เธอไม่ได้รักเขา แต่หลังจากรู้ว่าผู้หญิงที่เขากำลังจะแต่งงานด้วยนั้นเป็นศัตรูคู่แค้น เธอจึงตัดสินใจเข้าหาเขา ทำให้เขาสับสน มึนงง พัวพันเขาด้วยวิธีต่างๆ นานา
เธอไม่ได้รักเขา แต่หลังจากรู้ว่าผู้หญิงที่เขากำลังจะแต่งงานด้วยนั้นเป็นศัตรูคู่แค้น เธอจึงตัดสินใจเข้าหาเขา ทำให้เขาสับสน มึนงง พัวพันเขาด้วยวิธีต่างๆ นานา
เธอไม่สนคำพูดที่แฝงความประชดของเขาและเป็นฝ่ายโยนชิปต่อรอง “เว่ยเหลียนเหิง ฉันขอทำนายว่างานแต่งของคุณกับตู้หนานซีจะต้องถูกเลื่อนออกไป เรือสำราญของคุณกำลังจะเป็นข่าวใหญ่ในไม่ช้านี้ คุณอยากรู้ไหมว่าทำไม”
เขาเลิกคิ้วเป็นเชิงบอกให้เธอพูดต่อ
“เหตุผลคือนักเที่ยวกินอาหารที่ติดเชื้อโรคบนเรือสำราญของคุณจนทำให้เสียชีวิตและเจ็บป่วยนับไม่ถ้วน ภายใต้แรงกดดันจากสื่อและความคิดเห็นของผู้คน เรือสำราญของคุณจะต้องล้มละลายภายในหนึ่งเดือนแน่นอน”
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย และความดูถูกในสายตาของเขาก็หายไป "พูดอีกครั้ง"
“ฉันคงไม่ต้องพูดแล้วล่ะมั้ง คุณเว่ยที่ฉลาดพอๆ กับฉันจะไม่เข้าใจที่ฉันพูดได้ยังไง” ไป่เซินเซินหัวเราะเบาๆ “จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ฉันแค่มาบอกข่าวร้ายนี้กับคุณ คุณควรเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้านะ”
สีหน้าและแววตาของเขาเริ่มไม่มั่นคง กลิ่นอายความอันตรายแผ่ออกมาจากร่างสูงใหญ่ โดยเฉพาะดวงตาที่ดำมืดของเขาค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายราวกับว่าจะจับเธอกินทั้งเป็น
เขาอาศัยโอกาสที่เธอไม่ทันตั้งตัว ยื่นมือมาบีบคอเธอแล้วพูดด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “ไป๋เซินเซิน คุณนี่มันไม่มีอะไรดีเลยจริงๆ นอกจากเป็นผู้หญิงราคาถูกแล้วยังกล้าท้าทายความอดทนของผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า” สิ้นเสียงนั้น เขาก็ออกแรงบีบคอเธอมากขึ้น
‘อ๊ะ’ ไป๋เซินเซินเริ่มหายใจไม่ออก ใบหน้าเธอเริ่มซีด พยายามแกะมือเขาออก ไม่คิดเลยว่าเขาจะต้องการชีวิตเธอจริงๆ ไม่คิดว่าเขาจะรุนแรงและมีด้านมืดแบบนี้
ในขณะที่เขากำลังบีบคอเธอให้ตายคามือและเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจตาย เขาก็ปล่อยมือออกทันควันและผลักเธอล้มลงบนเตียง
“แค่ก แค่ก แค่ก” ไป๋เซินเซินไอติดต่อกัน น้ำตารื้นที่หางตา
สีหน้าของเขาดุดันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ไป๋เซินเซิน ถ้าคุณต้องการใช้วิธีสกปรกแบบนี้เป็นเบี้ยต่อรองเพื่อขู่บังคับให้ผมแต่งงานด้วย คุณได้ตายจริงๆ แน่”
นี่เขาคิดว่าเธอวางแผนสร้างความหายนะเพื่อบังคับให้เขาเลิกกับตู้หนานซีและเปลี่ยนมาแต่งงานกับเธอแทนอย่างนั้นเหรอ?
“ดูเหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปไกลมาก วัตถุดิบอาหารที่พวกคุณซื้อบนเรือสำราญลำหนึ่งติดโรคระบาด จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ มันถูกปกปิดโดยพนักงานของคุณ และแน่นอนว่าฉันไม่ได้เป็นคนทำ”
สีหน้าของเว่ยเหลียนเหิงคลุมเครือ จ้องมองเธอด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์
เมื่อตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ เขาจึงหยุดพูดเรื่องไร้สาระและถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจังทว่าเบาลงกว่าเดิม "ท่าเรือไหน เรือสำราญลำไหน เที่ยวเรืออะไร วัตถุดิบอาหารอะไร เชื้อโรคอะไร... บอกผมมาให้ชัดเจน"
“ทำไมฉันต้องบอกคุณด้วยล่ะ เมื่อครู่คุณเพิ่งบีบคอฉันไปหยกๆ ไม่ใช่ว่าอยากให้ฉันตายหรอกเหรอ”
เขาคว้ามือเธอมาจับ “ฟังนะ ผมไม่อารมณ์มาต่อล้อต่อเถียงกับคุณ บอกสิ่งที่คุณรู้มาเดี๋ยวนี้!”
เธอสะบัดมือเขาออกอย่างแรง “บอกก็ได้ แต่คุณต้องยกเลิกงานแต่งกับตู้หนานซีก่อน คุณทำได้ไหม ถ้าทำได้ ฉันจะบอกข้อมูลทั้งหมดให้คุณทราบ คุณจะได้รักษาธุรกิจของคุณไม่ให้ขาดทุนมหาศาลได้ทัน!”
เขาหรี่ตามองแล้วพูดว่า “ผมจะแต่งงานกับใคร มันสำคัญกับคุณมากขนาดนั้นเลยเหรอ”
“คิดมากไปแล้ว ฉันไม่สนหรอกว่าคุณจะแต่งงานกับหมาแมวที่ไหน แต่ต้องไม่ใช่ตู้หนานซี”
“ทำไมผมต้องฟังคุณแล้วทิ้งความสุขของตัวเองไปด้วยล่ะ”
ความสุข?
ไป๋เซินเซินกระพริบตา มีบางอย่างในใจกระเพื่อม ตู้หนานซีคือความสุขของเขา?