ตอนที่ 47: ตบสั่งสอนกู้เซียวเซียวอีกครั้ง
ในสายตากู้เซียวเซียว กู้หนิงไม่มีอะไรเทียบเธอได้ กู้เซียวเซียวอยากจะรังแกและเยาะเย้ยกู้หนิงตลอดไป แต่ตอนนี้กู้หนิงกล้าลุกขึ้นต่อต้านเธอซึ่งกู้เซียงเซียวยอมรับไม่ได้
"กู้เซียวเซียว หยุดนะ พวกฮ่าวหรันกับฉันไม่มีทางปล่อยให้บอสของพวกเราเป็นคนไม่มีบ้านหรอก" มู่เค่อไม่อาจทนได้อีกต่อไป เขาต่อว่ากู้เซียวเซียว
"แก.... " กู้เซียวเซียวไม่สบอารมณ์ เธอไม่คิดว่ามู่เค่อและคนอื่นจะปฏิบัติต่อกู้หนิงดีขนาดนี้ ทำไม? ทำไมกู้หนิงถึงโชคดี?
ไม่ เธอไม่อาจยอมรับได้
ดวงตาของกู้เซียวเซียวเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา เธอพูดเสียงดังขึ้น "กู้หนิง แกนี่มันไร้ยางอายมากเลยนะที่ทำตัวเป็นผู้หญิงเกาะผู้ชายเพื่อหวังพึ่ง..."
เสียงของกู้เซียวเซียวดึงดูดความสนใจนักเรียนคนอื่น
ในขณะเดียวกัน กู้หนิงก็โมโหขึ้นมา กู้เซียวเซียวยังพูดไม่จบ กู้หนิงก็ยกมือขึ้นตบไปที่หน้ากู้เซียวเซียวเสียงดัง กู้เซียวเซียวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
กู้เซียวเซียวยืนแน่นิ่งเหมือนคนโง่ เธอตกใจที่กู้หนิงกล้าตบเธอ ถึงแม้จะไม่ใช่ครั้งแรกก็ตาม
กู้หนิงมองกู้เซียวเซียวด้วยสายตาเย็นชา แววตาของเธอคมประหนึ่งมีดน้ำแข็ง กู้เซียวเซียวเริ่มตกใจกลัวขึ้นมาบ้าง
ยิ่งไปกว่านั้นรังสีเยือกเย็นแผ่ออกมาจากกู้หนิงโอบล้อมตัวกู้เซียวเซียวไว้ซึ่งนั่นทำให้เธอตัวสั่นงันงก
กู้หนิงพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า "กู้เซียวเซียว ใครบอกเธอว่าฉันพึ่งผู้ชายเพื่ออยากให้เขาดูแลฉัน? อย่าปล่อยข่าวลือแบบนั้นสิ ไม่อย่างนั้นฉันจะฟ้องเธอฐานพูดจาใส่ร้าย"
"แก.... " กู้เซียวเซียวพยายามจะเถียงกลับ แต่กู้หนิงยกมือขึ้นมาอีกครั้ง สองฝ่ามือก็ตบไปที่ใบหน้ากู้เซียวเซียวถึงสองครั้ง และครั้งนี้หนักกว่าครั้งแรก
ครั้งนี้กู้หนิงใช้แรงมากกว่าครั้งที่แล้ว แก้มของกู้เซียวเซียวปรากฏเป็นรอยฝ่ามือที่แก้มทั้งสองข้าง เธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด "กู้หนิง แกตีฉันทำไม?"
