Your Wishlist

ทะลุมิติมายุค 1980 ช่างหัวพวกมันสิ! (ตอนที่ 43 - 45: แผนที่ดี, เหลวไหล, ทนไม่ไหว)

Author: Carefree Leaf-Talk/ BuaElla แปล

หลังจากสรุปเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ซูฮั่นหยวนก็ฉีกบทออกเป็นชิ้น ๆ ไม่มีทางที่เธอจะกลายมาเป็นแค่ตัวละครเสริม! เธอไม่เคยเป็นคนขี้ขลาด! เพื่อจัดการกับคนใจร้ายเหล่านี้ เธอจะปล่อยให้พวกเขาทำตามใจไม่ได้! มีสามคำสำหรับขยะพวกนี้คือ ‘ไปตายซะ!’

จำนวนตอน :

ตอนที่ 43 - 45: แผนที่ดี, เหลวไหล, ทนไม่ไหว

  • 16/08/2567

ตอนที่ 43: แผนที่ดี

 

"หนูมีเรื่องอะไรจะขอ บอกป้ามาได้เลย! ถ้าคำขอมันสมเหตุสมผล ลุงซูกับป้าจะจัดการให้แน่นอน" เว่ยกุ้ยฉินพูด

 

"ถ้าหนูแต่งงานแล้ว แม่ของหนูก็จะอยู่คนเดียว แม่เสียแขนไปข้างหนึ่ง จึงทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยตัวเองไม่ได้ ชีวิตของแม่ลำบากมาก หนูคิดว่า… หนูต้องดูแลแม่ค่ะ" หลินจื่อชิวหันไปมองซูจิ่งรุ่ยแล้วพูดว่า "จิ่งรุ่ย ถ้าเราแต่งงานกันแล้ว ฉันจะต้องอยู่บ้านเพื่อดูแลแม่ ถ้าเธอเต็มใจ เธอจะมาอยู่กับฉันได้ไหม"

 

“แล้วที่บ้านเธอมีพื้นที่พอหรือเปล่า” ซูจิ่งรุ่ยถาม

 

บ้านของหลินจื่อชิวเป็นเพียงบ้านเช่า มีแค่ครัวกับห้องอีกห้องหนึ่ง พ่อของหลินจื่อชิวเป็นอัมพาตมานาน ครอบครัวไม่มีรายได้ ต้องพึ่งพาแม่ของหลินจื่อชิวในการหาเงิน

 

พวกเขาทั้งสามคนอาศัยอยู่ในห้องเดียว มีแค่ผ้าม่านกั้นระหว่างเตียงของหลินจื่อชิวกับเตียงของพ่อแม่ ตอนนี้พ่อเสียชีวิตแล้ว เหลือแค่แม่กับหลินจื่อชิวที่อยู่ด้วยกันในห้อง

 

เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่เพิ่งแต่งงานใหม่ การอยู่ด้วยกันคงไม่สะดวก นอกจากนี้ การที่ลูกเขยกับแม่ยายอยู่ในห้องเดียวกันมันก็ไม่เหมาะสมแน่ๆ

 

“นี่…” หลินจื่อชิวดูเหมือนจะลำบากใจ “ฉันไม่สามารถทิ้งแม่ให้อยู่คนเดียวได้ เธอเองก็คงไม่คิดจะพาแม่ของฉันมาอยู่ด้วยหลังจากเราแต่งงานกันหรอกใช่ไหม”

 

คำพูดของหลินจื่อชิวทำให้ซูจิ่งรุ่ยนึกขึ้นได้

 

ความคิดหนึ่งแวบขึ้นในหัวของเขา และเขาก็คิดแผนการที่ ‘สมบูรณ์แบบ’ ออกมาได้ทันที

 

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ถ้าเราแต่งงานกันแล้ว แม่ของเธอก็เหมือนกับแม่ของฉัน ฉันจะทิ้งแม่ของเธอไว้คนเดียวไม่ได้แน่นอน ทำไมเราไม่ให้แม่ของเธอมาอยู่ที่บ้านนี้หลังจากเราแต่งงานกันล่ะ”

 

“มาอยู่ที่บ้านนี้หรือ?” หลินจื่อชิวกะพริบตาด้วยความสงสัย

 

