"โอเค เตรียมตัวถ่ายฉากต่อไป" ผู้กำกับส่งสายตาเอ็นดูไปยังทีมงานที่ยังคงหัวเราะอยู่ เขาเดินเข้าไปหาเฉียวโม่หยูและถามเธอว่า
"ฉากต่อไปคุณพบว่าเย่เป่ยเฉิงบาดเจ็บสาหัสจากการช่วยคุณล้างแค้นแทนพ่อ ไหนลองบอกมาซิว่าคุณควรแสดงอารมณ์ออกมาแบบไหน?"
เฉียวโม่หยู้รู้ว่าผู้กำกับต้องการช่วยเธอในการแสดง เธอตอบเขาด้วยความเต็มใจไปว่า
"ก็ต้องเจ็บปวดใจใช่ไหมคะ!?"
"คุณต้องตระหนักว่าคุณเข้าใจเจตนาเขาผิด แถมคุณยังเห็นเขาบาดเจ็บสาหัสจากการช่วยคุณล้างแค้น"
"เอาล่ะ ไปเตรียมตัวได้ เมื่อคุณกลับบ้านเย็นนี้ อย่าลืมศึกษาบทของคุณให้ดี ถ้ามีตรงไหนไม่เข้าใจ ก็ให้มาถามนักแสดงรุ่นพี่พรุ่งนี้เช้า"
"ได้ค่ะ" เธอพยักหน้ารับอย่างนอบน้อม
ฉากถัดมาถ่ายในตรอกแคบที่ถูกจัดฉากขึ้นอย่างสมจริง เฉียวโม่หยูวิ่งมาตามทาง มองหาเย่เป่ยเฉิง เขามองเห็นเธอกำลังวิ่งเข้ามาหาเขา และทั้งคู่ก็สบสายตากัน ต่างคนต่างจ้องเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย ที่สุดมุมถนน ชายหนุ่มเปียกชุ่มไปด้วยเลือด เขาพยายามใช้ดาบพยุงตัวเองขึ้นมาจากพื้น และพยายามยิ้มให้เธอ
ดวงตาของหญิงสาวแดงก่ำ เธอรีบไปหยุดอยู่ข้างเขา แต่ก็ยังไม่กล้ายื่นมือไปแตะตัวเขา เธอกลัวว่าจะทำให้เขาเจ็บมากขึ้นกว่าเดิม
"หลิงควง เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า เจ็บตรงไหนหรือไม่?"
ชายหนุ่มยิ้มกว้าง เขาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"บาดแผลข้าไม่เป็นอะไรมาก ศิษย์น้อง ในที่สุดข้าก็แก้แค้นให้ท่านอาจารย์ได้สำเร็จแล้ว!"
เขาใช้แขนโอบหญิงสาวไว้แน่น ทันใดนั้น เย่เป่ยเฉิงรู้สึกว่าร่างของเฉียวโม่หยูเกร็งขึ้นราวกับว่าเธออยากจะผลักเขาออกไป
เขาดึงเธอให้เข้ามาใกล้ชิดตัวเขาอีกนิด และก้มหน้าเข้าไปใกล้ข้างแก้มเธอโดยอาศัยมุมที่กล้องไม่สามารถจับภาพนี้ได้ เขากระซิบที่ข้างหูเธอว่า
"อยู่นิ่งๆ"
เสียงของเขาทุ้มต่ำ เธอแทบจะไม่ได้ยินเสียงลมหายใจเขา แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่ทำให้เธอหายประหม่า
เมื่อเธอบังคับตัวเองให้ใจเย็นและกลับมาสงบเยือกเย็นได้ดังเดิม เธอสัมผัสได้ว่าเย่เป่ยเฉิงผ่อนคลายลงเช่นกัน เขาก้มมองเธออย่างช้าๆ สายตาเต็มไปด้วยความหลงใหล
พูดได้ว่าเย่เป่ยเฉิงนั้นเกิดมาเพื่อเป็นซุปเปอร์สตาร์อย่างแท้จริง เขาสามารถแสดงได้สมบทบาทประหนึ่งว่ามีคนสองคนอยู่ในร่างเดียว ในชีวิตจริงเขามีตัวตนอีกแบบ ในละครเขากลับแสดงได้ราวกับเป็นบุคคลนั้นในเรื่อง และผู้เขียนบทละคร 'เชิงชี' ยังเลือกเขาให้มาแสดงเป็นตัวละครนำฝ่ายชายถึงแม้เขาจะห่างหายจากการเล่นละครไปเกือบปี
ในขณะนี้ แววตาของเขาดูสุขุมนุ่มลึก มีรอยเลือดติดอยู่ข้างแก้ม ความหล่อเหลาของเขาช่างน่าดึงดูดเย้ายวน ริมฝีปากของเขาขยับเข้ามาใกล้เฉียวโม่หยูทีละนิด
เฉียวโม่หยูผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการใกล้ชิดผู้ชายมาก่อน เธอไม่ได้หลงใหลไปกับรูปลักษณ์ภายนอกของเย่เป่ยเฉิง เฉียวโม่หยูรู้สึกกังวลอย่างมาก แต่ผู้กำกับยังไม่สั่ง 'คัท' ดังนั้นตอนนี้เธอจึงไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร
ขณะที่ความคิดของเธอกำลังล่องลอย เธอรู้สึกว่ามีมือเลื่อนมาปิดตาเธอไว้ มืออีกข้างของเขาจับไว้ที่ท้ายทอยของเธอ เย่เป่ยเฉิงดึงให้เธอเงยหน้าขึ้น
"ผ่อนคลาย อย่าขยับ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมเอง"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มลึก ถึงแม้เฉียวโม่หยูจะมองไม่เห็น แต่เธอกลับรู้สึกได้ว่าริมฝีปากชายหนุ่มอยู่ใกล้เธอเพียงแค่ความหนาของกระดาษ
เธอยืนนิ่งไม่ไหวติงเมื่อรู้ว่ามือของเขากำลังลูบผมเธออยู่ราวกับจะปลอบประโลม ความอบอุ่นของฝ่ามือประทับที่ด้านหลังศีรษะของเธอ เธอรู้สึกถึงลมหายใจของเขาเป่ารดมาที่ริมฝีปากเธอนั้นอย่างชัดเจน
ความเงียบเข้าปกคลุม มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่าน