บทที่ 4
ตอน ภูเขาไฟระเบิด
กลางลานกว้างทุ่งดอกไม้
เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาจากด้านหลังของชายหนุ่ม รูปร่างสูงกำยำ หน้าตาคม ผิวขาวนวลผ่อง ผมสีเทายาว ถูกมัดไว้ครึ่งศีรษะ ดวงตาสีเขียวมรกต เขากำลังฝึกฝนเพลงกระบี่ ควบคู่กับพลังเวท เมื่อเสียงฝีเท้าหยุด เขาก็หยุด หันมองมาทางชายหนุ่มชุดสีดำทั้งชุด มีเกราะเหล็กสีดำครอบตัวเขาไว้ครึ่งตัว เขาอยู่ในชุดนักรบ ผมของเขาสีดำถูกมัดรวบไว้ทั้งหมด รูปร่างสูงสง่างามราวกับหญิง ดวงตาสีดำ เขาโค้งคำนับ ก่อนจะพูด
“มีบางอย่างปิดปกติครับองค์ชาย”
เสียงองค์ชายนุ่มชวนน่าหลงใหล “มีอะไร ซัน”
องครักษ์ซันพูดขึ้น “เกิดแผ่นดินไหวแถบชายป่ามรกตทำให้เกิดภูเขาไฟระเบิดครับองค์ชาย”
องค์ชายแปลกใจเขาขมวดคิ้ว “ภูเขาไฟลูกนั้นหลับใหลหลายพันปีแล้ว”
ซันพูด “มีบางอย่างที่แปลกด้วยครับ”
องค์ชายเดินไปหยิบเสื้อคลุม ก่อนจะหยุดฟังซันพูด
ซันพูดต่อ “เหล่าสัตว์มากมายต่างเห็นแสงสีฟ้าก่อนเกิดแผ่นดินไหว ราวกับแสงนั้นทำให้บางอย่างโกรธ หรือไม่ก็....” ซันไม่กล้าพูด
องค์ชายพูด “เจ้าคิดว่าแสงสีฟ้านั้นทำให้เกิดภูเขาไฟเหรอ หรือเจ้าคิดว่าประตูผนึกอเวจีถูกเปิด”
ซันเงียบ “..”
องค์ชายพูดต่อ “เราจะไปชายป่า” ซันโค้งคำนับรับคำสั่ง
องครักษ์ทั้ง 4 คน ได้มาพร้อมกัน หน้าห้องขององค์ชาย ทุกคนผมดำยาวรวบไปข้างหลังทั้งหมด พวกเขาอยู่ในชุดสีดำเหมือนกันหมด มีอาวุธคือ กระบี่คู่กายทุกคน พวกเขาคือองครักษ์คู่กายขององค์ชาย รูปร่างหน้าตาชั่งงดงามและหล่อเหล่ากันทุกคน มีนามว่า ซัน ฟาง ยีนและลุค เมื่อองค์ชายเดินออกจากห้อง ในชุดสีขาวยาวทั้งชุดราวกับเทพบุตรหลุดออกมาจากนิยายจีน ชุดสีขาวพลิ้วสลวยไปตามสายลม ทุกคนยื่นตรงโค้งคำนับเล็กน้อย
องค์ชายพูด “เราไปดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น”
ทุกคนพูดพร้อมกัน “ครับ”
พวกเขาได้เดินผ่านทุ่งดอกไม้ เบื้องหน้าเป็นหน้าผา แล้วกระโดดลงจากหน้าผาไปโผล่อีกด้านหนึ่งของชายป่าห่างจากภูเขาไฟไม่มาก ซึ่งตอนนี้ลาวาพุงกระจายปกคลุมทั่วท้องฟ้า
องค์ชายสั่ง “พวกเจ้าไปดูว่าเกิดจากธรรมชาติหรือไม่”
