ตอนที่ 209: ชื่นชม
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ!”
อ้ายกวงเหยาจับมือทักทายโจวเจิ้งหง
หลี่เซ่อเหวินประหลาดใจ “คุณคือประธานบริษัทหยกบิวตี้จิวเวอรี่? ยินดีที่ได้รู้จักครับ! ผมอ่านข่าวเกี่ยวกับงานเปิดร้านของคุณ น่าทึ่งมากครับ!”
อ้ายกวงเหยาเฉยๆ เขาไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไร
“ขอบคุณครับ” โจวเจิ้งหงกล่าว
“ทุกท่านเชิญนั่งค่ะ ที่ฉันนัดทุกคนมาวันนี้เพื่อที่จะบอกว่าเจิ้งหัวเรียลเอสเตทและหยกบิวตี้จิวเวอรี่คือบริษัทเครือเดียวกัน” กู้หนิงพูด
“อะไรนะ?”
โจวเจิ้งหง อ้ายกวงเหยาและหลี่เซ่อเหวินทำหน้าเหวอพลางมองหน้ากู้หนิง
ทั้งสองบริษัทอยู่เครือเดียวกัน? ถ้าเจิ้งหัวและหยกบิวตี้อยู่เครือเดียวกันแสดงว่าเธอเป็นเจ้าของทั้งสองบริษัท!
เมื่อเห็นทั้งสามคนแสดงสีหน้าประหลาดใจ กู้หนิงก็ยิ้มให้พวกเขาและกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “อย่างที่พวกคุณคิด ตอนนี้ฉันเป็นเจ้าของทั้งสองบริษัท เจิ้งหัวเรียลเอสเตทและหยกบิ้วตี้จิวเวอรี่”
ชายทั้งสามคนอดสูดหายใจยาวไม่ได้ พวกเขาตกใจกับข่าวที่ได้รับแต่ไม่นานก็ทำความเข้าใจได้
อ้ายกวงเหยาและหลี่เซ่อเหวินคิดว่าเป็นไปได้เพราะกู้หนิงสามารถซื้อเจิ้งหัวได้ก็ย่อมเปิดบริษัทบิวตี้จิวเวอรี่ได้ โจวเจิ้งหงก็คิดเช่นเดียวกัน
แต่อย่างไรก็ตามเธอยังเป็นแค่เด็กม.ปลายซึ่งมันน่าเหลือเชื่อมาก!
หลังจากคำอธิบายของกู้หนิง อ้ายกวงเหยาและหลี่เซ่อเหวินก็พบความสามารถของเธอในการพนันหิน และเธอเก็บรวบรวมเงินด้วยวิธีการนี้
อ้ายกวงเหยาและหลี่เซ่อเหวินตะลึงอีกครั้ง
การพนันหินเป็นกิจกรรมที่เสี่ยงสูงมาก การทำเงินนั้นยากกว่าการพนันปกติมาก แม้แต่พระเจ้าก็ใช่ว่าจะแม่นยำแต่กู้หนิงกลายเป็นเศรษฐีจากการพนันหิน มันน่าเหลื่อเชื่อมาก
อ้ายกวงเหยาและหลี่เซ่อเหวินไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาชื่นชมกู้หนิง
“ยังมีข่าวที่น่าตกใจอีกไหมครับ?” อ้ายกวงเหยาหัวเราะ ตอนนี้เขาเชื่อว่ากู้หนิงพิเศษยิ่งกว่ามนุษย์ธรรมดา
“แน่นอนค่ะ ในอนาคตยังมีอีกมาก” กู้หนิงตอบกึ่งสัพยอก เธอทำได้มากกว่านั้นอย่างแน่นอน
“ดูเหมือนว่าเราควรเตรียมใจไว้ดีกว่าสำหรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น!” โจวเจิ้งหงพูดติดตลกเช่นกัน
พวกเขาทุกคนสนุกกับการรวมตัวครั้งนี้ ยกเว้นเลิ่งเชาถิงที่เงียบตลอดเวลา
โทรศัพท์ของเลิ่งเชาถิงสั่น เขาบอกกู้หนิงว่าเขาต้องรับสายก่อนที่จะออกจากห้องไป ไม่นานเขาก็กลับมา เขามองเธอด้วยความเสน่หาแต่พูดด้วยความมุ่งมั่น “ขอโทษนะ แต่ผมต้องไปแล้ว มีงานต้องไปทำ”
“อะไรนะ?” กู้หนิงไม่อยากให้เขาไปแต่เธอเข้าใจว่าบางทีก็อาจมีงานด่วนเข้ามา “ด่วนรึเปล่า? มีเวลากินข้าวก่อนไหม?”
“คิดว่าไม่ ผมต้องรีบไปเดี๋ยวนี้ เสร็จเรื่องแล้วจะกลับมา”
“อืม เดี๋ยวฉันเดินไปส่ง”
ได้ยินว่าเลิ่งเชาถิงจะกลับ ทุกคนก็บอกลาเขาให้กลับดีๆ
กู้หนิงเดินมาส่งเลิ่งเชาถิงที่ลานจอดรถ เธอบอกให้เขาระวังตัว ในเวลาเดียวกันจู่ๆเลิ่งเชาถิงก็ก้มลงจูบที่ริมฝีปากของกู้หนิง เขาเขินมากแต่ก็รู้สึกดีมาก เขาอยากจะทำมากกว่านี้ เนื่องจากพวกเขากำลังจะจากกันมีเพียงการจูบเท่านั้นที่สามารถบรรเทาความเจ็บปวดจากความรักได้
“แล้วผมจะกลับมาอยู่ข้างคุณ” เลิ่งเชาถิงให้คำมั่นสัญญา จากนั้นกู้หนิงก็มองผู้ชายที่เธอรักจากไปจนหายไปจากสายตาของเธอ
เธอรู้สึกใจหายทันทีที่เขาจากไป อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ทั้งคู่ต้องทำงานและจะต้องห่างกันนานๆครั้ง
เมื่อกู้หนิงกลับที่ห้องทานอาหารส่วนตัว อาหารก็วางอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
คนที่เหลือรอบโต๊ะต่างก็สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเลิ่งเชาถิงแต่ไม่มีใครถามอะไรออกมา ไม่มีใครชอบดื่ม ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ดื่มเลยระหว่างรับประทานอาหารพวกเขาก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย
“ลุงอ้าย ฉันวางแผนที่จะสร้างอาคารด้านนอกที่พักอาศัยที่เจิ้งหยาง ไม่ต้องใหญ่มากค่ะ สักสามร้อยตารางเมตร มีห้าหกหลังก็พอค่ะ มันจะถูกใช้เป็นสาขาของเจิ้งหัวและหยกบิวตี้ในเมือง G ฉันตัดสินใจที่จะใช้เมืองหลวงเป็นสาขาหลักเพราะฉันจะไปเรียนมหาวิทยาลัยที่นั่น และวางแผนจะใช้ชีวิตที่นั่นด้วยค่ะ ฉันจะไปเมืองหลวงเพื่อดูว่ามีอาคารสำนักงานที่เหมาะกับการตั้งสาขาใหญ่รึเปล่า นอกจากนี้ฉันจะมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมอื่นๆในอนาคตรวมถึงอุตสาหกรรมบันเทิงด้วยค่ะ” กู้หนิงกล่าวกับพวกเขา
เหตุผลที่กู้หนิงมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมบันเทิงก็คือครอบครัวถังมีส่วนเกี่ยวข้องกับทั้งสองอุตสาหกรรมนี้เป็นหลัก
ได้ยินแผนการของกู้หนิง พวกเขาก็ตาโตด้วยความตกใจ ถ้าเป็นเด็กสาววัยรุ่นคนอื่นพูดกับพวกเขา พวกเขาคงคิดว่าเธอบ้าไม่ก็ไร้เดียงสา แต่เด็กสาวที่ชื่อกู้หนิงไม่เหมือนกัน เธอสามารถทำได้ตามที่พูด ไม่มีใครกังขาในความสามารถของเธอ
“ลุงอ้าย ถ้าลุงมีเวลารบกวนส่งคนไปตรวจสอบพวกอสังหาริมทรัพย์ ถ้ามีที่ดินที่เหมาะสมสามารถประมูลได้เลย ลุงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเงิน ฉันจะเดินทางไปเมือง Y เพื่อรวบรวมเงินให้เพียงพอในช่วงวันหยุดนี้” กู้หนิงกล่าว
ตอนที่ 210: นี่ไม่ใช่สถานที่ของเธอ
ราคาบ้านในเมืองหลวงไม่เหมือนกับในเมืองอื่น ราคาต่อตารางเมตรอยู่ที่ราวๆสองหมื่นหยวนในชานเมือง แต่ถ้าใกล้ตัวเมืองอาจสูงหลายหมื่นหยวน
ในเมืองที่ดินขนาดเจ็ดหมื่นตารางเมตรมีมูลค่าต่ำกว่าร้อยล้านหยวน แต่ในเมืองหลวงมีมูลค่าหลายร้อยล้านหยวน ในเมืองนักธุรกิจสามารถใช้เงินประมาณร้อยล้านหยวนเพื่อสร้างพื้นที่อยู่อาศัยทั่วไป แต่ในเมืองหลวงสร้างได้แค่อาคารสำนักงานหลังเดียวเท่านั้น ดังนั้นหากคุณวางแผนที่จะสร้างพื้นที่อยู่อาศัยระดับกลางบนที่ดินที่มีขนาดเจ็ดหมื่นตารางเมตร คุณต้องเตรียมเงินอย่างน้อยหนึ่งพันล้านหยวน
“ได้ครับ” อ้ายกวงเหยาตอบ
เนื่องจากกู้หนิงสามารถรวบรวมเงินได้เพียงพอจากการพนันหิน เขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเงิน
“ลุงโจว เมื่อหยกบิวตี้ไปได้ดี ก็เตรียมแผนขยายสาขาอื่นได้” กู้หนิงพูดกับโจวเจิ้งหง
“ไม่มีปัญหาครับ”
ความจริงโจวเจิ้งหงก็มีความคิดจะเปิดสาขาใหม่เพราะร้านหยกบิวตี้ทำกำไรได้ดีมาก แต่เขาคิดว่าพวกเขาเพิ่งเปิดร้านใหม่ ดังนั้นจึงควรทำอย่างช้าๆ อย่างไรก็ตามหลังจากคำสั่งของกู้หนิง โจวเจิ้งหงก็ตระหนักว่าพวกเขาสามารถวางแผนที่เหมาะสมได้ล่วงหน้า!
หลังจากรับประทานอาหาร กู้หนิงบอกให้อ้ายกวงเหยาและคนอื่นๆพักอยู่ที่โรงแรมฮวงเติ้งคืนนี้ และพรุ่งนี้พวกเขาจะกลับเมือง F พร้อมกัน จากนั้นโจวเจิ้งหงก็ขับรถไปส่งกู้หนิงที่วอเตอร์บลูสกาย
เมื่อกู้หนิงกลับมาถึงบ้าน เธออาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันก่อนนอนบนเตียงเพื่อเปิดกลุ่มวีแชท “ครอบครัวนักต่อสู้”
มีข้อความหลายพันข้อความและหลายคนกล่าวถึงเธอ กู้หนิงยุ่งมากจนลืมตอบกลับ
หลายข้อความที่พูดถึงเธอ ถามว่าเธออยู่ที่ไหนและทำไมเธอถึงหายไปเลย แน่นอนว่าพวกเขาเข้าใจว่ากู้หนิงมีเรื่องส่วนตัวที่ต้องจัดการ ดังนั้นจึงไม่มีใครโทรมารบกวนเธอ แต่พวกเขาไม่รู้ว่ากู้หนิงกำลังทำอะไรอยู่ ตอนนี้กู้หนิงเสมือนเป็นคนลึกลับสำหรับพวกเขา
กู้หนิงอธิบายง่ายๆให้พวกเขาฟังว่าเธอกำลังเริ่มต้นธุรกิจ แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดอื่นๆให้พวกเขาฟัง
หยูหมิงซีและฉู่เพ่ยหายเตรียมจิตใจไว้บ้างแล้ว พวกเธอจึงไม่ได้รู้สึกแปลกประหลาดใจเท่าไหร่ แต่พวกเด็กหนุ่มไม่เป็นเช่นนั้น พวกเขาผิดหวังที่กู้หนิงไม่ได้อธิบายอะไรมาก
กู้หนิงบอกว่าพรุ่งนี้เธออาจไม่ได้ไปเรียน
ในขณะนั้นกู้หนิงก็เกิดความคิดบางอย่าง เธอถามถึงราศีของพวกเขาแต่ยังไม่บอกว่าเธอจะเอาไปทำอะไร
กู้หนิงคิดจะให้ของขวัญพวกเขา หลังจากคุยในแชทกลุ่มกู้หนิงก็ส่งข้อความหาโจวเจิ้งหงให้ทำหยกรูปสัญลักษณ์ราศี หยกที่ใช้ทำคือหยกระดับกลางและสลักชื่อเพื่อนของเธอลงบนหยก
ยกเว้นจี้หยกรูปกระต่ายที่สลักคำว่า “ฮัน” ทั้งหมดต้องถูกส่งกลับไปให้เธอก่อนศุกร์หน้า
เที่ยวบินของกู้หนิงและคนของเจิ้งหัวคือเก้าโมงห้าสิบ โจวเจิ้งหงมารับเธอแปดโมง
ก่อนที่เธอจะไปสนามบิน กู้หนิงบอกให้โจวเจิ้งหงพาเธอไปที่ร้านหยกบิวตี้ก่อน เธอไปเอาของขวัญสำหรับอ้ายเฉียนที่เธอเคยดูแลกู้ม่าน
อ้ายเฉียนไม่ยอมรับเงิน ดังนั้นกู้หนิงจึงทำได้เพียงมอบของขวัญ ถึงแม้มูลค่าของมันจะไม่ได้มากแต่กู้หนิงถือว่ามิตรภาพมีค่ามากกว่าเงิน ดังนั้นเธอจึงเตรียมของขวัญเป็นหยกมูลค่าสองแสนแปดหมื่นหยวนสำหรับอ้ายเฉียน เป็นจี้หยกชบารูปใบไม้กว้างเท่าหัวแม่มือของผู้หญิง
แปดโมงยี่สิบ อ้ายกวงเหยาและคนอื่นๆก็ขึ้นรถที่จัดเตรียมโดยโรงแรมพวกเขาออกจากโรงแรมไปยังสนามบิน พวกเขานัดไปเจอกู้หนิงที่นั่น
กู้หนิงถึงสนามบินเก้าโมงสิบ เธอเช็คอิน เดินไปที่ห้องรับรองผู้โดยสารเพื่อพบอ้ายกวงเหยา สิบนาทีต่อมา ทุกคนก็ขึ้นเครื่องบินกลับไปที่เมือง F
กู้หนิงจองตั๋วเครื่องบินด้วยตัวเอง ที่นั่งของเธอจึงไม่ติดกับคนอื่น
ขณะที่กู้หนิงอยู่บนเครื่องบิน มีบางอย่างเกิดขึ้นในร้านเสริมสวยกาเม่ยในเวลาเดียวกัน
หลินหลี่หยวนจำเป็นต้องไปร่วมงานชุมนุมเพื่อนร่วมชั้นในบ่ายวันนี้ เธอจึงไปทำดูแลผิวในตอนเช้า
ด้วยความประหลาดใจที่เห็นกู้ม่านและกู้ชิงที่ร้านกาเม่ย ทั้งคู่แต่งตัวดูดีและดูแตกต่างจากแต่ก่อนมาก
กู้ชิงและกู้ม่านเคยเป็นคนสวยมาก่อน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของพวกเธอ ความยากลำบาก ไม่มีเงินมาบำรุงร่างกายดูแลตัวเองจึงทำให้พวกเธอแก่กว่าวัย แต่ตอนนี้พวกเธอเปลี่ยนไปมาก ดูสาว ดูสวยขึ้น
“พวกเธอมาทำอะไรที่นี่?” หลินหลี่หยวนถามเสียงแข็ง เธอรู้ว่าทั้งคู่มาที่นี่เพื่อดูแลผิวแต่เธอปฎิเสธที่จะเชื่อเพราะพวกเธอคงไม่มีเงินจ่าย
เมื่อเห็นหลินหลี่หยวน ทั้งกู้ม่านกู้ชิงก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับ ถึงพวกเธอจะรู้ว่าหลินหลี่หยวนเป็นสมาชิกวีไอพีของร้านกาเม่ย แต่ก็ยังอารมณ์เสียที่เห็นหล่อนที่นี่
“ทำไมพวกเราจะอยู่ที่นี่ไม่ได้? ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเธอสักหน่อย” กู้ชิงตอกกลับ
“พวกเธอมีเงินจ่ายด้วยเหรอ?” หลินหลี่หยวนถามด้วยความสงสัย เธอสังเกตว่ากู้ม่านกู้ชิงสวมเสื้อมผ้าทันสมัย ผิวของพวกเธอได้รับการดูแลอย่างดี
“อะไร เธอรับความจริงไม่ได้เหรอว่าตอนนี้พวกเรารวยแล้ว?” กู้ชิงถามด้วยใบหน้าแสดงความรังเกียจ
“ชิ! ฉันรู้ว่าพวกเธอจนแค่ไหน อยู่ๆจะรวยขึ้นมากะทันหันได้ยังไง!” ในสายตาของหลินหลี่หยวน กู้ชิงและกู้ม่านสมควรเป็นคนจนสกปรกๆไปชั่วชีวิต
“ทำไมพวกเราจะรวยบ้างไม่ได้? พี่ใหญ่ของพวกเรา สามีของเธอก็เคยจนมากก่อนนี่!” กู้ชิงเถียงกลับ
หยุดพูดไปสองวิ กู้ชิงก็พูดต่อว่า “และพวกเรารวยเมื่อไหร่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ!”
“กู้ชิง!” หลินหลี่หยวนไม่พอใจแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“ใครหยาบคายขนาดนี้ถึงกล้ามีเรื่องกับเจ้าของร้าน?”
ในขณะเดียวกันก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นจากนอกร้าน
ถ้ากู้หนิงอยู่ที่นี่ เธอคงจำเสียงผู้หญิงคนนี้ได้ก่อนที่จะเห็นหน้าด้วยซ้ำ