Your Wishlist

ป่วนหัวใจนายหัว (ตอนที่ 1 ผมแค่มารับเพื่อน)

Author: ปักกาดแก้ว

ว่าด้วยเรื่องของ'ไฟฟ้า'ผู้ชายหน้าใสที่นำพาความวุ่ยวายมาให้'ภูผา'นายหัวที่มีนิสัยขี้รำคาญ แถมยังไปท้าทายด้วยการตามตื้อจนอีกฝ่ายไล่ก็ยังไม่ไป จนกว่าเขาจะพิชิตใจนายหัวคนเย็นชามาได้

จำนวนตอน : 11

ตอนที่ 1 ผมแค่มารับเพื่อน

  • 31/10/2565

ตอนที่ 1 ผมแค่มารับเพื่อน

ฮัลโหล ไอ้ไฟ เพื่อนรักมึงเมาวะ... มึงรีบมารับมันเลย"

"มันอยู่กับมึงเหรอ" ไฟฟ้ารับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ขณะที่นอนอยู่บนเตียงนุ่ม

"เออ กูอะมากับเพื่อนกู แต่เพื่อนมึงอะมากับใคร กูเห็นแม่งเมา อยู่คนเดียวเนี่ย"

"แม่งอกหักอีกแน่เลยวะ เออ เดี๋ยวกูรีบไป มึงดูไอ้ก็อตให้กูก่อน"

ไฟฟ้ามาถึงคลับแห่งหนึ่งตามคำบอกเล่าของเพื่อนคนหนึ่งที่โทรบอกให้ไปรับเพื่อนสนิท แล้วกูจะรู้ไหมว่าพวกมึงอยู่กันตรงไหน โทรศัพท์ก็ไม่รับ ภายในมืดสลัวแทบมองไม่เห็นทาง เสียงเพลงดังจนปวดหู ผู้คนเบียดเสียดเต็มร้าน บ้างนั่งดื่มโงนเงน บ้างก็โยกย้ายร่างกายตามจังหวะดนตรีอย่างสนุกสนาน ไฟฟ้าสอดส่องสายตามองหาเพื่อนตัวเองที่นั่งคอพับอยู่ด้านในสุด ทว่าก่อนจะเดินไปยังเพื่อนเขากลับถูกใครบางคนคว้าตัวเข้าไปกอดและเลื่อนฝ่ามือสัมผัสร่างกายนุ่มอย่างคุกคาม

"สนใจไปต่อกับพี่ไหมน้อง" เสียงทุ้มยานเอ่ยออกมามีกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง

"เฮ้ยพี่! ปล่อยผม ผมแค่จะมารับเพื่อน" ไฟฟ้าเอ่ยอย่างตกใจและพยายามดิ้นรนให้หลุดจากการเกาะกุมของชายแปลกหน้าขี้เมา

"ถ้าไม่อยากไปต่อ งั้นเราไปห้องน้ำกัน" ชายแปลกหน้าไม่เพียงพูดเปล่า ยังส่งสายตาหื่นกามออกมาอย่างเปิดเผยจนคนถูกมองหวาดหวั่น

"ไอ้เหี้ย! กูบอกว่าไม่ไปไง! "

ไฟฟ้าสะบัดตัวหลุดจากชายแปลกหน้าพร้อมกับปล่อยหมัดไปหนึ่งที ก่อนจะหันหลังวิ่งกลับเข้าไป ทว่ากลับถูกมันวิ่งตามไม่เลิก 'ทำไงดีวะ แม่งตัวอย่างกับยักษ์'

"อะ พี่ครับๆ ช่วยผมด้วย มีคนจะลวนลามผม"

ไฟฟ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรน เอื้อมมือคว้าแขนแกร่งและมองหน้าสบตาขอความช่วยเหลือคนที่เดินผ่านมา ใบหน้าคม ดวงตาโฉบเฉี่ยว จมูกโด่งรับกับริมฝีปากหยัก ไหล่กว้างสมชายชาตรี หล่อวะ

