ซูหน่วนหยางมองไปที่อาหารเย็นบนโต๊ะ ริมฝีปากเม้มเข้าหากันก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และส่งข้อความหาคนผู้นั้นว่า "วันนี้คุณไม่กลับบ้านเหรอคะ?"
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ก็ยังไม่มีข้อความตอบกลับมา
ซูหน่วนหยางทนรออยู่ครู่หนึ่ง และในที่สุดก็ตัดสินใจกดโทรออก
เธอโทรถึงเจ็ดครั้ง ปลายสายถึงจะกดรับสาย
“มีอะไร?” คำพูดที่เย็นชาและห่างเหินเต็มไปด้วยความไม่แยแส
ซูหน่วนหยางรู้สึกขมขื่นในใจ และพูดเบาๆ ว่า "เราตกลงกันแล้วว่าคุณต้องกลับบ้านทุกสุดสัปดาห์"
ต้อง?
สองคำนี้ทำให้ดวงตาของลู่เหลียงชวนมืดลงอย่างรุนแรง และใบหน้าของเขาก็เย็นชาขึ้นหลายส่วน
สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือผู้หญิงคนนี้ชอบขู่เขาด้วยสัญญาแต่งงานและเรียกร้องให้เขากลับบ้าน
ให้เขากลับไปเจอกับอะไร? ไปเจอผู้หญิงที่ตัวเองเกลียดขี้หน้าและอาหารรสชาติห่วยแตกของเธออย่างนั้นหรือ?
แค่นึกถึงเธอ เขาก็หมดอารมณ์แล้ว
“ผมทำงานล่วงเวลาอยู่” หลังจากพูดหกคำนี้ ลู่เหลียงชวนก็ตัดสายไป
เมื่อได้ยินเสียง ‘บี๊บ’ อันเยือกเย็นจากปลายสายอีกด้าน ใบหน้าของซูหน่วนหยางก็แข็งค้างและดวงตาของเธอก็มืดลง
สามปีของการแต่งงาน เขาไม่เคยทำหน้าดีๆกับเธอเลยสักครั้งเดียว ทุกครั้งที่เขากลับบ้าน มีเพียงใบหน้าที่เย็นชาและเย้ยหยันราวกับว่าเธอเป็นสิ่งสกปรกโสโครกอย่างไรอย่างนั้น
ซูหน่วนหยางยกมือขึ้นเพื่อปิดหน้า ปกปิดความเจ็บปวดและความยากลำบากในดวงตาของเธอ
โทรศัพท์สั่นอีกครั้ง ซูหน่วนหยางคิดว่าเป็นข้อความจากเขา และหยิบขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่ข้อความ แต่เป็นภาพถ่ายเซลฟี่ของลู่เหลียงชวนและหลินอ้ายหลาน
หลินอ้ายหลานยกโทรศัพท์มือถือขึ้นและเอามืออีกข้างโอบรอบเอวของลู่เหลียงชวน ทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก ดูสนิทสนมรักใคร่
ซูหน่วนหยางจ้องไปที่รูปนั้น และใบหน้าของเธอก็ซีดขาว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้รับรูปพวกนี้ ตอนแรกเธอเชื่อว่ามันเป็นเพียงการกระทำโดยเจตนาของหลินอ้ายหลานที่ต้องการยั่วโมโหเธอ และเธอก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ แต่แล้วเธอก็ได้รับภาพที่คล้ายกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางครั้งพื้นหลังของภาพก็อยู่ในโรงแรมด้วยซ้ำ!
หลายครั้งที่เธอเริ่มสงสัยว่าบางทีลู่เหลียงชวนอาจจะ...
ความคิดนี้เหมือนกับมีดที่แทงลึกเข้าไปในหัวใจของซูหน่วนหยาง เจ็บลึกไปถึงกระดูก
ซูหน่วนหยางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งด้วยนิ้วที่สั่นเทา และกดโทรออกหาลู่เหลียงชวน
“ลู่เหลียงชวน กลับบ้านเดี๋ยวนี้!” ซูหน่วนหยางกำโทรศัพท์แน่นและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เสียงสั่น
ลู่เหลียงชวนขมวดคิ้ว น้ำเสียงบ่งบอกหมดความอดทน “ผมบอกไปแล้วนี่ว่าผมกำลังทำงานล่วงเวลา…”
“ฉันไม่สนใจว่าคุณจะทำอะไร ลู่เหลียงชวน ทุกอย่างเขียนไว้ในข้อตกลงของเราแล้ว คุณต้องกลับมาบ้านสัปดาห์ละครั้ง” ซูหน่วนหยางสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “คุณสัญญากับฉันแล้ว คุณกลับคำไม่ได้"
ลู่เหลียงชวนเงียบ ดวงตาสีเข้มมีความโกรธรุนแรงอยู่ภายใน
อีกครั้งที่ผู้หญิงคนนี้ขู่เขาด้วยสัญญาแต่งงาน!
“ได้!” หลังจากกัดฟันตอบ ลู่เหลียงชวนก็ขว้างโทรศัพท์ลงบนพื้นด้วยความโกรธ เสียงดัง ‘ปัง’โทรศัพท์แตกเป็นชิ้นๆ
ลู่เหลียงชวนเดินออกไปเพื่อระงับความโกรธในใจ
เลขาที่ยืนอยู่ตรงประตูได้ยินเสียงดังก็รีบเข้าไปเช็คสถานการณ์ อารามรีบร้อนเธอก็ชนเข้ากับร่างสูงโปร่งของลู่เหลียงชวนอย่างจัง ศีรษะกระแทกเข้าที่หน้าอกของเขา ทำให้สีของลิปสติกติดอยู่บนเสื้อของเขาโดยบังเอิญ
“ขอโทษค่ะ...” เลขาสาวรีบขอโทษและอยากจะเช็ดลิปสติกออก แต่ลู่เหลียงชวนเบี่ยงตัวหลบและหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
เลขาสาวมองดูแผ่นหลังอันเย็นชาของเจ้านายหนุ่ม เธอกระพริบตาปริบๆ สัมผัสได้ถึงความโกรธที่แผ่ออกมาจากร่างสูงโปร่งนั้น หัวใจของเธอก็เต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อเห็นท่าทางหัวเสียของเขาแล้ว คงหนีไม่พ้นคุณนายลู่ผู้น่ารำคาญ...
เลขาสาวสั่นศีรษะไม่กล้าเดาอะไรเพิ่มเติม และรีบไปเตรียมเอกสารสำหรับการประชุมของวันพรุ่งนี้
ลู่เหลียงชวนเหยียบคันเร่งอย่างแรง เขาขับรถด้วยความเร็วสูง เพื่อที่จะกลับไปยังบ้านที่ไม่น่าพิสมัยหลังนั้น