“ใช่ ย้ายมาอยู่ที่บ้านนี้” ซูจิ่งรุ่ยหันไปพูดกับเว่ยกุ้ยฉิน “เสี่ยวหยวนย้ายไปอยู่ที่หอพักของโรงงานแล้วไม่ใช่หรือครับ? ห้องของเธอก็ว่างอยู่ใช่ไหม? ในเมื่อไม่มีคนอยู่ ทำไมไม่ให้แม่ของชิวเอ๋อร์มาอยู่ที่นี่ล่ะ แม่คิดว่าไงครับ”

 

เว่ยกุ้ยฉินตอบตกลงทันทีโดยไม่ต้องคิด "ดีเลย แม่ก็ว่าดี ยังไงห้องนั้นก็ว่างอยู่ พอลูกแต่งงานกับชิวเอ๋อร์ ลูกก็ไปอยู่บ้านของตัวเอง ส่วนห้องของเสี่ยวหยวนก็ให้แม่ของชิวเอ๋อร์อยู่แทน"

 

“จริง…จริงหรือคะ? แบบนี้จะดีจริงๆ หรือ” หลินจื่อชิวพูดด้วยความประหลาดใจและเขินอาย “มันจะเป็นการรบกวนคุณป้ามากเกินไปไหมคะ”

 

“จะรบกวนอะไรล่ะ ไม่มีปัญหาหรอก ถือว่าเรื่องนี้ตกลงตามนี้ก็กันแล้ว!” ซูจิ่งรุ่ยตอบตกลงทันที

 

ซูฮั่นหยวนถึงกับตกตะลึง

 

นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย? ซูฮั่นหยวนได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง เธอไม่เคยเห็นแม่ที่แปลกประหลาดแบบนี้มาก่อนเลยในโลก!

 

เมื่อซูต้าเจียงได้ยินแบบนั้น เขาก็ขมวดคิ้ว “พวกเธอถามฉันหรือยังว่าฉันเห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้? แล้วถามหยวนหยวนหรือยังว่าเธอเห็นด้วยไหม”

 

“โอ๊ย ชิวเอ๋อร์ไม่ได้ต้องการอะไรเลยนะ เธอแค่อยากดูแลแม่แท้ๆ ของเธอเองเท่านั้น! นี่มันแค่คำขอเล็กๆ น้อยๆ เองนี่นา! แถมเรายังอยู่ในลานบ้านเดียวกันอีก จะได้ดูแลกันและกันไง!” เว่ยกุ้ยฉินดึงแขนสามีและขอร้อง “ตกลงเถอะนะ! ลูกชายคนที่สามของเราได้เจอผู้หญิงดีๆ แบบนี้ไม่ได้หาง่ายๆ นะคุณ”

 

“ต่อให้ผมตกลง แต่คุณได้ถามหยวนหยวนหรือยังว่าลูกเห็นด้วยหรือเปล่า” ซูต้าเจียงรู้สึกอึดอัดและมองภรรยาด้วยสีหน้าไม่พอใจ

 

“ใกล้จะถึงปีใหม่แล้ว เคยคิดบ้างไหมว่าหยวนหยวนจะไปอยู่ที่ไหน”

 

“นี่…” เว่ยกุ้ยฉินถึงกับอึ้ง เธอไม่เคยคิดถึงคำถามนี้มาก่อนเลย

 

“ก็อยู่ด้วยกันนั่นแหละ” ซูจิ่งรุ่ยพูดขึ้น “ยังไงเธอก็ไม่ค่อยกลับมาอยู่แล้ว กลับมาครั้งหนึ่งหรือสองครั้งก็เบียดกันอยู่ได้! อีกอย่างเสี่ยวหยวนอายุก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว อีกปีหรือปีครึ่งก็ถึงเวลาที่จะแต่งงานแล้ว จะต้องคิดมากอะไรอีก”

 

ตอนที่ 44: เหลวไหล

 

“พ่อคะ ฟังสิ่งที่แม่กับพี่กำลังพูดกันสิ" ซูฮั่นหยวนวางตะเกียบลงบนโต๊ะด้วยความโกรธ "หนูเริ่มสงสัยแล้วว่าหนูเป็นลูกที่เก็บมาจากใต้สะพานหรือเปล่า ทำไมถึงไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของหนูเลย พี่ชายอยากแต่งงานแล้วพาแม่ยายเข้ามาอยู่ในบ้าน แต่ในฐานะน้องสาว หนูต้องยกห้องให้งั้นหรือ หนูไม่เห็นด้วย!"

