ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
“โฮ่…ฮี้…โฮ่…ฮี้…โฮ่…โฮ่…โฮ่!!!”
.
ภาพในจินตนาการคือทาซานมาโผล่กลางกรุง แม้รูปร่างตัวเองจะเหมือนกับสัตว์ป่ามากกว่าคน แต่พีก็ไม่สนอะไรอีกต่อไปแล้ว! อาดรีนารีนหลั่งยิ่งกว่าตอนมีเซ็กส์ จับทุกสิ่งทุกอย่างมาผูกรวมกันด้วยเงื่อนพิรอด อันเป็นศัพท์แสงจากวงการลูกเสือที่เคยเรียนมาเมื่อครั้งเป็นเด็ก
.
“ซ้ายทับขวา…ขวาทับซ้าย….แล้วก็ดึง…สติพี สติ อย่าล่ก ใจเย็นเข้าไว้!”
“ชื่อมันก็บอกว่าเงื่อนพิรอด เราต้องรอดสิวะจะมิรอดได้ไง?”
.
บ่นพึมพำกับตัวเองโดยไม่แคร์ว่าใครจะได้ยินไหม?! ณ ตอนนี้กล่องลังเบียร์เริ่มจะยุบ มองเข้าไปนี่เห็นแม้กระทั่งดวงตาของคุณหมอที่ส่องทะลุเลนส์แว่นตรวจจับความร้อน พวกเขาเห็นพีเต็มๆ! เห็นชัดแจ่มแจ้ง! แถมยังวิทยุรายงานเป็นพัลวันว่ามีคนบ้าแก้ผ้าอยู่ตรงระเบียง!
.
“ว๊ายยยย!”
“ไม่! เราไม่มีเวลากรี๊ดดด! เราต้องรีบเหวี่ยงตัวลงไปก่อนจะถูกจับ”
.
ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา กระเทยหนุ่มจัดแจงทิ้งปลายเชือกที่ทำขึ้นจากเสื้อผ้าทั้งหลายลงไปยังระเบียงห้องเด็กด้านล่าง พลางบรรจงใช้ปลายอีกด้านมัดกับราวเหล็กกันตกของห้องตัวเอง โดยหวังจะใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นของเจ้าสิ่งนั้น
.
“กางเกงในชายของฉัน! ฉันเลือกนายแล้วนะ!”
.
พีอธิษฐาน เขาคิดเช่นนั้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ เขาหวังจะใช้ขอบยางยืดของมันเป็นตัวรับน้ำหนัก กะว่าถ้าเชือกที่มัดเกิดยาวไม่พอ ถ้าออกแรงขย่มนิดหน่อยขอบยางย้วยๆ ตรงนี้ ก็น่าจะขยายจนขาของเขาเอื้อมไปแตะถึงพื้นระเบียงด้านล่างได้โดยสวัสดิภาพ
.
“ฮึบ , เอาล่ะไปกันเลย!”
.
“สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น!!!”
.
ชั่วเสี้ยวอึดใจร่างทั้งร่าง พร้อมทั้งความเปล่าเปลือยอันสุดแสนจะวิตถารก็ทะยานพ้นออกไปจากนอกระเบียงชั้น 5 ตัวของเขาหล่นตุบลงมาในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งก็ถือว่าเร็วพอดิบพอดีกันกับที่กล่องลังเบียร์พังครือลงมา ค้อนปอนด์ระดมทุบ! หัวไหล่ช่วยกันดันประมาณสิบถึงสิบห้าครั้ง! ระเบียงห้องด้านนอกก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้าคุมพื้นที่
.
แต่ก็เหมือนจะช้าเกินไป!
.
เมื่อจู่ๆ ก็มีชายผ้าหลายผืนถูกลมตีพัดขึ้นมาจากด้านล่าง แล้วพอพวกเขาพากันชะโงกหน้าลงไปมอง ก็พบแต่ราวตากผ้าเปล่าๆ ที่ล้มระเนระนาดกระจัดกระจาย หนำซ้ำยังได้ยินเสียงเด็กร้องดังระงม ตามติดมาด้วยเสียงของคนเป็นแม่ที่กรี๊ดซะจนดังสนั่น! ตอกย้ำว่าข้อสันนิษฐานของหัวหน้าหน่วยไม่น่าจะผิด! เขารีบดึงตัวเองกลับขึ้นมาด้านบน พลางสั่งการให้ลูกทีมวิ่งลงไปเช็คด้านล่าง เป้าหมายน่าจะอยู่ที่นั่นและนำหน้าพวกเขาไปแล้วก้าวหนึ่ง!
.
“ข้างล่างคราวนี้ชั่วร์ เร็วเข้ารีบไป!”
.
“แล้วเหล้านองพื้นพวกนี้ กับสถานที่เกิดเหตุล่ะครับ?”
.
“ช่างมันสิ! เรามีอำนาจตามพรก. ฉุกเฉินอยู่นะ อีกเดี๋ยวหน่วยเก็บกวาดจะเข้ามาเคลียร์เอง เร็วเข้า! อย่ามัวแต่เซ้าซี้!”
