เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
เมื่อหูชื่อเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นปี1970แล้วเธอกลับมาเกิดใหม่เป็นรูมเมทของแม่ ความตั้งใจในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียวคือเธอจะหาสามีใหม่ให้แม่เอง ส่วนพ่อที่ไม่เอาไหนนะเหรอ เตะเขาไปให้ไกลๆเลย!!
อายุ 27 ปีแต่ยังไม่ได้คุยกับใครเลย? ดีสิ! ถ้าคำนวณตามอายุแล้วละก็เขาคงจะแก่กว่าแม่ของเธอสัก 4 ปี ช่วงวัยกำลังดีไม่มากไม่น้อยเกินไป!
ครอบครัวแปลกๆ? หรือจะเป็นญาติที่อยู่ต่างประเทศ?
เรื่องแค่นี้เนี่ยนะ! ข้อจำกัดพวกนี้จะมีอยู่อีกแค่ไม่กี่ปีเท่านั้นแหละ ใครจะสนใจว่าใครจะไปจะมากันอีก? ยิ่งกว่านั้น หลังจากเกิดการปฏิรูปและเปิดประเทศแล้ว จะมีสักกี่คนกันที่ไม่รู้สึกอิจฉาความสัมพันธ์ในต่างประเทศแบบนี้!
ไม่น่าแปลกใจเลย ที่หยินเหวินกั๋วคนนี้จะร่ำรวยขึ้นมาได้ในช่วงเวลาสั้นๆ อาจจะเป็นเพราะความสามารถที่ดีเยี่ยมซึ่งเป็นต้นทุนเดิมของเขาอยู่แล้ว หรือไม่ก็เพราะความช่วยเหลือจากญาติที่ต่างประเทศที่ว่า!
“อย่าแม้แต่จะคิดที่จะเข้าหาหัวหน้านะ! ถ้าทำอย่างนั้นพ่อของเธอจะโกรธจนหักขาเธอแน่ๆ”
เดี๋ยวก่อน! อะไรนะ? หูชื่อเหวินกลอกตา
“ฉันบอกตอนไหนว่าฉันชอบหัวหน้า?”
“แต่สีหน้าของเธอเมื่อกี้นี้มัน…”
สีหน้าของฉัน? อาจจะเป็นเพราะความตื่นเต้นและดีใจมากเกินไปสักหน่อย นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้หลี่เสวี่ยฉินเข้าใจเธอผิด
“เธอคิดมากไปแล้ว”
แต่ในขณะที่เธอกำลังพูด จู่ๆ ภาพบางอย่างก็แล่นเข้ามาในหัว ปรากฏว่าเจ้าของร่างเดิมหูลี่อิงแสดงท่าทีสนใจหยินเหวินกั๋วอยู่แล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่หลี่เสวี่ยฉินจะพูดแบบนี้ออกมา
แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา! ตอนนี้เธอคือหูลี่อิง เธอจะใช้ความพยายามทั้งหมดที่มีจับคู่ระหว่างแม่ของเธอกับเขาเอง
จู่ๆ หลี่เสวี่ยฉินเหลือบเห็นอะไรบางอย่าง เธอลุกขึ้นรีบวิ่งไปที่ประตูก่อนจะโบกมือตะโกนเรียกใครสักคน
“พี่เติ้ง!”
ปรากฏว่าเป็นเติ้งกวงหรงมาถึงหน้าประตูด้วยรถไถนาของเขา หูชื่อเหวินและจางหมิงเยี่ยนเห็นแบบนั้นจึงเดินตามเธอไปด้วยกัน
“สหายหูลี่อิงเป็นไงบ้าง? รู้สึกดีขึ้นรึยัง?” ชายหนุ่มหน้าตาเรียบๆ ซื่อๆ นั่งอยู่บนรถไถถามเธอด้วยรอยยิ้ม
“ตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ ฉันเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาล ขอให้พี่เติ้งไปส่งพวกเรากลับไปที่ไร่ได้ไหมคะ?” หูชื่อเหวินพูดอย่างสุภาพ ประดับรอยยิ้มไว้ทั่วใบหน้า
หลังจากได้ยิน เติ้งกวงหรงก็ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะมองหลี่เสวี่ยฉินที่อยู่ข้างๆ ด้วยความสับสน แต่หลี่เสวี่ยฉินกลับทำแค่ขยิบตาให้เขาเท่านั้น
เติ้งกวงหรงลูบหัวของเขาอย่างงงๆ เผยรอยยิ้มโง่เขลาออกมา
“ฮะฮะ! ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหาเลย!”