ทั้ง 4 รับ คำสั่ง พวกเขาลอยตัวออกไปราวกับสายลม เมื่อถึงปากภูเขาไฟ ทันใดนั้นพวกเขาก็ถูกจู่โจมด้วยสัตว์อสูรจากอเวจีทันที
“นี่มัน” ซันพูด สัตว์อสูรรูปร่างหน้าตาแปลกประหลาด บ้างก็เหมือนค้างคาว ต่างบินเข้ามาจู่โจมพวกเขา
ฟางร้องเรียก “ระวังซิซัน เจ้านี้ทำให้ข้าเป็นห่วงตลอดเลยนะ” ฟางเข้ามาใกล้ซัน
ซันพูด “ไม่ต้องห่วงข้าหรอกนะ ห่วงตัวเองก่อนเถอะ”
พวกเขาทั้ง 4 ต่างฆ่าสัตว์อสูรอเวจี พวกมันได้บินออกมาจากรอยแยกของภูเขาไฟมากมาย ทันใดนั้นภูเขาก็เกิดแรงปะทุราวกับโกรธแค้นใครมา ทั้งเปลวเพลิง ควันพิษ เกิดขึ้นทันที แต่ก็มีพลังเวทเกาะสีเขียวปกป้ององครักษ์ไว้
พวกเขาหันมอง “องค์ชาย”
องค์ชายพูด “พวกเราต้องใช้พลังเวทปิดผนึกไว้”
ทุกคนล้อมปากภูเขาไฟ โดยมีพลังเวทขององค์ชายปกป้องอยู่ ทั้ง 5 รวมพลังเวทปิดผนึกจนสำเร็จ แต่เหล่าอสูรอเวจีที่หลุดรอดออกมาจากภูเขาไฟมากมายหลายตัว ต่างมุ่งหน้าไปยังที่ วิวอยู่ ทุกคนลงสู้พื้น เพื่อกำจัดฆ่าพวกอสูร
องค์ชายพูด “อย่าให้พวกมันรอดออกจากพื้นที่นี้ได้”
ฟางพูด “แปลกนะครับพวกมันมุ่งหน้าไปทางเดียวกันทั้งหมด”
อีกด้านชายป่าของวิว
เขายังคงวิ่งหนีไม่คิดชีวิต ไม่ได้หันมองข้างหลังว่ามีอะไรตามมา แต่เขากลับรู้สึกเหมือนมีบางอย่างมาทางเขาเป็นจำนวนมาก เสียงคำรามดังขึ้นอย่างน่าหวาดกลัว วิวอดคิดไม่ได้ว่า นี่มันอะไรกันแน่เสียงสัตว์อะไรที่ดังขนาดนี้ ระหว่างที่วิ่งสายตามองเห็นปากถ้ำเล็ก ๆ หลังพุ่มไม้ “จะรอดหรือเปล่าเรา” เขาเข้าไปแอบในถ้ำทันที แค่ไม่กี่วินาที เขาก็ได้มองเห็นร่างอสุรกายตัวสีดำร่างคล้ายคนแต่มีหัวเป็นสัตว์ มีเขา หน้าตาแปลกดวงตาสีแดงก่ำ มีปีกกว้างมาก บางตัวก็ดูเหมือนค้างคาวหน้าตาแปลก ๆ พวกมันหยุดห่างจากปากถ้ำเล็กน้อย
อสุรกายตัวหนึ่งพูดขึ้น “ข้าได้กลิ่นมนุษย์ มันต้องมีสิ่งที่เราต้องการ”
วิวคิด “ไม่จริงนะ ตายแน่เรา พวกนี้เป็นอะไรกัน”
อสูรตัวหนึ่งพูดขึ้น “หลังพุ่มไม้ มีถ้ำ”วิว
วิ่งออกจากพุ่มไม้ทันทีเพราะพวกมันได้ใช้เปลวเพลิงมุ่งหน้าไปที่เขา
“แย่แล้ว”
