ตอนที่ 275: ซื้อหินจำนวนมาก
เจิ้งเผิงกำลังรอสายของกู้หนิงและพร้อมที่จะออกเดินทางได้ทุกเมื่อ ดังนั้นกู้หนิงจึงนั่งรถแท็กซี่มุ่งหน้าไปยังถนนหินพนันโดยไม่รอช้า ระหว่างทางเลิ่งเชาถิงโทรมาบอกว่าการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจะเรียบร้อยในบ่ายวันนี้ กู้หนิงรู้สึกประหลาดใจกับประสิทธิภาพของเขา แต่เมื่อนึกถึงภูมิหลังของเลิ่งเชาถิง กู้หนิงก็เชื่อว่าเขาสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้
โกดังเก็บหินของตระกูลหวางอยู่ไม่ไกลจากถนนพนันหิน ขับรถมาสี่นาทีก็มาถึง พื้นที่โรงงาน 3,400 ตารางเมตรพร้อมอาคารสามหลัง ขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ถูกสร้างขึ้นโดยตระกูลหวาง ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นเจ้าของมัน
นอกจากธุรกิจผู้ให้บริการหิน ตระกูลหวางยังเกี่ยวข้องกับธุรกิจเครื่องประดับ เสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ โรงงานผลิตของพวกเขาทั้งหมดอยู่ในพื้นที่นี้
โกดังเก็บหินอยู่ในห้องใต้ดินของอาคาร A มีขนาดประมาณ 7 ตารางเมตร ประกอบด้วยพื้นที่เล็กๆ 4 พื้นที่ A, B, C และ D ราคาแตกต่างกันออกไป
แม้ว่าหินทั้งหมดจะผ่านการคัดเลือกและจัดประเภทแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าหินราคาถูกจะไม่มีหยก
ผู้ซื้อสามารถเลือกหินทีละก้อนๆ แต่หินที่กองสูงขนาดนี้คงยากที่จะเลือกหินที่อยู่ด้านล่าง คนซื้อส่วนใหญ่จึงได้แต่หินที่อยู่ด้านบนซะส่วนมาก แต่ไม่ใช่สำหรับกู้หนิง เธอจะไม่มีวันพลาดหินที่มีหยกอยู่ข้างใน
แต่ละกองมีหินราว 10,000 ก้อน แต่มีหยกเพียงร้อยกว่าชิ้นและหยกส่วนใหญ่มีคุณภาพต่ำ
ครั้งนี้กู้หนิงมีแผนจะกว้านซื้อหินที่มีหยกระดับสูงกว่าระดับกลางทั้งหมด
เธอปล่อยให้เจิ้งเผิงเข็นรถเข็นขณะที่เธอกำลังเลือกหิน
กู้หนิงเลือกหินด้วยความเร็วแสง ทำอย่างกับว่าเธอไม่ได้ตั้งใจเลือก พนักงานในโกงดังไม่เอ่ยปากพูดอะไรแม้ว่ากู้หนิงจะซื้อหินทั้งหมด พวกเขาไม่เชื่อว่าเธอจะตัดหยกออกมาได้
เจิ้งเผิงมีอารมณ์ที่หลากหลาย แม้ว่ากู้หนิงจะบอกเขาว่าเธอมีทักษะพิเศษในการพนันหิน แต่เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเธอจะสามารถตัดหยกออกได้จริงรึเปล่า ที่สำคัญที่สุดคือกู้หนิงจะเป็นผู้ให้บริการหยก พวกเขาต้องตัดหยกจำนวนมากให้ได้! อย่างไรก็ตามเจิ้งเผิงไม่ได้พูดอะไร เพราะกู้หนิงเป็นเจ้านายของเขา
ภายในเวลาสองชั่วโมง กู้หนิงก็เลือกเอาหินที่หยกระดับสูงมากกว่าระดับกลางทั้งหมด เธอได้หินไปทั้งหมด 1,300 ก้อน โดยมีหยกระดับท็อป 20 ก้อน หยกระดับสูง 70 ก้อน พยกระดับกลางค่อนสูงราวๆ 300 ก้อน หยกระดับกลาง 400 ก้อน ส่วนที่เหลือเป็นระดับกลางค่อนไปต่ำ
ราคารวมของหินไม่สูงมากเพราะซื้อจากโรงงานโดยตรง นอกจากนี้พวกเขาต้องการรถบรรทุกขนาดกลางสองคันเพื่อขนถ่านหิน
มีรถบรรทุกจำนวนมากในโรงงานของตระกูลหวาง และมีบริการส่งสินค้าภายในเมืองเถิง ได้ฟรี
เมื่อกู้หนิงกลับมาที่โรงงานของตัวเอง กู้หนิงก็โทรเรียกเกาอี้และเฉียวหยามาช่วยเคลื่อนย้ายหิน
เกาอี้และเฉียวหยาต่างตกใจเมื่อเห็นรถบรรทุกสองคันที่บรรทุกหินเต็มคันรถ
ส่วนเจิ้งเผิงทำตาโตเมื่อเห็นโรงงานขนาดใหญ่ “บอส คุณเช่าทั้งตึกนี่เลยหรอครับ?”
“ฉันไม่ได้เช่าค่ะ ฉันซื้อ” กู้หนิงตอบ
“อะไรนะครับ? คุณชื้อมันเหรอ?” เจิ้งเผิงตกใจมาก กู้หนิงรวยจริงๆที่สามารถซื้อตึกทั้งตึกได้
หลังจากนั้นพวกเขาก็ช่วยกันลำเลียงหินไปยังห้องชั้นใต้ดิน
มี 4 โกดังในชั้นใต้ดิน สามแห่งเป็นโกดังขนาดเล็กพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 100 ตารางเมตรและแต่ละแห่งมีพื้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตรในขณะที่คลังสินค้าที่ 1 มีขนาด 300 ตารางเมตร
กู้หนิงบอกพวกเขาขนก้อนหินไปไว้ในห้องหมายเลข 4
หลังจากเคลื่อนย้ายหินไปเก็บในโกดังแล้ว กู้หนิงก็แนะนำพวกเขาให้รู้จักกันก่อนไปทานข้าวด้วยกัน
ระหว่างทานอาหาร ในที่สุดเจิ้งเผิงก็ถามกู้หนิงว่า “บอส คุณแน่ใจนะครับว่ามีหยกอยู่หินที่เราซื้อมา?”
กู้หนิงยิ้ม “พวกเราจะรู้ก็ต่อเมื่อตัดมันออกมา”
ถึงแม้ว่ากู้หนิงจะมั่นใจ เธออยากให้พวกเขาเห็นด้วยตาตัวเองดีกว่า
ในเมื่อกู้หนิงพูดเช่นนั้น เจิ้งเผิงก็ไม่ได้ถามอะไรอีก
หลังจากมื้ออาหาร เจิ้งเผิงก็กลับไปตกแต่งร้านของเขาต่อ
กู้หนิงโทรหาจางเต๋อเชิงและบอกเขาว่าเธอกำลังยุ่งอยู่กับการหาหิน เธอเพิ่งได้รับหินจำนวนมากจากตระกูลหวาง และเธอก็โทรหาตระกูลจางทันที ในความเป็นจริงเธอกำลังรีบแต่เธอไม่รู้ว่าจะอยู่ที่เมืองเถิงได้นานแค่ไหน ดังนั้นเธอจึงต้องการจัดการกับมันโดยเร็วที่สุด
จางเต่อเชิงเกษียณแล้วและส่งมอบธุรกิจของครอบครัวให้กับลูกชายของเขา ดังนั้นตอนนี้เขาจึงว่างเสมอ เขาบอกที่อยู่ของโกดังของเขาให้กู้หนิงทราบ และไปพบเธอที่นั่น
กู้หนิงไปพบจางเต๋อเชิงพร้อมกับเกาอี้และเฉียวหยา
โกดังของตระกูลจางอยู่ไม่ไกลจากถนนพนันหินเช่นกัน แต่อยู่ทางตรงกันข้ามกับโกดังตระกูลหวาง
โกดังของตระกูลจางก็อยู่ในอาคารที่แยกจากกันเช่นเดียวกับโกดังของตระกูลหวาง แต่มีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย พวกเขามีอาคารสามหลังด้วยกัน สองแห่งเป็นโรงงาน ส่วนหลังสุดท้ายเป็นหอพักพนักงาน
ตอนที่กู้หนิงมาถึง นายท่านจางก็มารอด้านนอกทางเข้าโรงานแล้ว
เมื่อเห็นกู้หนิง จางเต๋อเชิงก็ลงจากรถและมาต้อนรับเธอ “ยินดีที่ได้เจอ หนูกู้”
“นายท่านจาง ขอโทษด้วยค่ะที่ทำให้รอ” กู้หนิงเอ่ยขอโทษ
“ไม่เป็นไร ฉันก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน เข้าไปข้างในกันเถอะ” จางเต๋อเชิงเอ่ย จากนั้นก็พากู้หนิงและคนผู้ติดตามเข้าไปข้างใน
เมื่อมากับจางเต๋อเชิง พวกเขาไม่ต้องลงทะเบียน เดินเข้าไปข้างในโดยไม่มีปัญหา
หินของตระกูลจางก็แบ่งออกเป็นสี่ระดับ A B C D
กู้หนิงไม่ได้วางแผนที่จะทำแบบเดียวกับที่เธอทำในโกดังของตระกูลหวาง เพราะนั่นเธอตั้งใจจะแก้แค้นตระกูลหวาง ส่วนตระกูลจาง กู้หนิงจะไม่นำหินทั้งหมดที่มีหยกไป เธอตัดสินใจที่จะซื้อหินครึ่งหนึ่งซึ่งมีหยกสูงกว่าระดับปานกลาง
ท้ายสุดกู้หนิงได้หินไป 400 ก้อน ซึ่งมีหินเพียง 300 ก้อนเท่านั้นที่มีหยก จากนั้นกู้หนิงก็กลับไปที่โกดังของเธอ
ตอนที่ 276: ใช้เวลาช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วยกัน
แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมากที่มีหินที่ใช้ไม่ได้เพียง 70 ก้อนในบรรดาหินหลายร้อยก้อน แต่ก็เป็นที่ยอมรับได้แทนที่จะไม่มีเลย
เมื่อพวกเขาย้ายหินมาเก็บในโกดังก็เป็นเวลาสี่โมงครึ่ง กู้หนิงโทรหาเจิ้งเผิง
อีกฝั่งรับสาย กู้หนิงก็ได้ยินเสียงสนทนาดังขึ้นจากอีกด้านหนึ่ง บางคนพูดถึงผู้ให้บริการ Colorful
“ครับ บอส” เจิ้งเผิงเอ่ย
“ลุงเจิ้ง ร้านเป็นยังไงบ้างคะ?” กู้หนิงถาม
“เพิ่งเสร็จครับ มีคนมากมายมารวมตัวกันนอกสำนักงานเพื่ออยากทำการค้ากับเรา!” เจิ้งเผิงรู้สึกตื่นเต้น เขาก็มีความสุขที่ได้เห็นว่านักธุรกิจจำนวนมากแทบรอไม่ไหวที่จะทำการค้ากับพวกเขาก่อนวันเปิดทำการ มันเป็นการเริ่มต้นที่ดี!
“ดีมากค่ะ บอกพวกเขาว่าพรุ่งนี้เราจะเริ่มให้บริการหยก พวกเขาสามารถมาดูได้พรุ่งนี้บ่าย ตอนนี้ลุงต้องหาคนงานมาตัดหินที่โรงงานเหิงหยวนให้เร็วที่สุด” กู้หนิงตอบ
“ไม่มีปัญหาครับ”
เจิ้งเผิงพาคนงานสองคนไปที่โรงงานเหิงหยวน
ระหว่างพัก กู้หนิงพูดกับเกาอี้และเฉียวหยาว่า “เจิ้งเผิงจะเป็นคนรับผิดชอบบริษัทจัดหาหยก และอีก 17 วันก็จะปีใหม่ ฉันอาจจะไปเมืองหลวง พวกนายอยู่ที่นี่ช่วยเจิ้งเผิง เมื่อฉันกลับไปที่เมือง F แล้วพวกนายค่อยมาที่บ้านฉัน พวกเราจะฉลองปีใหม่ด้วยกัน”
ได้ยินเช่นนั้น ทั้งเกาอี้และเฉียวหยาต่างซาบซึ้งใจ พวกเขาเกือบร้องไห้ พวกเขาสองคนฉลองปีใหม่ด้วยกันสองปีและมันไม่ได้พิเศษอะไรหรือต่างจากวันธรรมดาตรงไหน แต่เมื่อพวกเขาเกิดความรู้สึกคิดถึงบ้าน อยู่ๆกู้หนิงก็ชวนพวกเขาไปที่บ้านของเธอฉลองปีใหม่กับครอบครัวของเธอ เกาอี้และเฉียวหยาอยากไปมาก แต่กังวลว่าจะรบกวนครอบครัวของเจ้านาย
เฉียวหยาถามกู้หนิงว่า “บอส จะไม่รบกวนเหรอคะ?”
“ไม่เลย ที่บ้านฉันมีคนแค่ห้าคน แม่ของฉัน ลุง ป้า แล้วก็ลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่ง แล้วก็ฉัน ตอนนี้พวเธอสองคนติดตามฉันแล้ว ก็ต้องอยู่กับฉันสิ ไว้หลังปีใหม่ฉันจะมอบหมายงานให้ทำ” กู้หนิงกล่าว
“ครับ/ค่ะ”
ก่อนที่เจิ้งเผิงและคนงานทั้งสองจะมาถึง กู้หนิงลงมือตัดหินด้วยตัวเอง นอกจากนี้เธอยังสอนเกาอี้และเฉียวหยาถึงวิธีการตัดหิน เพื่อให้พวกเขาสามารถช่วยเธอได้
แม้ว่าพวกเขาจะมีคนเพียงไม่กี่คนที่รู้วิธีการตัดหิน แต่กู้หนิงไม่ตั้งใจที่จะจ้างคนงานเพิ่มเพราะเธอไม่ต้องการคนเยอะเกินไป
คนงานสองคนนั้นทำงานให้กับเจิ้งเผิงมาเป็นเวลานาน ดังนั้นพวกเขาจึงน่าเชื่อถือ แต่ถ้าพวกเขากล้าที่จะฝ่าฝืนกฎของเธอ กู้หนิงจะลงโทษพวกเขาอย่างไม่ลังเล แน่นอนว่าเธอได้เตือนพวกเขาล่วงหน้าแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่เกาอี้ ส่วนเฉียวหยาเคยตัดหินแล้ว แต่ด้วยความสามารถในการเรียนรู้ ไม่นานพวกเขาก็สามารถทำได้ดี
กู้หนิงวาดเส้นให้พวกเขาก่อน และสิ่งที่พวกเขาต้องทำคือตัดตามเส้น
ยี่สิบนาทีต่อมาเจิ้งเผิงก็มาถึง
พวกเขาเคยพบกันมาก่อนแล้วตอนที่กู้หนิงให้เจิ้งเผิงช่วยเหลือเมื่อวันก่อน คนงานหนึ่งในสองคนอายุประมาณ 50 ปี ในขณะที่อีกคนอายุประมาณ 40 ปี
คนอายุมากกว่าชื่อหลี่เฉวียนเฉิง ส่วนคนอายุน้อยกว่าชื่อจางจิงกวง ทั้งสองคนทำงานให้กับเจิ้งเผิงเป็นเวลาอย่างน้อยเจ็ดปี
เจิ้งเผิงเล่าให้จางจิงกวงและชื่อหลี่เฉวียนเฉิงเกี่ยวกับสิ่งที่กู้หนิงทำเมื่อวานนี้ และทั้งคู่ก็ประหลาดใจที่พบว่ากู้หนิงยังเป็นเด็กวัยรุ่น เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าหยกหาได้ยากมากโดยเฉพาะหยกคุณภาพสูง ดังนั้นหยกจึงมักขายหมดภายในระยะเวลาอันสั้น ทำไมกู้หนิงถึงมั่นใจขนาดนี้?
ทว่ากู้หนิงเป็นคนคลี่คลายปัญหาแก๊งฉิง ดังนั้นพวกเขาจึงเชื่อว่ากู้หนิงต้องมีฝีมือ
หลังจากการแนะนำของเจิ้งเผิง หลี่เฉวียนเฉิงและจางจิงกวงก็ทักทายกู้หนิงด้วยความเคารพน้อบน้อม “ยินดีที่ได้พบครับ บอส”
“เช่นกันค่ะ” เธอสีหน้าเคร่งขรึม ถึงเธอจะยังเด็ก แต่เธอก็ยังเป็นเจ้านายของพวกเขา และเธอยังได้กล่าวเตือนพวกเขาถึงเรื่องความซื่อสัตย์
หลี่เฉวียนเฉิงและจางจิงกวงรู้สึกกลัวกับคำเตือนของเธอ เพราะพวกเขารู้สึกว่ากู้หนิงทำจริงไม่ใช่แค่พูดลอยๆ
“บอส ไม่ต้องห่วงครับ พวกเราจะจงรักภักดีกับคุณครับ”
“ดีค่ะ”
ไม่นานกู้หนิงก็พาพวกเขาไปที่อาคารโรงงาน เมื่อพวกเขาอยู่ใกล้กับอาคารโรงงาน พวกเขาก็ได้ยินเสียงตัดหินดังขึ้น
ฉนวนกันเสียงของอาคารโรงงานนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ไม่เลวเช่นกัน แม้ว่าจะมีเสียงดัง แต่ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงข้างนอก
พวกเขาขึ้นไปที่ชั้นสองและสังเกตเห็นหินที่วางอยู่บนพื้น มีชายและหญิงคู่หนึ่งกำลังยุ่งอยู่กับการตัดหิน และหยกหลายชิ้นได้ถูกตัดออกไปแล้วซึ่งทำให้กลุ่มของเจิ้งเผิงตกใจ