ภูผา อายุ 32 ปี เจ้าของแพปลาและท่าเรือประมงที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดแห่งหนึ่งภาคใต้ของไทย เขาเหลือบตามองมือนิ่มที่คว้าแขนเขากอดแน่นอย่างหาที่พึ่งพิง ได้กลิ่นหอมละมุนโชยมาจากคนข้างกาย ไรผมชื้นเหงื่อจากการวิ่งหนีอะไรสักอย่าง ดวงตาสวยช้อนขึ้นมองมาอย่างเว้าวอน ไหล่เล็กสั่นเทาอย่างหวาดกลัว ไฟฟ้าสวมเสื้อยืดตัวบางแนบเนื้อ กางเกงขาสั้นรองเท้าแตะอวดเรียวขาขาวแบบผู้หญิง แต่งตัวแบบนี้มาเที่ยวในที่แบบนี้เนี่ยนะ ตั้งใจมาอ่อยเหยื่อสินะ

"เรื่องของคุณไม่เกี่ยวกับผม หลีกไป!"ทันทีที่ได้ยินคนตรงหน้าเอ่ยความผิดหวังผุดขึ้นมาในใจทันที หล่อซะเปล่า ใจดำจังวะ

"นี่! คุณแล้งน้ำใ..เฮ้ย!!" ยังไม่ทันได้ด่าออกไป ขี้เมาก็ตามมาคว้าแขนของไฟฟ้า บีบและกระชากเต็มแรงจนรู้สึกเจ็บ' ไม่ทันแล้ว มันตามมาแล้ว!'

"เฮ้ยปล่อยกูนะโว้ยไอ้บ้า! เมาแล้วก็กลับไปนอนดิวะ ไอ้ขี้เรื้อน" ไฟฟ้าตัวสั่นมือเรียวกอดแขนแกร่งของคนใจดำ แน่น  แขนอีกข้างโดนขี้เมากำแน่น

"หน็อย! กล้ามากนะมึง ต่อยกูแล้วคิดจะหนีเหรอวะ คิดว่ากูจะยอมปล่อยมึงไปง่ายๆเหรอ หึ  " ไฟฟ้าขืนตัวเองอย่างสุดกำลัง ดวงตาเรียวช้อนมองส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากที่พึ่งของเขาอย่างสิ้นหวัง

พูดดีๆ ไม่ชอบ ชอบให้กูรุนแรงใช่ไหม ได้!

“ไอ้เหี้ยกู!!!” ไฟฟ้าตวาดใส่ขี้เมาที่เข้ามายื้อยุดฉุดกระชากพร้อมทั้งพยายามดิ้นก่อนจะหันมาต่อว่าภูผาอย่างโกรธแค้น

"ไอ้คนใจร้าย ไอ้ใจดำ โหดเหี้ยม ไร้หัวใจ ขอให้คุณบ้านไฟไหม้ ให้เจ้านายไล่ออก ไม่มีเงินกินข้าว ไม่มีคนรัก ไม่มีคนสนใจ ไอ้..."

ผลัวะ!

''โอ๊ย! มึงต่อยกูเหรอ!" ขี้เมาเช็ดเลือดที่มุมปากแล้วเอ่ยกับภูผาอย่างเจ็บแค้น

"อย่ามาแส่...ผลัวะ!" เชี้ย!