เขาคิดว่าหูลี่อิงดูนิสัยดีขึ้นมากหลังจากที่ป่วยจนเข้าโรงพยาบาล คงไม่ใช่ว่าเป็นไข้ขึ้นสูงจนสมองเสียหายไปแล้วหรอกนะ
หูชื่อเหวินไม่ได้สนใจปฏิกิริยาเล็กน้อยนี้ของพวกเขาเลย เธอรู้ว่าเจ้าของร่างเดิมเป็นคนที่มีนิสัยเย่อหยิ่งมาก่อน เธอคิดเสมอว่าตัวเองมาจากครอบครัวที่สูงกว่า เพราะพ่อของเธอเป็นหัวหน้าคณะกรรมการพรรคเทศบาล เธอจึงชอบแสดงท่าทีที่เหนือกว่าทุกคนตลอดเวลา
ต่อให้เธอเคยแบ่งข้าวของที่ใช้ไม่หมดของเธอให้คนอื่น แต่ในใจกลับคิดถึงการทำบุญทำทานในลักษณะของการดูถูกที่พวกเขาไม่มีเงินซื้อมากกว่า
แต่ตอนนี้เป็นหูชื่อเหวินที่มาแทนหูลี่อิงคนเก่า เธอไม่จำเป็นจะต้องทำนิสัยแบบเจ้าของร่างเดิมอีกต่อไป
เธอจะปล่อยให้พวกเขาได้ปรับตัวไปทีละนิดและเริ่มเปลี่ยนแปลงนิสัยไปช้าๆ
รถไถคันนั้นไม่ค่อยสะอาดสักเท่าไหร่ทั้งยังเต็มไปด้วยของที่เติ้งกวงหรงซื้อมาจากในเมือง เขาจึงรีบไปข้างหน้าเพื่อจะจัดที่จัดทางให้เธอได้นั่ง แต่เขากลับได้เห็นหูชื่อเหวินปีนขึ้นรถไถด้วยตัวเองและหาที่นั่งแบบสุ่มๆ ซึ่งไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจหรือเหยียดหยามเลย
เติ้งกวงหรง มองหลี่เสวี่ยฉินและจางหมิงเยี่ยนอีกครั้ง แต่หลี่เสวี่ยฉินทำเพียงยักไหล่ให้เขาเป็นการบอกว่าพวกเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหูลี่อิงที่เปลี่ยนนิสัยไปในการป่วยครั้งนี้ จากนั้นพวกเธอก็พากันขึ้นรถ
เติ้งกวงหรงลูบหัวขึ้นไปบนที่นั่งคนขับของรถไถ ถ้าไม่ใช่เพราะใบหน้าของเธอยังเหมือนเดิม เขาคงจะคิดแล้วว่าหูลี่อิงถูกเปลี่ยนตัว แต่กลายเป็นแบบนี้ก็ดีกว่าเมื่อก่อนมาก! เดิมทีเธอก็มีใบหน้าสวยงามอยู่แล้ว แค่ชอบทำตัวเหนือคนอื่นสั่งนั่นสั่งนี้ ท่าทางที่เรียบง่ายของเธอตอนนี้ทำให้เขารู้สึกดีกับเธอมากกว่า!
