เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
หูชื่อเหวินกินโจ๊กในกล่องอาหาร กัดซาลาเปาแห้งๆ และกินผักดองที่มีรสเค็มจนทำให้คนตายได้ลงท้องไป
แม้ว่าชาติก่อนหลังจากพ่อกับแม่จะหย่ากันแล้ว แต่ความจริงเธอไม่ได้ทุกข์ใจมากขนาดนั้น ในช่วงที่ลำบากแม่มักจะทำกับข้าวอร่อยไว้ให้เธอกิน ส่วนแม่จะกินแค่ซาลาเปาแห้งกับผักดอง
ชาติก่อนตอนรู้ว่าแม่มีสุขภาพจิตไม่ดี ถ้าเธอตัดสินใจให้เวลากับแม่มากขึ้นแทนที่จะออกไปทำงาน แม่จะอาการดีขึ้นหรือเปล่านะ?
หูชื่อเหวินกินข้าวทั้งน้ำตาด้วยความรู้สึกผิด
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูเพื่อแลกคะแนนกับยา จึงได้พบว่าค่าความชอบของหยินเหวินกั๋วเปลี่ยนเป็น 0 แล้ว
นี่มัน… ตั้งแต่เมื่อไหร่? เธอไม่ได้เปิดระบบขึ้นมาดูสักพักแล้ว นี่..หมายความว่าหยินเหวินกั๋วไม่ได้เกลียดเธอแล้วงั้นเหรอ? แต่ก็ยังรู้สึกไม่ดีอยู่บ้างใช่ไหม?
ช่างมันไปเถอะ! ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องนี้หรอก การทำให้ร่างกายที่อ่อนแอนี้ดีขึ้นสำคัญกว่า
หลังจากทานยาหูชื่อเหวินก็เข้านอนแล้วผล็อยหลับไป
ครั้งนี้เธอนอนหลับลึกมาก เมื่อลืมตาขึ้นมาเธอก็รู้สึกดีขึ้นเกือบจะหายดีแล้วด้วยซ้ำไป ดูเหมือนว่ายาที่พัฒนากว่ายุคสมัยถึง 40 ปียังคงทำงานได้ดีอยู่
“ชื่อเหวินตื่นแล้วหรือ? ไปกินข้าวกันเถอะ! เที่ยงแล้วนะ”
เมื่อเห็นหูชื่อเหวินตื่นขึ้นหลี่เสวี่ยฉินนั่งบนขอบเตียงคังมองเธออยู่
“ทำไมเธอกลับมาล่ะ?”
ตอนนี้คือช่วงฤดูทำนาที่วุ่นวาย ยุวชนที่ไปทำไร่ส่วนใหญ่แล้วจะกินอาหารกลางวันที่นั่น ไม่ใช่กลับมากินที่หอพักหรือไปหาอะไรกินที่โรงอาหาร
“เมื่อคืนเธอเข้าโรงพยาบาลเพราะไข้ขึ้น ฉันได้ยินจากพี่เติ้งว่าเธอกลับมาแล้วตอนเช้า พอว่างฉันเลยกลับมาหาเธอเพื่อเอาอาหารมาให้”
หลี่เสวี่ยฉินจัดกล่องอาหารกลางวันพร้อมกับพูดไปด้วย จากนั้นก็ช่วยพยุงหูชื่อเหวินให้ลุกขึ้นนั่ง
“ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันดีขึ้น กินข้าวเองได้แล้ว เมื่อวานตอนไปทำงานกะดึกบังเอิญเปียกฝนไม่คิดว่าไข้จะขึ้น”
“โอ้! ร่างกายของเธอเป็นแบบนี้ได้ยังไงนะ? เดือนนี้เธอป่วยติดต่อกันสองครั้งแล้ว หน้าซูบผอมไปหมดแล้ว”
หลี่เสวี่ยฉินรู้สึกว่าหูชื่อเหวินน้ำหนักลดลง
“หน้าเรียวตอบแบบนี้ก็ดีแล้วนี่ จะได้ดูเหมือนนางจิ้งจอกมากขึ้น?”
หูชื่อเหวินพูดติดตลก
“ใช่สิ! เธอดูดีมากเลย”
หลี่เสวี่ยฉินเห็นว่าเธอเล่นมุกตลกได้ก็น่าจะไม่ได้ป่วยหนักมาก
“ว่าแต่… เธอรู้จักยุวชนหญิงที่ชื่อหลี่หยงฟางไหม?”
หูชื่อเหวินนึกถึงยุวชนหญิงที่ยุ่งเกี่ยวกับพ่อของเธอเมื่อวานนี้ ดูเหมือนว่าจะมีคนเรียกเธอชื่อนี้
“หลี่หยงฟาง? ใช่ที่ทำหน้าที่เหยียบองุ่นหรือเปล่า?”
หลี่เสวี่ยฉินครุ่นคิดแล้วพูดขึ้นว่า
“ฉันไม่รู้เหมือนกัน เธอหน้ากลมๆ ถักเปียสองข้าง ค่อนข้างอวบหน่อยแต่น่ารัก”
หูชื่อเหวินนึกถึงหลี่หยงฟางที่เธอพบเมื่อวานนี้
“ถ้าอย่างนั้นก็คงจะใช่ หลี่หยงฟางเป็นคนสนุกสนาน นิสัยของเธอค่อนข้างร่าเริงและมีความสามารถ ส่วนเรื่องครอบครัว… ดูเหมือนว่าจะเป็นครอบครัวธรรมดาทั่วไปไม่มีอะไรพิเศษ มีลูกหลานไม่ค่อยเยอะ มีอะไรหรือ? ถามถึงเธอทำไม”
“อ๋อ เมื่อวานบังเอิญเจอกับเธอเข้านะ ฉันอยากรู้เลยถามเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก”
เธอไม่สามารถพูดเรื่องจริงออกมาได้ จะให้บอกว่าเธอเล่นเป็นเฒ่าจันทราเชื่อมโยงด้ายแดงให้พ่อของเธอในชีวิตก่อนได้ที่ไหนกันล่ะ?
“หลี่หยงฟางคนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเพื่อนของหูเต๋อหลินจากโรงบ่มสุราด้วยนะ เหมือนพวกเขาจะโตมาด้วยกันแล้วที่เธอมาที่ไร่นี้ก็เพราะเขาเช่นกัน”
“เอ๊ะ? จริงเหรอ? เธอเป็นเพื่อนบ้านกับหูเต๋อหลินเหรอ?”
ตอนเด็กไม่เห็นพ่อเคยเล่าถึงเพื่อนบ้านคนนี้เลย
จะว่าไปแล้วก่อนที่พ่อจะแต่งงานก็อาศัยอยู่กับปู่และป้ามาก่อน แสดงว่าเธอเป็นเพื่อนบ้านของคุณปู่สินะ
แต่ก็ไม่เห็นจำชื่อเธอได้เลย
“เฮ้อ… เธอพูดใช่ไหมล่ะว่าหลี่หยงฟางสวย แต่ทำไมต้องชอบหูเต๋อหลินด้วยนะ? เขาไม่เหมาะกับเธอเลยจริงๆ”
หลี่เสวี่ยฉินมุ่ยหน้าตอนพูดถึง
“หูเต๋อหลินทำไมหรือ?”
หูชื่อเหวินรู้สึกไม่ดีเล็กน้อย แม้ว่าพ่อของเธอจะใจร้ายและไม่น่าเชื่อถือไปบ้างในชาติก่อน แต่เธอก็ไม่ต้องการให้ใครพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับเขา
เธอชอบปกป้องคนของตัวเอง เหมือนกรณีของสามีเธอในชาติก่อน เมื่อคนอื่นบอกว่าเขาแย่แม้เธอจะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเป็นความจริง แต่เธอก็จะรู้สึกไม่พอใจเช่นกัน
“ใครๆ ก็รู้ว่าหูเต๋อหลินเป็นตัวปัญหาของไร่ เขาไม่ชอบทำงานหนักคอยแต่จะสร้างปัญหา แต่เขาเป็นคนช่างพูด บางครั้งถึงกลับทำให้หัวหน้าอึ้งไปเลย”
“ฮ่าฮ่า!”
หูชื่อเหวินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา พ่อของเธอมีความสามารถในด้านนี้จริงๆ บทกวีจีนโบราณ ดาราศาสตร์ และภูมิศาสตร์ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ทุกอย่างบทโลกใบนี้ แต่ใครก็ตามที่คุยกับเขาจะรู้สึกได้ว่าเขาเป็นคนมีความรู้ เขามีพรสวรรค์จากการอ่านที่มากมายของตนเอง
แต่เขาก็มีซุกซนมากเช่นกัน ฉันจำได้ว่าพ่อมักจะเล่าเรื่องการแอบเก็บหนังสือภายใต้สายตาของปู่กับป้า , สารพัดเรื่องแปลกๆ ที่เขาทำเพื่อหลอกตาเฒ่าข้างบ้าน
“งั้นก็แปลว่ายุวชนหญิงในไร่ไม่มีใครชอบหูเต๋อหลินเลยสินะ?”
หูชื่อเหวินอยากรู้เกี่ยวกับความนิยมและชื่อเสียงของพ่อ ร่างเดิมรู้จักพ่อน้อยมากและเธอก็เป็นคนหัวสูงที่ไม่สนใจคนอื่น เธอจึงไม่จดจำเรื่องราวคนที่ไม่สนใจเอาไว้ในหัวสมองเลย
“ก็ไม่นะ มียุวชนหญิงบางคนชอบเขาแต่ก็ไม่กี่คนหรอก เพราะเขาชอบแต่งกลอนและเล่นซอเอ้อร์หูทุกครั้งที่เขาแสดงมักจะเล่นมุกตลก คนชอบเขาก็มีมากเหมือนกัน”
ดีจัง! ดูเหมือนพ่อของฉันก็น่าจะยังมีโอกาสอยู่บ้าง ถ้าไม่ใช่เพราะเขารักแม่แค่คนเดียวในตอนนั้นก็น่าจะหาคนอื่นที่ดีได้ อย่างน้อยก็มีคนที่รักและเหมาะกับเขา!
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตอนนั้นพ่อคิดอะไรอยู่ ปล่อยคนที่ชอบเขาไปตั้งมากมาย แต่กลับอยากแต่งงานกับแม่ที่ไม่ได้รักเขาเลย
ใครบอกว่าแต่งงานกันไปแล้วเดี๋ยวก็รักกันเอง! มันเลวร้ายมากต่างหาก!
หูชื่อเหวินรู้สึกหดหู่ใจจนกินข้าวไม่ลง
“ชื่อเหวิน ฉันจะไปทำงานแล้วนะ! ตอนนี้ที่ไร่ยุ่งมากเลยฉันออกมานานมากไม่ได้”
“ไปทำงานเถอะ ฉันอยู่คนเดียวได้”
เมื่อมองไปที่ด้านหลังหลี่เสวี่ยฉินที่เดินออกไป อันที่จริงแล้วหลี่เสวี่ยฉินก็ดีเหมือนกัน แต่ไม่เหมาะกับพ่อสักเท่าไหร่ เธอเองก็ไม่ชอบคนแบบพ่อด้วยเช่นกัน
คนที่ชื่อหลี่หยงฟางน่าจะเหมาะสมกว่า
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องทำความรู้จักกับยุวชนคนอื่นให้มากขึ้น ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ผู้ชายควรจับคู่กับแม่ ส่วนผู้หญิงก็จับคู่ให้กับพ่อ
แต่เธอควรตรวจสอบว่าแม่ชอบหยินเหวินกั๋วด้วยหรือเปล่า แม่กำลังคบกับเขาอยู่ไหม?
แต่หูชื่อเหวินอยากจะดูคนอื่นด้วย เธอรู้สึกว่าหยินเหวินกั๋วไม่เหมาะกับแม่มากนัก
เฮ้อ… เหนื่อยเหลือเกิน! การเป็นเฒ่าจันทรานี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสินะ
ชะตากรรมช่างน่าสมเพชเหลือเกินจะมีพ่อแม่ของใครน่าเป็นห่วงมากกว่านี้ไหมนะ?