เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
เขาได้ยินคำพูดของหูชื่อเหวินเมื่อกี้อย่างชัดเจน ตั้งแต่กลับมาเกิดใหม่หยินเหวินกั๋วพบว่าความสามารถการได้ยินของตนเองเพิ่มขึ้น หากเขาต้องการที่จะฟังก็สามารถได้ยินเสียงแม้อยู่ในระยะร้อยเมตรก็ตามที
เธอน่าจะรู้ว่าจางหมิงเยี่ยนชอบใครใช่ไหม? ถ้าเช่นนั้นก็ไม่ควรมายุ่งกับการจับคู่คนอื่นสิ
“เพื่อนร่วมชั้นบอกว่าผู้อำนวยการเซิ่นกำลังตรวจสอบสวนเจียงอัน และอาจจะมาที่สวนเซิ่นหยาง ช่วงเดือนตุลาคม พี่หยินถามเรื่องผู้อำนวยการเซิ่นทำไมหรือ?” ตอนพูดซุนเจียงกั๋วไม่ได้สังเกตท่าทางของหยินเหวินกั๋วเลย
“ไม่มีอะไรหรอก แค่ถามเฉยๆ" หยินเหวินกั๋วออกจากความคิดของตัว
“นี่ก็ดึกแล้วกลับไปพักผ่อนกันเถอะ!”
หลังจากพูดจบเขาก็ตบไหล่ซุนเจียงกั๋วแล้วเดินออกไป
“เดี๋ยว พี่หยิน…” เขายังต้องการกระตุ้นพี่หยินอีกสักหน่อยว่ามีความรู้สึกอะไรหรือเปล่า? ถ้าหากมียามที่เขาเขียนจดหมายฉบับต่อไปถึงที่บ้านจะได้พูดถึงเพื่อให้ป้าหยินได้สบายใจ
หยินเหวินกั๋วรู้ดีว่าเด็กคนนี้พยายามจับคู่เขาเช่นกัน ชายหนุ่มจึงเมินก้าวเท้าเร็วขึ้นสองสามก้าว ทิ้งให้ซุนเจียงกั๋วอยู่เบื้องหลังตามลำพัง
……..
ในสำนักงานของฝ่ายผลิตจ้าวหย่วนขุยนั่งอยู่เขากำลังมองหยินเหวินกั๋วด้วยความงงงวย
หยินเหวินกั๋วส่งผ้าพันคอให้กับจ้าวหย่วนขุย
“หัวหน้า นี่คืออะไร?”เขามองผ้าพันคอถักในมืออย่างงุนงง
“อ๋อ จางหมิงเยี่ยนถักมาให้นาย”
หยินเหวินกั๋วไม่ได้พูดถึงความเข้าใจผิดของหูชื่อเหวินที่พยายามทำตัวเป็นแม่สื่อให้เขา เขาเพียงแต่คิดว่าผ้าพันคอนี้เหมาะกับจ้าวหย่วนขุย
แต่เขาไม่ได้ให้จดหมายกับอีกฝ่ายด้วยเพราะกลัวว่าจะเกิดความเข้าใจผิด
“นี่… จางหมิงเยี่ยนถักสิ่งนี้มาให้ฉันจริงๆ หรือ?” จ้าวหย่วนขุยจับผ้าพันคออย่างไม่ปล่อยมือ
ไหมที่ใช้ถักดูก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นขนแกะชั้นดี มันนุ่มและไม่มีหยาบกระด้าง เขารู้ฐานะทางการเงินของจางหมิงเยี่ยนดี ถ้าเธอเต็มใจจะซื้อผ้าพันคอขนสัตว์ดีๆ ให้เขา เธอจะต้องประหยัดอดออมเป็นอย่างมาก! นอกจากนี้จางหมิงเยี่ยนยังต้องส่งเงินกลับบ้านทุกเดือนอีกด้วย
“เธอขอให้นายเอามาให้ฉันหรือ?”
