Your Wishlist

นัก​ดนตรี​เทครัว​ (นัก​ดนตรี​เทครัว​)

Author: xxx555

สรุปใจความสั้นๆก็แล้วกัน พี่เค้าก็แจ้งความจำนงว่า อยากให้ผมไปเล่นดนตรีที่ร้านของเค้า ที่กำลังจะเปิดใหม่ในอำเภอชัยบาดาน จังหวัดลพบุรี เค้าให้ค่าแรงวันละ 400 บาท มีห้องพัก 1 ห้อง

จำนวนตอน :

นัก​ดนตรี​เทครัว​

  • 20/05/2568

วันที่ 8 เดือนกุมภาปี พ.ศ. 2531

 เช้าวันนั้นมีผู้หญิงวัยกลางคนขับรถมาจอดที่หน้าบ้านเช่าที่ผมเช่าอยู่ใน

 กรุงเทพฯ มาถามหาผมที่บ้าน บอกว่ามีคนแนะนำให้มาหา

 ผมก็เชิญพี่เค้าเข้ามาในห้องก่อน

 

 

" เชิญนั่งก่อนครับ ห้องค่อนข้างรกสักนิดนึงนะครับ "

 

 

" ไม่เป็นไรจ๊ะ " พี่เค้าอายุคงจะประมาณ 40 ต้นๆ

 แต่หน้าตารูปร่างยังดูดีอยู่เลย ใส่กระโปรงสีชมภูอ่อนสลับขาว

 เสื้อแขนสั้นลายลูกไม้ สมัยที่เธอเป็นสาวคงสวยน่าดู

 

 

    สรุปใจความสั้นๆก็แล้วกัน พี่เค้าก็แจ้งความจำนงว่า

 อยากให้ผมไปเล่นดนตรีที่ร้านของเค้า

 

ที่กำลังจะเปิดใหม่ในอำเภอชัยบาดาน

 จังหวัดลพบุรี เค้าให้ค่าแรงวันละ 400 บาท มีห้องพัก 1 ห้อง

 มีอาการเลี้ยงอีกวันละ 3 มื้อ พร้อมกับให้เบิกล่วงหน้า 1 เดือน

 และให้ไปกับเค้าวันนี้เลย

 

    ผมก็ตอบตกลงทันที " คอยผมสักครู่นะครับ

 ผมขอตัวอาบน้ำและเก็บเสื้อผ้าก่อน "

 

 ผมรีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าออกเตรียมตัวอาบน้ำทันที

 เพราะตอนนี้กำลังถังแตก ตกงานมาเกือบ 2 เดือนแล้ว

 

 

 ก็ร้านเก่าแขกมันตีกันทุกวัน ตำรวจเลยสั่งปิด

" เรียบร้อยแล้วครับคุณพี่ "

" งั้นเราไปกันเลยนะค๊ะ "

 

" ครับ " ผมมีเพียงกระเป๋าเดินทางในเขื่องใบเดียว

 เอากระเป๋าไว้ที่หลังรถเรียบร้อย

 

 

" ให้ผมขับให้มั๊ยครับคุณพี่ "

" อื้อ...ดีเหมือนกัน " ผมก้าวนั่งประจำที่คนขับ ก็โต๊กกะใจ....

 มาคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว

 

" สวัสดีค่ะคุณน้า.... " เธอยกมือไหว้ผม ก่อนที่ผมจะงงไปมากกว่านี้

" น้องพิม น้องแพร ลูกสาวของพี่เองจ๊ะ " ผมก็เลยหายงงได้เหมือนกัน

 

 

   เมื่อรู้จักกันแล้วทุกอย่างลงตัว เราก็เริ่มออกเดินทาง

 รถเก๋งโตโยต้า 4 ประตู เครื่องเสียงอย่างดี แอร์เย็นฉ่ำ 

 

ผมเป็นคนขับ พี่พรนั่งหน้าคู่กับผม น้องพิมน้องแพรนั่งข้างหลัง

 สังเกตุด้วยสายตา พิมและแพรอายุไม่น่าจะเกิน 14-15ปี ประมาณนั้น

 เธอแต่งตัวน่ารักมากๆ เธอนั่งอยู่ด้านหลังก็คุยหยอกเย้ากันตลอดเวลา

 