เขาวิ่งไปได้ 3-4 ก้าวเท่านั้น อสุรกาย 4 ตัวก็ล้อมเขาไว้ ทั้งสี่พุ่งตัวเข้าหาวิวโดยไม่พูดจา แต่ทันใดนั้นสิ่งที่เขากำอยู่ในมือได้เกิดแสงสีฟ้าอีกครั้ง แสงนั้นมีรัศมีไม่มากล้อมตัวของวิวไว้ ปิดกันการโจมตีพวกอสูรทั้ง 4 แต่ก็ไม่ได้ทำให้พวกมันตาย พวกมันต่างพยายามจู่โจมเข้าหาแสงสีฟ้านั้นอย่างบ้าคลั่ง แล้วอยู่ ๆ ก็มีร่างหญิงสาวปรากฏขึ้นต่อหน้าวิว เขาตกใจ แต่ในมือก็ยังคงกำก้อนหินไว้แน่น มือของเธอก็จับไปที่มือของวิวที่กำก้อนหินเช่นกัน
วิวถาม “คุณเป็นใคร”
หญิงสาวพูด “เราปกป้องเจ้าได้ไม่นาน พลังสุดท้ายที่เหลืออยู่ของเราจะทำลายพวกมันไม่ให้ออกจากป่านี้ไปทำร้ายมนุษย์ได้ เพียงแต่เจ้าจะต้องยอมรับการเป็นผู้พิทักษ์จองจำ เจ้าจะยอมรับมันหรือไม่”
วิวมีสีหน้างง และตกใจกลัว “อะไร ผมไม่เข้าใจ”
หญิงสาวพูด “ว่าไงจะยอมรับมันไม่”
วิวมองพวกอสูรที่กำลังจะผ่านเกาะป้องกันเข้ามาได้ในไม่ช้า เขาตัดสินใจ “ผมยอมรับครับ”
เขายอมรับทั้งที่ไม่เข้าใจอะไรเลย แต่สถานการณ์แบบนี้เขาตายแน่ถ้าไม่ยอมรับมัน เมื่อสิ้นเสียงของวิว ลำแสงสีฟ้าก็แตกกระจาย แผ่วง กว้าง ทำร้ายอสุรกายที่กำลังวิ่งออกนอกชายป่า ทุกตัวล้มตายกลายเป็นหินในทันที ซึ่งในขณะนั้นชายหนุ่มทั้ง 5 ยังคงฆ่าเหล่าอสูรก่อนที่ลำแสงสีฟ้าจะแผ่กระจายมาถึงพวกเขา ลำแสงนั้นทำลายแต่อสูร ไม่ได้ทำร้ายพวกเขา แต่กลับได้รับพลังไออุ่น ๆ ชวนให้คิดถึงอดีตมากกว่า
ทุกคนหยุดต่อสู้ วินหันมาถามองค์ชาย “มันเกิดอะไรขึ้นกันครับ”
องค์ชายหันมองไปทางที่แสงมา “เจ้าทั้ง 4 ไปดูว่ายังมีอสุรกายหลงเหลืออีกมั้ย เดี๋ยวเราจะไปดูที่กำเนิดแสง”
ทุกคนน้อมรับคำสั่ง ส่วนองค์ชายก็ลอยตัวไปยังที่เกิดแสงสีฟ้า
เมื่อองค์ชายมายังจุดที่เกิดลำแสง สิ่งที่เขามองเห็นในเวลานี้คือร่างของชายหนุ่มที่เป็นมนุษย์นอนสลบอยู่ท่ามกลางเหล่าอสุรกายที่กลายเป็นหินรายล้อมร่างของเขาอยู่ เขาครุ่นคิดมองมนุษย์ผู้นั้นอย่างพินิจพิจารณา เขาตัดสินใจไม่ช่วยปล่อยทิ้งร่างนั้น เขาได้เดินจากไป แต่ระหว่างนั้นชายหนุ่มได้พูดขึ้น “ท่านเป็นใคร” องค์ชายหันมองกลับมา เขาได้มองเห็นลำแห่งเล็ก ๆ สีฟ้าปรากฏขึ้น ความสงสัยนั้นได้เกิดขึ้นทันที เขาจับร่างที่บอบบางอุ้มลอยไปยังชานเมืองใกล้ ๆ