ตอนที่ 10 น้ำมันหอม
หลังอาหารมื้อกลางวันที่บ้านตระกูลจ้าวเสร็จสิ้น พวกหลีโม่ทั้งสามคนก็กลับบ้านของตน
ระหว่างทางเดินกลับ หลีโม่คิดคำนวณอยู่ภายในใจว่าตอนนี้ที่บ้านมีความจำเป็นต้องใช้เงินมากสักเท่าใด
เสื้อผ้าของทั้ง 3 คนเก่าซ่อมซอเป็นรอยขาดจนแทบจะไม่สามารถใส่ต่อไปได้อีกแล้ว แต่ละคนจำเป็นต้องมีเสื้อผ้าชุดใหม่กันคนละ 2 ชุดไว้ใส่สลับกัน ในบ้านยังขาดเครื่องครัวที่จะต้องซื้อใหม่ยกชุด อีกทั้งตัวบ้านก็จวนจะพังแหล่มิพังแหล่เต็มที หากฝนตกขึ้นมาเมื่อใดคงจะไม่สามารถพักอาศัยอยู่ได้อีกต่อไป
และเรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือขาของซ่งต้าซานซึ่งจะต้องได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุด ไม่สามารถปล่อยทิ้งไว้ให้เนิ่นนานเกินไป
พอคิดถึงเรื่องทั้งหมดแล้ว หลีโม่ก็รู้สึกว่ามีเรื่องจำเป็นเร่งด่วนมากมายเหลือเกินที่จำเป็นต้องใช้เงิน ทั้งหมดนี้รวมกันแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสำเร็จได้หากมีเงินน้อยกว่า 50 ตำลึง นางแต่งหน้าได้เงินเพียงครั้งละ 15 อีแปะเท่านั้น จะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่กันถึงจะสามารถบรรเทาสถานการณ์ย่ำแย่ในเวลานี้ไปได้
ไม่ได้! นางจะต้องคิดหาวิธีให้ได้ว่าจะหาเงินมากๆ ได้อย่างไร
หลีโม่เค้นสมองคิดว่าสำหรับในยุคนี้แล้ว มีอะไรบ้างที่นางสามารถทำขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง นางกวาดตามองออกอย่างไม่ได้ตั้งใจและได้เห็นพุ่มดอกเยว่จี้*(1)บานสะพรั่งงดงามอยู่ที่รั้วริมทาง ทันใดนั้นแววตาของหลีโม่ก็เป็นประกายขึ้น ความคิดอย่างหนึ่งแวบขึ้นมาในหัวของนาง
*กุหลาบจีน
สำหรับคนที่อุทิศตนมาทั้งชีวิตเพื่อศึกษาวิจัยเรื่องเกี่ยวกับความงามอย่างนางจะไม่รู้วิธีการทำน้ำมันหอม(2)ได้อย่างไรเล่า? นางเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ในตอนนี้เองว่านางก็สามารถทำน้ำมันหอมด้วยตัวเองเป็นเช่นกัน ทำแล้วก็สามารถนำมาขายได้
สตรีในยุคนี้ก็นิยมใช้เครื่องหอมกัน ร้านขายเครื่องแป้งหลายร้านมีน้ำมันหอมจำหน่ายให้กับสตรีโดยเฉพาะ เพียงทาบาง ๆ บนร่างกายก็ส่งกลิ่นหอมกรุ่นกำจรแล้ว สินค้าชนิดนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมในหมู่สตรี ทว่าน้ำมันหอมแบบนี้ถือว่าเป็นของที่หรูหราฟุ่มเฟือยอย่างหนึ่ง น้ำมันหอมตลับเล็ก ๆ มีราคาอย่างต่ำ 15 อีแปะ มีเพียงหญิงจากตระกูลร่ำรวยเท่านั้นที่เต็มใจจะซื้อใช้ จะมีหญิงชาวบ้านที่ไหนเล่าที่จะยอมเสียเงินซื้อสิ่งที่มีราคาแพงเช่นนี้ อย่างมากพวกนางก็ใส่ดอกไม้แห้งเอาไว้ในถุงเงินเท่านั้น
หลีโม่รู้วิธีทำน้ำมันหอมแบบพื้นฐานง่าย ๆ วัตถุดิบที่ใช้มีเพียงดอกไม้ที่สามารถหาได้ทุกที และมันยังใช้ต้นทุนน้อยมาก เช่นนี้นางก็จะสามารถทำขายให้กับพวกผู้หญิงในหมู่บ้านได้ในราคาถูก มันไม่ใช่ว่าพวกนางไม่รักสวยรักงาม เป็นแต่เพียงว่าพวกนางไม่เต็มใจจะเปลืองเงินซื้อมันเท่านั้นเอง ทว่าหากหลีโม่ขายให้ในราคาที่ถูกกว่าที่ขายตามร้านเครื่องแป้งมาก ทุกคนต้องเต็มใจซื้อมันอย่างแน่นอน
