Your Wishlist

Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (nc18+) (บทนำ (2))

Author: L.sunanta

ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน

จำนวนตอน :

บทนำ (2)

  • 18/09/2564

เธอพูดหลังจากยืนเหม่อลอยอยู่ท่ามกลางอ่างเก็บน้ำอันเวิ้งว้างและแห้งแล้ง ก่อนจะใช้มือเปล่าๆสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง แล้วก็ได้ออกมาเป็นแคปซูลบรรจุน้ำจำนวน 70 เม็ดตามที่ได้คีย์ข้อมูลเอาไว้ จัดว่าเป็นอะไรที่พกพาง่ายกินตอนไหนก็ได้ แถมยังง่ายต่อการจำหน่ายจ่ายแจก

.

"โอเค...เท่านี้ก็ย้อนกลับขึ้นไปหาทุกคนข้างบนได้แล้ว ต้องขอบคุณบริษัท AP กับเจ้าสัวคนรวยพวกนั้นล่ะนะ ที่ผลิตของเจ๋งๆแบบนี้ออกมาในยามที่ชาติวิกฤต แต่จะดีกว่านี้มากถ้า AP ช่วยขจัดเชื้อ covid -19 ให้ออกไปจากประเทศไทยไปเลย!"

.

จบประโยค... ปลายนิ้วสวยก็ได้กดปุ่มเล็กๆบริเวณหลังหู แล้วทันใดนั้นเอง! ครอบแก้วขนาดพอเหมาะก็พับตัวขึ้นมาเหวี่ยงสะบัดงับปิดบังใบหน้า "แกร๊ก!" เว้นแค่ลูกตาเอาไว้เหมือนใส่หน้ากาก พอกดปุ่มเดิมซ้ำอีกทีใบพัดสีแดงสะท้อนแสงแวววับที่อยู่ภายในก็เริ่มหมุน มันจะทำการฟอกอากาศทุกอณูที่เข้าไปให้เป็นอากาศบริสุทธิ์ไม่มีพิษและปลอดเชื้อ ซึ่งหน้ากากแก้วตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ทางบริษัท AP คิดค้นขึ้นเพื่อช่วยคนไทยเช่นกัน

.

"ฮืดดด....ฮาดดดด....ฮืดดดด.....ฮาดดดดด"

.

"ใกล้แล้วทุกคน....ใกล้แล้ว....ฉันจะเอาน้ำขึ้นไปให้เดี๋ยวนี้แหละ....อดทนหน่อยนะ... แฮ่กๆ แฮ่กๆ"

.

แพรว อิสรา คือชื่อของเธอ ด้วยบุคลิกและท่าทางในตอนนี้ ผู้อ่านอาจจะคิดว่าเธอเป็น "อลิส" ในหนังเรื่อง Resident evil แต่ความจริงนั้นสวนทางโดยสิ้นดี! แพรวก็แค่นักศึกษาหญิงธรรมดาคนหนึ่งที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก โลกหลังการระบาดของ covid- 19 เปลี่ยนโฉมหน้าไปโดยสิ้นเชิง! มันทำให้คนรวยเปลี่ยนเป็นคนโลภ , คนจนกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว , แล้วก็เปลี่ยนคนใจดีให้เป็นฆาตกร

.

ไม่เว้นแม้แต่เธอ ที่เปลี่ยนสถานภาพจากนักศึกษากลายเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้?

.

"เฮือกกกกก! "

"ถึงแล้ว! แฮ่กๆ , แฮ่กๆๆ "

.

หน้ากากครอบแก้วเต็มไปด้วยฝ้าละออง ใบพัดฟอกอากาศข้างในทำงานหนักมากเพราะต้องแข่งกับการหายใจที่หอบระรัว แพรวยิ้มอยู่ภายในโดยไม่ให้ใครเห็นการทำความดีคงไม่ต้องอวดใคร ไว้ลำบากเมื่อไหร่เขาจะตอบแทนเราเอง เธอคิดแบบนั้นในวินาทีที่ฝ่าเท้าข้างสุดท้ายโผล่พ้นขึ้นมาบนขอบตลิ่ง

.

เผยให้เห็นภาพเบื้องหน้าเป็นคาราวานรถออฟโร้ดจำนวน 4 คัน ที่จอดเรียงกันอยู่ รอยกระสุน , เศษดินโคลน , กระจกกระจังหน้าที่แตก , บวกกับความสมบุสมบันสารพัด ล้วนบ่งบอกว่าคนกลุ่มนี้ผ่านอะไรร่วมกันมามากแค่ไหน

.