 

   บ่ายโมงกว่าๆ " คุณแม่ขาพิมปวดเยี่ยวค่ะ "

" แพรก็ปวดเยี่ยวเหมือนกัน ..คุณน้าปวดเยี่ยวมั๊ยค๊ะ " 

 

ผมโต๊กกะใจอีกครั้ง

" อื้อ...จ้าปวดก็ปวดจ้า... "

" เย้...เย้...เย้...เย้... คุณแม่ขา คุณน้าก็ปวดเยี่ยวเหมือนกัน 

 เธอทั้งสองร้องออกมาแบบเด็กๆ เพื่อบอกแม่ของเธอ

 

 

" จ้าๆๆๆ แม่ได้ยินแล้ว เดี๋ยวเราจะแวะกันที่ปั๊มข้างหน้า "

   ผมเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่หน้าห้องน้ำ 

 

เด็กสองคนกระโดดลงจากรถ วิ่งกระโปรงปลิวเข้าหน้องน้ำทันที

" เอ้า... ไม่เข้าห้องน้ำหรือจ๊ะ เห็นบอกว่าปวดเหมือนกัน "

" เปล่าหรอกครับ คือผมก็บอกเด็กๆเค้าไปอย่างนั้นเอง "

 

 พี่เค้าพยักหน้าแล้วอมยิ้มแบบเข้าใจ

" พ่อของเธอเป็นทหารและเสียตั้งแต่เธอสองคนอายุได้ 3 ขวบ "

" ผมเสียใจด้วยครับ "

 

"นี่ก็ 7 ปีเข้าไปแล้ว ......เฮ้อ....... " เธอพูดพรางทำหน้าเศร้าๆ

 ผมเลยชวนเธอเปลี่ยนเรื่องคุย

 

" คุณพี่ครับหิวข้าวหรือยังครับ

 

 วันนี้ผมเป็นเจ้ามือเองมีพี่สาวใจดีให้ผมเบิกล่วงหน้ามาตั้งหมื่นกว่า

 เธอน่ารักนะครับ " ปากผมมันพาไปเอง

 ตามนิสัยนักดนตรีที่ปากดีอย่างผม

 

 

" นี่แน่....... " พี่พรกำมือมาทุบที่หลังผมเบาๆ 

แล้วทำท่าเขินอายแบบสาวๆ ดูแล้วก็น่ารักดี

 

" ไปซิจ๊ะ.... "

" ไปกินข้าวกันเร็ว...พิม แพร น้าหนูเค้าเลี้ยงเราแน่ะ.... "

" ไชโย....น้าหนูเลี้ยงข้าว...หนูเลี้ยงข้าว ...เย้..เย้.... "

 

 พิมกับแพรกระโดดตัวลอย

 แล้ววิ่งเข้ามากอดแขนผมคนละข้าง พร้อมกับออกแรงดึงให้วิ่ง

" เย้ๆ...กินข้าว "

 

   พี่พรเดินยิ้มตามหลังมาห่างๆ เราเดินทางมาถึงบ้านพักของพี่พร

 ตอนประมาณบ่าย 4 โมง

 

 เกือบมืดแล้วละเพราะยังเป็นหน้าหนาวอยู่ 

การเดินทางก็ไม่ลำบากเท่าไร

 

 

   หลังจากเก็บของเรียบร้อยผมก็ขออนุญาติพี่พรเดินดูภายใน

 บ้านของพี่พรเป็นอาคารพานิชย์ 3 คูหา ติดถนนใหญ่

 

 ด้านล่างเจาะทะลุถึงกันหมดแล้วใส่กระจกเป็นแบบห้องแอร์

 มีโต๊ะอยู่ประมาณ 50 ตัว เวทีสูงประมาณ 30 เซน 

พื้นหลังสีแดงสด ไฟหน้าเวทีมามากมาย ยุบยับไปหมด

 

 

" ค่าตกแต่งพี่จ่ายไปประมาณ 2 ล้าน 

ไม่รวมค่าเครื่องเสียงค่าเครื่องดนตรี 

เบ็ดเสร็จก็ 3 ล้านกับอีก 2 แสนกว่าๆ " เสียงพี่พรพูดอยู่ข้างหลังผม

 

