ตอนที่ 183: ทำไมฉันต้องโกรธนายด้วย?
ตราบใดที่เฉินจื่อเหยาขอโทษ ปัญหาก็จะถูกแก้ไขอย่างง่ายดาย แต่ถ้าเธอไม่ยอมทำ เธออาจถูกไล่ออกเหมือนกู้เซียวเซียว ถ้ามีนักเรียนเต็มใจชดเชยในสิ่งที่เธอทำ ทางโรงเรียนก็จะไม่ไล่เธอออก เพราะมันไม่ได้ช่วยให้ชื่อเสียงของโรงเรียนดีขึ้นแต่อย่างใด
ภายใต้แรงกดดันจากเจียงหยวนและจู่เจี้ยน เฉินจื่อเหยาจำใจต้องขอโทษ แต่ในใจของเธอเกลียดกู้หนิงแทบตาย เธอสาบานว่าจะตอบแทนกู้หนิงไม่วันใดก็วันหนึ่ง
เมื่อชั้นเรียนช่วงบ่ายกำลังจะเริ่มขึ้น โพสต์ดังกล่าวก็ถูกลบออกและถูกแทนที่ด้วยข้อความขอโทษ จากนั้นเสียงของเฉินจื่อเหยาก็ดังขึ้นจากวิทยุ “นักเรียนจากห้องเรียนสี่ ชั้นม.6 กู้หนิง ฉันชื่อเฉินจื่อเหยาจากห้องเรียนสอง ม.6 ฉันเป็นคนปล่อยข่าวปลอมโดยอ้างว่าเธอมีเสี่ย ฉันขอโทษจากใจจริงสำหรับสิ่งที่ฉันได้ทำกับเธอ ได้โปรดยอมรับคำขอโทษจากฉันด้วย"
เกิดเสียงกระหึ่มเซ็งแซ่ไปทั่วโรงเรียน เฉินจื่อเหยากลายเป็นคนดัง ไม่ใช่สิ มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปทั่วโรงเรียน
ความยุ่งเหยิงนี้ถูกตัดสินในที่สุด
หลังจากกล่าวคำขอโทษ เฉินจื่อเหยาอายเกินไปที่จะกลับไปที่ห้องเรียน เธอจึงขอลาช่วงบ่ายและกลับบ้าน
เลิ่งเชาถิงที่ดูเว็บบอร์ดโรงเรียนอยู่ เขาเห็นว่าทุกอย่างจบลงด้วยดีก็สบายใจขึ้นมา
เมื่อคาบเรียนบ่ายจบลง กู้หนิงกลับไปที่เฟิ่งหัวแมนชั่น เธอเห็นเลิ่งเชาถิงกำลังยืนอยู่ด้านนอกโซน C จากระยะไกล
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เลิ่งเชาถิงไม่กล้าไปรับกู้หนิงที่โรงเรียนเพราะไม่อยากให้เธอเดือดร้อนไปมากกว่านี้ แม้แต่เดินมาหาเธอเขาก็ยังลังเลไม่ผลีผลามเข้ามาหา
กู้หนิงเข้าใจว่าทำไมเขาถึงดูละล้าละลัง ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ความผิดของเขา เธอเป็นคนเต็มใจให้เขาขับรถไปส่งที่โรงเรียนเอง
กู้หนิงเดินเข้าไปหาแล้วถามว่า “ไปกินข้าวเย็นด้วยกันไหมคะ?”
“ได้สิ!” ดวงตาของเขาพลันสดใส
จากนั้นทั้งสองก็เดินออกไปข้างนอก กู้หนิงโทรหากู้ม่าน และบอกว่าเธอจะไม่กินข้าวที่บ้าน
เลิ่งเชาถิงมองกู้หนิงหลังจากที่วางสาย “คุณไม่โกรธผมเหรอ?”
“ทำไมฉันต้องโกรธคุณด้วย?” กู้หนิงถามกลับ เธอรู้ว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร และเธอไม่โกรธเขาเลยแม้แต่น้อย
“ถ้าผมไม่ขับรถไปส่งคุณที่โรงเรียนเช้านี้ ก็คงไม่มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น” เลิ่งเชาถิงกล่าว
“ฉันเต็มใจขึ้นรถคุณไปเอง! ถ้าฉันโทษคุณเพราะความมีน้ำใจของคุณ ในอนาคตคงไม่มีใครทำดีกับฉันแน่”
ได้ยินเช่นนั้นเลิ่งเชาถิงก็โล่งอก “คุณอยากกินอะไร?” กู้หนิงถาม “อะไรก็ได้ที่คุณอยากกิน” เลิ่งเชาถิงตอบ
“อืม งั้นเดินไปคิดไปละกัน!” กู้หนิงก็ไม่รู้จะกินอะไรเหมือนกัน ดังนั้นเดินไปค่อยคิดไปด้วยแล้วกัน
ทั้งคู่เดินไปตามถนนโหยวอี้ มีร้านอาหารอยู่ไม่ไกลจากเฟิ่งหัวแมนชั่น ร้านดูเงียบสงบและบรรยากาศดี กู้หนิงอยากลองกินร้านนี้ดู ทั้งคู่เลือกโต๊ะติดกับหน้าต่าง หลังจากสั่งอาหาร กู้หนิงถามว่า
“ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่ทั้งวันล่ะ? ไม่ไปทำงานเหรอ?”
“ผมว่าง ช่วงนี้ไม่มีงานให้ทำ” เลิ่งเชาถิงตอบ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่มีวันพูดแบบนี้เด็ดขาด ต่อให้ไม่มีภารกิจ เขาก็ยังหาอะไรทำอยู่ตลอดเวลา ไม่ปล่อยให้ตัวอยู่เฉยๆ อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ที่เขาตกหลุมรักเธอ เขาอยากอยู่ใกล้เธอตลอดยามที่เขามีเวลาว่าง
แม้ว่าพวกเขาจะพบกันวันละครั้งหรือสองครั้งและไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันมากนัก แต่เขาก็รู้สึกพอใจที่ได้เจอเธอทุกวัน แน่นอนว่าเขาไม่คิดว่ามันเพียงพอ แต่มันดีกว่าการเอาแต่คิดถึงเธอและอยู่คนเดียว
เลิ่งเชาถิงสามารถจัดการเรื่องงานของเขาผ่านอินเทอร์เน็ตได้ เขาไม่จำเป็นต้องไปจัดการด้วยตัวเองในทุกๆเรื่อง
ขณะนั้นโทรศัพท์ของกู้หนิงก็ดังขึ้น มาจากโจวเจิ้งหง กู้หนิงไม่สนใจว่าเลิ่งเชาถิงจะได้ยินหรือไม่ เธอกดรับทันที “สวัสดีค่ะ ลุงโจว”
“บอสครับ ตอนนี้สะดวกคุยรึเปล่า ผมมีเรื่องจะบอก” โจวเจิ้งหงถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ด้วยประสาทการฟังที่ยอดเยี่ยมของเลิ่งเชาถิง เขาสามารถได้ยินเสียงของโจวเจิ้งหงชัดเจน เขายังจำได้ว่าผู้ชายที่โทรมาเป็นคนเดียวกับคนที่เคยอยู่กับกู้หนิงในเมือง G
“แน่นอนค่ะ!” กู้หนิงตอบ
“พวกเราตัดหยกระดับสูงขนาดเท่าเท้าผู้ใหญ่ มีสองสีคือสีแดงและสีเขียว แบบที่เรียกว่าความสุขสองเท่า!” โจวเจิ้งหงรู้สึกตื่นเต้น
“ความสุขสองเท่า?” กู้หนิงเซอร์ไพรส์ ความสุขสองเท่าได้รับการจัดอันดับต่ำกว่าฮกลกซิ่วเล็กน้อย แต่มีค่ามากกว่าหยกสีม่วง
กู้หนิงรู้ว่าหินที่เธอเลือกนั้นมีหยกมีค่าอยู่ข้างใน แต่เธอก็ยังรู้สึกดีใจที่ได้ยินข่าวดีจากโจวเจิ้งหง
“ใช่ บอส คุณสุดยอกมาก!” โจวเจิ้งหงพูดชม ตอนนี้เขาเชื่อแล้วว่ากู้หนิงมีพลังมากกว่าพระเจ้าซะอีก และอดคิดไม่ได้ว่ากู้หนิงน่าจะมีตาทิพย์จริงๆ แน่นอนเขาไม่ได้พูดสิ่งที่คิดออกไป เพราะมันคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
เลิ่งเชาถิงรู้สึกทึ่งที่กู้หนิงเกี่ยวข้องกับการพนันหิน เขาไม่ค่อยรู้รายละเอียดเกี่ยวกับหยกเท่าไหร่ และไม่รู้ว่าไอ้ความสุขสองเท่านั้นคืออะไร แต่ในเมื่อโจวเจิ้งหงบอกว่ามันเป็นหยกระดับสูง แสดงว่าราคาของมันต้องสูงมากแน่
โจวเจิ้งหงที่พูดชมไม่หยุดปาก กู้หนิงได้แต่ยิ้มไม่พูดอะไร เธอรู้ตัวเองว่าเธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้ถ้าปราศจากตาทิพย์
“โอ้ รบกวนใช้หยกความสุขสองเท่าทำจี้หนึ่งคู่ ทำเป็นสองส่วนนะคะ มังกรกับนกฟีนิกซ์อยู่ด้วยกัน หมายความว่ารักนิรันดร์ ขนาดกลางๆพอค่ะ”
ความสุขสองเท่าเป็นหยกที่เหมาะจะใช้ทำจี้คู่หนึ่งซึ่งใช้แทนความรักได้ดี
ได้ยินความหมายของหยก เลิ่งเชาถิงเกิดความคิดในหัว
“ได้ครับ คุณอยากเก็บไว้เองหรือจะเอาออกมาแสดงในวันงานเปิดงานครับ?” โจวเจิ้งหงถาม
“เอาออกมาแสดงในวันเปิดงานค่ะ” กู้หนิงพูด “ได้ครับ ไม่มีปัญหา” โจวเจิ้งหงตอบ
เมื่อพวกเขากำลังจะวางสาย กู้หนิงพูดสำทับไปว่า “อ้อ ฉันจะไปเช้าวันมะรืนนะคะ”
กู้หนิงคิดว่าไปเร็วหน่อยก็ดี ถึงแม้โจวเจิ้งหงจะทำหน้าที่ดูแลทุกอย่างแทนเธอ แต่เธอควรไปดูด้วยตัวเองเผื่อได้แนะนำอะไรได้
ร้านขายวัสดุก่อสร้างของเจียงซู่จะเปิดในวันพรุ่งนี้ และเธอต้องอยู่ที่นั่นไม่เช่นนั้นเธอจะบินไปเมือง G ในเย็นวันพรุ่งนี้
เมื่อได้ยินว่ากู้หนิงกำลังจะไปที่เมือง G ในวันมะรืนนี้ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวของเลิ่งเชาถิง
“เยี่ยมมาก! แต่วันมะรืนเป็นวันศุกร์นะ คุณไม่จำเป็นต้องเข้าชั้นเรียนหรือ” โจวเจิ้งหงดีใจที่กู้หนิงจะมา แต่กลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อการเรียนของเธอ
ตอนที่ 184: ไปส่งฉันที่สนามบินได้ไหม?
กู้หนิงกำลังจะสอบปลายภาคในอีกหนึ่งอาทิตย์ จากนั้นก็ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกไม่กี่เดือน
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเรียนเก่งอยู่แล้ว!” กู้หนิงพูดติดตลก แต่มันคือเรื่องจริง เธอมั่นใจมากว่าจะทำคะแนนได้ดีถึงแม้เธอจะไม่เข้าเรียนก็ตาม และอาจารย์ก็อนุญาตแล้วด้วย
“ฮ่า ฮ่า! ดีมากๆ วันมะรืนผมจะไปรับที่สนามบิน” โจวเจิ้งหงหัวเราะ
กู้หนิงรู้ว่าเลิ่งเชาถิงได้ยินบทสนทนาระหว่างเธอและโจวเจิ้งหง แต่เธอไม่สนใจ “ฉันมีเรื่องต้องไปจัดการที่เมือง G วันมะรืนนี้”
“ผมเองก็กำลังจะบอกว่าสุดสัปดาห์นี้ผมก็ไม่อยู่เหมือนกัน” เลิ่งเชาถิงตอบ
“วันไหน?” กู้หนิงถาม เธอไม่อยากให้เขาไป
“วันเสาร์ แต่คุณจะไปวันศุกร์ งั้นผมไปวันศุกร์ด้วยแล้วกัน” เลิ่งเชาถิงพูด เขาจงใจพูดให้เธอฟังว่าถ้าเธอไม่อยู่เขาก็ไม่อยู่เหมือนกัน
กู้หนิงไม่รู้จะพูดอะไร แต่รู้สึกมีความสุขในใจ
“พรุ่งนี้บ่ายพวกเราไปกินข้าวด้วยกันไหม?” เลิ่งเชาถิงถาม
“ร้านขายวัสดุก่อสร้างของลุงฉันจะเปิดในวันพรุ่งนี้ กลัวว่าพรุ่งนี้จะไม่ว่าง” กู้หนิงพูด
เลิ่งเชาถิงพยักหน้า ดูเหมือนเขาจะผิดหวังเล็กน้อย ซึ่งทำให้กู้หนิงรู้สึกไม่ดีไปด้วย คิดอยู่สักพัก เธอก็พูดขึ้นว่า “เครื่องบินฉันจะออกแปดโมงครึ่ง คุณไปส่งฉันที่สนามบินได้ไหมคะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นดวงตาของเลิ่งเชาถิงก็สว่างขึ้นในทันที “ แน่นอน!”
หลังจากกินข้าวเสร็จ ทั้งคู่เดินทอดน่องกลับเฟิ่งหัวแมนชั่นอย่างสบายอารมณ์ เลิ่งเชาถิงเดินไปส่งกู้หนิงด้านหน้าโซน G เขายังไม่จากไปจนกระทั่งกู้หนิงหายไปจากสายตา
เจียงซู่กลับมาบ้านหลังกู้หนิงเล็กน้อย เขาบอกเธอว่าพรุ่งนี้ร้านจะเปิดแล้ว เขาไม่รู้จักคนสำคัญมากมาย ดังนั้นวันงานจึงไม่เป็นที่สนใจมากนัก
กู้หนิงกลับไม่ต้องการให้พิธีเปิดงานน่าเบื่อเช่นนี้ เธอโทรหาอ้ายกวงเหยาและบอกให้เขาส่งกระเช้าดอกไม้สองใบในนามของเจิ้งหัวเรียลเอสเตจ เพื่อแสดงความยินดีกับเจียงซู่
เธอยังบอกฮ่าวหรันและเพื่อนคนอื่นในกรุ๊ปวีแชท พวกเขาจะไปร่วมงานพรุ่งนี้ด้วย อ้ายเฉียวได้รับเชิญมางานเช่นเดียวกัน และเธอตอบตกลงด้วยความดีใจ
ส่วนฉินอี้ฟาน กู้หนิงคิดว่าไม่เชิญเขาน่าจะดีกว่า เพราะคงรู้สึกกระอักกระอ่วนกันทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ตามในเวลานั้นครอบครัวของฉินซีหุนอยู่ที่บ้านของตระกูลฉิน พวกเขาคุยกันในห้องโถงหลังกินมื้อค่ำ
ฉินซีหุนไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างฉินอี้ฟานและกู้หนิง ดังนั้นเขาจึงพูดกับฉินซีหุนว่า “นี่พี่ ครอบครัวของบอสผมจะเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้างพรุ่งนี้ พี่จะไปร่วมงานด้วยไหมครับ?”
ได้ยินแบบนั้น ฉินอี้ฟานก็ประหลาดใจ เขาไม่รู้เลยว่าครอบครัวของกู้หนิงกำลังจะทำธุรกิจขายวัสดุก่อสร้าง
“บอส? ฟังดูเหมือนคำพูดของพวกนักเลง นี่ลูกเข้าร่วมแก๊งนักเลงในโรงเรียนรึเปล่า?” พ่อของฉินซีหุน ฉินฮ่าวจื่อ ถามด้วยความกังวล ในฐานะที่เขาทำงานกับรัฐบาล เขาเกลียดพวกนักเลงที่สุด
ฉินซีหุนเข้าใจพ่อของเขา จึงรีบอธิบายว่า “เปล่านะครับ! พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มีผู้หญิงคนหนึ่งเธอสู้เก่งมาก พวกเราเลยเรียกเธอว่าบอสเฉยๆ”
ได้ยินแบบนั้นครอบครัวฉินก็ไม่พอใจขึ้นมาอีกครั้ง แม่ของฉินซีหุน ลู่ฮานหลานตำหนิเขา “ซีหุน การสอบเข้ามหาวิทยาลัยใกล้เข้ามาอยู่ร่อมร่อแล้ว หยุดเล่นไปทั่วได้แล้วและตั้งใจเรียนซะ! ถ้าลูกสอบเข้ามหาลัยดังๆไม่ได้ ครอบครัวเราคงได้ขายขี้หน้าคนอื่นเขา!”
ลู่ฮานหลานให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของครอบครัวมากที่สุด ลูกของเพื่อนๆเธอหลายคนสอบเข้ามหาวิทยาลัยดังๆได้หลายคน ถ้าฉินซีหุนทำไม่ได้แบบเดียวกัน ครอบครัวฉินต้องขายขี้หน้าแน่!
พูดถึงเรื่องเรียนแล้ว ฉินซีหุนก็หดหู่ขึ้นมา
ฉินอี้ฟานที่เดินออกไปกลับเข้ามาพร้อมกับกล่องไม้ในมือ เขายื่นให้ฉินซีหุน “พรุ่งนี้พี่มีงาน รบกวนนายมอบของขวัญนี้ให้เธอด้วย”
เขาอยากไป แต่เขาไม่ได้รับเชิญ อีกอย่างไม่รู้จะเผชิญหน้าเธอยังไง
“อะไรอ่ะ? ทหารทอง? มันทำจากทองคำบริสุทธิ์และมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งล้านหยวน!” ฉินซีหุนช็อก คนที่เหลือล้วนประหลาดใจเช่นกัน
ปกติของขวัญสำหรับวันเปิดร้านใหม่จะไม่เกินสองสามหมื่นหยวน ของขวัญของฉินอี้ฟานแพงเกินไป
ฉินอี้ฟานยิ้มกว้าง “พี่คิดว่าไม่มากไปหรอก พี่ชวนเธอมาร่วมงานวันเกิดของคุณพ่อ แต่เธอมอบขวัญเป็นของเก่าราคาหลายล้านหยวนให้คุณพ่อ ของขวัญนี้เทียบไม่ได้ด้วยซ้ำ
ได้ยินคำอธิบายของฉินอี้ฟาน ทุกคนล้วนแปลกใจ พวกเขาเพิ่งรู้ว่าเด็กสาวที่มอบของขวัญให้พ่อของฉินอี้ฟานคือเด็กคนเดียวกับที่ฉินซีหุนเรียกว่าบอส
แต่ถึงอย่างนั้นฉินฮ่าวเจิ้งยังต้องถามเพื่อให้แน่ใจว่า “ซีหุน บอสของหลานใช่เด็กสาวที่ชื่อกู้หนิงรึเปล่า?”
“ใช่ครับ! เธอชื่อกู้หนิง ไม่ใช่แค่ต่อสู้เก่ง แต่ยังเรียนเก่งอีกด้วย เธอได้อันดับหนึ่งของชั้น!” ฉินซีหุนภูมิใจยามที่แนะนำบอสของเขา
เมื่อรู้ว่าเป็นกู้หนิง ฉินฮ่าวเจิ้งและภรรยาของเขาก็รู้สึกยากจะอธิบาย พวกเขารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ฉินอี้ฉิงทำกับเธอ
ฉินอี้ฉิงรู้สึกกระอักกระอ่วน น้องชายของเธอยังไม่ให้อภัยเธอกับเรื่องดราม่าครั้งก่อน เขามักจะพูดจาเหน็บแนมเธอเสมอ
“แม่จำเพื่อนคนนี้ของลูกได้ เธอสวยมากจริงๆ แม่คิดว่าเธอต้องมาจากครอบครัวเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง แต่แม่ไม่เคยได้ยินชื่อครอบครัวกู้ในเมือง F มาก่อน” ลู่ฮานหลานกล่าว ดูเหมือนว่าเธอจะมีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับกู้หนิง
พ่อแม่ของฉินอี้ฟานและฉินอี้ฉิงรู้ว่ากู้หนิงไม่ได้มาจากครอบครัวเศรษฐี แต่เธอโดดเด่นกว่าคนอื่น อายุยังไม่มากก็หาเงินได้มากกว่าร้อยล้านหยวน แต่ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้พูดออกมา
วันต่อมา เลิ่งเชาถิงวิ่งเป็นเพื่อนกู้หนิงไปที่โรงเรียนของเธอตามปกติ แต่เขาตั้งใจวิ่งอยู่ด้านหลังเธอห้าเมตร เขาไม่ได้ตามเธอไปหน้าโรงเรียน เมื่อทั้งคู่ใกล้ถึงโรงเรียน เขาก็เลี้ยวกลับทันที กู้หนิงรู้สึกอยากหัวเราะที่เห็นเลิ่งเชาถิงระวังตัวแจขนาดนั้น
ระหว่างพักเบรก กู้หนิงขอตัวกลับก่อน เธอบอกอาจารย์ว่าลุงของเธอเปิดร้านวันนี้เป็นวันแรก และเธอต้องไปร่วมงาน และยังต้องไปเมือง G ในวันพรุ่งนี้อีกด้วย
จางฉิวฮวาไม่พอใจเท่าไหร่ “กู้หนิง ทำไมเธอถึงยุ่งอยู่ตลอดเวลา รู้ไหมวันวันสอบใกล้เข้ามาแล้ว?”
“หนูสัญญาว่าจะไม่ให้กระทบกับการเรียนค่ะ! หนูเองก็รู้สึกไม่ดีที่ต้องลาบ่อย แต่มันจำเป็นจริงๆค่ะอาจารย์” กู้หนิงชี้แจง