ขี้เมาสืบเท้าเข้ามาอย่างเอาเรื่องแต่กลับโดนภูผาต่อยเข้าไปเป็นครั้งที่สองโดยไม่รอให้ขี้เมาพูดจบ ร่างกายใหญ่โตของมันล้มฟุบลงไปต่อหน้า ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ไฟฟ้าไม่รู้ว่าต้องรู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ตรงหน้าดี ใครอันตรายกว่าใครกันแน่ เขาคงไม่ได้หนีเสือปะจระเข้เข้าหรอกนะ

"น่ารำคาญ" เสียงทุ้มเอ่ยออกมาสั้นๆ ก่อนจะปลดมือนุ่มออกจากแขนตัวเองเดินหายไปกับกลุ่มคนข้างใน ทิ้งให้ไฟฟ้ายืนทำหน้าเหวอ จนโทรศัพท์เครื่องเล็กสั่นเป็นเจ้าเข้าอยู่ในกระเป๋ากางเกงจึงดึงสติกลับมากดรับสายเพื่อน

........

"มึงนั่งดีดี อย่าอ้วกใส่รถกูนะเว้ยไอ้ก็อต"

ไฟฟ้ากำชับคนเมาที่โงนเงนไม่ได้สติอยู่ในรถ ก่อนลงมาดูรถที่สตาร์ทไม่ติด ตอนมาก็ยังดีดีอยู่เลย ทำไมต้องเสียตอนนี้ด้วยนะ ไฟฟ้าก้มเงยๆ หาสาเหตุอยู่หน้ารถ ในขณะที่ก็อตพะอืดพะอมจนทนไม่ไหว เพียงแค่คว้าประตูรถได้ก็อตก็เปิดประตูพร้อมเอนตัวออกนอกรถปล่อยของที่กินเข้าไปออกมาจนหมด

"เฮ้ย!! ที่อื่นไม่มีให้อ้วกรึไง! หะ!"

ภูผากระชากคอเสื้อคนเมาที่กำลังทรุดตรงประตูรถขึ้นมาอย่างหัวเสีย ทำให้ไฟฟ้ารีบผละมาช่วยเพื่อนที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าก่อเรื่องอะไรไป

"เฮ้ยคุณ! เพื่อนผมมันเมา มันไม่ได้ตั้งใจ" ไฟฟ้าเข้ามาดึงเพื่อนกลับไปประคองไว้ข้างตัว 'เออ! มึงไม่อ้วกใส่รถกู แต่มึงจะไปอ้วกใส่คนอื่นแบบนี้ไม่ได้นะเว้ยไอ้ก็อต ไอ้เพื่อนเลว'

"ถอดเสื้อมา"

“หะ ถอดเสื้อ?” คำพูดของภูผาทำเอาทั้งไฟฟ้าและรอนเพื่อนสนิทงงไปตามๆ กัน

“หูหนวกเหรอ ถอดเสื้อคุณมา!”

“พูดดีดีได้ไหมเล่า เสียงดังทำไมตกใจหมด อะเอาไป”

ภูผาจัดการถอดเสื้อที่เลอะเทอะของตัวเองโยนใส่ไฟฟ้าแล้วใส่เสื้อของไฟฟ้าเข้าไปแทน ถึงจะคับไปหน่อยแต่ก็ใช้ได้ จากนั้นก็เดินหน้าบึ้งไปที่รถของตัวเองทันที

“มึงจะอยู่นอนที่นี่รึไงไอ้รอน” น้ำเสียงหงุดหงิดตะโกนถามเพื่อน เมื่อเห็นว่ารอนยังอยู่ที่เดิมกับไฟฟ้า

"ไอ้ภูมึงไปส่งเขาหน่อยดีไหมเพื่อน ทิ้งเขาไว้แบบนี้จะดีเหรอ น่าสงสารนะโว้ย"

รอนกับภูผาเป็นเพื่อนสนิทที่โตมาด้วยกัน รูปร่างสูงใหญ่พอๆ กัน ต่างกันเพียงแต่รอนมีท่าทางและใบหน้าที่เป็นมิตรกว่า ทำให้เขาเข้ากับคนได้ง่ายกว่าอีกคนที่ชอบทำหน้าเข้มขรึม พูดจาตรงไปตรงมา และมีนิสัยขี้รำคาญ ทำให้คนส่วนใหญ่ที่มองจากภายนอกมักเลือกเข้าหารอนมากว่าภูผา

"ไม่เกี่ยวกับกู! ส่วนมึง...ถ้าจะไปก็ขึ้นรถ!"

