Your Wishlist

บุพเพสลับรัก'70s (ใช่หยินเหวินกั๋วไหม?)

Author: เวลาไม่เช้าแล้ว

เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!

จำนวนตอน : 760

ใช่หยินเหวินกั๋วไหม?

  • 20/06/2567

“แล้วคนผู้นั้นใช่…”

 

“ชื่อเหวิน เยี่ยนจือ! อยู่กันตรงนี้เอง!”

 

เมื่อหูชื่อเหวินตัดสินใจไม่คิดไปเองและถามจากจางหมิงเยี่ยนโดยตรงจะดีกว่า ว่าคนที่ว่าใช่หยินเหวินกั๋วไหม ถ้าหากเธอเลือกเขาจริงๆ แล้วเขารู้สึกเช่นเดียวกับเธอไหม? แต่กลับถูกขัดจังหวะโดยหลี่เสวี่ยฉินเสียก่อน

 

เมื่อจางหมิงเยี่ยนเห็นหลี่เสวี่ยฉินเดินมา เธอก็ส่งสัญญาณให้หูชื่อเหวินหยุดพูด มันน่าอายเกินไป แค่ให้รู้คนเดียวก็กระอักกระอ่วนมากพอแล้วถ้ารู้เพิ่มเป็นสองคน เธอก็คงจะอับอายมากแน่

 

หูชื่อเหวินจึงเก็บคำถามไว้ก่อนหันไปมองหลี่เสวี่ยฉิน

 

“เสวี่ยฉินมีอะไรหรือเปล่า?”

 

“ฉันเห็นว่ามันดึกแล้ว ทุกคนต่างพากันกลับหมดแล้วแต่พวกเธอยังไม่กลับกันสักที ฉันเลยมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า”

 

“อ๋อ ไม่มีอะไร ฉันแค่คุยกับพี่เยี่ยนนิดหน่อย ไม่รู้เลยว่าดึกขนาดนี้แล้ว เรากลับกันเถอะ”



 

เมื่อหญิงสาวทั้งสามเดินไปแล้วหยินเหวินกั๋วก็ออกมาจากหลังต้นไม้ เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะทำตัวแบบนี้ แอบฟังผู้หญิงคุยกันอยู่หลังต้นไม้

 

ถ้ายุวชนในสวนหรือทหารที่เคยทำงานเป็นลูกน้องของเขารู้เข้าคงตกใจกันหมด

 

หยินเหวินกั๋วไม่รูัว่าตัวเองเป็นอะไร เมื่อเห็นความไม่สบายใจของหูชื่อเหวินและอาการบาดเจ็บที่หลังของเธอ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเดินตามหา ยิ่งเห็นเธอร้องไห้เขาก็อยากจะเข้าไปปลอบดูแลเธอด้วยแรงกระตุ้นปริศนา

 

เขาคงจะเป็นบ้าไปแล้ว

 

เขาไม่เคยสนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนอื่น รวมทั้งใบหน้าสวยงามนั่นก็เป็นใบหน้าที่เขาอยากจะสับให้เป็นชิ้นๆ ในชาติที่แล้ว

 

นอกจากนี้เขายังเคยถูกห้อมล้อมด้วยสาวงามจำนวนมาก แต่ไม่เคยถูกล่อลวงโดยใครสักคนเลย แต่ตอนนี้กลับสนใจเธอมาก

 

ตอนเธอตะโกนใส่หูเต๋อหลิน หญิงสาวดูเต็มไปด้วยพลัง ดูไม่เหมือนคนมีปัญหารุมเร้า เขารู้สึกว่าเป็นเขาเองที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง

 

หยินเหวินกั๋วต่อยต้นไม้ระบายความโกรธ สายตาก็จ้องแผ่นหลังของหญิงสาวทั้งสามที่เดินห่างไปเรื่อยๆ จนลับสายตา

 

เมื่อทั้งสามคนกลับมาที่หอพัก จางหมิงเยี่ยนก็พบอาการบาดเจ็บที่หลังของเธอ เพราะเสื้อเชิ้ตสีขาวมีร่องรอยเลือดที่ด้านหลัง

 

“สวรรค์! ชื่อเหวิน เกิดอะไรขึ้น?” จางหมิงเยี่ยนตื่นตระหนกและหลี่เสวี่ยฉินก็ตกใจเช่นกัน

 

“ฟืนหล่นใส่หลังน่ะ ไม่เป็นอะไรมากหรอกเจ็บนิดเดียว” หูชื่อเหวินพูดอย่างไม่รู้สึกรู้สาไม่ได้บอกพวกเธอว่าได้ช่วยชีวิตเด็กเอาไว้คนหนึ่ง

 

จางหมิงเยี่ยนกับหลี่เสวี่ยฉินจึงวุ่นวายกับการทำความสะอาดแผลของเธอ แต่ยุวชนในหอนี้ไม่ได้เตรียมยาสำหรับทำแผลไว้เลย

 

“จริงสิ! คราวก่อนฉันมีแผลที่เข่ายังมียาเหลืออยู่บ้างฉันจะเอามาทาให้เธอ” หูชื่อเหวินนึกถึงคำพูดของจางหมิงเยี่ยนอีกครั้ง ผู้ชายคนนั้นเอาใจใส่มาก เมื่อเธอบาดเจ็บก็ส่งยามาให้ทันที แต่พอมานึกดูอีกทีก็รู้สึกมีอะไรไปผิดพลาดสักอย่าง

 

ก่อนที่จางหมิงเยี่ยนจะทายาบนหลังของหูชื่อเหวินก็มีเสียงเคาะที่ประตู

 

“หูชื่อเหวินอยู่หรือเปล่า?”

 

เสียงใสของผู้หญิงดังขึ้น

 

“อยู่ค่ะ!”

 

หูชื่อเหวินตอบอย่างรวดเร็ว

 

ประตูถูกเปิดออกและหญิงสาววัยสามสิบเศษก็ปรากฏ เธอใส่เสื้อเชิ้ตสีเทาตัดผมสั้นแค่หูเดินเข้ามา

 

หูชื่อเหวินค่อนข้างคุ้นหน้า แต่ก็จำไม่ได้ว่าเป็นใครเพราะพึ่งใช้เวลาอยู่ที่นี่มาได้ไม่นาน

 

“โอ้ หมอเฉินนี่เอง” หลี่เสวี่ยฉินรีบเดินเข้าไปทัก หากได้พบหมอตอนนี้จะเป็นเรื่องดีมากเลย

 

“สวัสดี ฉันมาดูแผลของหูชื่อเหวิน ได้ยินมาจากหัวหน้าหยินว่าวันนี้เธอได้รับบาดเจ็บนะ”

 

หยินเหวินกั๋วบอกหมองั้นหรือ? หูชื่อเหวินรู้สึกไม่ค่อยสบายใจขึ้นมา

 

หมอเฉินตรวจดูแผล ทำความสะอาดและใส่ยาให้เธอ

 

“พรุ่งนี้ไปหาฉันที่ห้องพยาบาลนะ ตอนนี้ฉันเลิกงานแล้ว ไม่มียาติดมาด้วย โชคดีที่แผลมีเลือดออกแค่นิดหน่อย ไม่ลึกมากไม่จำเป็นต้องเย็บแผล ตราบใดที่แผลไม่ติดเชื้อก็จะไม่มีแผลเป็นเกิดขึ้น”

 

หลังจากหมอเฉินพันแผลเสร็จ เธอก็พูดปลอบใจหูชื่อเหวิน

 

“ได้ค่ะ ขอบคุณหมอเฉินสำหรับการมาเยี่ยมเยียนเป็นกรณีพิเศษ”

 

หูชื่อเหวินรู้สึกอายนิดหน่อย เพราะว่าหมอมาที่นี่เพราะหัวหน้าหยินขอร้อง

 

“ไม่เป็นไร มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าอยากได้อะไรก็ไปหาฉันได้ที่หอพักครอบครัวหมายเลข 1”

 

“แน่นอนค่ะ ขอโทษที่รบกวนด้วยนะคะ!” จางหมิงเยี่ยนและหูชื่อเหวินไปส่งหมอเฉินด้วยกัน

 

กลายเป็นว่าหมอเฉินและหยินเหวินกั๋วเป็นเพื่อนข้างห้องกัน ไม่แปลกเลยที่ทั้งคู่มีความสัมพันธ์อันดีจึงสามารถขอความช่วยเหลือได้

 

“คืนนี้เธอต้องนอนคว่ำหน้านะ แล้วพรุ่งนี้ก็ต้องไปห้องพยาบาลเพื่อรับยา! ว่าแต่… หัวหน้ารู้ได้ไงว่าเธอบาดเจ็บ?”

 

จางหมิงเยี่ยนแปลกใจ โดยเฉพาะเกิดอะไรขึ้นทำไมหูชื่อเหวินถึงบาดเจ็บเพราะฟืนได้

 

“อ๋อ เขาบังเอิญผ่านมาเห็นตอนเกิดเรื่องเข้าพอดีน่ะ” หลังจากพูดจบท่าทางของจางหมิงเยี่ยนก็กลับมาเป็นปกติ ยิ่งทำให้เธอสงสัยมากขึ้นคนที่จางหมิงเยี่ยนพูดตอนนั้นคือหยินเหวินกั๋วใช่ไหม? มีบางส่วนที่ใช่แล้วบางส่วนก็ไม่ใช่ ช่างน่าสับสนจริงๆ

 

เมื่อมองดูคะแนนความชื่นชอบในตอนกลางคืน หยินเหวินกั๋วเพิ่มขึ้นเป็น 30 คะแนนแล้ว เขาเป็นคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ อาจเป็นเพราะเธอช่วยชีวิตเด็กเอาไว้ก็ได้

 

หูชื่อเหวินเลิกงานเดินกลับที่พัก

 

ช่วงสองสามวันนี้บาดแผลเธอเริ่มตกสะเก็ดแล้ว แต่เพราะแผลอยู่ที่หลังทำให้เธอรู้สึกตึงทุกครั้งที่ยกมือ ซึ่งมันก็ค่อนข้างเจ็บไม่น้อย

 

เมื่อผ่านลานตากข้าว หูชื่อก็นึกถึงตอนเธอช่วยชีวิตเด็กเอาไว้วันก่อน

 

กองฟืนถูกขนย้ายไปที่อื่น ไม่มีเด็กๆ มาวิ่งเล่นเหมือนเช่นเดิม

 

หูชื่อเหวินหันไปมองอย่างไม่ตั้งใจตอนที่กำลังเดินกลับ ทำให้บังเอิญไปสบสายตากับใครบางคนเข้า

 

หยินเหวินกั๋วเดินมาหาเธอ

 

“อาการบาดเจ็บดีขึ้นหรือยัง?”เขาถามเสียงทุ้ม

 

“ดีขึ้นแล้วค่ะ ต้องขอบคุณหัวหน้าที่เรียกหมอมาดูอาการให้ฉัน รวมถึงเรื่องที่ช่วยชีวิตฉันและเด็กน้อยในวันนั้นด้วย”

 

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ต่อไปเธอต้องใส่ใจความปลอดภัยของตัวเองก่อนจะช่วยเหลือคนอื่น”

 

หูชื่อเหวินกระอักกระอ่วนใจที่ต้องเผชิญหน้ากับหยินเหวินกั๋ว อย่างแรกเลยเธอรู้ตัวดีว่าวันนั้นเธอพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปตอนช่วยเหลือเด็ก เขาได้ยินมากน้อยแค่ไหนเริ่มที่จะสงสัยตัวเธอหรือเปล่า อย่างที่สองเป็นเพราะสัญชาตญาณแปลกๆ เกิดขึ้น ในใจของเธอเอง

 

“เด็กผู้หญิงที่เธอช่วยไว้เป็นครอบครัวของเลขาหลี่ เขารู้สึกขอบคุณเธอมาก”

 

“อ๋อ แต่ว่าที่จริงแล้วเรื่องตอนนั้นเป็นเพราะคุณช่วย…” ก็อย่างที่หูชื่อเหวินพูด ถ้าไม่ใช่เพราะหยินเหวินกั๋วมาช่วยไว้ เธอคงจะเจ็บหนักอาจจะไม่ถึงตาย คนธรรมดาไม่สมควรทำตัวเป็นผู้กล้าจริงๆ ไม่น่าแปลกใจที่บรรพบุรุษสอนว่าอย่าแสดงความกล้าให้มันมากนัก วิสัยทัศน์กว้างไกลกันจริงๆ

 

“หัวหน้าฉันจะกลับหอพักแล้ว ขอตัวค่ะ”

 

หูชื่อเหวินไม่สบสายตากับเขาด้วยซ้ำ เธอไม่มีอะไรจะคุยกับเขาจริงๆ สมองเธอไม่ได้มีปัญหา ยังจดจำได้ดีว่าผู้ชายคนนี้เตือนอะไรเธอไว้ แต่พอนึกถึงเรื่องของเขากับจางหมิงเยี่ยน…

 

“เดินไปด้วยกันเถอะ ฉันกำลังจะเดินไปทางนั้นเช่นกัน!”

 

แค่แยกย้ายต่างคนต่างไปจะไม่ดีกว่าหรือ

หูชื่อเหวินพูดไม่ออก ทำไมเขาไม่กระตือรือร้นหนีฉันเหมือนปกติละ? ไม่ใช่ว่าเขาขู่เธอเอาไว้หรอกหรือ ทำไมถึงได้ทำตัวแปลกไปแบบนี้?

 

“หัวหน้าทำงานเสร็จแล้วหรือค่ะ”

 

หูชื่อเหวินไม่ชอบความเงียบแบบนี้เพราะความเงียบทำให้รู้สึกอึดอัด เลยต้องหาเรื่องคุยแม้ว่ามันจะดูแปลกไปหน่อยก็เถอะ

 

“อืม เสร็จแล้ว ฉันมาคุมคนย้ายฟืนไปไว้ที่อื่น ที่นี่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ต่อให้เด็กไม่กล้ามาเล่นกันแล้วแต่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาอาจได้รับอันตราย”

 

ที่แท้ก็เป็นเขาที่ทำเรื่องย้ายฟืนไปที่อื่น เขาช่างเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบจริงๆ ด้วย

 

พวกเขาคุยกันอย่างอึดอัดใจจนกระทั่งถึงทางแยก หูชื่อเหวินจึงบอกลาหยินเหวินกั๋วแล้วเดินไปที่หอพักตัวเอง

 

หยินเหวินกั๋วกะพริบตา มองไปด้านหลังหูชื่อเหวินแล้วคิดอะไรบางอย่าง

 

เขาทำงานเสร็จสักพักแล้ว แต่จงใจรออยู่ตรงนั้นเพราะรู้ว่าเป็นทางกลับหอของหูชื่อเหวิน เขาคาดหวังว่าจะได้พบเธอ

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า