 

ถ้าหลินจื่อชิวอยากทำงาน เธอก็ต้องยอมให้หล่อนทำงาน ตอนนี้หลินจื่อชิวบอกว่าหล่อนอยากดูแลแม่ เธอก็ต้องยกห้องให้หล่อนอีกหรือ

 

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?

 

นี่มันแปลกประหลาดที่สุดในโลก! ไม่เคยได้ยินเลยว่ามีใครที่ไล่ลูกสาวตัวเองออกจากบ้านแล้วไม่ให้กลับมา แถมยังเอาแม่ของสะใภ้มาอยู่แทน

 

"จะตะโกนอะไร นี่มันเรื่องของแกหรือไง ใครเป็นคนอยากออกไปอยู่ข้างนอกเอง ก็แกไม่ใช่เรอะ แม่กับฉันบอกให้แกกลับมา แกก็ไม่ยอมกลับมาเอง ถ้าแกไม่กลับมาอยู่ก็ต้องยกห้องให้คนอื่น!" ซูจิ่งรุ่ยพูดด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยความไร้เหตุผลและขาดความเข้าใจอย่างสิ้นเชิง

 

อย่างไรก็ตาม ซูฮั่นหยวนก็ไม่ใช่คนที่จะยอมใครง่าย ๆ ในเมื่อซูจิ่งรุ่ยพูดออกมาแบบนี้ เธอก็ไม่จำเป็นต้องสุภาพกับเขาอีกต่อไป

 

"ทำไมฉันต้องออกไปน่ะหรือ ก็เพราะพี่กับแม่บังคับให้ฉันยกงานให้หลินจื่อชิวไงล่ะ แถมยังหาผู้ชายมาให้ฉันแต่งงานด้วย อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เพราะพี่กับแม่ไม่บอกฉันนะ ผู้ชายคนนั้น โจวเซียงเซิง คนที่หย่ากับเมียคนนั้น ทำไมถึงหย่าน่ะหรือ ก็เพราะเขาทุบตีเมียเขาไง! พี่ไม่ได้หาสามีให้ฉันหรอก แต่พยายามโยนฉันลงในหลุมไฟ! ถ้าฉันไม่แต่งงาน พี่กับแม่ก็ไม่ให้ฉันอยู่บ้านนี้!"

 

เมื่อเว่ยกุ้ยฉินได้ยินสิ่งที่ซูฮั่นหยวนเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนั้น หล่อนก็โกรธจัดจนต้องถกแขนเสื้อขึ้นแล้วชี้ที่หน้าลูกสาว พร้อมด่าว่า "นังเด็กเนรคุณ! แกพูดอะไรออกมารู้ตัวไหม? แกคิดว่าฉันไม่กล้าตีแกเรอะ หรือแกคิดว่าจะรอดจากการโดนตีเพราะพ่อของแกกลับมาแล้ว!"

 

"แม่กล้าอยู่แล้วนี่ แค่ตีลูกสาวตัวเองทำไมจะไม่กล้าล่ะ" ซูฮั่นหยวนเย้ยหยัน "แม่ยังกล้าทิ้งลูกสาวของตัวเองเลย มีอะไรที่แม่จะไม่กล้าทำอีกบ้าง"

 

หลังจากพูดจบ เธอก็หันไปมองซูต้าจียงด้วยสายตาน่าสงสาร "พ่อคะ พ่อเห็นไหมว่าหนูใช้ชีวิตยังไงหลังจากที่พ่อไม่อยู่ แม่กับพี่ชายแท้ๆ ของหนูตัดสินใจยกที่อยู่ของหนูให้คนอื่นโดยไม่คิดถึงชีวิตหนูเลย ในใจของพวกเขาไม่มีหนูอยู่เลยสักนิด นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่คิดจะให้หนูกลับมาบ้านนี้อีกแล้ว!"

 

ซูต้าเจียงเห็นถึงความทุกข์ของลูกสาวคนเล็ก เขาไม่อาจทนเห็นซูฮั่นหยวนร้องไห้ได้ โดยเฉพาะเมื่อเธอทำหน้ามุ่ยและมองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา หัวใจของเขาเจ็บปวดราวกับถูกมีดกรีด

 

"เหลวไหล! นี่มันเหลวไหลสิ้นดี!" ถ้าเขายังดูแลลูกสาวของตัวเองไม่ได้ เขาจะเป็นพ่อแบบไหนกัน?