พอคิดได้เช่นนี้แล้ว ในใจนางก็อบอุ่นขึ้นอีกครั้งและรู้สึกมีแรงผลักดันขึ้นทันที นางวิ่งไปที่พุ่มดอกเยว่จี้แล้วก้มดมกลิ่นของมัน จากนั้นก็ลูบสัมผัสที่ดอกเยว่จี้อีกครั้ง ในใจก็ครุ่นคิดถึงขั้นตอนในการผลิต
ครั้นเสี่ยวเป่าเห็นหลีโม่ดมกลิ่นและสัมผัสดอกไม้ เขาก็รีบวิ่งเข้ามาหาด้วยขาสั้น ๆ ของตนเพื่อจะเข้าไปดมกลิ่นดอกไม้บ้าง แต่เขาตัวเล็กและเตี้ยเกินกว่าจะเขย่งถึงดอกไม้ ดังนั้นจึงได้แต่กระโดดไปมาอยู่ตรงนั้น หลีโม่เห็นแล้วก็รู้สึกขำ นางย่อตัวอุ้มเขาขึ้นมาแล้วเอียงตัวเข้าไปใกล้กับดอกไม้เพื่อให้เขาสามารถดมกลิ่นได้ เจ้าตัวเล็กสูดหายใจดมเข้าไปเต็มแรง ราวกับจะดูดดอกไม้เข้าไปในจมูกด้วยอย่างนั้น
ซ่งต้าซานเดินเข้าหาแล้วถามหลีโม่ว่า “มีอะไรหรือ? เจ้าชอบดอกไม้พวกนี้งั้นหรือ?”
หลีโม่ไม่ได้ตอบ แต่ถามซ่งต้าซานว่า “พี่ต้าซาน ในหมู่บ้านมีดอกเยว่จี้เช่นนี้อยู่มากหรือไม่?”
ซ่งต้าซานสั่นศีรษะ “ในหมู่บ้านมีดอกไม้ไม่มากหรอก คนส่วนใหญ่ปลูกกันแค่ไม่กี่ต้นในสวนบ้านของตัวเอง ตามปกติก็ปลูกกันอยู่แค่ไม่กี่ชนิดเท่านั้น แต่ถ้าบนภูเขาจะมีดอกไม้อยู่มากทีเดียว”
หลีโม่ดีใจพลางถามขึ้นว่า “เช่นนั้น มีจิ่นฮวา*ด้วยหรือไม่?”
*槿花 ดอกชบาสายพันธุ์หนึ่ง
ซ่งต้าซานขมวดคิ้ว เขาถามอย่างสงสัยว่า “จิ่นฮวาเป็นเช่นไร? ข้าไม่เคยได้ยินเลย”
หลีโม่คิดกับตัวเองว่าต้นไม้ชนิดนี้มีอยู่อย่างแพร่หลายไม่ใช่หรือ? หรือว่าในยุคนี้จะมีชื่อเรียกที่ต่างออกไป? นางจึงบรรยายรูปร่างลักษณะของจิ่นฮวาให้ซ่งต้าซานฟังอย่างละเอียด
หลังฟังแล้วซ่งต้าซานก็รู้ว่าหลีโม่หมายถึงต้นอะไร ตอนแรกเขานึกถึงต้นไม้ที่มีดอก ที่แท้มันก็คือต้นหญ้าที่เรียกว่าเซวียนเฉ่า*(3)นั่นเอง บนภูเขามีขึ้นอยู่เต็มไปหมด มันเติบโตได้ตลอดทั้งปีและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ คนในหมู่บ้านมักจะเก็บเอามาใส่ไว้ในขวดโหลที่บ้าน
*ดอกลิลลี่
พอซ่งต้าซานบอก หลีโม่ก็แน่ใจว่ามันก็คือจิ่นฮวา เมื่อมีวัตถุดิบในการทำน้ำมันหอมอย่างจิ่นฮวาแล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหาใดอีกแล้ว
หลีโม่จึงเล่าแผนเรื่องที่จะทำน้ำมันหอมให้ซ่งต้าซานฟังโดยไม่ปิดบัง “พี่ต้าซาน ที่ร้านขายเครื่องแป้งจะขายน้ำมันหอมตลับเล็ก ๆ อย่างต่ำราคา 15 อีแปะ ข้าต้องการใช้แค่ดอกเยว่จี้และดอกเซวียนเฉ่าในการทำมันขึ้นมาเท่านั้น แทบจะไม่ต้องใช้เงินใด ๆ เลย ข้าสามารถทำในปริมาณมากขึ้นอีกนิด จากนั้นข้าจะเอาไปขายให้พวกผู้หญิงในหมู่บ้านในราคาตลับละ 5 อีแปะ พวกนางจะต้องอยากซื้อมันแน่”
