ตอนที่ 295: หลานสาว
เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู้หนิงก็รู้สึกเห็นใจถางหยุนฟ่านกับสิ่งที่เขาต้องเผชิญ กู้หนิงไม่ได้ไม่พอใจเขาที่เขาทิ้งกู้ม่าน ถางหยุนฟ่านก็คงไม่ต้องการให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
“ทำไมเขาถึงไม่ยอมแต่งงานล่ะคะ?” กู้หนิงถาม
“ปู่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาไม่ยอมบอก ปู่คิดว่าเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงไม่ยอมแต่งงานสักที ตอนแรกพวกเราสงสัยว่าเขาจะเป็นเกย์ แต่ไม่ใช่” ถางไห่เฟิงถอนหายใจ ในฐานะพ่อของถางหยุนฟ่าน เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกชายของเขาถึงปฏิเสธการแต่งงาน
“บางทีคุณลุงอาจจะมีคนที่รักแล้วก็ได้แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะฉะนั้นก็เลยปฏิเสธที่จะแต่งงาน” กู้หนิงแสดงความคิดเห็น
“ปู่ก็เคยคิดแบบนี้ ถึงขั้นส่งคนไปตรวจสอบแต่ก็ไม่พบอะไร” ถางไห่เฟิงตอบ
“นายท่าน ผมคิดว่ามันอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับความทรงจำที่หายไปของนายท่านหยุนฟ่าน” ถางอู่กล่าว นี่เป็นการคาดเดาก่อนหน้านี้ แต่ขาดหลักฐานจึงไม่มีใครเชื่อ
ถางไห่เฟิงรู้สึกเศร้าและถอนหายใจ
“คุณปู่ อย่ากังวลไปเลยค่ะ ชีวิตเต็มไปด้วยเปลี่ยนแปลง บางทีคุณลุงอาจเปลี่ยนใจสักวันหนึ่งก็ได้!” กู้หนิงปลอบนายท่านถางถึงแม้จะไม่มีประโยชน์อะไร ถ้านายท่านถางสามารถปล่อยเรื่องนี้ไปได้ เขาก็ไม่ต้องมานั่งเศร้าอยู่แบบนี้
นายท่านถางเข้าใจสิ่งที่กู้หนิงพูด เขาต้องยอมรับความจริง
เพื่อที่จะไม่ทำให้กู้หนิงรู้สึกแย่ ถางไห่เฟิงแสร้งทำเป็นมีความสุข “แน่นอน! ชีวิตเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าหยุนฟ่านปฏิเสธที่จะแต่งงาน ปู่ก็ไม่ได้บังคับลูก”
กู้หนิงเข้าใจว่านายท่านถางแกล้งพูดให้บรรยากาศดีขึ้น เธอจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาที่น่าหดหู่นี้ซะเลย
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ถางไห่เฟิงก็ส่งสายตาให้ถางเหวิน ถางเหวินหยิบกล่องขนาดเท่ากำปั้นมือออกมายื่นให้ถางไห่เฟิง “หนูกู้ ในเมื่อหนูเป็นหลานของปู่แล้ว นี่คือของขวัญที่ปู่ให้หลานในฐานะปู่”
“มีการ์ดสองใบอยู่ในนั้น ใบหนึ่งคือแบล็กการ์ดของโรงแรมฮวงเติ้ง หลานสามารถพักที่โรงแรมนี้ได้พร้อมอาหารและเครื่องดื่มฟรีในเครือโรงแรมฮวงเติ้งทั่วประเทศ อีกใบเป็นแบล็กการ์ดสำหรับห้างสรรพสินค้าเฟิงจาง หลานสามารถซื้อของที่นั่นได้ฟรีตลอดชีวิต วงเงินต่อเดือนอยู่ที่แสนหยวน มันไม่มากไม่มาย เป็นเพียงของขวัญเล็กๆน้อยๆจากปู่ รับไว้เถอะถ้าหลานคิดว่าปู่เป็นปู่ของหลานจริงๆ”
กู้หนิงไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่รับมันมา เธอไม่รู้ว่าตระกูลถางเป็นเจ้าของโรงแรมฮวงเติ้งจนกระทั่งเดี๋ยวนี้
โรงแรมฮวงเติ้งเป็นเครือโรงแรมระดับห้าดาวและขยายไปทุกเมือง และห้างสรรพสินค้าเฟิงจางยังเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงในประเทศนี้ ถางไห่เฟิงเป็นคนใจกว้างจริงๆ! ด้วยการ์ดสองใบนี้ กู้หนิงสามารถกินดื่มใช้ชีวิตและช้อปปิ้งได้ฟรีในประเทศนี้!