 

"พ่อ! เธอไม่ได้กลับมาอยู่แล้ว" ซูจิ่งรุ่ยเถียง "ถ้าเธอกลับมาอยู่ ก็ให้เธอไปเบียดอยู่กับแม่ของชิวเอ๋อร์ก็ได้!"

 

"ถึงฉันจะไม่ได้อยู่ที่นี่ บ้านนี้ก็ยังเป็นของฉัน! ฉันเองก็เป็นเจ้าของบ้านคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ฉันกลับต้องมาอยู่ร่วมกับคนนอกหรือ ฉันไม่ยอม! ฉันจะไม่ให้พี่เอาบ้านนี้ไปเด็ดขาด!" ท่าทีของซูฮั่นหยวนแน่วแน่

 

ซูจิ่งรุ่ยและหลินจื่อชิวจะทำสำเร็จไม่ได้ ซูฮั่นหยวนกลัวว่าในที่สุดแล้วหลินจื่อชิวจะเป็นคนที่ได้ประโยชน์

 

ก่อนหน้านี้ซูฮั่นหยวนรู้สึกว่าอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามันคืออะไร มันคือหลินจื่อชิวนั่นเอง! ทุกคนในตรอกต่างรู้ว่าเธอมีปัญหากับครอบครัวเพราะเรื่องงานของหล่อน และในฐานะคนที่เกี่ยวข้อง หลินจื่อชิวย่อมรู้เรื่องนี้ดี

 

ตอนที่ 45: ทนไม่ไหว

 

ถ้าหลินจื่อชิวเป็นคนจิตใจดีจริง ๆ หล่อนคงบอกซูจิ่งรุ่ยไปตรง ๆ แล้วว่าไม่อยากได้งานนี้ถ้าต้องได้มาด้วยวิธีแบบนี้

 

หรือพูดอีกอย่างก็คือ ตั้งแต่ที่หล่อนเอ่ยปากขอเรื่องงาน จุดประสงค์ของหล่อนก็ไม่บริสุทธิ์แล้ว

 

ผ่านมาหลายวันแล้วตั้งแต่ซูต้าเจียง พ่อของเธอ เข้ารับการผ่าตัด และหลินจื่อชิวเพิ่งนึกได้ว่าต้องมาเยี่ยม ถ้าครอบครัวของหล่อนยากจนจริง ๆ มันคงแปลกมากที่หล่อนนำเอานมมอลต์สองขวดมาเป็นของเยี่ยม

 

ตอนนี้หล่อนตกลงที่จะแต่งงานแล้ว แต่ก็พูดถึงเรื่องที่ต้องการดูแลแม่ของตัวเอง ซึ่งนั่นหมายความว่าหล่อนอยากจะหาที่อยู่ให้แม่ของหล่อนเอง

 

ซูจิ่งรุ่ยเป็นคนหัวร้อนและกลายเป็นเครื่องมือให้ใครบางคนใช้ และทิศทางที่ปลายปืนชี้ไปก็ตรงมาที่เธอ

 

นี่ไม่ใช่การสร้างความขัดแย้งในครอบครัวหรอกหรือ?

 

ซูจิ่งรุ่ยมุ่งมั่นที่จะแต่งงานกับหลินจื่อชิวให้ได้ เขาจึงใช้ทุกวิถีทางในการโต้เถียง “บ้านหลังนี้เป็นของแกตั้งแต่เมื่อไหร่ ซูฮั่นหยวน อีกไม่นานแกก็ต้องแต่งงาน ถ้าแกแต่งออกไปแล้ว แกก็เป็นแค่คนนอก! บ้านหลังนี้เป็นเพียงที่พักชั่วคราวให้แกอยู่! แกคิดจริง ๆ หรือว่าว่าตัวแกมีที่ยืนในครอบครัวนี้อยู่?”

 

“ใช่แล้ว พี่ชายของแกพูดถูก!” เว่ยกุ้ยฉินเสริม

 

"ถูกตรงไหน?” ซูต้าเจียงตำหนิ และบังเอิญดึงโดนแผลที่ผ่าตัด เขารีบยกมือกดตรงจุดที่เจ็บ “นี่มันยุคไหนแล้ว ยังจะคิดอะไรล้าหลังแบบนี้อยู่อีก ตลกสิ้นดี!”

