดไม่ดีเกี่ยวกับเธอให้สหภาพฟัง ว่าเธอตัดรายการแสดงของเฉียวซาซ่าออก ตอนนั้นพวกเขาก็ไม่ช่วยเธอเลย! ตอนนี้เธอมีโอกาสแล้ว จะไม่ไปเผชิญหน้ากับแม่นั่นหน่อยหรือ?”
“จริงหรือ?” ซูฮั่นหยวนตื่นเต้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เธอรีบพับแขนเสื้อขึ้นและกำลังจะตามจู้หลินไป แต่ทันใดนั้นก็คิดแผนดี ๆ ขึ้นมาได้ “เดี๋ยว เราจะไปแบบนี้ไม่ได้!”
“อะไร? จะไปเอาอาวุธเหรอ?” จู้หลินกลืนน้ำลาย “โหดขนาดนั้นเลย?”
“คิดอะไรน่ะ” ซูฮั่นหยวนหัวเราะ “ถึงฉันจะไป อย่างมากก็แค่ทะเลาะกัน ถ้าเกิดอะไรขึ้น เราทั้งคู่จะถูกลงโทษ มันไม่คุ้มเลยที่จะถูกลงโทษเพราะหลินชิงอี้”
“แล้วเธอจะทำยังไง”
ซูฮั่นหยวนหัวเราะคิกคัก “เดี๋ยวฉันบอกทีหลัง มาเถอะ ไปช่วยฉันเอาอาหารก่อน แล้วค่อยกลับมาอีกที”