   พี่พรเธอเปลี่ยนชุดใหม่ ใส่กางเกงขาสั้นแบบผ้ายืดโชว์ท่อนขาเรียวงาม 

เสื้อยืดแขนสั้นสีชมภูอ่อนๆ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆโชยมาเข้าจมูกผม

 เธอคงอาบน้ำมาแล้ว

 

 

" ครับ สวยงามมากครับ สวยกว่าร้านเก่าผมอีก "

 เราคุยสัมเพเหระกันไปเรื่อย

 

 จึงรู้ว่าพิมกับแพรอายุเพิ่งจะ 10 ขวบเท่านั้นเอง

 แต่เธอทั้งสองโตเกินอายุมากๆ ผมยังคิดว่าประมาณ 14-15 เลย

 

 

   เด็กๆวิ่งตามกันออกมา พิมกับแพรอยู่ในชุดเหมือนๆกัน

 ใส่กางเกงขาสั้นผ้ายืดสีขาว ใส่เสื้อยืดแขนกุด สีชมภูอ่อนๆ

 เหมือนๆกับแม่เธอนั่นแหละ

 

 

" นี่เห็นมั๊ยละ แพรถึงคุณน้าก่อนพี่พิม " เธอกระโดดเข้ามากอดที่แขนผม

 

" เย้.... พี่ก็มาถึงแล้วเหมือนกัน " พิมเธอก็เข้ามากอดแขนผมอีกข้างนึง

" หนู...ดื่มมั๊ย.... "

" พอได้นิดหน่อยครับ..ดื่มไม่ค่อยเก่งเท่าไร... "

 

 

" มาตรงนี้ซิ "

 พี่พรเข้ามาจับแขนผมให้เดินตามเธอไปห้องกระจกอีกห้องนึง

   ห้องนี้มีกระจกเพียง อย่างเดียวไม่มีม่าน

 

 

 พี่พรบอกว่าเป็นกระจกแบบพิเศษ

 คนข้างนอกจะมองไม่เห็นคนข้างใน 

 

แต่คนข้างในจะมองเห็นคนข้างนอก 

พี่พรเอาไว้ทำอ๊อฟฟิต 

 

 

มีโต๊ะใหญ่อยู่กลางห้องสามารถนั่งได้ 10 คน

 มีโซฟาใหญ่อีกชุดอยู่ตรงมุมห้องโต๊ะทำงานขนาดใหญ่

ราคาหลายหมื่นบาทตั้งอยู่ 

 

ที่มุมห้องอีกด้านนึง มีห้องน้ำในตัว TV. ตั้งไว้บนตู้เก็บเอกสาร

 พร้อมแอร์เย็นฉียบ เธอจัดห้องได้สวยงามและลงตัวอย่างมาก

 

 

   เบียร์และกับแกล้มถูกเด็กเสริฟ์ยกมาวาง " เหนื่อยมั๊ยละหนู "

" ไม่เท่าไรครับ " พี่พรยังคงดื่มเรื่อยๆ ผมก็เช่นกัน

 

" น้าหนูขาพาหนูสองคนไปตลาดหน่อยค่ะ "

 พิมกับแพรพูดชวนผมไปเดินเที่ยวตลาด

 

 

" เอ่อ...อร่อยมั๊ยค๊ะ..ตลาดที่ว่าเนี่ย.. " 

โดนผมปล่อยมุขเข้าแล้ว เด็กๆ นั่งขำกลิ้งอยู่บนโซฟา

 

 พี่พรเองก็เช่นเดียวกัน เธอปล่อยก๊ากออกมาเต็มที่เชียวละ

" อื้อ....โอ๊ย....ปวดท้อง......ฮ่า.....ฮ่า.....ฮ่า.....ฮ่า.....

 

 

 น้ำหูน้ำตาไหลไปหมดแล้ว โอ่ย....