หูชื่อเหวินสูดอากาศบริสุทธิ์บนรถเข้าไปเต็มปอด ในยุคนี้ท้องฟ้ายังคงสดใสไม่เจือสีเทาขุ่นเป็นท้องฟ้าสีฟ้าสดใสที่งดงาม รอบด้านก็เต็มไปด้วยกลิ่นของรวงข้าวหอมกรุ่น เป็นโชคดีของเธอที่เมื่อวานมีฝนตก ทำให้รถไถที่วิ่งไม่เร็วมากนักไม่มีฝุ่นคลุ้งขึ้นมาเหมือนปกติ
“เอ๊ะ! ดูสิ ใช่หัวหน้ารึเปล่า?” อยู่ๆ เติ้งกวงหรงก็พูดขึ้นมา หญิงสาวทั้งสามคนจึงหันไปเห็นชายรูปร่างสูงเดินอยู่ข้างหน้าไม่ไกลนัก
นั่นหัวหน้าหรือ! ดูหุ่นอันราวกับพระเจ้าปั้นมานั่นสิ! ไหล่กว้าง รูปร่างสูง แค่มองจากด้านหลังก็รู้สึกได้ถึงความปลอดภัย เธอรู้สึกประทับใจมากกับคนที่หมายมั่นปั้นมือไว้ให้แม่ของเธอจริงๆ
“หัวหน้า! คุณกำลังจะไปไหน? ขึ้นมาก่อนสิ ผมจะพาคุณไปส่งเอง!”
เติ้งกวงหรงขับรถไปหยุดที่ด้านข้างของชายคนนั้น
ชายร่างสูงหันกลับมามองรถไถ จากนั้นก็มองไปที่หญิงสาวที่นั่งอยู่บนนั้น คิ้วของเขาขมวดเมื่อเห็นใครบางคน
‘หูลี่อิง’
ว้าว! สุดยอดไปเลย! เขาหล่อมากจริงๆ หล่อยิ่งกว่าในรูปที่เคยเห็นมาก่อนเสียอีก
ผมเขาเป็นสีดำดูหยักศกเล็กน้อย
ผิวเป็นสีข้าวสาลีดูเหมือนคนสุขภาพดี โครงหน้าเรียวคิ้วเป็นรูปดาบสองข้างขมวดเข้าหากันเล็กน้อย นัยน์ตาทั้งสองของเขาเป็นทรงยาวมีความเฉียบคมราวกับเหยี่ยว รูปหน้าโดยรวมให้ความรู้สึกถึงความสงบและสง่างาม
เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวครึ่งตัว ท่อนล่างใส่กางเกงทหารสีเขียว รองเท้าผ้าใบแบบทหาร เครื่องแต่งกายแบบนี้ดูเชยและไร้รสนิยมไปบ้าง แต่กลับไม่ทำให้ภาพลักษณ์อันหล่อเหลาของเขาลดลงเลย หนำซ้ำยังเสริมสง่าราศีให้เขามากขึ้นกว่าเดิม
หูชื่อเหวินรู้สึกว่าถูกชายคนนั้นจ้องมองไปตั้งแต่หัวจรดเท้า ตอนแรกเห็นเขาขมวดคิ้วก็คิดว่าตาฝาดไปเองเสียอีก ที่แท้ก็ไม่ได้คิดไปเอง
เจ้าของร่างเดิมเคยก่อเรื่องให้เขาโกรธหรือ? แต่พอนึกถึงความทรงจำในหัวแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่ทำให้เขาหงุดหงิดใจได้เลย ในช่วงเวลาสี่ปีที่ผ่านมาทั้งสองคนยังพูดคุยและเจอกันน้อยมากเสียด้วยซ้ำไป
แม้ว่าเจ้าของร่างเดิมจะสนใจในตัวเขา แต่ก็ไม่น่ามีอะไรที่ดูเป็นปัญหาขนาดนั้นนี่?
แล้วทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเขามีสีหน้าหงุดหงิดเมื่อเห็นเธอ?
หรือว่าเจ้าของร่างเดิมหูลี่อิงแสดงตัวออกนอกหน้ามากเกินไป จนพฤติกรรมนี้สร้างความลำบากใจให้เขา?