จ้าวหย่วนขุยเป็นคนตรงไปตรงมา ดวงตาของเขาชื้นขึ้นมา รู้สึกสงสาร คนรักของตน เธอต้องประหยัดมากขนาดไหนเพื่อผ้าพันคอผืนนี้ เมื่อวานเขาพึ่งจะสงสัยในความรักของเธอที่มีต่อเขา เขาช่างเลวร้ายจริงๆ
“อืม เธอขี้อายเกินไปเลยฝากให้ฉันเอามาให้นาย”
หัวหน้าหยินโกหกตาไม่กะพริบเลย
“ถ้านายชอบเธอ ก็ดูแลเธอให้ดี”
หยินเหวินกั๋วนึกถึงอนาคตที่น่าสลดใจของจางหมิงเยี่ยน แต่ก็พูดอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้
เมื่อเห็นว่าทั้งสองน่าจะอยู่ด้วยกันได้แต่เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจุดจบของทั้งคู่ถึงได้กลายเป็นแบบนั้น
ส่วนตัวเขาเองก็ไม่ได้สนใจจางหมิงเยี่ยนสักเท่าไหร่ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนั้นพยายามจับคู่ระหว่างเขาและจางหมิงเยี่ยน บางทีเขาอาจจะไม่สนใจเธอเลยก็เป็นได้
จ้าวหย่วนขุยเดินออกจากสำนักงานอย่างมีความสุข ในมือยังคงถือผ้าพันคอเอาไว้
ระหว่างทางก็ลูบคลำผ้าพันคอตลอด หัวใจของเขาเหมือนมีฟองสบู่ลอยอยู่เต็มไปหมด
แต่เขาเอาแต่จดจ่ออยู่กับผ้าพันคอมากเกินไป จึงเดินชนเข้ากับหูชื่อเหวินที่เดินผ่านมา
“อุ้ย!” หูชื่อเหวินรู้สึกหน้าผากปูดขึ้นมา เธอมัวแต่นึกถึงจางหมิงเยี่ยนและหยินเหวินกั๋วจนไม่ได้สนใจมองทางจึงชนเขากับใครสักคน
เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าเป็นจ้าวหย่วนขุยที่ทำงานเป็นช่างไม้
“ขอโทษสหายหูลี่อิง! เมื่อกี้ฉันไม่ได้มองทางเลย เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” เขารู้สึกไม่ดีเมื่อพบว่าหน้าผากของหญิงสาวเป็นปื้นสีแดงเพราะเดินชนเข้ากับเขา
“ไม่เป็นไรๆ ช่างไม้จ้าวเรียกฉันว่าหูชื่อเหวินเถอะ ฉันเปลี่ยนชื่อแล้ว”
หูชื่อเหวินพูดขณะที่กำลังลูบหน้าผากตัวเอง
“โอ้! หูชื่อเหวินใช่ไหม? ชื่อดีจริงๆ มันฟังดูไพเราะมาก!” เพราะจ้าวหย่วนขุยกำลังอารมณ์ดี จึงเอ่ยคำชมเชยเพิ่มเติมอีกสองสามคำออกมา
“ฮ่าฮ่า มันยังไม่เป็นทางการหรอก… ช่างไม้จ้าวนั้นคือ…” ฉับพลันหูชื่อเหวินก็เห็นผ้าพันคอในมือของชายหนุ่ม
ทำไมมันดูคุ้นจัง?
ผ้าพันคอสีน้ำเงินเข้ม ถักด้วยมืออย่างนี้ทำไมถึงได้เหมือนกับของหยินเหวินกั๋วมาก?
มันมาอยู่ที่มือจ้าวหย่วนขุยได้ไง?
จากนั้นเธอก็มองถุงผ้าที่ใส่ผ้าพันคอในมือจ้าวหยวนขุย นั้นคือถุงที่เธอใส่ผ้าพันคอไว้ตอนนั้น!
“อ๊ะ? อ๋อ…ฮะฮ่า ไม่มีอะไร! ไม่มีอะไร”
จ้าวหย่วนขุยรีบเก็บผ้าพันคอกลับเข้ากระเป๋า จากนั้นก็แกล้งนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องต้องทำและพูดกับหูชื่อเหวินว่า
“ฉันนึกได้ว่ามีบางอย่างต้องทำ ฉันขอตัวก่อนนะ เมื่อกี้ฉันขอโทษด้วย!” หลังจากพูดจบเขาก็รีบวิ่งออกไปไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
หูชื่อเหวินมองตามเขาไปด้วยความสงสัย ทำไมผ้าพันคอถึงมาอยู่ในมือของจ้าวหย่วนขุย? หรือว่าหยินเหวินกั๋วไม่เข้าใจความหมายของจดหมาย เลยไม่รู้ว่าจางหมิงเยี่ยนเป็นคนมอบให้?
หูชื่อเหวินแปลกใจคงจะต้องไปถามหยินเหวินกั๋วสักหน่อยแล้วว่าทำไมถึงยกผ้าพันคอให้คนอื่น มันเป็นสิ่งที่เธออุตส่าห์ให้เขาในฐานะจางหมิงเยี่ยน!
เขากำลังคบกับจางหมิงเยี่ยนไม่ใช่หรือ? คนโง่! ทำไมยกผ้าพันคอที่คนรักทำให้คนอื่น!
หูชื่อเหวินรู้สึกโกรธขึ้นมา เธอตัดสินใจจะไปถามหยินเหวินกั๋วในทันที
“เดี๋ยวสิหูเต๋อหลิน! อย่าพึ่งไป!” หูชื่อเหวินชะงักเมื่อได้ยินชื่อหูเต๋อหลิน จากนั้นเมื่อมองไปรอบด้านก็เห็นพ่อของเธอและผู้หญิงคนหนึ่ง
หูชื่อเหวินรีบหลบหลังต้นไม้และมองอย่างเงียบๆ
“บอกฉันอีกสักครั้งได้ไหม?” ที่เธอได้ยินเมื่อกี้นี้คงเป็นเสียงหญิงสาวที่กำลังจับแขนพ่อของเธอ
ฉันไม่มีชื่อของเธอในความทรงจำของหูลี่อิง ดังนั้นเธออาจจะไม่รู้จักกับเจ้าของร่างเดิม
“ฉันบอกแล้วให้เธอเลิกเขียนไปเถอะ เธอไม่เหมาะกับการเขียนบทกวีพวกนี้หรอก เห็นไหมว่าเขียนกี่รอบๆ ก็ผิดเหมือนเดิม!” หูเต๋อหลินปัดมือผู้หญิงคนนั้นให้หลุดออกจากการเกาะกุมอย่างหงุดหงิด
แต่ไม่ว่าอย่างไรผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่ยอมปล่อย
“ก็ใช่ไง! ที่ให้นายสอนเพราะว่าฉันเขียนไม่เก่งนี่ไง! ถ้าคิดว่าฉันเขียนไม่ดีก็สอนฉันสิ!”
“เธอไม่มีพรสวรรค์ในการเขียน! เอาเวลาไปทำงานจะดีกว่า!”
หูเต๋อหลินไม่พอใจทั้งยังพยายามกระชากแขนตนออก
เมื่อเห็นว่าพ่อกำลังถูกหญิงสาวจับไว้ไม่ยอมปล่อย เขาคงไม่ชอบผู้หญิงคนนี้เอามากๆ เธอพยายามขอร้องให้พ่อช่วยสอนการเขียนกลอน
หูชื่อเหวินรู้ว่าพ่อของเธอเต็มไปด้วยพรสวรรค์ แม้ว่าเขาจะเอาแต่ดื่มเหล้าและเล่นไพ่นกกระจอกทุกวัน พ่ออ่านหนังสือเยอะเมื่อตอนเป็นเด็ก ขีดเขียนเก่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไร และวาทศิลป์ก็ค่อนข้างดี
ไม่อย่างนั้นชาติที่แล้วเมื่อพ่อไล่ตามแม่กลับไปที่เมือง ตอนแรกตาที่ไม่ชอบเขายังต้องยอมรับในท้ายที่สุด
">ตาของเธอเป็นลูกคนโตและเรียนโรงเรียนเอกชน ถือว่าเป็นคนที่หัวโบราณค่อนข้างมาก เขาเรียนหนังสือคลาสสิกสี่ห้าเล่มหลังจากปฏิวัติเขาได้รับการศึกษาวัฒนธรรมสมัยใหม่ ซึ่งน้อยคนนักที่จะเข้าใจ แต่พ่อของฉันกลับรู้จักดี ตาจึงชอบเขามาก ในตอนนั้นแม่ไม่อยากแต่งงานกับพ่อ เธอถึงกับโดนตาเฆี่ยนตี