.
“ครับ!”
.
กลับหลังหันเก็บเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ ก่อนที่ทั้งหมดราว 5 - 6 ชีวิตจะมูฟตัวเองออกจากห้องของพีไปด้วยความรวดเร็ว พวกเขาทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้เพียบ! ชนิดที่ถ้าจะประเมินราคาเป็นตัวเลขแล้วล่ะก็แจ้งตำรวจปอท. ว่าบ้านถูกวางเพลิงยังจะเสียหายน้อยกว่า
.
.
3 นาทีผ่านไป
ใครจะเชื่อว่าศึกครั้งนี้พีจะเป็นผู้ชนะอีกครั้ง เมื่อแพทย์เชิงรุกทั้งหน่วยถูกนักศึกษาเภสัชแหกตาเข้าอีกหน! เพราะแท้จริงแล้ว! พีแม่งยังคงห้อยโตงเตงอยู่ที่เดิม! เขาไม่ได้โรยตัวลงไปเหยียบพื้นระเบียงห้องด้านล่าง! , ไม่ได้มีการทำลายข้าวของหรือบุกเข้าไปในห้องเด็กอ่อน ที่มีการตากผ้าอ้อมไว้ด้านหลังแต่อย่างใด!
.
สิ่งที่ทำก็แค่เหยียดปลายเท้าไปสะกิดเขี่ยเอาผ้าอ้อมเด็กให้ปลิวละล่อง! ลมแรงๆ จากด้านล่างพัดผ้าผืนเล็กผืนบางให้กระพือขึ้นไปรบกวนสายตาของเจ้าหน้าที่ ทำให้พวกเขาเข้าใจผิด ประกอบกับโมเมนตั้มจากการแกว่งไกวที่ส่งลำขาไปพาดเข้ากับราวตากโดยบังเอิญ ทำให้ทั้งราวล้มครือลงมาเสียงดัง “โครมมมม!!! " จนเบบี๋น้อยเจ้าของห้องต้องคลานออกมาดูตามประสาเด็ก แล้วก็ร้องไห้!
.
“อุแว้! , อุแว้! , อุแว้! , แงงงง แงงงงง! , อุแว้!”
.
สาบานได้ว่าสงสารเด็กจับหัวใจ เกิดมาเป็นคนทั้่งทีทำไมต้องมาเห็นความอนาจารเช่นนี้ตั้งแต่ยังเล็ก! หนูน้อยมองเห็นร่างเปลือยล่อนจ้อนกำลังกระเถิบขากระดืบๆ กลับขึ้นไปสู่มาตุภูมิด้วยความทุลักทุเล ด้วยความสัตย์จริงว่าพีไม่มีเสื้อผ้าสักตัว! เขาโป้หมดเปลือก! แถมยังโคตรกลัวที่ต้องมาฝากชีวิตตัวเองไว้กับขอบยางยืดของกางเกงในตัวเก่า!
.
“อย่าขาดน่ะเว๊ย! … อย่าขาดเชียวนะ! …”
“แต่ก็ดี! ร้องเข้าเจ้าหนู! ร้องดังๆ ช่วยล่อเจ้าหน้าที่ให้ออกไปจากห้องฉันหน่อย!”
พีคิดในใจ ในขณะที่สองมือก็ออกแรงดึงตัวเองขึ้นไปด้วย
.
“นี่ถ้ามีแม่เธอโผล่มาด้วยจะดีมากเลย.. คงช่วยฉันได้มาก! "
"ฮึบ! , ฮึบ! , อึบ! , ฮึบ!”
.
เดชะบุญเมื่อหล่อนดันออกมาจริงๆ! เจตนาก็คงจะแค่เดินมาดูลูกว่าเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นรึเปล่า? เพราะเมื่อกี้เพิ่งได้ยินเสียงของล้ม ซึ่งผลที่ตามมาก็แน่นอน! … กรี๊ดลั่นบ้านแตก! เสียงแผดร้องดังสยองมาก จนนำมาสู่การวิ่งลงไปดูของเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ดังที่เราเห็น
.
“กรี๊ดดดด! ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยพวกเราด้วย! มีโจรโรคจิตแก้ผ้ามาขโมยผ้าอ้อมเด็กไปดม!”
“กรี๊ดดดดดด! , กรี๊ดดดดดด! , กรี๊ดดดดดดด!”
.
กรี๊ดว่าน่ากลัวแล้ว แต่การใส่ความเพิ่มเติมลงไปเป็นอะไรที่น่ากลัวกว่า หล่อนใช้เวลาเล่าสิ่งที่เห็นให้เจ้าหน้าที่ๆ มาเคาะประตูหน้าห้องฟังอยู่นานสองนาน เล่าแบบละเอียดยิบดีเทลมาเต็ม! บอกได้แม้กระทั่งขนาดของอวัยวะว่าใหญ่หรือยาวสักเพียงไหน เอียงไปทางซ้ายหรือว่าขวา ซึ่งนั่นก็เท่ากับเป็นการประวิงเวลาให้แก่พีแบบกลายๆ ไปในตัว
.