เสียงกรีดร้องของกู้เซียวเซียวดังไปทั่วชั้นสาม คาบแรกยังไม่ได้เริ่มและนักเรียนต่างพากันวิ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
กู้เซียวเซียวเป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่มาจากครอบครัวคนรวย เธอยังเป็นนักเรียนห้องท็อปอีกด้วย นักเรียนส่วนใหญ่รู้จักเธอ สำหรับกู้หนิง หลังจากเกิดเรื่องเมื่อวาน เธอก็มีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น ทุกคนต่างรู้จักเด็กสาวสองคนนี้ดี
จากคำถามของกู้เซียวเซียว นักเรียนคนอื่นก็อยากรู้ถึงสาเหตุว่าทำไมกู้หนิงถึงตบกู้เซียวเซียว
กู้หนิงไม่สนใจบรรดาคนมุง เธอเอ่ยเสียงเย็นว่า "เพราะเธอส่งรูปฉันที่กำลังสู้กับฮ่าวหรันให้แม่ฉันเมื่อวาน แม่ฉันตกใจกลัวจนตกบันได เธอโชคดีไปนะที่แม่ของฉันไม่เจ็บหนักมาก ไม่อย่างนั้นตบสองทีคงไม่พอ"
ได้ยินกู้หนิงพูดแบบนั้น ทุกคนก็เข้าใจถึงสถานการณ์ตรงหน้า
กู้เซียวเซียวสมควรได้รับแล้ว ไม่มีใครเห็นใจเธอ
"แก..." กู้เซียวเซียวตกใจกับคำอธิบายของกู้หนิง เธอไม่ได้คาดว่ามันจะลงเอยแบบนั้น เธอเพียงแค่อยากให้กู้ม่านตำหนิกู้หนิงเท่านั้นเอง
แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่เธอทำสักนิด เธอเพียงหัวเสียเพราะเธอทำให้คนอื่นบาดเจ็บ
"กู้เซียวเซียวหยุดข้ามเส้นกันได้แล้ว ต่อจากนี้ฉันจะไม่เสียใจกับสิ่งที่ฉันจะทำกับเธอ" กู้หนิงเตือนกู้เซียวเซียว จากนั้นก็เดินจากไป
มู่เค่อและหยูหมิงซีปรายตามองกู้เซียวเซียว จากนั้นทั้งคู่ก็เดินจากไปเหมือนกัน
หลังจากกู้หนิงไปแล้ว บรรดาคนมุงดูก็เริ่มซุบซิบทันที
"กู้เซียวเซียวกลายเป็นคนใจร้ายแบบนี้ได้ไง! มันไม่ใช่เรื่องของเธอสักหน่อยที่กู้หนิงจะชกต่อยกับคนอื่น เธอถึงกับส่งรูปกู้หนิงให้แม่กู้หนิงดูเพื่อทำให้เธอหวาดกลัว! แม่ของกู้หนิงถึงกับตกบันได "
"ใช่ เธอยังพูดอีกว่ากู้หนิงพึ่งผู้ชายเพื่อให้พวกเขาช่วยเหลือเธอ สมควรโดนตีแล้ว"
นักเรียนส่วนใหญ่เลือกเชื่อกู้หนิง เพราะกู้หนิงดูโกรธมากจริงๆ
"ทำไมฉินเจิ้งถึงชอบผู้หญิงใจร้ายแบบนี้ได้?" บรรดาคนที่ชื่นชอบฉินเจิ้งพูดขึ้นอยากไม่ชอบใจ
"บางทีเขาอาจจะแค่ชอบรูปร่างหน้าตาเธอก็ได้นะ!"