"ผมขอโทษ เพื่อนผมมันเมาคุณก็เห็น ผมขอโทษแทนเพื่อนผมนะคุณ" ไฟฟ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด

"เขาขอโทษแล้วมึง แค่แวะไปส่งแป๊บเดี๋ยวเอง"

"ไม่!" นั่นไง คำนี้ดังในหัวของไฟฟ้าทันทีที่ได้ยินภูผาปฏิเสธ

"ผมว่าแล้วเชียว คนอย่างคุณไม่มีทางยอมไปส่งผมหรอก คนใจร้าย! คนใจดำ! เพื่อนผมไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย คุณก็เห็นว่าเพื่อนผมเมา คุณจะใส่ใจอะไรกับคนเมาเล่า! เพื่อนก็เมารถก็เสีย แถมยังโดนแย่งเสื้อไปใส่อีก คุณไม่มีความสงสารให้เพื่อนร่วมโลกเลยเหรอ! " ไฟฟ้าพูดออกมาอย่างเหลืออดกับท่าทางน่าหมั่นไส้ของคนตรงหน้า น่าให้ไอ้ก็อตอ้วกใส่หน้าแม่ง

"คุณลองมาเป็นผมไหมล่ะ ลองมาให้เพื่อนคุณอ้วกใส่ ดูสิคุณยังพูดแบบนี้อยู่อีกไหม ผมเจอคุณแต่ละทีมีปัญหามาให้" ภูผาพูดด้วยความโมโห

"เออ! กลับเองก็ได้วะ... เหอะ! "

ว่าแล้วก็เข้าไปพยุงเพื่อนที่ขนาดตัวโตพอๆ กันด้วยร่างกายที่ท่อนบนเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้า แต่คนเมาทิ้งตัวมาหมดทำให้ต้องประคองกันอย่างทุลักทุเล

ขณะที่ไฟฟ้าและเพื่อนยืนรอรถอยู่ริมถนน อยู่ๆ ก็มีรถหรูสีดำเข้ามาจอดเทียบตรงหน้า รอนลดกระจกลงเอ่ยเรียกไฟฟ้าให้ขึ้นรถ แต่ไฟฟ้ายังคงยืนประคองเพื่อนนิ่ง จนกระทั่งเสียงทุ้มเรียบและเย็นชาดังออกมาจากฝั่งคนขับ

"ถ้ายังไม่ขึ้นมา ผมจะไปแล้วนะ"

……….

เรือสปีดโบ๊ทแล่นกลางทะเลสวนกระแสลมด้วยความเร็ว ไฟฟ้านั่งมองวิวทะเลนอกเรือที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ในมือกระชับถุงกระดาษที่มีเสื้อของภูผาอยู่ ไฟฟ้านำกลับมาซักรีดให้ชดเชยความผิดแทนเพื่อน

ไฟฟ้าเดินทางไปที่บริษัทของภูผา แต่พนักงานบอกว่าภูผากลับเกาะไปแล้ว ต้องรวยแค่ไหนนะถึงสามารถมีเกาะเป็นของตัวเอง

"ลุงแสง จะกลับเลยรึเปล่าจ๊ะ"

"...."

