Your Wishlist

มู่หลันฮวา (พี่น้องพบเจอ)

Author: ชาเขียวuมสด

ลูกไก่ ที่กำลังเดินข้ามถนนอยู่ดีๆก็โดนรถชนจนได้ไปเกิดใหม่ในร่างเด็กน้อย อายุสิบขวบปีแถมยังมีครอบครัวที่น่ารักอีก ใครจะไปคิดว่าจะได้ย้อนยุค

จำนวนตอน : ตอนที่ 1

พี่น้องพบเจอ

  • 23/04/2564

“หยุดนะ…เจ้าโจรชั่วปล่อยพี่สาวของอาเหอมานะ” พูดจบอาเหอก็กระชับไม้ในมือวิ่งเข้าไปทุบตีมู่เฟยชิงเพราะเข้าใจว่ามู่เฟยชิงนั้นจะเข้ามาทำร้ายพี่สาว

“โอ๊ยยย!! เจ้าหยุดตีข้าเดี๋ยวนี้นะ”

“ไม่…ข้าจะตีเจ้าให้ตายเจ้าโจรชั่ว เจ้าจะมาลักพาตัวพี่สาวไปใช่หรือไม่”

“เหตุใดข้าต้องทำเช่นนั้น” มู่เฟยชิวิ่งหลบหลีกเด็กน้อยที่ใช้ไม้ไล่ทุบตีเขาแต่ปากก็ยังพูดจาไม่หยุด มู่หลันฮวาเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะขำไม่ได้นานเท่าไหร่แล้วนะที่นางไม่ได้เห็นมุมนี้ของพี่ใหญ่

“อาเหอ เจ้าหยุดก่อน”

“ทำไมหรือขอรับพี่สาว” อาเหอเอียงคอถามด้วยความสงสัย

“เขาไม่ใช่โจรหรอกนะอาเหอชายผู้นี้คือพี่ใหญ่เป็น……พะ…..พี่ชายของพี่สาวเอง” นางเอ่ยออกมาน้ำเสียงที่ตะกุกตะกักด้วยความกังวล มู่เฟยชิงที่เห็นอาการของน้องสาวก็เข้าได้ในทันทีว่านางกำลังกังวลเพราะเหตุใด หากเป็นเรื่องนั้นเขาเองก็ได้รับรู้มาตั้งแต่ช่วงแรกๆ แล้วน้องสาวเปลี่ยนไปขนาดนั้นเหตุใดเขาถึงจะไม่สังเกตเห็น น้องสาวคนเก่านั้นเป็นคนไม่ชอบกินเนื้อตุ๋น แต่หันกลับมามองนางสิกลับชอบเนื้อตุ๋นยิ่งกว่าสิ่งใดไหนจะเรื่องคำพูดทั้งกิริยามารยาทการกระทำที่ผ่านมานั้นได้ทำให้เขารับรู้ได้ตั้งนานแล้วนางไม่ใช่มู่หลันฮวาน้องสาวคนเก่าของเขา ยิ่งได้ยืนยันจากปากของท่านพ่อและท่านแม่แล้วเขาก็ยิ่งมั่นใจเข้าไปอีก แต่ถึงอย่างไรไม่ว่านางจะเป็นใครเข้ามาอยู่ในร่างของมู่หลันฮวาเขาก็ได้รักและเอ็นดูน้องสาวคนนี้ยิ่งนักยังไงนางก็คือคนในครอบครัวและเป็นน้องสาวของเขาไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเห็นสีหน้าที่ยุ่งยากใจของน้องสาวมู่เฟยชิงก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งเป็นการเอาคืนนิดๆ หน่อยๆ จากเขาพร้อมทั้งทำเสียงเข้มและสีหน้าราบเรียบเย็นชาใส่

“เจ้ากำลังกังวลสิ่งใดอยู่มู่หลันฮวาหรือว่าเจ้ามีสิ่งใดปิดบังไว้อยู่”

“อะ…เอ่อ…เอ่อ…คะ…คือว่า”

“ไยเจ้าต้องพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักเช่นนั้นเล่า หึหึหึ” นางจะบอกและอธิบายให้พี่ใหญ่ฟังยังไงดี ด้านมู่เฟยชิงที่เห็นว่าน้องสาวมีอาการเลิ่กลั่กก็ได้กระตุกยิ้มมุมปากไม่นานก็หายไปทันที

“คะ…คือ”

“เจ้าจะคิดอีกนานไหม…หืม”