ถางไห่เฟิงเป็นคนใจกว้างและกู้หนิงจะมอบของขวัญที่มีค่าให้กับเขาเช่นกัน “ขอบคุณมากค่ะคุณปู่!” กู้หนิงยิ้มกว้าง
“หนูก็ได้เตรียมของขวัญไว้ให้คุณปู่ด้วย โปรดรับมันไว้ด้วยค่ะถ้าปู่ถือว่าหนูเป็นหลานสาวของคุณปู่จริงๆ” กู้หนิงพูดและหยิบกล่องออกมาจากกระเป๋าเป้ของเธอส่งให้ถางไห่เฟิง
“งั้นรึ? อะไรล่ะ?” ถางไห่เฟิงประหลาดใจ
เขาเปิดกล่องและมีวัตถุสีแดงขนาดเท่ากับสามนิ้วอยู่ในนั้น ก่อนที่ถางไห่เฟิงจะถาม กู้หนิงก็เปิดปากพูดอีกครั้ง “มันคือปะการังสีแดงตามธรรมชาติ หนูวางแผนจะทำสร้อยข้อมือให้คุณปู่ แต่เวลามี จำกัด ก็เลยมอบให้ทั้งอย่างนี้ หวังว่าคุณปู่จะไม่รังเกียจนะคะ”
“อะไรนะ? ปะการังแดงตามธรรมชาติ?” ถางไห่เฟิงตกใจ ทั้งถางเหวินและถางอู่ต่างก็ตกใจเช่นกัน พวกเขาทุกคนได้ยินมาว่าปะการังสีแดงตามธรรมชาตินั้นหายากและมีราคาแพงมาก ของขวัญของกู้หนิงมีมูลค่าอย่างน้อยหลักล้านหยวน!
“นี่มันแพงเกินไปนะหลาน” ถางไห่เฟิงคิดว่าไม่จำเป็นต้องให้ของขวัญราคาแพงแก่เขา ถึงอย่างไรก็หนิงก็เป็นเพียงเด็กนักเรียน
“คุณปู่คะ รับไว้เถอะค่ะ ถ้าปู่ไม่ยอมรับของขวัญของหลาน หลานก็จะไม่รับของขวัญของคุณปู่” กู้หนิงยื่นของขวัญที่ได้รับมาคืนให้ถางไห่เฟิง
ถางไห่เฟิงรีบห้ามเธอ “ได้ ได้ ได้ ปู่จะรับไว้”
เห็นได้ชัดว่ากู้หนิงตั้งใจเตรียมของขวัญให้เขา ถางไห่เฟิงปลื้มใจมาก
ทั้งสองสนทนากันอีกนิดหน่อยก่อนแยกย้าย
กู้หนิงเสนอตัวไปส่งถางไห่เฟิงที่สนามบินแต่ถูกปฏิเสธ เพราะถางไห่เฟิงไม่อยากให้เธอเสียเวลาไปส่งเขา ดังนั้นกู้หนิงก็ได้กลับไปที่โรงงาน
เธอวางแผนที่จะหาเงินด้วยการพนันหินในเมืองเถิงแค่สามวันภาย แต่มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นมากมายและเธอใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์ในเมืองเถิง โชคดีที่ผลลัพธ์ไม่ได้เลวร้าย
กู้หนิงไม่ได้ตั้งใจที่จะทำลายตระกูลหวางเ แต่ตระกูลหวางหาเรื่องเธอก่อน
ตอนนี้กู้หนิงได้ทำธุรกิจในเมืองเถิงเสร็จแล้วและตัดสินใจเดินทางไปเมืองหลวง
แม้ว่าบริษัทของเธอในเมืองเถิงจะเพิ่งก่อตั้ง แต่เธอกไม่ได้กังวลเพราะคนส่วนใหญ่รู้สึกหวาดกลัวเธอหลังจากที่เธอได้รับการแสวงหาประโยชน์จากวัตถุดิบของตระกูลหวางอย่างสายฟ้าแลบ
ตอนที่ 296: ไปเมืองหลวง
อย่างไรก็ตามเลิ่งเชาถิงยังไม่กลับมา กู้หนิงจึงรอเขาจนกว่าเขาจะกลับ