 จะกินตลาดหรือไงจ๊ะหนู ...ฮ่า.....ฮ่า.....ฮ่า..... " อาไรกัน " เออ....... "

 

" เอ้าไปก็ไป แม่ไปด้วยนะค๊ะ " พี่พรลุกขึ้นมีท่าทางเซๆหน่อย

"สงสัยพี่จะเมาแล้วละ " แล้วนั่งลงต่อ

 

" เอาอย่างนี้ หนูพาน้องไปเดินเที่ยวไป "

 เธอพูดจบก็ดื่มเบียร์ที่เหลือค่อนแก้วกระดกทีเดียวหมด

 

 

   อำเภอนี้ไม่ เจริญเท่าไร ตลาดก็ไม่ค่อยใหญ่ อาศัยว่ามี บ.ข.ส.

 จึงไม่ทำให้เงียบเหงา พิมกับแพรเดินกอดแขนผมไม่ยอมปล่อย

 

" คุณน้าค๊ะ พิมอยากกินไอติม "

" ขอแพรกินด้วยนะค๊ะ " ทั้งสองเขย่าแขนผมไปมา

"จ้า...เอา ไปเลือกซิเดี๋ยวน้าเลี้ยงเอง "

 

 

" ไชโย ... " เธอทั้งสองกอดแขนผมแล้วดึงผมเข้าไปหอมแก้มคนละข้าง

" จุ๊บ...จุ๊บ... "

 

 ไอ้ตอนที่ดึงเข้าไปหอมนี่ซิมันโดนที่เต้านมเต่งตึงของทั้งสองคน

 ผมงี้ขนลุกไปหมด พอได้ของกินที่ถูกใจแล้ว

 เธอก็กลับมากอดแขนผมคนละข้างเหมือนเดิม

 

 

   เดินไป กินไป คุยกันไป หยอกล้อกันไป แขนถูโดนนมบ้าง

 

 หลังมือผมถูโดนหีบ้าง อื้อ...เสียวโว๊ย.... เราเดินดูตลาดไปเรื่อยๆ

" น้าหนูขาไปเล่นเกมส์กันมั๊ยค๊ะ "

" อื้อ...ไปซิ " ทั้งสองออกแรงฉุดแขนผมทันที 

เป็นร้านเล็กๆ อยู่หลังตลาด เด็กเยอะมากๆ เสียงก็ค่อนข้างดัง

 

 

" น้าหนูขาพิมจาขี่รถแข่งค่ะ " เธอตะโกนใส่หูผมดังๆ

" อื้อ.... " ผมพยักหน้า พิมเธอดึงผมไปที่ตู้รถแข่ง ภายในนั่งได้ 2

 

 คนผมยื่นเงินให้พิมไปแลกเอง ผมนั่งคอยที่ตู้แพรเธอก็นั่งบนตักผม

 พิมมาแล้ว เธอหยอดเหรียญแล้วลงมือขับรถทันที

 

 

" บรื้น..บรื้น..บรื้น...................... " ในจอรถคันที่พิมเธอขับ

 มันวิ่งส่ายเป็นงูเลื้อย ไปซ้ายทีไปขวาที ไอ้เรารึก็ขำ แพรก็ขำ

 

" พี่พิม ระวังรถชนกันนะค๊ะ "

"โครม........ " นั่นงัยละ ชนกันเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเลย

 

 สักครู่ก็มีรถคันใหม่ออกมา

" บรื้น..บรื้น..บรื้น......................... " พิมเธอเหยียบคันเร่งมิดอีกครั้ง

 รถก็ยังคงวิ่งเหมือนเดิม มันยังคงส่ายเป็นงูเหมือนเดิม

 

 

   แพรเธอเอนหลังลงมาที่หน้าอกผม

 ปล่อยตัวตามสบาย ผมเอามือไปวางไว้ที่หน้าขาของเธอ

 

 แพรเธอก็จับมือผมขึ้นมาบีบเบาๆ แล้ววางลงที่หน้าท้องพร้อมกับกดมือผมลงไปแล้วคลึงที่หน้าท้องของเธอ 

ผมไม่เห็นหรอก

 

 แต่ความรู้สึกมันบอก ควยผมมันตุงเต็มกางเกงแล้วตอนนี้

กลับหน้าหลัก ตอนถัดไป