เธอไม่ได้รักเขา แต่หลังจากรู้ว่าผู้หญิงที่เขากำลังจะแต่งงานด้วยนั้นเป็นศัตรูคู่แค้น เธอจึงตัดสินใจเข้าหาเขา ทำให้เขาสับสน มึนงง พัวพันเขาด้วยวิธีต่างๆ นานา
เธอไม่ได้รักเขา แต่หลังจากรู้ว่าผู้หญิงที่เขากำลังจะแต่งงานด้วยนั้นเป็นศัตรูคู่แค้น เธอจึงตัดสินใจเข้าหาเขา ทำให้เขาสับสน มึนงง พัวพันเขาด้วยวิธีต่างๆ นานา
ในวันจันทร์ถัดมา ขณะที่ไป๋เซินเซินกำลังจัดการกับข้อร้องเรียนของลูกค้าในโรงแรม ‘จางหม่า’ แม่บ้านอีกคนของตระกูลตู้โทรมาบอกว่าคุณย่าล้มป่วยและตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ป้าจางถามเธอว่าจะแวะไปเยี่ยมคุณย่าหรือเปล่า
เนื่องจากว่าไป๋เซินเซินกังวลว่าคุณย่าจะอยู่ดีกินดีในบ้านตระกูลตู้หรือไม่ จึงส่งเงินหลายพันหยวนให้ป้าจาง ขอให้ป้าจางช่วยรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ของคุณย่าให้เธอทราบ ทันทีที่รู้ว่าคุณย่าไม่สบาย เธอจึงรีบวางงานในมือลงไว้ก่อนและขับรถไปโรงพยาบาลตามที่ป้าจางบอก
จากคำบอกเล่าของป้าจาง คุณย่ามีอาการกล้ามเนื้อหัวใจตาย ท่านหมดสติแต่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีและขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
ไป๋เซินเซินเดินถือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไปตามทางเดินในโรงพยาบาล มองหาหมายเลขห้องผู้ป่วยของคุณย่า หลังจากเดินไปรอบๆ ในที่สุดก็มาถึงห้องผู้ป่วยวีไอพี ประตูยังคงแง้มอยู่ ขณะกำลังจะผลักประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงผู้หญิงดังมาจากข้างในก่อน ดูเหมือนกำลังโต้เถียงกับใครอยู่
ไป๋เซินเซินมองผ่านช่องประตูที่เปิดแง้มอยู่ เห็นหวังหงนั่งอยู่บนโซฟาตรงหน้าเตียงคุณย่า ปากพูดบ่นไม่หยุดว่า “คุณแม่คะ ฉันไม่ไหวแล้วนะคะ มีบางอย่างผิดปกติกับงานแต่งงานของซีซี แล้วคุณแม่ยังมาล้มป่วยอีก ไม่รู้หรือว่ามันทำให้ทุกคนเดือดเนื้อร้อนใจไปกันหมดเลย!”
“ก็มันเป็นโรคเก่า จะให้แม่ทำยังไง” คุณย่าพูดอย่างหมดหวังด้วยท่าทางอ่อนแรง
“กลับไปอยู่ชนบทเหมือนเดิมดีไหมคะ ตอนอยู่ที่นั่นคุณแม่ก็ดูแข็งแรงดีนี่คะ อยู่ที่นั่นจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์ อาการของคุณแม่ก็จะได้ดีขึ้นด้วย”
“...” คุณย่าไม่ตอบ
หวังหงยังคงบ่นต่อไป “ช่างเถอะ ฉันไม่อยากพูดเรื่องไร้สาระนี่แล้ว เฮ้อ แค่นึกถึงงานแต่งของซีซีฉันก็ปวดหัวพอแล้ว เดิมทีบัตรเชิญงานแต่งก็ถูกส่งออกไปแล้วและทุกอย่างก็ถูกตระเตรียมหมดแล้ว แต่เว่ยเหลียนเหิงดันบอกยกเลิกงานแต่งกะทันหันโดยไม่มีเหตุผล เขาคงไม่คิดจะทำให้ตระกูลตู้ของเราอับอายขายขี้หน้าชาวบ้านหรอกใช่ไหม น่าโมโหจริงๆ เลย คำอธิบายที่สมเหตุสมผลก็ยังไม่มี นี่เขาดูถูกครอบครัวของเราใช่ไหม ฉันไม่เคยเจอเรื่องแย่ๆ แบบนี้มาก่อนเลย แย่ที่สุด”
“บ่นต่อหน้าแม่ไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ถ้าเขาอยากยกเลิกก็ปล่อยให้เขายกเลิกไป ตระกูลเว่ยของเขาทั้งร่ำรวยและมีอำนาจกว่าเรามาก และใช่ว่าเราจะต่ำต้อยด้อยค่าขนาดนั้น ให้ซีซีแต่งงานกับคนอื่นยังดีกว่าแต่งกับเขา ผู้ชายแบบนั้นจะมาจริงใจกับซีซีได้ยังไง” คุณย่าพูดอย่างใจเย็น
“คุณแม่พูดแบบนี้หมายความยังไงคะ คุณแม่ไม่อยากให้ซีซีแต่งงานกับผู้ชายที่ดีพร้อมเหรอคะ? จริงอยู่ที่บริษัทเราทำธุรกิจท่องเที่ยว แต่แทบจะเทียบไม่ได้กับตระกูลเว่ย ซีซีของเราทั้งสาวทั้งสวยและยังเรียนจบจากเมืองนอกเมืองนา ซีซีของเราคู่ควรกับเว่ยเหลียนเหิงที่สุดแล้ว”
“สิ่งสำคัญที่สุดคือ” หวังหงกล่าวต่อ “เหลียนเหิงและซีซีต่างชอบพอกัน พวกเขาคบกันตั้งสองสามปีแล้ว ทุกคนก็เห็นว่าเขารักซีซีแค่ไหน ฉันคิดว่าการที่เขายกเลิกงานแต่งกะทันหันต้องมีใครอยู่เบื้องหลังแน่!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ไป๋เซินเซินจึงผลักประตูและเดินเข้าไปพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณย่า หนูมาเยี่ยมแล้วค่ะ”
คุณย่าดูตื่นเต้นมากที่เห็นเธอ ท่านพยายามลุกขึ้นจากเตียง “หลานมาได้ยังไง”
ไป๋เซินเซินรีบเดินไปที่ข้างเตียงและจับมือท่านด้วยความรักแล้วพูดว่า “ไม่ต้องลุกค่ะ นอนลงเถอะ”
“แกมาทำอะไรที่นี่!” หวังหงยกมือขึ้นกอดอก ถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเต็มที่
ไป๋เซินเซินเหลือบมองหวังหงนิดหนึ่งก่อนตอบว่า “พูดแปลกๆ คุณย่าไม่สบายเข้าโรงพยาบาล ในฐานะหลานสาวก็ควรมาเยี่ยมท่านสิ” จากนั้นเธอก็ยิ้มตาหยีให้คุณย่า “คุณย่าเองก็อยากเจอหนูเหมือนกันใช่ไหมคะ?”
“จ๊ะ” คุณย่าจับมือเธอแน่นและมองเธอด้วยความรัก “ย่าเองก็อยากเจอหลานมาก คิดถึงหลานเหลือเกิน แต่ย่าไม่อยากให้หลานเป็นห่วงก็เลยไม่ได้บอก”
“ทีหลังมีอะไรต้องบอกหนูนะคะ หนูจะได้รีบมาเยี่ยมคุณย่าให้เร็วกว่านี้”
หวังหงคงทนความใกล้ชิดสนิทสนมระหว่างเธอกับคุณย่าไม่ได้ จึงเปิดปากด่าทันที “นังสารเลว ครั้งที่แล้วยังไม่สำนึกอีกเรอะ ยังใจกล้ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก แกอยากโดนตีนักใช่ไหม ฉันจะโทรหาพ่อแกเดี๋ยวนี้!”
“ไม่ต้องพูดแล้ว เซินเซินก็เป็นหลานสาวของแม่คนหนึ่งเหมือนกัน เธอจะมาเยี่ยมแม่เมื่อไหร่ก็ได้”
“คุณแม่!” หวังหงตะโกนเสียงดัง “คุณแม่ใจร้ายเกินไปแล้ว คุณพี่กับฉันหมดเงินไปเป็นแสนเพื่อจัดงานวันเกิดปีที่แปดสิบให้คุณแม่ ทั้งบ้าน ทั้งรถ ทั้งอาหารการกินดีๆ พวกเราก็ให้คุณแม่มาตลอด แต่ไม่นึกเลยว่าคุณแม่จะยังยึดติดกับนังสุนัขตัวเมียตัวนี้ มันฆ่าหลานชายคุณแม่นะคะ ทำให้ฉันมีลูกไม่ได้อีก คุณแม่ยัง...”
“พอได้แล้ว” ไป๋เซินเซินพูดแทรกขึ้น “คุณย่าไม่สบายอยู่ ไม่เห็นเหรอ? ถ้ามีอะไรอยากพูดกับฉันเป็นการส่วนตัวก็ไปพูดกันข้างนอก”
“เฮอะ” หวังหงหันหน้ามาแล้วแค่นยิ้มอย่างเย็นชา “ก็ได้ ฉันเองก็มีเรื่องจะพูดกับแกเป็นการส่วนตัว” พูดจบหล่อนก็เดินออกไปด้านนอก
ไป๋เซินเซินระงับความเกลียดชังในใจ พูดคุยกับคุณย่าอีกนิดหน่อย จากนั้นก็เดินออกจากห้องผู้ป่วยไป