ตอนบ่ายเลิ่งเชาถิงโทรมาและบอกว่าภารกิจของเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นเวลาทานข้าวพอดี ดังนั้นกู้หนิงจึงบอกเลิ่งเชาถิงไปพบเธอที่ร้านอาหารข้างๆโรงแรมที่พวกเขาพักอยู่
ครึ่งชั่วโมงต่อมา กู้หนิงก็มาถึง เลิ่งเชาถิงมารอเธออยู่ก่อนแล้ว
เมื่อเธอเปิดประตูเข้าไป สายตาก็ประสานกับเลิ่งเชาถิง พวกเขาคิดถึงกันมากแม้ว่าจะห่างกันแค่สองวันก็ตาม อาจเป็นเพราะตอนนี้พวกเขาตกหลุมรักกันอย่างบ้าคลั่ง หากไม่มีบริกรในห้องส่วนตัว เลิ่งเชาถิงคงจะวิ่งเข้ามากอดกู้หนิงไว้ในอ้อมแขนของเขา
เมื่อบริกรออกจากห้องไป เลิ่งเชาถิงก็คว้าตัวกู้หนิงมากอดไว้แน่น ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็ยังไม่ยอมปล่อย กู้หนิงดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดของเขา “พอได้แล้ว ถ้าบริกรเข้ามาคงได้ขายหน้าเขาแย่”
เลิ่งเชาถิงคลายอ้อมกอดอย่างไม่เต็มใจ ถ้าหากพวกเขาไม่ได้อยู่ในที่สาธารณะ เลิ่งเชาถิงอาจทำอะไรมากกว่าการกอดเธอแน่นแน่ๆ
แม้ว่าเลิ่งเชาถิงจะนั่งห่างจากกู้หนิง แต่สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่เธอราวกับว่ากลัวเธอจะหายไป
กู้หนิงรู้สึกอึดอัด “ทำไมถึงเอาแต่มองฉันล่ะคะ?”
“ก็ผมอยากมอง”
“ห้ามมองนะ” กู้หนิงแกล้งโมโห
“ไม่ จะมอง” สายตาของเขายังคงมองมาที่เธอ
กู้หนิงหัวเราะ “เมื่อไหร่คุณจะกลับไปเมืองหลวงคะ?”
“ไม่รู้ แต่ตอนนี้ผมว่างแล้ว” เลิ่งเชาถิงบอกซู่จินเฉินและคนอื่นๆให้กลับไปที่เมืองหลวง แต่เขาอยู่ต่อ เลิ่งเชาถิงเป็นคนลึกลับมาโดยตลอด ดังนั้นคนในทีมของเขาได่แต่ซุบซิบในบางครั้ง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก พวกเขาทราบว่าเลิ่งเชาถิงยังมีธุรกิจของตัวเองนอกจากการเป็นทหาร
อันที่จริงเลิ่งเชาถิงมีหลายสิ่งที่ต้องจัดการ แต่เขาไม่จำเป็นต้องจัดการด้วยตนเอง ดังนั้นเขาจึงเคลียร์ตารางงานเพื่ออยู่กับกู้หนิง
“ฉันก็ว่างเหมือนกัน พรุ่งนี้ฉันจะไปเมืองหลวง” กู้หนิงเอ่ย
“ได้ งั้นพรุ่งนี้เราไปเมืองหลวงด้วยกัน”
ไม่นานอาหารก็วางเต็มโต๊ะ เลิ่งเชาถิงสั่งอาหารหลายอย่างเพื่อเอาใจกู้หนิง
ระหว่างทานข้าว เลิ่งเชาถิงก็คอยตักอาหารลงบนจานกู้หนิงจนพูน “คุณทำอะไร? ฉันไม่หมูนะ!” กู้หนิงโวยวาย
“ไม่ต้องห่วง ค่อยๆกิน คุณผอมเกินไป” เลิ่งเชาถิงไม่สนใจเสียงบ่นกู้หนิง
เธอผอมก็จริงแต่ก็สุขภาพดี อีกอย่างเธอพอใจกับหุ่นของเธอ
“ฉันไม่คิดว่าฉันผอมเกินไป หุ่นฉันดีมากต่างหาก” กู้หนิงเถียง
เมื่อได้ยินเช่นนั้นสายตาของเลิ่งเชาถิงก็สำรวจร่างกายของกู้หนิงตั้งแต่หัวจรดเท้า กู้หนิงหน้าแดงและหยุดโวยวายทันที
วันรุ่งขึ้นประมาณ 8 โมงเช้า กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงออกจากโรงแรมไปสนามบินด้วยกัน
เจิ้งเผิง เกาอี้ และเฉียวหยาจะช่วยกู้หนิงจัดการธุรกิจของเธอในเมืองเถิงในขณะที่เธอไม่อยู่ ตระกูลหวางถูกกำจัดแล้วดังนั้นบริษัทของเธอจะปลอดภัย
ก่อนที่เธอจะจากไป กู้หนิงยังโทรหาจางเต๋อเฉิงเพื่อบอกลา จางเต๋อเฉิงชวนเธอไปทานอาหารด้วยกัน แต่เวลามีจำกัด เขาจึงผิดหวังเมื่อเธอปฏิเสธ
กู้หนิงใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในเมืองเถิงและเธอต้องกลับไปที่เมือง F ห้าวันก่อนเทศกาลปีใหม่ดังนั้นเธอจึงสามารถอยู่ในเมืองหลวงได้อีกหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น
เมื่ออยู่บนเครื่องบิน กู้หนิงมีอารมณ์ที่หลากหลายเพราะเธอกำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่เธอคุ้นเคยมากที่สุดในชาติที่แล้ว เธอไม่รู้ว่าเธอจะพบกับศัตรูหรือไม่และปฏิกิริยาของเธอเมื่อได้พบกับพวกเขาจริงๆ
แม้ว่าตอนนี้เธอคิดว่าจะทำเป็นเฉยได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะสงบสติอารมณ์ได้หรือไม่เมื่อพวกเขาปรากฏตัวต่อหน้าเธอ เธอจะสูญเสียการควบคุมและโจมตีพวกเขาหรือเปล่า?
เมื่อนึกถึงฉีซีเยว่และถังหยาซิน กู้หนิงก็อดโมโหไม่ได้ “เป็นอะไรไป?” เลิ่งเชาถิงจับมือของเธอไว้ในฝ่ามือของเขาและถามอย่างเป็นห่วงเมื่อรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอ
“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันเพียงแต่กังวลว่าจะหาตึกออฟฟิศดีๆได้ในเมืองหลวงรึเปล่า” กู้หนิงยิ้มให้เขา
“ให้ผมช่วยคุณเอง”
“ค่ะ ขอบคุณมาก” กู้หนิงไม่ปฏิเสธ เมืองหลวงเป็นถิ่นของเขา ถ้าเธอปล่อยให้เขาช่วยเหลือย่อมง่ายกว่าเธอจัดการเอง
อย่างไรก็ตามกู้หนิงไม่ได้ผ่อนคลายแม้ว่าเลิ่งเชาถิงจะอยู่กับเธอก็ตาม เธอยังคงรู้สึกกังวลและโกรธในใจ
ใช้เวลาบินสองชั่วโมงจากเมืองเถิงไปยังเมืองหลวง กู้หนิงอารมณ์ไม่ดีและไม่อยากพูดอะไร เธอจึงพิงไหล่เลิ่งเชาถิงแล้วหลับตาลง
เลิ่งเชาถิงคิดว่ากู้หนิงเหนื่อย เขาจึงไม่รบกวนเธอ
ทั้งกู้หนิงและเลิ่งเชาถิงนั่งชั้นเฟิร์สคลาส กู้หนิงนั่งข้างหน้าต่าง ส่วนเลิ่งเชาถิงนั่งอยู่ริมทางเดิน