"คุณคนนี้เขาจะฝากของไปคืนนายหัวหน่อยน่ะจ๊ะ" พนักงานหญิงคนหนึ่งเอ่ยเรียกคนที่ชื่อลุงแสง เพื่อช่วยผมฝากเสื้อไปคืนเจ้าของมัน

"เอ๊ย!! อย่าฝากผมเลยครับคุณ ผมขี้ลืม เดี๋ยวจะหัวโดนนายหัวด่าอีก เอาไปให้เองกับมือเลยดีกว่า ผมกำลังจะออกเรือพอดี" คำพูดที่ติดสำเนียงใต้ดังขึ้นอย่างเป็นเอกลักษณ์

ไฟฟ้าชื่นชมวิวทะเลเพลินๆ ผ่านไปเพียงสองชั่วโมง ในที่สุดเรือก็พามาถึงจุดหมาย นี่นะหรือเกาะเล็กๆ ที่ลุงแสงว่า สำหรับไฟฟ้าแล้วทำไมมันใหญ่จัง น้ำใสแจ๋วจนเห็นเป็นสีคราม คลื่นเล็กๆ ซัดกระทบหาดทรายสีขาวสะอาดที่ทอดยาวตามแนวเกาะ บนฝั่งมีต้นไม้เขียวครึ้ม

"สวยมากเลยครับ " ไฟฟ้าเอ่ยอยากชื่นชอบ

"ครับ ที่นี่สงบและธรรมชาติ นายหัวรักที่นี่มาก"

"ก็จริงของนายหัวลุง ที่นี่เงียบสงบน่าอยู่ ไม่วุ่นวายเหมือนในเมือง"

"ถึงแล้วครับ บ้านนายหัว" ลุงแสงเดินนำไฟฟ้ามายังบ้านภูผา ก่อนจะหมุนตัวกลับไป ปล่อยให้ไฟฟ้าเผชิญชะตากรรมเพียงคนเดียว

"คุณภูผา? อยู่ไหม? ผมเอาเสื้อมาคืน"

"...."

"คุณ... อยู่ข้างในรึเปล่า?"

ไฟฟ้าสำรวจบ้านหลังเล็กคล้ายทรงไทยเดิมยกพื้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินขึ้นไปผ่านระเบียงและชานบ้านจนอยู่หน้าประตู ไฟฟ้าตะโกนเรียกเจ้าบ้านอยู่นานจนมั่นใจว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่ที่นี่ เขาจึงได้แต่นั่งรออยู่อย่างนั้นจนมืดค่ำ ความหิวและความกลัวเริ่มคืบคลานเข้ามาในใจ ทันใดนั้นไฟฟ้าลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงภูผากลับมา

"คุณไปไหนมา รู้ไหมว่าผมรอคุณตั้งนาน หิวก็หิว กลัวก็กลัว"

ไฟฟ้าวิ่งเข้าไปหาภูผาอย่างดีใจ รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที ทว่าภูผาแค่ตวัดสายตามองนิ่งมาที่เขา วันนี้ดีหน่อยที่อีกคนไม่ได้สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเหมือนคืนนั้น ไฟฟ้าสวมเสื้อเชิ้ตสีพื้น กางเกงยีนขายาวและรองเท้าผ้าใบ ร่างขาวดูทะมัดทะแมงไม่น้อย

"ใครให้คุณมาที่นี่!" ภูผากล่าวออกมาน้ำเสียงห้วนๆ สีหน้าดุดัน ทำให้ไฟฟ้าสะดุ้งเล็กน้อย

"นี่คุณ! ทำไมต้องดุกันด้วย อีกอย่างผมมาที่นี่ไม่ได้รึไง ทำไม?! มันมีอะไร?!"

"..."

"..."

"อย่างคุณไปที่ไหนก็มีแต่ก่อเรื่อง สร้างแต่ปัญหา!" ภูผาเอ่ยเสียงเข้ม

"ไม่ขนาดนั้นมั้งคุณ ผมแค่จะเอาเสื้อมาคืนคุณแล้วก็จะกลับ" ไฟฟ้าเถียงกลับไปรู้สึกไม่ชอบใจเช่นกันที่ถูกต่อว่าแบบนี้

"ไอ้มิ้ง! มึงไปตามลุงแสงมา!" ไฟฟ้าพึ่งสังเกตว่านอกพวกเขาสองคนตรงนี้ยังมีนายมิ้ง ที่เป็นผู้ช่วยภูผาอีกคน

"ไปตามพ่อเหรอครับ นายหัว" เสียงนายมิ้งทวนคำพูดนายหัวด้วยสำเนียงใต้แบบพ่อของเขาไม่ผิดเพี้ยน

“นี่มึงไม่ได้ยินกูพูดรึไง!”

“ไปแล้วครับผม” ว่าแล้วนายมิ้งก็รีบวิ่งออกไปทันทีก่อนที่จะถูกพายุลูกใหญ่จากนายหัว

"นายหัว เรียกลุงรึครับ" ลุงแสงเอ่ยพลางมองไปที่ไฟฟ้าเล็กน้อย รับรู้ได้ถึงบรรยากาศคุกรุ่นที่อยู่รอบตัว

"นายแสงเป็นคนพามาเขาใช่ไหม" ภูผาด้วยน้ำเสียงราบเรียบที่พร้อมจะปะทุได้ตลอดเวลา

"ครับนายหัว มีอะไรรึเปล่าครับ"

"ผมจะให้ลุงแสงไปส่งเขากลับฝั่ง...ตอนนี้เลย"

"ตอนนี้ไม่ได้หรอกครับนายหัว คืนนี้พายุเข้าเราเอาเรือออกไม่ได้ครับ" ภูผาได้ฟังก็ขมวดคิ้ว ทำให้ใบหน้าคมดูดุขึ้นมาทันควัน ก่อนจะหันไปกล่าวโทษไฟฟ้า

"เห็นรึยังว่าคนอย่างคุณ…" ไฟฟ้าเม้มปากแน่น ไม่มีเหตุผลหรือข้ออ้างใดๆ ที่จะเอาออกมาเถียงอีกต่อไป

"ผมแค่จะเอาเสื้อมาคืนคุณก็เท่านั้น ไม่คิดว่าจะทำให้ทุกคนเดือดร้อน ขอโทษ..." ไฟฟ้าเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีหนัก

“เอายังไงดีครับนายหัว” นายมิ้งเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นทุกคนเอาแต่ต่างทำหน้าเครียดอยู่นาน

"ลุงแสงกับไอ้มิ้งไปพักผ่อนเถอะ " ภูผายังคงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

หลังจากนายมิ้งและลุงแสงกลับไป ภูผาเหลือบมองไฟฟ้านิ่งให้คนถูกมองรู้สึกอึดอัดจนทำตัวไม่ถูก

"ก็ไม่รู้ว่าพายุจะเข้านี่ เพราะคุณนั่นแหละไม่ยอมอยู่บ้าน ทำให้ผมต้องรอจนพายุเข้า กลับบ้านไม่ได้ คุณต้องรับผิดชอบผมนะ"

"..."

ภูผายังคงมองไฟฟ้าพูดด้วยสายตาเรียบนิ่ง แต่ไฟฟ้ากลับรู้สึกได้ถึงหย่อมพายุที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจของภูผาจนนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรต่อว่าเจ้าบ้าน ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะถูกทิ้งให้ตากน้ำค้างอยู่ข้างนอก หรือไม่อาจจะถูกสั่งให้ว่ายข้ามทะเลกลับไปก็ได้

"คุณ...ผมขอโทษ ผมผิดเอง ผมมันตัวปัญหาชอบเอาความเดือดร้อนมาให้คุณ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจนะคุณ คุณให้ผมพักด้วยคนนะ"

"ผมสัญญาผมจะทำตัวดีดี ไม่ยุ่ง ไม่วุ่นวายให้คุณลำบากใจเลย นะคุณ... นะ"

หลังจากภูผาฟังคนพูดมากพล่ามต่อไม่ไหว จึงเปิดประตูเดินเข้าบ้านไปทิ้งให้ไฟฟ้ามองตามอย่างไม่เข้าใจ กูทำอะไรผิดอีกรึเปล่าว่ะ

"คุณ! แล้วผมล่ะ? คุณจะทิ้งผมเหรอ ไม่เอานะคุณ ผมไม่นอนข้างนอกนะ คุณ!!! คุณภูผา "

" อยากนอนข้างนอกก็ตามใจ!" ไฟฟ้าได้ยินเสียงภูผาตะโกนออกมาจากในบ้าน

"งั้น...ผมเข้าไปนะ!?" ไฟฟ้าตะโกนถามเจ้าของบ้าน ทว่ากลับได้แต่ความเงียบตอบกลับมา จึงถือวิสาสะเดินตามเจ้าของบ้านเข้าไป

ดวงตาเรียวสีน้ำตาลกวาดสายตาหาเจ้าบ้านพลางแอบสำรวจการตกแต่งภายในบ้านมีเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นเพียงไม่กี่อย่าง ที่โดดเด่นก็น่าจะเป็นโซฟาใหญ่หน้าทีวีซึ่งคืนนี้มันได้กลายที่นอนของเขาแน่ ไฟฟ้าวางถุงเสื้อของภูผาไว้ที่โต๊ะหน้าทีวีแล้วเอนตัวลงบนโซฟาหามุมที่คิดว่าสบายที่สุดแล้วหลับตาลง

จ๊อกๆ

'นั่นไงลืมให้อาหารน้องกระเพาะจนประท้วงซะเสียงดังเชียว

"คุณภูผาบะหมี่ซองนี้ผมขอกินได้ไหม?" เสียงไฟฟ้าถามดังมาจากในครัว

"ไม่!" คนหน้าเข้ม ดวงตาดุดันส่งเสียงปฏิเสธทันควัน

"ไม่? ไม่ต้องเกรงใจ... ขอบคุณนะ"ความหิวทำให้ไฟฟ้าหูอื้อจนไม่อยากสนใจคำพูดเจ้าของบ้าน เขาพูดเองเออเองตามประสา ยังไม่ทันขาดคำจมูกรั้นก็ได้กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำลอยมาพร้อมกับเจ้าของบ้านพ่วงท้ายด้วยเจ้าของบะหมี่สำเร็จรูปเดินเข้ามาในครัว อดไม่ได้ที่จะแอบสูดดมกลิ่นหอมเข้าปอด

ไฟฟ้าที่กำลังเทบะหมี่ที่ต้มจนสุกส่งกลิ่นหอมฟุ้งลงถ้วยเห็นภูผาที่สวมเพียงบ็อกเซอร์ตัวบางเดินปล่อยเปลือยท่อนบนอวดกล้ามเนื้อบนแผงอกเข้ามาในครัวบนไหล่หนาพาดผ้าขนหนูผืนเล็ก ก็จะส่งยิ้มเจื่อนออกมากลบเกลื่อน

"ก็ผมหิวอะคุณ มัวแต่รอคุณทั้งวันผมยังไม่ได้กินอะไรเลย"

"แต่คุณรับปากว่าจะไม่ทำตัววุ่นวาย"

"โอ๊ย...อย่าใจร้ายกับผมนักเลย เดี๋ยวกินเสร็จผมจะรีบไปนอนเลย... สัญญา"

"...." ภูผามองไฟฟ้าเอ่ยปากเถียงเขาในขณะที่ตะเกียบคีบบะหมี่ส่งเข้าปากกระจับเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย เหมือนปอบลง

"คุณจะเอาด้วยไหมล่ะ เดี๋ยวผมต้มให้"

"ผมไม่อยากท้องเสีย" ภูผาเอ่ยเสียงเข้มแล้วเดินไปเข้านอน

"เอ้า!!" ไฟฟ้าได้แต่มองตามแผ่นหลังแกร่งเดินเข้าห้องนอนไป ไอ้คุณภูผา ไอ้นายหัวปากจัด

ทุกวัน
กลับหน้าหลัก ตอนถัดไป