"*นกที่ขนเหมือนกันก็มักจะอยู่รวมกัน! ฉันเคยเห็นฉินเจิ้งแกล้งกู้หนิง"
(*คนที่นิสัยเหมือนกันมักจะอยู่ด้วยกัน ประมาณว่าศีลเสมอกันก็อยู่ด้วยกันได้*)
"ใช่ ใช่ ฉันก็เห็นเหมือนกัน"
ครั้งนี้ฉินเจิ้นก็ถูกรุมวิจารณ์ด้วย เขาสมควรได้รับมันแล้ว
"นี่ พวกเธอ...." กู้เซียวเซียวโมโห เธอรับไม่ได้ที่ถูกวิจารณ์ต่อหน้าต่อตา เธอวิ่งลงบันได้ไปข้างล่างร้องไห้
เธอถูกกู้หนิงตบที่หน้าสามครั้ง แก้มของเธอบวมแดงและมีรอยฝ่ามือ เธอรู้สึกอับอายเกินกว่าที่จะกลับเข้าห้องเรียน ดังนั้นเธอจึงกลับบ้าน
เมื่อกู้เซียวเซียววิ่งหนีจากไป ออดก็ดังขึ้นพอดี นักเรียนทุกคนต่างพากันเดินเข้าห้องเรียนไป
ขณะกำลังจะเดินออกจากตึกเรียน กู้เซียวเซียวก็พบกับอาจารย์ของห้องหนึ่งระหว่างทางพอดี
อาจารย์คนนี้มีชื่อว่า ‘หวังเฉิงฉี เขาเป็นคนจริงจังสวมแว่นตา วัยเกือบสี่สิบ
หวังเฉิงฉีถามกู้เซียวเซียวว่าเธอจะไปไหนตอนที่คาบเรียนแรกเริ่มแล้ว แต่เขาสังเกตเห็นรอยแดงที่แก้มของเธอเข้า เขาแปลกใจนิดหน่อย "กู้เซียวเซียว เกิดอะไรขึ้นกับหน้าของเธอ?"
เมื่อเห็นหวังเฉิงฉี กู้เซียวเซียวไม่เต็มใจบอกความจริงในตอนแรก แต่เธอก็ตอบอธิบายว่า "ก็มาจากกู้หนิงห้องสี่ค่ะ หนูกับเธอทะเลาะกันแล้วเธอก็ตบหน้าหนูสามครั้ง หนูรู้สึกอับอายจนไม่อยากกลับเข้าห้องเรียนค่ะ"
เหตุผลที่กู้เซียวเซียวไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดแก่หวังเฉิงฉี เป็นเพราะเธอรู้ว่าอาจารย์หวังคนนี้เป็นคนซื่อตรง กู้เซียวเซียวไม่หวังว่าเขาจะยืนเข้าข้างเธ
ถึงแม้กู้เซียวเซียวจะเห็นแก่ตัวและไม่ได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำกับกู้หนิง แต่เธอไม่ใช่คนโง่ เธอรู้ว่าครั้งนี้เป็นความผิดเธอ
ดังนั้นกู้เซียวเซียวกระจ่างแก่ใจว่ามันไม่ช่วยอะไรถึงแม้เธอจะบอกครูไป
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เธอเลือกกลับบ้านแทนที่จะวิ่งไปหาครูเพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อกู้หนิงใช้จานฟาดเธอครั้งที่แล้ว
ครอบครัวของเธอปกป้องเธอเสมอไม่ว่าเธอจะทำอะไร
แน่นอนว่าครูหวังเฉิงฉีและครูจางฉิวฮวาเป็นคนประเภทเดียวกัน พวกเขาต่างซื่อตรงและไม่เคยยอมจำนนต่ออำนาจและเงินทอง
แม้ว่าจะรู้สึกไม่พอใจ หวังเฉิงฉีก็ไม่ได้ตำหนิกู้หนิงทันที
กู้เซียวเซียวบอกว่าเธอถูกกู้หนิงตบเพราะมีเรื่องทะเลาะกัน อาจเป็นเพราะกู้หนิงเลือดร้อนหรืออาจเป็นเพราะกู้เซียวเซียวยั่วยุทำให้เธอโกรธ กู้หนิงจึงตบกู้เซียวเซียว
หวังเฉิงฉีรู้เกี่ยวกับกู้หนิงจากเว็บบอร์ดโรงเรียนเมื่อวานนี้เช่นกัน
ถึงเขาจะไม่ชอบที่นักเรียนมีเรื่องชกต่อยกัน แต่เขาก็ต้องขอยอมรับว่ากู้หนิงเก่งที่สามารถจัดการเด็กหนุ่มสามคนนั่นได้
"เธอคิดว่าเธอมีส่วนผิดในเรื่องที่ทะเลาะกันรึเปล่า?” หวังเฉิงฉีถาม ถ้ากู้เซียวเซียวไม่ได้ทำอะไรผิด เขาจะช่วยเธอ แต่ถ้าไม่ เขาก็ไม่ขอเกี่ยวข้อง
ตอนที่ 48: ฉู่เพ่ยหานเข้าร่วม
กู้เซียวเซียวอยากจะพูดใจจะขาดว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เธอเปลี่ยนความคิดทันควัน “หนูพูดบางอย่างที่ไม่ดีออกไป”
ได้ยินแบบนั้น หวังเฉิงฉีก็เข้าใจ “ถ้าอย่างนั้นก็กลับบ้านและใช้น้ำแข็งประคบที่หน้า เธอจะได้หายไวๆ”
จากนั้นกู้เซียวเซียวก็เดินจากไป
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที กู้เซียวเซียวก็โทรหาแม่เธอ ‘หลินหลี่หยวน’ และบ่นกระปอดกระแปดให้แม่เธอฟัง เธอบอกหลินหลี่หยวนว่ากู้หนิงตบหน้าเธอถึงสามครั้ง
แน่นอนเธอย่อมไม่บอกสาเหตุว่าทำไมกู้หนิงถึงตบเธอ ไม่สำคัญว่าทำไมกู้หนิงถึงตบเธอ หลินหลี่หยวนก็โทษกู้หนิงอยู่ดี
“ยัยเด็กสารเลว ยัยเด็กเหลือขอ! กล้าดียังไงถึงมาตบลูกสาวสุดที่รักของฉัน! ลูกรัก กลับมาบ้านเดี๋ยวนี้ แม่จะไม่ปล่อยให้ยัยเด็กนั่นลอยนวลไปได้แน่” หลินหลี่หยวนเอ่ยอย่างเจ็บแค้น
เมื่อหลินหลี่หยวนวางสาย เธอก็โทรหากู้ม่านทันที
กู้ม่านกำลังนอนหลับ เสียงมือถือปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมา กู้ม่านปรายตามองที่มือถือ คนที่โทรเข้ามาคือหลินหลี่หยวน เธอไม่อยากรับสายเพราะรู้ว่าหลินหลี่หยวนไม่ใช่คนดี ถึงอย่างไรก็ตามเสียงมือถือก็ยังคงดังต่อไป กู้ม่านจึงจำใจต้องรับในท้ายที่สุด
“มีอะไร?” กู้ม่านถามเสียงเย็นชา
“กู้ม่าน ลูกสาวของเธอตบหน้าเซียวเซียวเช้านี้ ถ้าเธอไม่พากู้หนิงมาขอโทษเซียวเซียว ฉันจะให้เธอสองคนชดใช้แน่!” หลินหลี่หยวนร้องตะโกน
กู้ม่านแปลกใจในตอนแรก จากนั้นก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เธอไม่โทษกู้หนิงเลยสักนิด แต่ตั้งคำถามกับหลินหลี่หยวนแทน “พี่รู้เหรอว่าทำไมหนิงหนิงถึงตบเซียวเซียว? พี่คิดว่าหนิงหนิงต้องถูกรังแกและเอาแต่เงียบในขณะที่เซียวเซียวทำตัวเหนือกว่าลูกสาวของฉัน?”
หลินหลี่หยวนไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย เธอเอ่ยอย่างเย่อหยิ่ง “แน่นอน กู้หนิงไม่มีทางเทียบเซียวเซียวที่เป็นลูกสาวสุดที่รักของพวกเรา ในขณะที่กู้หนิงก็เป็นได้แค่ยัยเด็กไม่มีพ่อ!”
“หลินหลี่หยวน!” ใบหน้าขอกู้ม่านเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ “หยุดเรียกหนิงหนิงว่าเด็กไม่มีพ่อนะ เธอเป็นลูกสาวของฉัน!”
“แล้วไงล่ะ? เธอก็ไม่มีพ่ออยู่ดี เธอมันเป็นเด็กไม่มีพ่อ ยัยเด็กเหลือขอ!” หลินหลี่หยวนยังคงพูดต่อ
กู้ม่านเจ็บลึกที่หัวใจ แต่ไม่อาจหาคำพูดมาโต้เถียงกลับได้ เธอวางสายและร้องไห้
หนิงหนิงมีพ่อ พวกเธอไม่ได้ถูกทิ้ง พ่อของหนิงหนิงเสียชีวิตไปแล้ว
หลินหลี่หยวนถูกกู้ม่านตัดสายทิ้ง เธอหงุดหงิดแทบจะปามือถือทิ้ง หลังจากผ่านไปสักพัก เธอก็โทรหาอีกครั้งเพราะเธอยังไม่จบเรื่อง
อย่างไรก็ตามกู้ม่านก็ไม่รับโทรศัพท์ หลินหลี่หยวนจึงใช้เบอร์แม่ของกู้ม่านโทรเข้าไปแทน กู้ม่านก็ไม่รับสายอีกเช่นกัน
ทั้งหลินหลี่หยวนและแม่ของกู้ม่านต่างพากันอารมณ์เสีย
“พวกมันกล้าดียังไงถึงทำแบบนั้น! นี่พวกมันคิดจะออกจากตระกูลกู้จริงๆงั้นรึ? คิดว่าจะอยู่รอดได้โดยไม่มีเรางั้นรึ?” แม่ของกู้ม่านตะคอกเสียงดัง
ถ้ากู้ม่านและกู้หนิงได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด พวกเธอสองแม่ลูกคงหัวเราะด้วยความโกรธ
กว่าหลายปีที่ผ่านมา ครอบครัวกู้ไม่เคยช่วยเหลือพวกเธอเลย กู้ม่านและกู้หนิงต้องพึ่งพากันและกัน
และบ้านหลังเก่าที่พ่อของกู้ม่านเหลือไว้ให้ กู้ม่านยังต้องจ่ายค่าเช่า!
ฉินเจิ้งส่งข้อความหากู้เซียวเซียวเพราะเธอไม่เข้าเรียน จากนั้นเขาถึงรู้ว่ากู้หนิงตบกู้เซียวเซียว และกู้เซียวเซียวก็ได้กลับบ้านไปแล้ว
เมื่อรับรู้ว่ากู้หนิงตบกู้เซียวเซียว ฉินเจิ้งก็โกรธกู้หนิง แต่เขาไม่ได้โกรธอย่างที่เขาคิดว่าจะเป็น เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
ในห้องเรียนสี่ จ้าวเฟยเฟยมองกู้หนิงอย่างไม่เป็นมิตรเหมือนทุกที และกู้หนิงไม่สนใจเธอ
หลังจากจบคาบเรียนช่วงเช้า ฉู่เพ่ยหานก็เดินมายังห้องสี่ด้วยความโกรธเกรี้ยว
ทุกคนคิดว่าฉู่เพ่ยหานมาหาเรื่องกู้หนิง บางคนเป็นห่วงกู้หนิงในขณะที่อีกคนก็รอที่จะชมละครฉากเด็ด
จริงแล้วๆมีเพียงจ้าวเฟยเฟยและเพื่อนของเธอที่รอรับชมละครฉากนี้
ถึงอย่างนั้นกู้หนิงก็ปรายตามองฉู่เพ่ยหานอย่างใจเย็น เธอไม่เชื่อว่าฉู่เพ่ยหานจะมาหาเรื่องเธอ
ฉู่เพ่ยหานเดินเข้าไปหากู้หนิง เธอยืนและจ้องหน้ากู้หนิงจากมุมสูง เธอมองอย่างหงุดหงิด “ยินดีด้วย กู้หนิง! ฉันไม่ได้มาโรงเรียนสองวันและเธอก็กลายเป็นจุดสนใจไปแล้ว ตอนนี้ไม่มีใครสนว่าฉันเป็นผู้หญิงที่แข่งแกร่งที่สุดในโรงเรียนแล้ว”
กู้หนิงเอนหลังไปพิงเก้าอี้ แขนของเธอไขว้กอดอกไว้ เธอดูสบายแล้วถามอย่างใจเย็น
“งั้นเหรอ?”
งั้นเหรอ? ทุกคนคิดว่าจะมีการต่อสู้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามพวกเขาเข้าใจผิดอย่างแรง
“ถ้างั้นฉันจะเข้าร่วมกับเธอ! ฉันจะเรียกเธอว่าบอส และเธอต้องสอนวิธีต่อสู้ให้ฉัน แน่นอนว่าเธอย่อมได้รับการสนุบสนุนจากฉัน บอกฉันได้ทุกเมื่อ” ฉู่เพ่ยหานเอ่ยอย่างจริงใจ
ทุกคนตกใจ พวกเขาไม่ได้จะสู้กันเหรอ? เป็นไปได้ยังไง? ทำไมพวกเขาถึงกลายมาเป็นพวกเดียวกันได้? จ้าวเฟยเฟยกับเพื่อนยอมรับไม่ได้!
ทำไมกู้หนิงถึงโชคดีที่ได้เด็กนักเรียนที่มีอำนาจอย่างพวกเขาเป็นเพื่อน?
“โอเค” กู้หนิงไม่ได้ปฏิเสธ
เป็นไปตามที่ฉู่เพ่ยหานคาดหวังไว้ ตอนนี้เธอรู้สึกตื่นเต้น
ฉู่เพ่ยหานใช้ปากกาบนโต๊ะกู้หนิงเพื่อเขียนเบอร์โทรลงบนสมุดพกของเธอ “นี่เบอร์โทรของฉัน ส่งข้อความหาฉันด้วยล่ะ” จากนั้นเธอก็หมุนตัวเดินออกจากห้องไป
เมื่อกู้เซียวเซียวกลับมาถึงบ้าน ย่าและแม่ของเธอเห็นรอยแดงบนแก้มของเธอ และทั้งคู่ก็โกรธกู้หนิงจนแทบจะกระอักเลือดตาย
ในช่วงพักระหว่างคาบเรียน อาจารย์ประจำชั้นก็ถามกู้หนิงเกี่ยวกับอาการของแม่เธอ กู้หนิงไม่ได้ปิดบังความจริง เธอไม่ได้บอกถึงเหตุผลที่ว่าทำไมแม่เธอถึงตกบันได
เมื่อคาบเช้าจบลง กู้หนิงก็เดินออกจากโรงเรียนโบกแท็กซี่กลับไปยังบ้าน
เธอเก็บแต่ของสำคัญและทิ้งของที่ไม่ใช้แล้วโยนลงถังขยะ จากนั้นก็ออกจากบ้านกู้หนิงไปยังบริษัทขนส่งเพื่อส่งกุญแจบ้านคืนให้ย่าของเธอก่อนจะไปที่โรงพยาบาล
เมื่อเธอมาถึงโรงพยาบาลก็เป็นเวลาเกือบบ่ายโมงสี่สิบ อีกห้าสิบนาทีคาบบ่ายถึงจะเริ่ม กู้หนิงไม่มีเวลามากนัก เธอขอตัวออกมาหลังจากพูดคุยกับแม่นิดหน่อย
เธอจะรอจนกว่าจะเลิกคาบเรียนตอนเย็น จากนั้นถึงจะคุยกับแม่ของเธอ
วันนี้เป็นวันพฤหัสบดี กู้หนิงวางแผนจะไปเมือง G พรุ่งนี้บ่าย เธอจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมเรียบร้อยแล้วเมื่อวาน
เธอจะบินไปยังเมือง G ตอนหนึ่งทุ่มครึ่งและถึงราวสองทุ่มครึ่ง