ซ่งต้าซานรู้สึกประหลาดใจอย่างแท้จริง เขาไม่คิดมาก่อนว่าภรรยาตัวน้อยที่ตนซื้อตัวกลับมาอย่างไม่ได้ตั้งใจผู้นี้นอกจากจะมีฝีมือที่ล้ำเลิศในการแต่งหน้าแล้ว นางยังสามารถทำน้ำมันหอมได้อีกด้วย มองไปที่ดวงหน้างดงามของนางแล้ว เขาก็พลันนึกถึงคำพูดของจ้าวฉางปังที่เอ่ยขึ้นระหว่างมื้อกลางวันว่าตนได้พบขุมทรัพย์เข้าแล้ว เขาต้องยอมรับว่าตนได้พบขุมทรัพย์ที่ประเมินค่าไม่ได้แล้วจริง ๆ
หลีโม่ไม่ได้สังเกตเห็นอาการตกอยู่ในภวังค์ของซ่งต้าซาน และถามเขาถึงสิ่งอื่นที่ตนอยากรู้ว่า “พี่ต้าซาน ข้าจะหาตลับแบบที่มีฝาปิดสำหรับใส่น้ำมันหอมได้ที่ไหนหรือเจ้าคะ?”
พอได้ยินซ่งต้าซานก็รู้สึกตัวตื่นจากภวังค์จึงตอบว่า “จริง ๆ จะทำเป็นตลับเหล็กก็ได้แต่ราคาจะสูงเกินไป ตลับละ 2-3 อีแปะเข้าไปแล้ว ทำเป็นตลับไม้เถิด ตลับละประมาณ 1 อีแปะเท่านั้น ท่านอาจางในหมู่บ้านเป็นช่างไม้มาตลอดชีวิต เจ้าไปขอให้เขาทำให้ก็ได้”
หลีโม่ฟังแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย ในเมื่อตั้งใจจะขายราคาถูกอีกทั้งกลุ่มผู้ซื้อคือหญิงในหมู่บ้าน ตลับไม้ก็ใช้ได้แล้ว ตราบใดที่ของข้างในเป็นของดี ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีผู้ใดมาซื้อ
หลีโม่คิดคำนวณอยู่ชั่วครู่ นางจำเป็นมีตลับใส่ของก่อนจึงจะสามารถเตรียมทำของขึ้นมาได้ ฉะนั้นต้องไปจัดการเรื่องตลับให้เรียบร้อยก่อนเป็นสิ่งแรก
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซ่งต้าซานก็พาหลีโม่เดินตรงไปบ้านของท่านอาจาง
บ้านท่านอาจางตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกสุดของหมู่บ้าน ตลอดชีวิตของท่านอาจางทำอาชีพช่างไม้มาโดยตลอด ทักษะฝีมือของเขาตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น เมื่อใดก็ตามที่คนในหมู่บ้านต้องการทำเครื่องเรือน พวกเขาจะมาหาท่านอาจาง
ทันทีที่เดินเข้าไปในลานบ้านท่านอาจาง พวกเขาก็เห็นกองไม้วางอยู่เต็มลานบ้าน มีเครื่องไม้เครื่องมือกองใหญ่วางอยู่ในมุมด้านหนึ่ง มีเศษขี้เลื่อยกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ด้านข้างมีเครื่องเรือนที่ประกอบเสร็จแล้ววางอยู่หลายชิ้น
ซ่งต้าซานเดินไปตะโกนเรียกที่ห้องหลักของบ้าน ไม่ทันไรก็มีเสียงดังตอบกลับมา “เข้ามาสิ” จากนั้นชายวัยราว 40-50 ปีรูปร่างไม่สูงมากนัก ดูท่าทางค่อนข้างแข็งแรง ผิวสีคล้ำ ในมือถือเลื่อยอยู่เดินออกมาจากด้านใน
พอเห็นว่าเป็นซ่งต้าซาน ท่านอาจางก็เอ่ยทักว่า “ต้าซานนี่เอง เจ้ามาเอาอ่างน้ำหรือ ข้าทำเสร็จแล้ว จะเอามาให้เจ้าเดี๋ยวนี้ละ” ไม่รอคำตอบจากซ่งต้าซาน เขาก็เดินกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง
ไม่นานเขาก็เดินออกมาพร้อมกับอ่างน้ำใบใหญ่ แล้วส่งมันไปให้กับซ่งต้าซาน “นี่อย่างไร อ่างอาบน้ำที่เจ้าต้องการ”
หลีโม่มองอ่างน้ำในมือท่านอาจาง มันมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งหมี่* และลึกครึ่งหมี่ เป็นอ่างน้ำที่ใช้สำหรับอาบน้ำแช่ตัวจริงๆ
*เมตร
นางจำได้ว่าตนต้องใช้อ่างล้างหน้าอาบน้ำในตอนแรกที่ทะลุมิติมา นี่เป็นอ่างอาบน้ำที่ทำขึ้นมาให้ตนใช่หรือไม่?