ผู้คนเริ่มทยอยออกมาจากหลังรถ พวกเขากระชับพานท้ายปืน กำมีดกำไม้ กำด้ามกระทะทำทุกอย่างเพื่อเตรียมปะทะหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น กะจากสายตาน่าจะมีกันร่วม 15 ชีวิตเห็นจะได้ ดูจากชุดที่แต่งก็บ่งบอกได้อีกว่ามีกันหลายอาชีพ ไล่มาตั้งแต่นักศึกษา , พยาบาล , คนขายล็อตเตอรี่ ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็ก!

.

พวกเขาน่าจะหนีตายกันมาแล้วก็ถูกแพรวช่วยไว้ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้กลุ่มค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นเป็นคาราวานที่รักและคอยปกป้องกันอย่างที่เห็น หลักฐานก็คือเสียงตะโกนของเด็กชายคนหนึ่งที่แว่วดังออกมาจากกลุ่ม ซึ่งสวนทางกับสถานการณ์อันตรึงเครียดกึ่งระแวดระวังของพวกผู้ใหญ่

.

"พี่แพรวมาแล้วววววว!!! , น้ำมาแล้ว!!!!"

หัวกลมผมชี้ วิ่งพรวดออกมากระโดดกอดแพรวอย่างน่าเอ็นดู หนุ่มน้อยรายนี้น่าจะอายุราว 8 - 9 ขวบเท่านั้น เทียบกันแล้วก็น่าจะอยู่ราวป. 2 - . 3 แต่จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อโรงเรียนทั้งหมดล้วนถูกสั่งปิดไปตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน

.

"หมับ!"

พวกเขาสวมกอดกัน ด้วยสภาพที่โคตรจะมอมแมมสกปรก

.

"อย่าวิ่งเร็วนักสิโบ๊ท! เอ่านี่! แบมือมาเอาน้ำไปกิน^^"

แพรวส่งแคปซูลน้ำที่เพิ่งเก็บมาให้ 1 เม็ด หนูน้อยไม่รอช้าอ้าปากงับทันทีในเสี้ยวอึดใจ!

.

"ง่ำๆๆๆ , อ่าาาาาาา...ชื่นใจจังครับพี่แพรว , พี่แพรวใจดีที่สุดเลย"

.

"..........."

เธอไม่ตอบอะไร บุคลิกขี้อายกับรอยยิ้มสวยๆ ล้วนถูกซ่อนไว้ใต้หน้ากากครอบแก้ว ก่อนจะกวักมือเรียกทุกคนออกมา วางอาวุธซะแล้วมาเอาน้ำไปกินแก้กระหายกัน เรากินน้ำกันครั้งสุดท้ายก็เมื่อ 2 - 3 วันที่แล้ว

.

.

การรับแจกแคปซูลดำเนินผ่านไปด้วยดีตรงตามวัตถุประสงค์ แต่ทว่าเมื่อถึงคิวคนสุดท้ายพี่พยาบาลวัยกลางคน (ที่ไม่ได้สวมชุดพยาบาล) ก็ได้ป้องปากบอกกับแพรวว่า คาราวานของเรามีปัญหาอะไรบางอย่างที่เธอไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ด้วยตัวคนเดียว

.

"ซุบซิบๆ , ซุบซิบๆ "

.

"ห๊ะ! เป็นไปได้ไงคะพี่! , หนูอุตส่าห์กำชับกับพี่ไว้แล้วว่าอย่าให้เรื่องนี้เกิดขึ้น! พี่คือหมอที่เก่งที่สุดที่เรามีแล้วนะคะ!"

.

"ใจเย็นค่ะน้องแพรว อย่าเสียงดังไปเดี๋ยวคนอื่นได้ยิน เอาเป็นว่าน้องมาดูกับพี่ก่อน.."

.

"ค่ะ...เอางั้นก็ได้"

.

ปล่อยให้ชาวแก๊งค์คนอื่นๆ ดื่มด่ำกับน้ำแคปซูลที่เก็บมาจากบ่อบำบัดไป ส่วนสองสาวผู้กุมความลับไว้ก็ได้เดินอ้อมคาราวานรถออฟโร้ด มายังรถคันที่อยู่หลังสุด! สีของมันดำขลับตัวถังเต็มไปด้วยร่องรอยเฉี่ยวชนและการบุบจากการโดนกระแทก! กระบะหลังมีการเชื่อมโครงเหล็กทำเป็นลูกกรงเอาไว้ พลางใช้ผ้าใบสีดำคลุมทับอีกทีราวกับเป็นของสำคัญมากๆที่ต้องปกป้อง แต่สุดท้ายก็ต้องโดนแพรว อิสรา กระชากออกอยู่ดี!

