สรุปใจความสั้นๆก็แล้วกัน พี่เค้าก็แจ้งความจำนงว่า อยากให้ผมไปเล่นดนตรีที่ร้านของเค้า ที่กำลังจะเปิดใหม่ในอำเภอชัยบาดาน จังหวัดลพบุรี เค้าให้ค่าแรงวันละ 400 บาท มีห้องพัก 1 ห้อง
สรุปใจความสั้นๆก็แล้วกัน พี่เค้าก็แจ้งความจำนงว่า อยากให้ผมไปเล่นดนตรีที่ร้านของเค้า ที่กำลังจะเปิดใหม่ในอำเภอชัยบาดาน จังหวัดลพบุรี เค้าให้ค่าแรงวันละ 400 บาท มีห้องพัก 1 ห้อง
วันที่ 8 เดือนกุมภาปี พ.ศ. 2531
เช้าวันนั้นมีผู้หญิงวัยกลางคนขับรถมาจอดที่หน้าบ้านเช่าที่ผมเช่าอยู่ใน
กรุงเทพฯ มาถามหาผมที่บ้าน บอกว่ามีคนแนะนำให้มาหา
ผมก็เชิญพี่เค้าเข้ามาในห้องก่อน
" เชิญนั่งก่อนครับ ห้องค่อนข้างรกสักนิดนึงนะครับ "
" ไม่เป็นไรจ๊ะ " พี่เค้าอายุคงจะประมาณ 40 ต้นๆ
แต่หน้าตารูปร่างยังดูดีอยู่เลย ใส่กระโปรงสีชมภูอ่อนสลับขาว
เสื้อแขนสั้นลายลูกไม้ สมัยที่เธอเป็นสาวคงสวยน่าดู
สรุปใจความสั้นๆก็แล้วกัน พี่เค้าก็แจ้งความจำนงว่า
อยากให้ผมไปเล่นดนตรีที่ร้านของเค้า
ที่กำลังจะเปิดใหม่ในอำเภอชัยบาดาน
จังหวัดลพบุรี เค้าให้ค่าแรงวันละ 400 บาท มีห้องพัก 1 ห้อง
มีอาการเลี้ยงอีกวันละ 3 มื้อ พร้อมกับให้เบิกล่วงหน้า 1 เดือน
และให้ไปกับเค้าวันนี้เลย
ผมก็ตอบตกลงทันที " คอยผมสักครู่นะครับ
ผมขอตัวอาบน้ำและเก็บเสื้อผ้าก่อน "
ผมรีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าออกเตรียมตัวอาบน้ำทันที
เพราะตอนนี้กำลังถังแตก ตกงานมาเกือบ 2 เดือนแล้ว
ก็ร้านเก่าแขกมันตีกันทุกวัน ตำรวจเลยสั่งปิด
" เรียบร้อยแล้วครับคุณพี่ "
" งั้นเราไปกันเลยนะค๊ะ "
" ครับ " ผมมีเพียงกระเป๋าเดินทางในเขื่องใบเดียว
เอากระเป๋าไว้ที่หลังรถเรียบร้อย
" ให้ผมขับให้มั๊ยครับคุณพี่ "
" อื้อ...ดีเหมือนกัน " ผมก้าวนั่งประจำที่คนขับ ก็โต๊กกะใจ....
มาคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว
" สวัสดีค่ะคุณน้า.... " เธอยกมือไหว้ผม ก่อนที่ผมจะงงไปมากกว่านี้
" น้องพิม น้องแพร ลูกสาวของพี่เองจ๊ะ " ผมก็เลยหายงงได้เหมือนกัน
เมื่อรู้จักกันแล้วทุกอย่างลงตัว เราก็เริ่มออกเดินทาง
รถเก๋งโตโยต้า 4 ประตู เครื่องเสียงอย่างดี แอร์เย็นฉ่ำ
ผมเป็นคนขับ พี่พรนั่งหน้าคู่กับผม น้องพิมน้องแพรนั่งข้างหลัง
สังเกตุด้วยสายตา พิมและแพรอายุไม่น่าจะเกิน 14-15ปี ประมาณนั้น
เธอแต่งตัวน่ารักมากๆ เธอนั่งอยู่ด้านหลังก็คุยหยอกเย้ากันตลอดเวลา
บ่ายโมงกว่าๆ " คุณแม่ขาพิมปวดเยี่ยวค่ะ "
" แพรก็ปวดเยี่ยวเหมือนกัน ..คุณน้าปวดเยี่ยวมั๊ยค๊ะ "
ผมโต๊กกะใจอีกครั้ง
" อื้อ...จ้าปวดก็ปวดจ้า... "
" เย้...เย้...เย้...เย้... คุณแม่ขา คุณน้าก็ปวดเยี่ยวเหมือนกัน
เธอทั้งสองร้องออกมาแบบเด็กๆ เพื่อบอกแม่ของเธอ
" จ้าๆๆๆ แม่ได้ยินแล้ว เดี๋ยวเราจะแวะกันที่ปั๊มข้างหน้า "
ผมเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่หน้าห้องน้ำ
เด็กสองคนกระโดดลงจากรถ วิ่งกระโปรงปลิวเข้าหน้องน้ำทันที
" เอ้า... ไม่เข้าห้องน้ำหรือจ๊ะ เห็นบอกว่าปวดเหมือนกัน "
" เปล่าหรอกครับ คือผมก็บอกเด็กๆเค้าไปอย่างนั้นเอง "
พี่เค้าพยักหน้าแล้วอมยิ้มแบบเข้าใจ
" พ่อของเธอเป็นทหารและเสียตั้งแต่เธอสองคนอายุได้ 3 ขวบ "
" ผมเสียใจด้วยครับ "
"นี่ก็ 7 ปีเข้าไปแล้ว ......เฮ้อ....... " เธอพูดพรางทำหน้าเศร้าๆ
ผมเลยชวนเธอเปลี่ยนเรื่องคุย
" คุณพี่ครับหิวข้าวหรือยังครับ
วันนี้ผมเป็นเจ้ามือเองมีพี่สาวใจดีให้ผมเบิกล่วงหน้ามาตั้งหมื่นกว่า
เธอน่ารักนะครับ " ปากผมมันพาไปเอง
ตามนิสัยนักดนตรีที่ปากดีอย่างผม
" นี่แน่....... " พี่พรกำมือมาทุบที่หลังผมเบาๆ
แล้วทำท่าเขินอายแบบสาวๆ ดูแล้วก็น่ารักดี
" ไปซิจ๊ะ.... "
" ไปกินข้าวกันเร็ว...พิม แพร น้าหนูเค้าเลี้ยงเราแน่ะ.... "
" ไชโย....น้าหนูเลี้ยงข้าว...หนูเลี้ยงข้าว ...เย้..เย้.... "
พิมกับแพรกระโดดตัวลอย
แล้ววิ่งเข้ามากอดแขนผมคนละข้าง พร้อมกับออกแรงดึงให้วิ่ง
" เย้ๆ...กินข้าว "
พี่พรเดินยิ้มตามหลังมาห่างๆ เราเดินทางมาถึงบ้านพักของพี่พร
ตอนประมาณบ่าย 4 โมง
เกือบมืดแล้วละเพราะยังเป็นหน้าหนาวอยู่
การเดินทางก็ไม่ลำบากเท่าไร
หลังจากเก็บของเรียบร้อยผมก็ขออนุญาติพี่พรเดินดูภายใน
บ้านของพี่พรเป็นอาคารพานิชย์ 3 คูหา ติดถนนใหญ่
ด้านล่างเจาะทะลุถึงกันหมดแล้วใส่กระจกเป็นแบบห้องแอร์
มีโต๊ะอยู่ประมาณ 50 ตัว เวทีสูงประมาณ 30 เซน
พื้นหลังสีแดงสด ไฟหน้าเวทีมามากมาย ยุบยับไปหมด
" ค่าตกแต่งพี่จ่ายไปประมาณ 2 ล้าน
ไม่รวมค่าเครื่องเสียงค่าเครื่องดนตรี
เบ็ดเสร็จก็ 3 ล้านกับอีก 2 แสนกว่าๆ " เสียงพี่พรพูดอยู่ข้างหลังผม
พี่พรเธอเปลี่ยนชุดใหม่ ใส่กางเกงขาสั้นแบบผ้ายืดโชว์ท่อนขาเรียวงาม
เสื้อยืดแขนสั้นสีชมภูอ่อนๆ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆโชยมาเข้าจมูกผม
เธอคงอาบน้ำมาแล้ว
" ครับ สวยงามมากครับ สวยกว่าร้านเก่าผมอีก "
เราคุยสัมเพเหระกันไปเรื่อย
จึงรู้ว่าพิมกับแพรอายุเพิ่งจะ 10 ขวบเท่านั้นเอง
แต่เธอทั้งสองโตเกินอายุมากๆ ผมยังคิดว่าประมาณ 14-15 เลย
เด็กๆวิ่งตามกันออกมา พิมกับแพรอยู่ในชุดเหมือนๆกัน
ใส่กางเกงขาสั้นผ้ายืดสีขาว ใส่เสื้อยืดแขนกุด สีชมภูอ่อนๆ
เหมือนๆกับแม่เธอนั่นแหละ
" นี่เห็นมั๊ยละ แพรถึงคุณน้าก่อนพี่พิม " เธอกระโดดเข้ามากอดที่แขนผม
" เย้.... พี่ก็มาถึงแล้วเหมือนกัน " พิมเธอก็เข้ามากอดแขนผมอีกข้างนึง
" หนู...ดื่มมั๊ย.... "
" พอได้นิดหน่อยครับ..ดื่มไม่ค่อยเก่งเท่าไร... "
" มาตรงนี้ซิ "
พี่พรเข้ามาจับแขนผมให้เดินตามเธอไปห้องกระจกอีกห้องนึง
ห้องนี้มีกระจกเพียง อย่างเดียวไม่มีม่าน
พี่พรบอกว่าเป็นกระจกแบบพิเศษ
คนข้างนอกจะมองไม่เห็นคนข้างใน
แต่คนข้างในจะมองเห็นคนข้างนอก
พี่พรเอาไว้ทำอ๊อฟฟิต
มีโต๊ะใหญ่อยู่กลางห้องสามารถนั่งได้ 10 คน
มีโซฟาใหญ่อีกชุดอยู่ตรงมุมห้องโต๊ะทำงานขนาดใหญ่
ราคาหลายหมื่นบาทตั้งอยู่
ที่มุมห้องอีกด้านนึง มีห้องน้ำในตัว TV. ตั้งไว้บนตู้เก็บเอกสาร
พร้อมแอร์เย็นฉียบ เธอจัดห้องได้สวยงามและลงตัวอย่างมาก
เบียร์และกับแกล้มถูกเด็กเสริฟ์ยกมาวาง " เหนื่อยมั๊ยละหนู "
" ไม่เท่าไรครับ " พี่พรยังคงดื่มเรื่อยๆ ผมก็เช่นกัน
" น้าหนูขาพาหนูสองคนไปตลาดหน่อยค่ะ "
พิมกับแพรพูดชวนผมไปเดินเที่ยวตลาด
" เอ่อ...อร่อยมั๊ยค๊ะ..ตลาดที่ว่าเนี่ย.. "
โดนผมปล่อยมุขเข้าแล้ว เด็กๆ นั่งขำกลิ้งอยู่บนโซฟา
พี่พรเองก็เช่นเดียวกัน เธอปล่อยก๊ากออกมาเต็มที่เชียวละ
" อื้อ....โอ๊ย....ปวดท้อง......ฮ่า.....ฮ่า.....ฮ่า.....ฮ่า.....
น้ำหูน้ำตาไหลไปหมดแล้ว โอ่ย....
จะกินตลาดหรือไงจ๊ะหนู ...ฮ่า.....ฮ่า.....ฮ่า..... " อาไรกัน " เออ....... "
" เอ้าไปก็ไป แม่ไปด้วยนะค๊ะ " พี่พรลุกขึ้นมีท่าทางเซๆหน่อย
"สงสัยพี่จะเมาแล้วละ " แล้วนั่งลงต่อ
" เอาอย่างนี้ หนูพาน้องไปเดินเที่ยวไป "
เธอพูดจบก็ดื่มเบียร์ที่เหลือค่อนแก้วกระดกทีเดียวหมด
อำเภอนี้ไม่ เจริญเท่าไร ตลาดก็ไม่ค่อยใหญ่ อาศัยว่ามี บ.ข.ส.
จึงไม่ทำให้เงียบเหงา พิมกับแพรเดินกอดแขนผมไม่ยอมปล่อย
" คุณน้าค๊ะ พิมอยากกินไอติม "
" ขอแพรกินด้วยนะค๊ะ " ทั้งสองเขย่าแขนผมไปมา
"จ้า...เอา ไปเลือกซิเดี๋ยวน้าเลี้ยงเอง "
" ไชโย ... " เธอทั้งสองกอดแขนผมแล้วดึงผมเข้าไปหอมแก้มคนละข้าง
" จุ๊บ...จุ๊บ... "
ไอ้ตอนที่ดึงเข้าไปหอมนี่ซิมันโดนที่เต้านมเต่งตึงของทั้งสองคน
ผมงี้ขนลุกไปหมด พอได้ของกินที่ถูกใจแล้ว
เธอก็กลับมากอดแขนผมคนละข้างเหมือนเดิม
เดินไป กินไป คุยกันไป หยอกล้อกันไป แขนถูโดนนมบ้าง
หลังมือผมถูโดนหีบ้าง อื้อ...เสียวโว๊ย.... เราเดินดูตลาดไปเรื่อยๆ
" น้าหนูขาไปเล่นเกมส์กันมั๊ยค๊ะ "
" อื้อ...ไปซิ " ทั้งสองออกแรงฉุดแขนผมทันที
เป็นร้านเล็กๆ อยู่หลังตลาด เด็กเยอะมากๆ เสียงก็ค่อนข้างดัง
" น้าหนูขาพิมจาขี่รถแข่งค่ะ " เธอตะโกนใส่หูผมดังๆ
" อื้อ.... " ผมพยักหน้า พิมเธอดึงผมไปที่ตู้รถแข่ง ภายในนั่งได้ 2
คนผมยื่นเงินให้พิมไปแลกเอง ผมนั่งคอยที่ตู้แพรเธอก็นั่งบนตักผม
พิมมาแล้ว เธอหยอดเหรียญแล้วลงมือขับรถทันที
" บรื้น..บรื้น..บรื้น...................... " ในจอรถคันที่พิมเธอขับ
มันวิ่งส่ายเป็นงูเลื้อย ไปซ้ายทีไปขวาที ไอ้เรารึก็ขำ แพรก็ขำ
" พี่พิม ระวังรถชนกันนะค๊ะ "
"โครม........ " นั่นงัยละ ชนกันเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเลย
สักครู่ก็มีรถคันใหม่ออกมา
" บรื้น..บรื้น..บรื้น......................... " พิมเธอเหยียบคันเร่งมิดอีกครั้ง
รถก็ยังคงวิ่งเหมือนเดิม มันยังคงส่ายเป็นงูเหมือนเดิม
แพรเธอเอนหลังลงมาที่หน้าอกผม
ปล่อยตัวตามสบาย ผมเอามือไปวางไว้ที่หน้าขาของเธอ
แพรเธอก็จับมือผมขึ้นมาบีบเบาๆ แล้ววางลงที่หน้าท้องพร้อมกับกดมือผมลงไปแล้วคลึงที่หน้าท้องของเธอ
ผมไม่เห็นหรอก
แต่ความรู้สึกมันบอก ควยผมมันตุงเต็มกางเกงแล้วตอนนี้