หลีโม่หันไปมองซ่งต้าซานด้วยความประหลาดใจ ดวงตาของนางเป็นประกายแวววับขึ้น
เมื่อซ่งต้าซานเห็นแววตาของหลีโม่สว่างวาบฉายความยินดีออกมาอย่างไม่อาจปิดบังได้ มุมปากของเขาก็ยกยิ้มขึ้นอย่างอดไม่ได้ เขายิ้มกล่าวขอบคุณท่านอาจาง จากนั้นก็ดึงตัวหลีโม่ขึ้นมาด้านหน้าและแนะนำตัวนางว่า “ท่านอา นี่คือภรรยาของข้าขอรับ”
ท่านอาจางเคยเห็นหลีโม่มาก่อน ทว่าก่อนนี้เขาไม่สะดวกที่จะเอ่ยถามอะไรออกมา ตอนนี้เมื่อซ่งต้าซานพานางมาแนะนำตัวด้วย เขาจึงพยักหน้ายิ้มทักทาย “ดี ดี ต่อไปเจ้าทั้งสองจะมีชีวิตที่ดี”
ซ่งต้าซานยิ้มพยักหน้ารับ จากนั้นจึงบอกถึงจุดประสงค์ในการมาที่นี่ “ท่านอา วันนี้ข้ามีเรื่องบางอย่างอยากจะขอให้ท่านช่วย ข้าอยากจะให้ท่านช่วยทำตลับไม้ขนาดเล็กให้พวกข้าสักหลายตลับหน่อยน่ะขอรับ”
ท่านอาจางถามขึ้นว่า “เจ้าอยากจะได้แบบไหนเล่า? บอกกับข้ามาให้ละเอียดหน่อย”
ซ่งต้าซานมองไปที่หลีโม่ นางจึงใช้มือของตนกะขนาดให้ดูพร้อมทั้งอธิบายรายละเอียดกับท่านอาจาง “ท่านอาจาง ข้าอยากได้ตลับทรงกลมมีขนาดและความสูงประมาณเท่านี้เจ้าค่ะ มีฝาปิดเปิดได้สำหรับใช้ใส่ชาดไว้ข้างใน”
หลังได้ยินคำอธิบาย ท่านอาจางก็เข้าใจและตอบรับกลับทันที “ไม่ต่องห่วง เรื่องนี้ง่ายมาก เจ้าต้องการสักกี่ตลับล่ะ? แล้วจะเอาของวันไหน?”
หลีโม่นิ่งคิดชั่วครู่ก่อนจะตอบว่า “ข้าต้องการสัก 10 ตลับก่อนเจ้าค่ะ อยากได้อย่างเร็วที่สุด ไม่รู้ว่าท่านอาจางพอจะทำให้ข้าได้ภายใน 2-3 วันนี้หรือไม่เจ้าคะ?”
ท่านอาจางคิดคำนวณ “10 ตลับไม่มากเท่าใด เจ้ามาเอาในวันมะรืนนี้ก็แล้วกัน”
ราคาเท่ากับที่ซ่งต้าซานคาดไว้ก่อนหน้านี้ ตลับละ 1 อีแปะ 10 ตลับก็ 10 อีแปะ
หลีโม่รีบหยิบเงิน 10 อีแปะในแขนเสื้อส่งไปให้ท่านอาจาง
หลังตกลงกันเรียบร้อยแล้ว พวกหลีโม่ 3 คนก็กลับบ้าน
หลีโม่บอกกับซ่งต้าซานว่านางอยากจะขึ้นไปบนภูเขาเพื่อเก็บดอกเยว่จี้และจิ่นฮวา ซ่งต้าซานนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนคิดแผนการทำงาน “หลังกลับไปถึงบ้านแล้ว ข้าจะออกไปทุ่งนาเพื่อปลูกถั่วลิสง น่าจะใช้เวลาปลูกถึงวันพรุ่งนี้อีกวัน เช่นนั้นวันมะรืนข้าจะพาเจ้าไปเก็บดอกไม้ตั้งแต่เช้าตรู่ก็แล้วกัน”
หลีโม่ไม่คัดค้านกับการแผนนี้ นางพยักหน้าเห็นด้วย
ซ่งต้าซานตั้งใจจะไปปลูกถั่วลิสงเองเพียงลำพัง ทว่าหลีโม่แบกจอบติดตามเขาไปด้วย แน่นอนว่าย่อมต้องมีเจ้าหางน้อยซ่งเสี่ยวเป่าติดตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้สมาชิกทั้ง 3 คนของครอบครัวจึงออกไปด้วยกันอีกครั้ง
แปลงปลูกถั่วลิสงถูกขุดเป็นหลุมเตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แค่โรยเมล็ดลงในหลุม กลบดินและรดน้ำก็เป็นอันเรียบร้อยแล้ว
หลีโม่นำเมล็ดถั่วลิสงมาใส่ลงไปในหลุมทีละหลุม จากนั้นซ่งต้าซานที่อยู่ด้านหลังจะเป็นคนคอยใช้จอบเกลี่ยดินเพื่อกลบหลุมปลูก
งานนี้ง่ายกว่าการขุดดินมาก หลีโม่ทำได้อย่างสบาย ทั้งคู่ทำงานจนกระทั่งเย็น ในที่สุดก็ปลูกถั่วลิสงจนเสร็จ พวกเขาจะมารดน้ำกันต่อในวันพรุ่งนี้
ทั้ง 3 คนพากันกลับบ้าน เสี่ยวเป่าเล่นอยู่ที่ลานบ้าน ส่วนหลีโม่และซ่งต้าซานเข้าไปทำอาหารเย็นในครัว
เนื้อหมูและกระดูกที่ซื้อมาก่อนหน้ายังแช่เย็นอยู่ในถังน้ำ หลีโม่นำมันออกมา ตั้งใจว่าจะใช้มันทำอาหารในคืนนี้ ที่บ้านจะได้มีอาหารดีๆ กินกัน
นางหั่นหมูสามชั้นออกมาเล็กน้อย แล้วนำมาผัดกับพริกหยวกที่ท่านอาสะใภ้จ้าวให้มา นอกจากนี้นางยังทำน้ำแกงกระดูกหมูอีกอย่าง อาหารในมื้อนี้ถือได้ว่าอุดมสมบูรณ์อย่างแน่นอน
ในเมื่อมีอาหารจานเยี่ยมแล้ว ข้าวเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หลีโม่ตวงข้าวกล้องขึ้นมา 1 ถ้วย จากนั้นก็ตักข้าวขัดสีมาผสมรวมกันอีกครึ่งถ้วย แล้วจึงนำมาหุง
ในตอนที่อาหารกำลังจะทำเสร็จพอดี ก็มีเสียงเรียกดังขึ้นจากประตูห้องครัว “ต้าซาน”
พอหลีโม่หันไป ก็เห็นมารดาของซ่งต้าซานยืนอยู่ที่ประตูห้องครัว นางจูงเด็ก 2 คนมาด้วย เป็นเด็ก 2 คนที่หวังชุ่ยฮวาพามาด้วยเมื่อวานนี้
...........................................................
(1) เยว่จี้ 月季 กุหลาบจีน
Credit ภาพจาก http://m.1nongjing.com/201810/238505.html
(2) น้ำมันหอม / บาล์ม
Credit ภาพจาก http://www.dian168.com/m/view.php?aid=202
(3) ต้นเซวียนเฉ่า 萱草 ดอกลิลลี่
Credit ภาพ https://news.tvbs.com.tw/life/899971
ทุกวัน