“ฮึบ!”
“เยี่ยมไปเลยเจ๊! ยาวไป! ยาวไป!”
.
“ฮึบ!”
“อ่าาา…ใกล้ถึงแล้ววว"
.
“อึบ!”
“อีกนิดเดียววว~~!”
.
“เยส!”
"ถึงแล้วเ! รอดตายไปที!”
.
ไม่แม้แต่จะหยุดพักหรือซับเหงื่อ พีรีบยิ่งกว่าสิ่งใดเขาจัดแจงหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ พลันหยิบโทรศัพท์ยัดลงในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะวิ่งผ่านประตูหน้าห้องที่พัง แล้วเลี้ยวไปทางขวามุ่งตรงดิ่งไปยังอีกฟากหนึ่ง ซึ่งเป็นทางหนีไฟของอพาร์ทเมนต์
.
“แฮ่กๆ …แฮ่กๆ … ถ้าเป็นที่นั่นเราต้องรอดออกไปได้แน่ แฮ่กๆ …แฮ่กๆ …”
“สร้างมาเป็นสิบปี ไม่เคยมีใครใช้ทางออกตรงนี้เลยสักคน คงไม่มีเจ้าหน้าที่ไปดักรอหรอก!?”
พีวิเคราะห์ในระหว่างนั้นก็จ้วงเท้าวิ่งหนีไปด้วย
.
เสียงฝีเท้ากระทบพื้นดังรัวรันพอๆ กับเสียงหัวใจ ชะตากรรมของเขากำลังจะได้พบกับแสงสว่างภายในไม่ช้า เพราะวิ่งลงบันไดมันไม่เหนื่อยเท่ากับตอนวิ่งขึ้น เผลอแป๊บเดียวด้วยความมุมานะเขาก็ทะยานเอาตัวเองออกมาสู่โลกภายนอกได้สำเร็จ! พีทำได้ทั้งๆ ที่กลุ่มหมอมากมายยังคงถูกตรึงไว้ที่หน้าห้องบนชั้น 4
.
.
“แฮ่กๆ …เฮ้อ! … เอาล่ะคราวนี้ทำไงต่อดี?”
กระเทยหนุ่มทอดสายตาไปรอบๆ แล้วก็ถึงกับต้องย่อตัวลงซ่อนตัวโดยพลัน! เพราะสิ่งที่แพรวแช็ทมาเตือนนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด! จากมุมหลังพุ่มไม้ตรงนี้ พีมองเห็นกระเทยกับทอมถูกจับขังกรงราวกับสัตว์ป่า! พวกเขาถูกนำตัวขึ้นรถผู้ต้องหาแบบเดียวกับที่เอ็มมี่ เดอะบ็อททอมบลู กับไผ่ ดาวดินโดนกระทำ เมื่อครั้งไปม็อบ
.
“ปล่อยเพื่อนเรา…ปล่อยเพื่อนเรา…”
.
ไม่! ๆๆ พีไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก! เขาไม่ใช่นักประชาธิปไตยที่ในสมองมีแต่เรื่องการเมืองแบบนั้น แล้วเขาเองก็ไม่ได้มีเพื่อนมากมายอะไร จะมีก็แค่แพรว , มิวท์ , แล้วก็พี่เปรมนี่แหละที่สนิทสนมที่สุด
.
“ชิ! คงต้องโทรหาอีแพรวสินะ!? เราอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว… เราต้องให้มันช่วย!”
.
“เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนซิ! ไม่ได้สิ! ขืนโทรไปมันก็จะมีเสียงเกิดขึ้น ถ้าพวกนั้นได้ยินเเข้าเราจบเห่แน่! ต้องใช้การแชท! เราต้องหาที่เหมาะๆ พอที่จะหลบหน้ากลุ่มคนพวกนี้ไปให้ได้”
.
พูดกับตัวเองเสร็จสายตาก็เริ่มทำงาน พีพยายามสอดส่องมองหาอุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่ง ที่ถูกผลิตขึ้นโดยบริษัท AP เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน มันมีหน้าตาคล้ายกับตู้กดน้ำอัดลมแบบหยอดเหรียญ ต่างกันแค่ภายในมีไว้สำหรับขายหน้ากากอนามัยแบบครอบแก้วสวมหัว ไม่ได้มีไว้ขายเครื่องดื่มเหมือนตอนปกติ
.
.
“ให้มันได้อย่างงี้สิฟะ! พอจะใช้ดันหาไม่เจอ! … คอยดูเถอะถ้าเจอเมื่อไหร่เราจะยัดหัวเข้าไปให้ไวเลย โผล่ออกมาจะได้ไม่มีใครจำเราได้ แล้วอะไรๆ ก็จะง่ายขึ้น!