.

"พรึบบบบ!!!!"

.

สว่างจ้าแสบตาเป็นยองใย เมื่อภาพที่เห็นคือกลุ่มเด็กๆอายุราวๆ กับโบ๊ทนั่งเว้นระยะห่างกันประมาณ 1 ช่วงแขนตามทฤษฎี social distancing เป๊ะ!ๆ ดูจากสายตาน่าจะมีราวๆ 10 กว่าคนแล้วก็มีทั้งเพศชายและเพศหญิง พวกเขาไม่ได้มีท่าทางตกใจอะไรแต่แค่แสบตาเล็กน้อย มิหนำซ้ำยังยิ้มให้พี่แพรวใจดีของพวกเขาด้วย ซึ่งแพรวเองก็ยิ้มตอบ เนื่องจากเธอได้กดปุ่มเอาหน้ากากครอบแก้วออกไปแล้วระหว่างที่เดินมา

.

"แล้วไงคะพี่....แพรวก็เห็นว่าทุกคนปกติดี"

.

"ไม่ค่ะ..."

พยาบาลตอบเสียงสั่น เธอเอื้อมมือไปข้างหลังเพื่อหยิบเอาปืนวัดอุณหภูมิออกมาถือไว้ ก่อนจะพูดต่อ

.

"หมายเลข 013 ออกมาที่หน้ากรงด้วย..."

.

เด็กหญิงผูกผมเปียตาบ่องแบ้วคนหนึ่งค่อยๆแหวกขอทางเพื่อนออกมา สีหน้าเธอเป็นกังวลผิดวิสัย หนำซ้ำยังตัวสั่นเป็นลูกนกราวกับรู้ตัวว่าตนเองผิดปกติ

.

สอดคล้องกันกับคุณพยาบาลที่จัดแจงยิงปืนวัดอุณหภูมิเข้าที่หน้าผาก ตัวเลขสูงปรี๊ดขึ้นไปถึง 39.7 ทั้งที่อุณหภูมิปกติกของคนเราอยู่แค่ 37 องศาเท่านั้น สิ่งนี้บ่งบอกว่าแม่หนูหมายเลข 013 กำลังเป็นไข้! แล้วแพรวผู้เป็นหัวหน้าก็ต้องทำอะไรสักอย่าง!

.

"นะ...หนูขอโทษพี่แพรว...หนู....ฮือ...ฮือ...ฮือ...."

หนูน้อยร้องไห้เกาะลูกกรงอย่างน่าสงสาร แม้แต่พี่พยาบาลเองก็ต้องเดินเลี่ยงออกไปน้ำตาคลอเบ้า หลังจากสังเกตเห็นสิ่งที่แพรวกำลังจะทำ

.

เธอเอื้อมมือไปที่ด้านหลัง สอดฝ่ามือขวาล้ำเข้าไปใต้ชายเสื้อกล้ามสีเขียวขี้ม้า พลันควักเอาปืนพก 9 มม. กร็อก 18 Burst Fire ความจุกระสุน 33 นัด ขึ้นมาถือไว้ในมือ ก่อนจะหันปลายกระบอกปืนไปจ่อเข้าที่กึ่งกลางหน้าผากเด็ก!

.

"ปัง!!!!!!!"

หนึ่งนัดเข้าหน้าผาก

.

"ปัง!!! , ปัง!!! , ปัง!!!! , ปัง!!!!"

โหมด Burst Fire ทำให้ที่เหลือเป็นการยิงรัว กราดซ้ำจนหมดแม็ก! ศพเด็กกองอยู่ใต้ลูกกรง!

.

.

เสียงปืนดังกล่าวดังสนั่นหวั่นไหว! จนทำให้ทุกคนที่เคยกระโดดโลดเต้นเพราะได้น้ำกินหันมองเป็นตาเดียวกัน! ไม่มีคนพูดอะไร! สักพักถึงมีวัยรุ่นในกลุ่ม 3 - 4 คนเดินมาเก็บศพราวกับรู้หน้าที่ พวกเขาโยนร่างอันไร้วิญญาณลงไปในบ่อน้ำอันแห้งเหือดดด...

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป