ตอนที่ 281: ล้มเหลว
เมื่อเห็นปืนถูกชักออกมา หยวนซูหยาก็หน้าซีดด้วยความตกใจ ถึงแม้ว่าเธอจะฝึกกังฟูมาแต่ก็ไม่อยากถูกฆ่าด้วยการถูกปืนยิงหรอกนะ
กู้หนิงกับเลิ่งเชาถิงยังนิ่งสงบ แต่ภายในใจพวกเขาไม่พอใจมาก จ้องหวางจื้อหลินเขม็ง
“ฉันคิดว่าคุณเก็บปืนไปดีกว่านะ ไม่อย่างนั้นคุณอาจถูกจับเข้าคุกได้” กู้หนิงเอ่ยเสียงเย็น
หวางจื้อหลินไม่รู้ว่าเลิ่งเชาถิงเป็นทหาร ถ้าเขารู้แล้วยังเล็งปืนใส่ เลิ่งเชาถิงอาจถูกยิงได้
“ชิ แกคิดว่าแกจับฉันเข้าคุกได้งั้นเรอะ? ฉันมีตระกูลหวางคอยซัพพอร์ต และฉันสามารถโยนพวกแกทุกคนเข้าคุกได้โทษฐานทำร้ายตำรวจ!”
ตำรวจสามคนที่อยู่ด้านนอกวิ่งเข้ามาหลังจากได้ยินเสียงดัง พวกเขาทุกคนทำหน้าประหลาดใจเมื่อพบว่าเพื่อนร่วมงานสี่คนถูกต่อยล้มไปนอนคุดคู้ที่พื้น
ผู้ชายคนนั้นทำคนเดียวรึเปล่า? พวกเขามองไปที่เลิ่งเชาถิง
หวางจื้อหลินออกคำสั่งโดยไม่รอช้าว่า “มองอยู่นั่น! จับพวกมันเข้าคุกเดี๋ยวนี้!”
หวางจื้อหลินคิดว่าเลิ่งเชาถิงคงไม่กล้าขัดขืนในครั้งนี้ แต่น่าเสียดายที่เขาคิดผิด
ขณะที่ตำรวจสามนายเดินเข้ามาใกล้ เลิงเชาถิงก็ต่อยพวกเขาทั้งหมดจนล้มภายในไม่กี่วินาที
หวางจื้อหลินทั้งโกรธและตกใจ เขายกนิ้วพร้อมที่จะยิงเลิ่งเชาถิง อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะลั่นไก ข้อมือของเขาก็ถูกจับและปืนก็หลุดออกจากมือของเขา
เมื่อเห็นกู้หนิงยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับปืนที่อยู่ในมือของเธอ หวางจื้อหลินรู้สึกหวาดกลัวและก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว “แก…ได้ไง?”
เขาตกใจกับความว่องไวและการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันของกู้หนิง
“แกกล้าคว้าปืนฉันได้ยังไง! แกจะต้องโทษประหารชีวิต!” หวางจื้อหลินขู่
“งั้นเหรอ? คุณสามารถทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ?” กู้หนิงหัวเราะเยาะราวกับเขาไม่มีตัวตนในสายตาของเธอ
“แก…” หวางจื้อหลินไม่เชื่อว่ากู้หนิงจะกล้ายิงเขา แต่เขากลัวว่าเธอจะเผลิงยิงโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ฉันเป็นคนตระกูลหวาง! ถ้ากล้าทำร้ายฉัน ตระกูลหวางจะไม่ปล่อยให้แกหนีไปแน่!”
“น่าสนใจ เพราะฉันก็ไม่คิดจะปล่อยตระกูลหวางไปอยู่แล้วเหมือนกัน!” กู้หนิงเอ่ยเสียงเย็น
ในตอนนั้นเองโทรศัพท์มือถือของหวางจื้อหลินก็ดังขึ้น คนที่โทรมาคือหัวหน้าสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะเมืองเถิง ‘จางหยวนเฉิง’
หวางจื้อหลินตอบทันที “สวัสดีครับหัวหน้า มีอะให้ผมรับใช้ครับ?”
เมื่อหวางจื้อหลินพูดจบ จางหยวนเฉิงก็คำรามขึ้นจากอีกด้าน “หวางจื้อหลิน วันนี้ได้นายจับกุมผู้ชายและผู้หญิงสองคนไหม? ถ้านายจับพวกเขามา รีบปล่อยพวกเขาไปซะ ไม่งั้นนายจะถูกไล่ออก!”
หวางจื้อหลินตัวสั่นด้วยความกลัว และมองไปที่เลิ่งเชาถิง กู้หนิง และหยวนซูหยา
เสียงคำรามของจางหยวนเฉิงดังรอดออกมา ทุกคนที่อยู่ในห้องได้ยินคำสั่งของเขากันหมด ตำรวจมองหน้ากันเลิ่กลัก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
พวกเขาเป็นใคร? และทำไมหัวหน้าสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะเมืองเถิงถึงโทรมาบอกให้ปล่อยตัวพวกเขาไป?
กู้หนิงเองก็หันไปมองเลิ่งเชาถิง เลิ่งเชาถิงพยักหน้าเป็นคำตอบ
“หัวหน้า ผมขอถามได้ไหมครับว่าพวกเขาเป็นใคร?” หวังจื้อหลินถามในขณะที่เสียงสั่น แม้ว่าเขาจะเป็นสมาชิกของตระกูลหวาง แต่เขาก็เป็นแค่ญาติห่างๆ ดังนั้นเขาจึงไม่มีตำแหน่งที่จะหยิ่งผยองต่อหน้าใครๆได้
จางหยวนเฉิงไม่ได้เป็นแค่หัวหน้าของเขาเท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลด้วย ถ้าจางหยวนเฉิงอยากจะเผาเขาทั้งเป็น ตระกูลหวางก็ช่วยเขาไม่ได้ หวางจื้อหลินเป็นคนอวดดีก็จริง แต่ก็รู้ว่าเมื่อไหร่ควรถอย
“แล้ววันนี้นายจับใครมาล่ะ? ปัดโธ่!” จางหยวนเฉิงคำรามอีกครั้ง ตัวเขาเองก็ไม่ทราบชื่อคนพวกนั้นเหมือนกัน เพราะหัวหน้าของเขาไม่ได้บอกรายละเอียด เพียงแต่สั่งเขาให้ปล่อยคนพวกนั้นทันที
การทะเลาะวิวาทไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ครั้งนี้หวางซินหยวนซึ่งเป็นลูกสาวของตระกูลหวางมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย และตระกูลหวางตั้งใจที่จะลงโทษกู้หนิง ไม่มีใครกล้าหยุดพวกเขา แต่อยู่ดีๆบุคคลสำคัญจากเขตทหารเรียกร้องให้ปล่อยพวกเขาไป
“ไม่ ไม่ พวกเราไม่ได้..” หวางจื้อหลินรีบปฏิเสธ เขากระซิบพูดเสียงเบาว่า “หัวหน้า พวกเขามีเรื่องกับตระกูลหวางนะครับ!”
“แล้วยังไง? รีบปล่อยพวกเขาเดี๋ยวนี้!” จางหยวนเฉิงหมดความอดทน
หวางจื้อหลินตระหนักได้ทันทีว่าทั้งสามคนที่เขาจับกุมในวันนี้ต้องมีอิทธิพลมากกว่าตระกูลหวาง แม้ว่าตระกูลหวางจะขอให้เขาจับเข้าคุก แต่ตอนนี้เขาต้องทำตามคำสั่งของจางหยวนเฉิง และตระกูลหวางจะต้องละทิ้งเขาเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป
หลังจากที่เขาคุยกับจางหยวนเฉิงเสร็จ ท่าทีของหวางจื้อหลินต่อเลิ่งเชาถิงก็เปลี่ยนไป “เอ่อ ผมต้องขอโทษสำหรับการกระทำของผมและคำพูดของผมด้วย ตอนนี้พวกคุณไปได้แล้วครับ”
กู้หนิงไม่อยากเสียเวลากับหวางจื้อหลิน เธอเดินออกไปทันที
เมื่อพวกกู้หนิงจากไปแล้ว หวางจื้อหลินก็โทรหาหวางหงหมิงทันที
“ลุงหวาง” เสียงของหวางจื้อหลินยังสั่นด้วยความกลัว
“ว่าไง? จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว?” หวางหงหมิงเอ่ยถามสบายๆ ในสายตาของเขาในเมืองเถิงไม่มีใครสามารถต่อกรตระกูลหวางได้
“ผมขอโทษครับลุงหวาง หัวหน้าสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะโทรมาบอกให้ผมปล่อยพวกมันไป” หวางจื้อหลินเอ่ยขอโทษ
“อะไรนะ? จางหยวนเฉิงโทรมาหาแกด้วยตัวเอง บอกให้ปล่อยพวกมันไป? พวกมันเกี่ยวข้องอะไรกับจางหยวนเฉิง?” หวางหงหมิงตะลึง
“ผะ..ผมก็ไม่ทราบครับ” หวางจื้อหลินปาดเหงื่อ
“จางหยวนเฉิงรู้ไหมว่าพวกมันมีเรื่องกับพวกเรา?” หวางหงหมิงถามอย่างคนทะนงตน ราวกับว่าตระกูลหวางไม่สามารถก้าวล่วงได้
“เขาทราบครับ แต่เขาไม่สนใจ! ผมคิดว่าพวกมันมีคนที่มีอำนาจมากอยู่เบื้องหลัง” หวางจื้อหลินตอบ
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหวางหงหมิงก็ไม่พอใจ แต่มือของเขาถูกมัดเสียแล้ว
ตอนที่ 282: การเปิดตัวผู้ให้บริการหยกของกู้หนิง
“ช่างเถอะ ฉันจะหาทางอื่นเอง” หวางหงหมิงไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้โทษหวางจื้อหลิน หลังจากนั้นเขาก็วางสาย
หวางจื้อหลินรู้สึกโล่งใจที่หวางหงหมิงไม่ได้ตำหนิเขา
หวางซินหยวนที่ยืนอยู่ข้างๆหวางหงหมิง เมื่อได้ยินว่าแผนของพวกเขาล้มเหลว เธอดึงดันไม่ยอมแพ้ “คุณปู่ อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปง่ายๆนะคะ!”
“เอาน่า เอาน่า ปู่ไม่ปล่อยพวกมันไปหรอก” แม้ว่าหวางหงหมิงจะสัมผัสได้เลาๆว่ากู้หนิงไม่ธรรมดา แต่เขาก็ยังพยายามปกป้องศักดิ์ศรีของตระกูลหวาง ในตอนแรกหวางหงหมิงแค่ช่วยหวางซินหยวนลงโทษพวกเขา แต่ตอนนี้เขาทำเพื่อตัวเอง เพราะเขารู้สึกอับอายที่ตระกูลหวางไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้
หลังจากกลุ่มของกู้หนิงออกจากสถานีตำรวจ กู้หนิงก็บอกหยวนซูหยาอีกครั้งว่าเธอสามารถโทรมาได้หากมีอะไรเกิดขึ้น เพราะตระกูลหวางจะไม่ยอมแพ้แค่นี้ ครั้งนี้ตระกูลหวางทำให้กู้หนิงโมโหจริงๆ ต่อให้ตระกูลหวางอยากถอนตัว เธอก็ไม่อนุญาตให้พวกเขายอมแพ้หนีไปง่ายๆ หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ หยวนซูหยาและกู้หนิงก็ลงเรือเดียวกันแล้ว
หยวนซูหยาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเธอไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้กับตระกูลหวางได้ และเธอก็ไม่อาจทนต่อการกลั่นแกล้งของหวางซินหยวนได้อีกต่อไป โชคดีที่ตอนนี้เธอได้รับการช่วยเหลือจากกู้หนิง ดังนั้นเธอจึงเต็มใจมาก เธอจะโทรหากู้หนิงแน่นอน
เมื่อพวกเขาออกมาจากสถานีตำรวจก็เที่ยงแล้ว กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงนั่งแท็กซี่กลับไปที่โรงแรม แล่วค่อยขับรถเช่าไปที่โรงงาน
เมื่อพวกเธอกลับไปที่โรงแรม พนักงานต้อนรับทุกคนต่างประหลาดใจที่เห็นพวกเธอกลับมาอย่างปลอดภัย เพราะพวกเขาได้ยินมาว่าลูกสาวของตระกูลหวางมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ตระกูลหวางเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเมืองเถิง หากพวกเธอสามารถต่อกรคุณหนูหวางได้และยังกลับมาอย่างปลอดภัย ดังนั้นพวกเธอจะต้องมีอิทธิพลมากกว่าตระกูลหวาง!
ระหว่างทางไปโรงงาน กู้หนิงได้ส่งข้อความถึง K เธอต้องการให้เขาค้นหาพฤติกรรมและหลักฐานที่ผิดกฎหมายของตระกูลหวางโดยเร็วที่สุด ตราบเท่าที่เธอสามารถได้รับหลักฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายของตระกูลหวาง เธอก็สามารถถอนรากถอนโคนพวกเขาได้อย่างง่ายดาย กู้หนิงไม่เชื่อว่าตระกูลหวางไม่ได้ทำสิ่งผิดกฎหมาย
เมื่อกู้หนิงมาถึงโรงงาน ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการทำงาน
กู้หนิงบอกให้พวกเขาบรรจุหยกที่เจียระไนแล้วย้ายไปที่ร้าน หลังจากนั้นเธอขอให้เจิ้งเผิงส่งข้อความไปยังตัวแทนของบริษัทเครื่องประดับ เธอจะจัดประมูลประมาณ 14.00 น. ที่ร้านผู้ให้บริการหยกหลากสี
อีกครึ่งชั่วโมงถึงจะบ่ายสอง ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจทานข้าวกลางวันก่อนกลับไปที่ร้าน เกาอี้และเฉียวหยาช่วยไปซื้อข้าวกล่องมาให้
เมื่อวานนี้ตัวแทนของบริษัทเครื่องประดับทั้งหมดได้ยินมาว่า ผู้ให้บริการหยกหลากสีจะวางจำหน่ายหยกในวันนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงส่งคนไปรอที่หน้าสำนักงานผู้ให้บริการหยกหลากสี เมื่อหยกวางขายแล้วพวกเขาจะรีบมาโดยไม่รอช้า อย่างไรก็ตามในช่วงเช้าประตูของสำนักงานผู้ให้บริการหยกหลากสียังคงปิดสนิทซึ่งทำให้พวกเขาวิตกกังวล โชคดีที่แต่ละคนได้รับข้อความของเจิ้งเผิงก่อนเที่ยง
หลังจากทานข้าวเสร็จ กลุ่มของกู้หนิงก็เคลื่อนตัวไปที่ถนนพนันหิน
กู้หนิงกับเลิ่งเชาถิงไม่ได้ปรากฏตัวพร้อมกับเจิ้งเผิง พวกเธอมาถึงก่อนหน้าเขาเล็กน้อยแสร้งทเป็นคนดู
ประมาณ 12:15 น. มีคนจำนวนมากรออยู่ด้านนอกสำนักงานผู้ให้บริการหยกหลากสี บางคนถูกส่งมาจากตัวแทนของบริษัทเครื่องประดับ บางคนเป็นนักธุรกิจที่ต้องการซื้อหยก บางคนเป็นผู้สังเกตการณ์ และบางคนมาจากผู้ให้บริการหยกรายอื่น
โดยเฉพาะผู้ให้บริการหยกรายใหญ่ที่สุดสามรายในเมืองเถิง พวกเขาส่งคนมารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับร้านของเจิ้งเผิง
อันที่จริงมีผู้ให้บริการหยกอย่างน้อยแปดรายในเมืองเถิง แต่ตระกูลจาง ตระกูลหวาง และตระกูลลู่เป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุด เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าหยกหาได้ยาก ดังนั้นธุรกิจหยกจึงทำกำไรสูง
จ้าวหยูเฟิงก็มาด้วยเหมือนกัน และเขาทักกู้หนิงทันทีที่เห็นเธอ “คุณกู้ บังเอิญจังเลย!”
“สวัสดีค่ะคุณจ้าว” กู้หนิงทักทายกลับ
จ้าวหยูเฟิงกำลังรีบเข้าร่วมการประมูล ดังนั้นเขาจึงไม่ได้หยุดคุยกับกู้หนิงนานนัก
เจิ้งเผิงและพนักงานของเขามาถึงทีหลัง ตามมาด้วยตัวแทนจากบริษัทเครื่องประดับ
เจิ้งเผิงจัดให้พวกเขานั่งที่เก้าอี้
ร้านมีพื้นที่จำกัด ดังนั้นมีเพียงตัวแทนจากบริษัทเครื่องประดับและนักธุรกิจเท่านั้นที่มีที่นั่ง เจิ้งเผิงนำเก้าอี้ทั้งหมดออกมา และมันแทบจะไม่เพียงพอ โชคดีที่มีเพียง 20 คนเท่านั้นที่เข้าร่วมการประมูล
หลังจากที่แขกทุกคนนั่งเรียบร้อย เจิ้งเผิงก็ได้กล่าวเปิดงาน "สวัสดีตอนเช้าคุณผู้หญิงและสุภาพบุรุษ ผู้ให้บริการหยกหลากสีก่อตั้งอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ผมในนามของบริษัทผู้ให้บริการหยกหลากสีขอบคุณทุกคนที่มาเยี่ยมร้านของเราวันนี้ครับ!”
“ผมเป็นผู้จัดการทั่วไป ‘เจิ้งเผิง’” เขาแนะนำตัวเองว่าเป็นผู้จัดการทั่วไปซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ใช่เจ้าของ จากนั้นเขาก็เริ่มบอกวิธีการขายของผู้ให้บริการหยกหลากสีซึ่งเป็นสองวิธีที่กู้หนิงบอกเขา
วิธีแรกพวกเขาจะวางขายหยกโดยตรงสัปดาห์ละครั้งและจำกัดจำนวนไว้ที่ห้าชิ้น เจิ้งเผิงไม่ได้กล่าวถึงระดับของหยก เพราะไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไรจนกว่าหยกจะถูกตัดออก
วิธีที่สองพวกเขาสามารถจัดหาหยกระหว่างหนึ่งถึงสามชิ้นให้กับนักธุรกิจเครื่องประดับทุกเดือน แต่พวกเขาไม่สามารถสัญญาว่าจะสามารถตัดหยกระดับสูงออกมาได้ในแต่ละเดือน แต่สัญญาว่าจะจัดหาหยกระดับกลางให้พวกเขาอย่างน้อยที่สุด อย่างไรก็ตามนักธุรกิจเครื่องประดับต้องเซ็นสัญญากับผู้ให้บริการหยกหลากสีล่วงหน้า และจะได้รับหยกทุกเดือนเป็นเวลาสองปี มิฉะนั้นพวกเขาจะต้องจ่ายค่าเสียหายกรณีผิดสัญญา
เจิ้งเผิงแนะนำวิธีการขายสองวิธีและเป็นการเสร็จสิ้นพิธีเปิดงาน