“หากข้าบอกสิ่งนี้ออกไปท่านจะโกรธเกลียดข้าหรือไม่จะรักและยังเห็นว่าข้าเป็นคนในครอบครัวอยู่อีกไหม” ความรู้สึกผิดเสียใจหวาดกลัวและการสูญเสียในครั้งนั้นเริ่มค่อยๆ กลับมาหานางอีกครั้ง ร่างกายเริ่มสั่นระรัวดั่งลูกนก น้ำตาไหลพราก มู่เฟยชิงที่เห็นอาการหวาดกลัวกับน้ำตาที่ไหลออกมามากมายของน้องสาวก็ตกใจจึงได้เข้าไปโอบกอดนางทันที ตลอดเวลาที่เขาไม่ได้อยู่ด้วยน้องสาวเขาไปเจอกับอะไรมากันแน่ถึงได้มีอาการเป็นเช่นนี้ทำเอามู่เฟยชิงแกล้งนางไม่ลงกันเลยทีเดียว จึงทำได้แค่ลูบหัวไปมา

“นี่…นี่…พวกท่านหลงลืมข้าไปแล้วหรือขอรับ” อาเหอพูดออกมาด้วยความงุนงงปนสงสัย

“นั่นสิอาเหอ อะ…เอ่อ เชิญท่านเข้ามานั่งในบ้านก่อน เดี๋ยวข้าไปยกน้ำชามาให้นะเจ้าคะ”

“หลันเอ๋อร์ไยเจ้าไม่เรียกพี่ว่าพี่ใหญ่”

“ข้าไม่กล้าหรอกเจ้าค่ะ”

“ทำไมหลันเอ๋อร์หรือเพราะเจ้ากังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นเมื่อหลายปีก่อน” นางได้แต่ตกใจจนหน้าซีดเมื่อมู่เฟยชิงพูดออกมา นางจึงได้หันไปพูดกับอาเหอทันที

“อาเหอ”

“ขอรับพี่สาว”

“อะ…พี่สาวยกขนมจานนี้ให้เจ้ากิน เจ้าออกไปเล่นด้านนอกก่อนนะพี่สาวมีเรื่องสำคัญต้องพูดคุยกับพี่ชาย”

“ขอรับ” อาเหอที่เดินออกไปแล้วไม่วายเหลียวหลังกลับมาพูดกับพี่สาวอีกครั้งก่อนจะเดินหายออกไป “พี่สาวหากพี่ชายท่านนี้จะตีท่าน พี่สาวต้องร้องเสียงดังๆ นะขอรับข้าจะรีบเข้ามาช่วยพี่สาวทันที” หลังจากที่อาเหอได้ออกไปได้ไม่นานนางก็ได้ทำการร่ายเวทอักขระม่านเก็บเสียงทันทีเพื่อความปลอดภัยจากนั้นนางจึงได้เอ่ยบอกความจริงแก่มู่เฟยชิงทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่นางไม่ใช่น้องสาวของเขาแต่เป็นคนอื่นที่เข้ามาอยู่ในร่างนี้แทนจวบจนไปถึงเรื่องของท่านแม่ทุกอย่างเป็นเพราะนางที่ทำให้ท่านแม่ต้องตายทำให้ท่านพ่อต้องทุกข์ใจ นางจึงไม่กล้าที่จะอยู่สู้หน้าทุกคน นางรู้สึกผิดและละอายใจทุกครั้งยามที่มองหน้าท่านพ่อ นางไม่อาจทำใจได้ในเรื่องของท่านทุกครั้งที่อยู่ในจวนนางก็จะเห็นแต่ภาพของท่านแม่

“เรียกพี่ว่าพี่ใหญ่เหมือนเดิมเถอะนะหลันเอ๋อร์”

“ตะ…แต่ว่า”

“หลันเอ๋อร์เจ้าฟังพี่พูดให้ดีๆ นะเรื่องที่เจ้าไม่ใช่หลันเอ๋อร์นั้นพวกเรารู้กันตั้งนานแล้วที่ไม่พูดออกมาเพราะเกรงว่าจะทำให้เจ้าไม่สบายใจและคิดมาก ท่านพ่อเองก็รอเจ้ากลับไปอยู่ทุกวันหลังจากที่เจ้าหนีออกมาแต่เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของท่านพ่อ ตอนนี้ท่านพ่อสบายดีก่อนที่พี่จะออกเดินทางตามหาเจ้าพี่ได้แวะกลับไปยังจวนตระกูลมู่เพื่อพูดคุยบางอย่างที่สำคัญแก่ท่านพ่อ ถึงตอนนี้ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครมาจากที่ไหนพวกเราก็จะยังรักและเอ็นดูเจ้าดั่งคนในครอบครัวแล้วเจ้าเองก็ยังคงเป็นน้องสาวที่พี่รักที่สุด ส่วนเรื่องของท่านแม่นั้นเจ้าไม่ต้องคิดมากและโทษว่าเป็นความผิดของเจ้า” เมื่อได้ฟังสิ่งที่พี่ใหญ่พูดออกมาแม้นางจะพยายามฝืนกลั้นไว้มากแค่ไหนน้ำตาก็พลันไหลลงมาจดบดบังม่านตาทำให้นางมองภาพตรงหน้าได้ไม่ชัดเจนนักแต่สิ่งหนึ่งที่นางสัมผัสได้นั้นคือความอบอุ่นจากอ้อมกอดของพี่ชาย

“พี่ใหญ่ข้าขอโทษ ฮือ…ฮือ…ฮือ ข้าขอโทษ” บัดนี้ใบหน้าที่งดงามได้เปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยคราบน้ำตา

“หลันเอ๋อร์พี่ต้องพาเจ้าเดินทางไปยังที่ที่หนึ่งก่อนเพื่อพบเจอใครบางคน”

“เมื่อไหร่เจ้าค่ะ”

“อีกสามสี่วันเราต้องออกเดินทาง”

“เจ้าค่ะ” แต่ถ้าหากนางไปแล้วอาเหอจะอยู่กับผู้ใดเขาอายุแค่แปดปีจะทิ้งให้อยู่เพียงลำพังได้ยังไง นางยังจำภาพที่อาเหอวิ่งเข้ามากอดนางแล้วร้องไห้ได้ดีเด็กน้อยที่ร้องไห้เพียงแค่คิดว่านางจะทิ้งให้อยู่คนเดียว

“พี่ใหญ่ ข้าพาอาเหอไปด้วยนะเจ้าคะข้าไม่อยากทิ้งเขาไว้ที่นี่คนเดียว”

“อืม เอาเถอะพี่ตามใจเจ้าหลันเอ๋อร์” เมื่อได้พูดคุยและปรับความเข้าใจทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนางก็คลายม่านอักขระลงทันที

“นี่ก็ตกเย็นมากแล้วพี่ใหญ่ท่านรีบไปอาบน้ำอาบท่าผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจะไปทำอาหารไว้รอ”

“อืม ขอบใจเจ้ามากหลันเอ๋อร์” หลังจากที่มู่เฟยชิงเดินออกไปแล้วนางก็หันหลังกลับเดินออกไปทำอาหารใช้เวลาเพียงไม่นานอาหารทั้งหมดก็ถูกจัดตั้งไว้อย่างดีทั้งยังส่งกลิ่นหอมไปทั่ว อาเหอที่ได้กลิ่นหอมของอาหารก็ได้วิ่งเข้ามาทันที

“หอม…หอมจริงๆ เลยขอรับพี่สาว”

“หอมอย่างเดียวแล้วเจ้าไม่หิวอย่างนั้นหรือ”

“ก็ต้องหิวสิขอรับไม่เชื่อท่านลองฟังเสียงท้องของข้าสิ”

โครกกกก!!

อุ๊ป!! ฮ่า ฮ่า ฮ่า

“พี่สาวคนนี้เชื่อแล้วว่าเจ้าหิวจริงๆ อาเหอ” อาเหอได้แต่ก้มหน้าลงอย่างอายๆ

“มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือหลันเอ๋อร์ถึงได้หัวเราะเสียงดังขนาดนี้”

“ไม่มีอะไรหรอกเจ้าค่ะ ข้าว่าพวกเรารีบกินข้าวเถอะประเดี๋ยวกับข้าวจะเย็นจืดชืดไม่อร่อยเสียก่อน”

“อืม / ขอรับ”

 

 

อีกด้านตระกูลมู่

มีบางคนกำลังอารมณ์ครุกกรุ่นเข่นเขี้ยวคาดโทษอยู่ในใจ

“รอข้าก่อนเถอะน้องหญิง ข้าจะลงโทษเจ้าซะให้เข็ดหลาบไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันเลยโทษฐานที่ทำให้ข้าเสียใจอยู่นานนับปี”

17/4/64
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า