 

ซูต้าเจียงเห็นว่าลูกชายคนโตและภรรยาปิดปากเงียบไม่พูดอะไร เขาจึงหันไปถามซูจิ่งเหิงและอู๋เจียวเจียวว่า “พวกเธอสองคนคิดยังไงกับเรื่องนี้”

 

ซูจิ่งเหิงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่อู๋เจียวเจียวดึงเขาไว้และทำให้คำพูดที่กำลังจะหลุดออกจากปากเขากลืนหายไป

 

อู๋เจียวเจียวยิ้มและเก็บผมที่หลุดออกมาทัดไว้หลังหู “พ่อคะ เรื่องนี้ให้พ่อจัดการเองเถอะค่ะ หนูกับจิ่งเหิงไม่อยากยุ่ง”

 

เธอเองก็มีแผนของเธอเช่นกัน

 

ซูฮั่นหยวนจะต้องแต่งงานไม่ช้าก็เร็ว ในอนาคต เธอก็ยังต้องพึ่งแม่สามีและน้องสามี เธอไม่สามารถหวังพึ่งน้องสาวสามีได้

 

เมื่อเห็นว่าซูจิ่งรุ่ยชอบหลินจื่อชิวมากขนาดนี้ เธอไม่อยากมีปัญหากับหลินจื่อชิวเมื่อหล่อนเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัว

 

ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีกว่า

 

"พ่อคะ พ่อไม่ต้องไปถามใครอีกแล้ว พ่อไม่ต้องห่วงหนูแล้วค่ะ หนูเข้าใจแล้วว่าครอบครัวนี้ไม่ต้องการหนูแล้ว แม่กับพี่ชายแทบรอไม่ไหวที่จะให้หนูออกไปจากบ้านและไม่ต้องกลับมาอีก ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉัน ซูฮั่นหยวน จะขอประกาศตรงนี้เลย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะออกจากบ้านหลังนี้และไม่กลับมาอีก ในอนาคตฉันจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคนในครอบครัวนี้อีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน พวกคุณก็ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับฉัน เช่นเดียวกัน ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับครอบครัวนี้ ก็อย่ามาตามหาฉัน! แต่พ่อเป็นข้อยกเว้นนะคะ" ซูฮั่นหยวนลุกขึ้นและเดินออกไปอย่างเงียบ ๆ

 

หลินจื่อชิวเห็นว่าเรื่องมันบานปลายก็เริ่มน้ำตาไหล "หนูไม่คิดว่าคำขอของหนูจะทำให้เกิดปัญหามากมายขนาดนี้ หนูขอโทษค่ะ!"

 

ซูจิ่งรุ่ยเห็นหลินจื่อชิวร้องไห้ เลือดก็พลุ่งพล่านขึ้นมา เขาเดินสองสามก้าวไปขวางซูฮั่นหยวนไว้ แล้วคว้าคอเสื้อเธอพลางพูดว่า "ซูฮั่นหยวน แกมันตัวปัญหา! พอพ่อกลับมาก็ทำเรื่องวุ่นวายต่อหน้าพ่อ แกตั้งใจจะทำลายงานแต่งของฉันใช่ไหม"

 

สีหน้าของเขาดูน่ากลัวและดุร้าย แถมยังทำท่าทางเหมือนอยากจะกลืนเธอเข้าไปทั้งตัว

 

"ถ้าฉันเป็นตัวปัญหา พี่ก็เป็นตัวปัญหาเหมือนกัน! ฉันไม่สนหรอกว่าพี่จะแต่งงานกับใคร แต่พี่ไม่ควรมีความสุขความทุกข์ของฉัน! ไม่ใช่ตอนนี้ และก็ไม่ใช่ในอนาคต!" ซูฮั่นหยวนสบตาเขาโดยไม่หวาดกลัว

 

"ฉัน... ฉันไม่น่ามีน้องสาวอย่างแกเลย! ฉันอยากจะบีบคอแกให้ตายซะรู้แล้วรู้รอด!" ซูจิ่งรุ่ยโกรธจัดจนบีบของซูฮั่นหยวนด้วยมือข้างหนึ่ง...

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป