หลังจากสรุปเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ซูฮั่นหยวนก็ฉีกบทออกเป็นชิ้น ๆ ไม่มีทางที่เธอจะกลายมาเป็นแค่ตัวละครเสริม! เธอไม่เคยเป็นคนขี้ขลาด! เพื่อจัดการกับคนใจร้ายเหล่านี้ เธอจะปล่อยให้พวกเขาทำตามใจไม่ได้! มีสามคำสำหรับขยะพวกนี้คือ ‘ไปตายซะ!’
หลังจากสรุปเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ซูฮั่นหยวนก็ฉีกบทออกเป็นชิ้น ๆ ไม่มีทางที่เธอจะกลายมาเป็นแค่ตัวละครเสริม! เธอไม่เคยเป็นคนขี้ขลาด! เพื่อจัดการกับคนใจร้ายเหล่านี้ เธอจะปล่อยให้พวกเขาทำตามใจไม่ได้! มีสามคำสำหรับขยะพวกนี้คือ ‘ไปตายซะ!’
ตอนที่ 70: ติวหนังสือ
"เดี๋ยวก่อน!" จางเทียนไฉตะโกนเรียกเธอด้วยความโมโห "คิดจะไปแบบนี้เลย?"
"หมายความว่ายังไง?" ซูฮั่นหยวนหันกลับมามองเขา
"คุณเอาเงินพ่อผมไปแล้ว ไม่รู้สึกผิดเหรอที่ไม่สอนอะไรผมเลย?"
"เฮ้อ" ซูฮั่นหยวนทั้งโกรธและขำ "ฉันสอนแล้วนะ เธอนั่นแหละที่ไม่อยากเรียน ไม่ใช่ฉัน ฉันจะมาที่นี่ทุกวันเป็นเวลา 2 ชั่วโมง จะไม่สอนเกินเวลานาทีเดียว ถ้าเธอเป็นห่วงเรื่องเงินของพ่อเธอ ก็ต้องตั้งใจเรียนหน่อย"
พูดจบเธอก็ยิ้มและเปิดประตูเดินออกไป
ทันทีที่ประตูปิดลง เสียงโกรธของจางเทียนไฉก็ดังมาจากข้างหลัง "รอดูไปเถอะ ถ้าผมทำคะแนนสอบไม่ได้ดีขึ้น ผมจะยอมใช้นามสกุลคุณเลย!"
คุณย่าจางออกมาจากห้องครัวพร้อมกับผลไม้ในมือ และบังเอิญได้ยินเสียงหลานชาย เธอมองซูฮั่นหยวนด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนและส่งยิ้มมาให้ "เด็กคนนี้ชอบพูดอะไรไม่คิด อย่าไปถือสาเขาเลย เดี๋ยวฉันจะจัดการตีเขาให้"
ซูฮั่นหยวนยิ้มบาง ๆ "ไม่เป็นไรค่ะ เขาอยู่ในวัยต่อต้าน ยังเด็กอยู่ ฉันไม่ถือสาเลยค่ะ"
"เฮ้อ เด็กคนนี้เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ แต่ตั้งแต่พ่อแม่เขาหย่ากันก็เปลี่ยนไปมาก" คุณย่าจางส่ายหัวและยื่นผลไม้ให้ "ครูซู มาทานผลไม้ก่อนสิ"
"ไม่เป็นไรค่ะคุณย่า ดึกแล้ว ฉันต้องกลับไปที่โรงงานแล้วค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่" ซูฮั่นหยวนตอบ
"เดี๋ยวก่อนนะ ฉันจะโทรหาจางหง ให้เขาพาเธอกลับ มันอันตรายเกินไปสำหรับผู้หญิงที่จะกลับโรงงานดึกๆ แบบนี้" มารดาของจางหงกังวลว่าสาวสวยคนนี้จะไม่ปลอดภัยบนถนน จึงอยากให้ลูกชายพาเธอกลับไป
"ไม่เป็นไรค่ะคุณย่า ตอนนี้ยังไม่ดึกเกินไป ทันรถเที่ยวสุดท้ายพอดี และมันก็สะดวกมากเพราะรถจอดที่หน้าประตูโรงงาน ฉันกลับแล้วนะคะ คุณย่าไม่ต้องโทรหาผู้อำนวยการจางหรอกค่ะ"
ซูฮั่นหยวนกลัวว่าคุณย่าจะโทรหาผู้อำนวยการจาง จึงรีบออกจากบ้านพร้อมกระเป๋าของเธอและวิ่งลงบันไดไป
ทันทีที่เธอออกมาข้างนอก เธอเจอผู้อำนวยการจางกำลังคุยกับเพื่อนบ้านสองสามคน ดูเหมือนพวกเขาจะกำลังพูดถึงเรื่องผลการเรียนของเด็กๆ
เธอคิดว่าควรจะไปทักทายผู้อำนวยการจาง จึงเดินเข้าไปหาเขาและพูดว่า "ผู้อำนวยการคะ วันนี้ฉันสอนเสร็จแล้วนะคะ ฉันขอตัวกลับก่อน"
"มันดึกแล้ว เดี๋ยวฉันไปส่งเอง รอฉันแป๊บ ฉันจะขึ้นไปเอากุญแจจักรยาน"
"ไม่เป็นไรค่ะ เดินทางด้วยรถสะดวกดี ใช้เวลาแค่สิบห้านาทีก็ถึงค่ะ" ซูฮั่นหยวนรีบโบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
"นี่คือครูสอนภาษาอังกฤษที่คุณจ้างมาให้ลูกชายใช่ไหม?" เพื่อนบ้านถามขึ้น
"ใช่ครับ พนักงานในโรงงานของเราคนนี้เก่งภาษาอังกฤษมาก" ผู้อำนวยการจางแนะนำตัวซูฮั่นหยวนสั้นๆ ให้เพื่อนบ้านฟัง
"โอ้โห ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว ลูกสาวของฉัน 'เหมียวเหมียว' ก็ไม่เก่งภาษาอังกฤษเหมือนกัน"
"ลูกของฉันก็ภาษาอังกฤษไม่เก่งเลย เขาไม่สนใจที่จะเรียนหนังสือหนังหาจนไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว"
"ฉันก็ปวดหัวเหมือนกัน ลูกฉันใกล้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ถ้าสอบไม่ติดก็จะหางานดีๆ ไม่ได้"
เพื่อนบ้านต่างก็เริ่มพูดถึงปัญหาของลูกๆ เกี่ยวกับการเรียน
"เอ่อ...ผู้อำนวยการจาง พรุ่งนี้ตอนที่ครูซูมาสอนอีก ฉันขอให้ลูกของฉันเข้ามาฟังด้วยได้ไหม" มีคนถามขึ้น
"ลูกของบ้านฉันด้วย"
"ได้สิ!" จางหงเป็นคนใจกว้างมาก เขาตัดสินใจด้วยการโบกมือ
"เอาแบบนี้แล้วกัน ให้เด็กๆ มาลองเรียนดู แล้วดูกันว่าเป็นยังไงบ้าง"
ตอนที่ 71: ยั่วยุ
"นั่นเยี่ยมมาก ตกลงตามนั้นแล้วกัน พรุ่งนี้ตอนเย็นเราจะให้เด็กๆ ไปเรียนที่บ้านคุณ"
"ไม่มีปัญหาครับ" จางหงตอบรับแล้วหันไปพูดกับซูฮั่นหยวน "ขอบคุณเธอมากนะครูซู"
"ไม่ลำบากเลยค่ะ งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะคะ" ซูฮั่นหยวนยิ้มแล้วกล่าวลา
เมื่อเธอกลับมาถึงหอพักในโรงงาน จู้หลินและเส้าหยูได้เรียนบทเรียนที่ต้องเรียนเสร็จหมดแล้ว พวกหล่อนทิ้งคำถามบางข้อไว้ให้ซูฮั่นหยวนช่วยตอบ
ซูฮั่นหยวนอธิบายคำถามต่างๆ อย่างใจเย็นและพาพวกหล่อนฝึกฝนเพิ่มเติม เมื่อเธอเงยหน้ามองนาฬิกาอีกครั้งก็เห็นว่าเลยสี่ทุ่มแล้ว
ซูฮั่นหยวนยื่นหน้าออกไปนอกหน้าต่างแล้วมองลงไปด้านล่าง เธอเห็นเส้าเฟิงยังคงยืนรออยู่ข้างล่างและย่ำเท้าไปมาเพราะความหนาว รอพาน้องสาวกลับบ้าน
"เส้าหยู พี่ชายของเธออยู่ข้างล่างแล้ว รีบลงไปเถอะ ไว้พรุ่งนี้เราจะเลิกเรียนให้เร็วกว่านี้" ซูฮั่นหยวนบอก
"พรุ่งนี้ฉันจะย้ายมาอยู่หอพักที่นี่แล้ว จะได้เรียนกับพวกเธอทุกวัน" เส้าหยูอยากจะใช้โอกาสนี้เรียนอย่างเต็มที่ เธอตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะอยู่ที่หอพัก
"นั่นดีมากเลย" ซูฮั่นหยวนกล่าวด้วยความยินดี "รีบไปยื่นเรื่องเลยนะ พอย้ายเข้ามาแล้วจะสะดวกกับฉันมากขึ้นด้วยเหมือนกัน"
"ใช่ๆ"
หลังจากเลิกงานในวันถัดมา ซูฮั่นหยวนก็ไปสอนภาษาอังกฤษที่บ้านของผู้จัดการจางตามปกติ แต่คืนนี้มีเด็กเพิ่มเข้ามาหลายคน ดูเหมือนว่าทุกคนจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นของจางเทียนไฉ
เด็กๆ เต็มห้องเรียน แต่ละคนเตรียมหนังสือภาษาอังกฤษไว้ พร้อมกับสีหน้าที่แสดงถึงความสงสัยว่าครูสาวคนนี้จะมีความสามารถพอที่จะสอนพวกเขาได้หรือไม่
ซูฮั่นหยวนอ่านความคิดจากใบหน้าของพวกเขาได้อย่างแม่นยำ มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อย โดยที่ไม่แม้แต่จะมองหนังสือ เธอพูดว่า "เปิดหนังสือไปที่หน้า 57 แล้วอ่านเนื้อหาภาษาอังกฤษของบทเรียนนี้ออกมา จางเทียนไฉ เริ่มจากเธอเป็นคนแรก"
เด็กหัวรั้นเริ่มเรียน ส่วนพ่อแม่ที่อยู่ด้านนอกก็มองผ่านประตูเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เพื่อดูว่าครูจะสามารถควบคุมเด็กๆ ได้หรือไม่ และจะสามารถสอนได้ดีหรือเปล่า
เด็กทั้งสี่คนอ่านเนื้อหาออกเสียง แต่ซูฮั่นหยวนไม่พอใจกับผลลัพธ์ "จางเทียนไฉอ่านได้ไม่คล่อง ยังจำคำศัพท์ไม่ได้ โทนเสียงก็ไม่ถูกต้อง แถมยังอ่านแข็งทื่อเกินไป เฉินเหมียวเหมียวโทนเสียงไม่ถูกต้อง จางหนิงอ่านไม่คล่อง ส่วนหลิวลู่ ภาษาอังกฤษของเธอยังไม่เข้าใจต่อชาวจีนและชาวต่างชาติ เธอต้องปรับปรุงมากกว่านี้"
"คุณแค่ให้เราอ่านออกเสียงเท่านั้น ถ้ามีความสามารถจริง ทำไมไม่ลองอ่านให้พวกเราฟังบ้างล่ะ"
"ใช่แล้ว ไม่ใช่ว่าครูมีความสามารถมากหรือ ถ้ามีความสามารถ ก็ลองสอนเป็นภาษาอังกฤษให้ดูสิ ถ้าครูพูดภาษาอังกฤษได้คล่องเหมือนชาวต่างชาติ ฉันถึงจะยอมรับ"
"ใช่!"
“นี่" ซูฮั่นหยวนยิ้มเล็กน้อย "ได้สิ ตั้งแต่วันนี้ไป ฉันจะสอนทุกคาบเป็นภาษาอังกฤษ หวังว่าเด็กเกเรอย่างพวกเธอจะเข้าใจนะ"
"เกเร? เกเคืออะไร?" จางเทียนไฉถาม
"เธอรู้ไหมว่า 'เกเร' หมายถึงอะไร?" ซูฮั่นหยวนยิ้มแล้วพูดต่อ "เมื่อเข้าใจความหมายของคำว่า 'เกเร' แล้ว มันไม่ยากที่จะเข้าใจว่านักเรียนเกเรคืออะไร"
"โธ่เว้ย! ดูถูกกันนี่!" จางเทียนไฉทุบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน
"งั้นเธอก็ต้องมีความสามารถให้ฉันยอมรับสิ เอาล่ะ ฉันจะเริ่มสอนแล้ว" ซูฮั่นหยวนมองไปที่เนื้อหาของหนังสือแล้วเริ่มพูดออกมา
เธอสามารถพูดเนื้อหาบทเรียนที่แน่นเต็มไปหมดได้อย่างคล่องแคล่ว เธออธิบายเป็นภาษาอังกฤษ ถามคำถาม และอธิบายไวยากรณ์
กลุ่มเด็กเกเรไม่เข้าใจอะไรเลย ต่างตกตะลึงในความสามารถของซูฮั่นหยวน
"ฉันจบแค่มัธยมปลาย เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ถ้าพวกเธอเอาชนะฉันไม่ได้ ก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว" ซูฮั่นหยวนอวดเบ่งอย่างไม่เกรงใจ
ตอนที่ 72: สองทักษะ
ในเมื่อไม่มีใครรู้ระดับที่แท้จริงของเธอ เธอก็ปล่อยให้ตัวเองได้สนุกกับการอวดเบ่งต่อหน้าเจ้าเด็กพวกนี้
"เทพจาง ฉันว่าพ่อนายตั้งสมยานามนายผิดแล้ว ฉันว่าครูซูสมควรจะถูกเรียกว่าเทพซูมากกว่านายอีก! ฮ่าๆ"
"ใช่! ครูพูดภาษาอังกฤษเก่งกว่าครูเจียงของเราอีก"
"ฉันชื่นชมครูมากเลย! ต่อไปฉันจะต้องตั้งใจเรียนให้ดี!"
ซูฮั่นหยวนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “มีคำกล่าวว่า ฟ้าดินย่อมให้รางวัลแก่ผู้ที่ขยันหมั่นเพียร! ตราบใดที่พวกเธอพยายาม ก็จะต้องได้รับผลตอบแทนอย่างแน่นอน! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะตื่นเช้าทุกวันเพื่ออ่านภาษาอังกฤษ 30 นาที ฟังภาษาอังกฤษ 30 นาที ท่องคำศัพท์ใหม่ 30 นาที และศึกษาหลักไวยากรณ์อีก 30 นาที!”
อดทนทำสักเดือนแล้วมาดูผลกัน!
"ตกลง!"
"เวรเอ้ย นับถือ ๆ"
ซูฮั่นหยวนขมวดคิ้ว เด็กพวกนี้ยังไม่โตเท่าไหร่ พูดสบถไปมา น่ารำคาญจริง
"ต่อไปช่วยพูดจาให้มันสุภาพด้วย ไม่งั้นฉันอาจจะด่าพวกเธอเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าฟังไม่ออกก็ต้องทนไปนะ"
"ฮ่าๆๆ ได้!"
"เข้าใจแล้ว"
"เอาล่ะ ฉันจะใช้ภาษาจีนอธิบายความรู้ไวยากรณ์ที่เรียนวันนี้ ฟังให้ดีแล้วคิดตามไปด้วย หลังสอนเสร็จวันนี้ ฉันจะให้ทำโจทย์ฝึกฝน ใครเรียนได้ดีจะได้รับรางวัล แต่ใครที่ทำได้ไม่ดีก็จะต้องถูกลงโทษ"
เด็กๆ พยักหน้าอย่างรวดเร็ว
ด้านนอกประตู พ่อแม่หลายคนแอบหัวเราะ พวกเขาปิดปากและกลั้นเสียงหัวเราะไว้นาน หลังจากเห็นว่าเด็กๆ เริ่มตั้งใจฟังบทเรียนแล้ว พวกเขาก็ไปรวมตัวกันในห้องนั่งเล่น
"ครูซูคนเก่งนี่ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ!"
"ใช่แล้ว ลูกสาวของพวกเราปกติมักจะปวดหัวทุกครั้งที่เรียนภาษาอังกฤษ! ไม่เคยได้ยินเธอตั้งใจเรียนเลย ไม่ต้องพูดถึงการเขียนคำศัพท์"
"ลูลู่ของฉันเป็นเหมือนกับซุนหงอคง ไม่มีใครควบคุมเขาได้ แต่ใครจะไปคิดว่าครูซูคนเก่งจะจัดการเขาได้ด้วยเพียงไม่กี่วิธี ฉันว่าดีมากเลย คุณคิดยังไง อยากให้ลูกของคุณเรียนไหม"
"เรียนสิ! แน่นอนว่าอยาก!"
"เราจะให้เด็ก ๆ เรียนพร้อมกันเลยดีไหม"
เมื่อเข็มสั้นชี้ไปที่เลขเก้าซึ่งเป็นเวลาสามทุ่มในขณะนี้ ซูฮั่นหยวนจบการสอนตามเวลาและมอบหมายการบ้านให้เด็ก ๆ
เมื่อเธอเดินออกมาจากห้อง พ่อแม่บางคนก็เข้ามาล้อมรอบเธอ
"ครูซูคนเก่ง ลูกของพวกเราก็อยากเรียนกับเธอด้วย!"
"ใช่แล้ว! ทำไมไม่ให้เด็ก ๆ เหล่านี้เรียนกับคุณเสียเลยล่ะ คุณช่วยติวให้พวกเขาด้วยได้ไหม"
ซูฮั่นหยวนไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องสอนเด็กคนหนึ่งหรือสี่คนอยู่ดี ที่สำคัญคือต้องดูว่าผู้จัดการจางจะจัดการอย่างไร
เธอจึงหันไปมองผู้จัดการจางด้วยสายตาที่แสดงคำถาม
จางหงตั้งใจจ้างครูมาสอนพิเศษลูกชายเพราะเกรดภาษาอังกฤษของลูกชายนั้นแย่จริง ๆ นี่เป็นวิชาที่ทำให้ผลการเรียนของเขาย่ำแย่ลงมาก จางหงไม่คาดคิดเลยว่าการสนทนาเมื่อวานจะทำให้เกิดปัญหา เด็กคนอื่น ๆ ก็อยากจะเรียนภาษาอังกฤษกับซูฮั่นหยวนด้วย
เมื่อมีนักเรียนมากขึ้น ครูย่อมไม่สามารถดูแลเด็กทุกคนได้ดี
"คืออย่างนี้ครับ ลูกชายของผมพื้นฐานแย่มากจริง ๆ ผมเลยอยากให้เขาเรียนพิเศษเดี่ยว ๆ ถ้าลูก ๆ ของพวกคุณอยากเรียน ก็ตั้งคลาสเรียนกันเองได้นะครับ" จางหงอธิบาย
"อืม ก็ได้"
"ได้ๆ" พ่อแม่ของเด็ก ๆ ตกลงอย่างรวดเร็วเพื่อผลประโยชน์ของลูก ๆ ของพวกเขา "งั้นพวกเราจะให้ครูซูคนเก่งสิบหยวนต่อคนเพื่อเปิดคลาสเรียนใหม่กัน!"
"แต่ฉันเกรงว่าคงไม่มีเวลาค่ะ" ซูฮั่นหยวนพูดด้วยความลำบากใจ
เธอมีคลาสสอนตั้งแต่หนึ่งทุ่มถึงสามทุ่มทุกคืนอยู่แล้ว ถ้าจะมีคลาสเพิ่มอีกสองชั่วโมง มันก็คงจะต้องเลยไปจนถึงห้าทุ่ม