“หัวหน้า คุณจะรีบไปไหน? ให้ผมไปส่งก่อนไหม พวกเราไม่รีบหรอก” หลังจากพูดจบเติ้งกวงหรงก็หันมามองหูชื่อเหวินเหมือนจะขออนุญาต
“ฉันไม่รีบ จะไปส่งหัวหน้าก่อนก็ได้!”
นี่คงเป็นเรื่องตลกร้ายแน่ ต่อให้ตอนนี้เธอกำลังรีบสุดๆ แต่ก็ไม่มีทางปล่อยโอกาสการจับคู่ระหว่างแม่ของเธอกับหยินเหวินกั๋วให้หลุดลอยไปอย่างเด็ดขาด ทำแบบนี้จะได้เป็นการเฝ้าดูคนทั้งคู่ว่าจะมีความเหมาะสมและเข้ากันได้ดีมากแค่ไหน
หยินเหวินกั๋วลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายเขาก็ขึ้นรถเลือกที่จะนั่งฝั่งตรงข้ามกับหูชื่อเหวินซึ่งเป็นที่นั่งติดกันกับจางหมิงเยี่ยน ทำให้ตอนนี้ทั้งคู่นั่งเคียงข้างกัน
ทันทีที่เขานั่งลง แม่ของเธอก็สะดุ้งโหยง หญิงสาวเม้มริมฝีปาก มือเล็กๆ ของเธอไม่รู้จะเอาวางไว้ไหนจึงบิดกันไปมาด้วยความประหม่าต่อหน้าต่อตาหูชื่อเหวิน
ดูเหมือนแม่จะแอบชอบเขาจริงๆ ด้วย แบบนี้หมายความว่าหากแม่อยู่ใกล้หยินเหวินกั๋ว เขาจะทำให้แม่เขินอายจนทำตัวไม่ถูก ท่าทางประหม่าและเขินอายไร้เดียงสาแบบนี้ดูอย่างไรก็เหมือนหญิงสาวเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ชายที่เธอชอบ
แล้วดูผู้ชายคนนี้สิ เขาเลือกนั่งข้างแม่ของเธอทันทีที่ขึ้นรถมาเลย! เห็นได้ชัดว่าเขามีเป้าหมายเป็นของตัวเองตั้งแต่แรก!
หูชื่อเหวินคิดเข้าข้างตัวเอง ตอนแรกเธอยังคิดอยู่ด้วยซ้ำว่าจะทำอย่างไรให้ทั้งสองคนรักกันแต่ดูความบังเอิญนี่สิ ช่างเป็นเหตุการณ์ที่เหมือนพระเจ้ายื่นโอกาสให้เธอได้ขีดเขียนเส้นทางโชคชะตาของคนทั้งคู่!
จางหมิงเยี่ยนที่นั่งถัดจากหยินเหวินกั๋วเหงื่อออกด้วยความตื่นกลัว
โชคร้ายจริงๆ! ทำไมฉันต้องเจอกับหัวหน้าด้วย พระเจ้าช่วยฉันด้วย! ไม่มีใครรู้หรอกว่าฉันกลัวเขามากขนาดไหน?
นี่เป็นความผิดของจ้าวหย่วนขุยนั่นแหละ! ทำไมเขาต้องเอาเรื่องที่หัวหน้าเคยฆ่าคนตายมาเล่าให้เธอฟังด้วยนะ ทุกวันนี้เวลาเจอหน้าเขาจางหมิงเยี่ยนเลยรู้สึกตื่นตระหนก ทำตัวไม่ถูก พูดไม่ออกกลัวแทบตาย!
..............................................................
อีกไม่กี่ตอนนางเอกจะไปเปลี่ยนชื่อของตัวเองแล้วนะคะ นักอ่านจะได้หาสับสนค่ะ
รออ่านนะคะ
เวลาไม่เช้าแล้ว: เพื่อเปิดการมองเห็นเพื่อนๆรบกวนใส่ชั้นและปาหัวใจหรือคอมเม้นท์ให้ด้วยนะคะจะเป็นสติ๊กเกอร์หรืออะไรก็ขอรับทั้งหมดค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