ตอนที่ 307 ออกไปเที่ยวไหม?
“สิบแปดครับ เร็วๆนี้เธอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วครับ” เลิ่งเชาถิงตอบ
สิบแปด? พูดอีกอย่างคือเลิ่งเชาถิงอายุมากกว่าผู้หญิงเจ็ดปี ทันใดนั้นนายท่านเลิ่งก็เกิดความรู้สึกแปลกๆที่หลานชายของเขาชอบผู้หญิงที่อายุน้อยกว่ามากขนาดนี้ แต่อย่างน้อยอายุสิบแปดก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วล่ะนะ
เลิ่งเชาถิงดูเวลาในโทรศัพท์มือถือและเอ่ยว่า “คุณปู่ ถ้าไม่ไม่อะไรแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ไม่อยากให้เธอรอนาน” แน่นอนว่าเลิ่งเชาถิงพูดถึงกู้หนิง
“ตอนนี้?” นายท่านเลิ่งขมวดคิ้วไม่ชอบใจ เลิ่งเชาถิงเพิ่งมาได้ไม่กี่นาทีก็จะกลับแล้ว “ได้ๆ แต่พรุ่งนี้เช้าแกต้องมาทานข้าวเช้ากับปู่”
“ขอโทษครับ พอดีผมมีเรื่องต้องจัดการ” เลิ่งเชาถิงปฏิเสธ
“แล้วข้าวเย็นล่ะ?” นายท่านเลิ่งถามอีกครั้ง
“ผมอาจไม่ว่าง ถ้าผมมาจะโทรบอกล่วงหน้า อีกอย่างคุณปู่อย่าได้ส่งคนไปตามผมหรือสืบเรื่องเธอเลยนะครับ” เลิ่งเชาถิงพูดก่อนหมุนตัวออกจากห้องหนังสือ
“แก..” นายท่านเลิ่งโมโหหลานชาย หลานชายของเขาเลือกแฟนมากกว่าปู่ ทว่านายท่านเลิ่งรู้จักนิสัยของเลิ่งเชาถิงดี ในเมื่อเขาไม่ต้องการให้ทำเช่นนั้น เขาก็จะไม่ทำ หากฝืนทำ ผลลัพธ์คงไม่พ้นหายนะ
เลิ่งเชาถิงเดินลงบันไดผ่านห้องนั่งเล่น
เจียงซูหยวนและเลิ่งเชาเจี๋ยไม่อยู่แล้วเพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับเลิ่งเชาถิง แต่เลิ่งเชาซุน ลูกชายคนเล็กของลุงคนที่สองของเลิ่งเชาถิงก็เดินเข้ามากับที่เลิ่งเชาถิงเดินมา
เมื่อเห็นเลิ่งเชาถิง เลิ่งเชาซุนก็ดีใจ เขาเดินไปหาเลิ่งเชาถิงและทักทายว่า “พี่เชาถิง ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ!”
เลิ่งเชาซุนชื่นชมเลิ่งเชาถิงมากและตัดสินใจเข้าร่วมกองทัพและกลายเป็นนายทหารที่น่าเกรงขามในวันหนึ่งเหมือนเลิ่งเชาถิง ดังนั้นเมื่อเลิ่งเชาถิงอยู่บ้าน เลิ่งเชาซุนจะขอร้องให้เขาสอนทักษะการต่อสู้ให้ โดยปกติแล้วเลิ่งเชาถิงจะไม่ปฏิเสธคำขอของเขา ดังนั้นเลิ่งเชาซุนจึงได้เรียนรู้มากมายจากเลิ่งเชาถิง
ครอบครัวของลุงคนเล็กของเลิ่งเชาถิงไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไรกับเลิ่งเชาถิง เพราะเขาชอบเย็นชาและมักทำตัวอยู่ห่างจากสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัว ดังนั้นพวกเขาจึงปฏิบัติต่อกันเหมือนคนแปลกหน้า
เลิ่งเชาซุนเป็นเด็กหนุ่มที่โดดเด่น ในตอนแรกเขาก็รู้สึกกลัวเลิ่งเชาถิงแต่พอเวลาผ่านไปเมื่อเขาโตขึ้น เขาก็อยากเป็นเหมือนเลิ่งเชาถิง
สำหรับเลิ่งเชาซุน เลิ่งเชาถิงปฏิบัติกับเขาเหมือนลูกพี่ลูกน้องที่อายุน้อยกว่าแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้สนิทกันมากก็ตาม
“ไง” เลิ่งเชาถิงพูดอย่างปรานีและยังคงเดินออกไปข้างนอก
“พี่เชาถิง พี่จะไปไหน?” เลิ่งเชาซุนถาม
“พี่กำลังยุ่ง” เลิ่งเชาถิงตอบ
“เมื่อไหร่พี่จะกลับมาสอนกังฟูผม?” เลิ่งเชาซุนถามอีกครั้ง
“ตอนที่พี่ว่าง” เลิ่งเชาถิงตอบและหายลับออกไปจากประตู เลิ่งเชาซุนผิดหวังนิดหน่อย แต่เข้าใจว่าเลิ่งเชาถิงยุ่งตลอด
เมื่อเลิ่งเชาถิงออกจากคฤหาสน์ตระกูลเลิ่ง ซู่จินเฉินก็โทรมา
“เฮ้ บอส อยากออกมาเที่ยวไหม? สักสองทุ่มเป็นไง?”
“ฉันต้องถามหนิงหนิงก่อน” เลิ่งเชาถิงไม่สนใจเที่ยวสถานที่บันเทิง เขาอยากอยู่บ้านและสนุกกับกู้หนิงตามลำพังมากกว่า แต่ถ้ากู้หนิงอยากออกมา เขาก็จะออกมาเป็นเพื่อนเธอ
ซู่จินเฉินรู้สึกเจ็บ เขาคิดว่าหัวหน้าของเขากำลังอวดความสัมพันธ์แสนหวานต่อหน้าเขาที่ยังโสด
หลังจากวางสายจากซู่จินเฉิน เลิ่งเชาถิงก็โทรหากู้หนิงและถามเธอว่าอยากจะไปเที่ยวกับเพื่อนของเขาไหม กู้หนิงคิดว่าจับเจ่าอยู่บ้านทั้งวันคงน่าเบื่อ ดังนั้นเธอจึงตอบตกลง เลิ่งเชาถิงโทรหาซู่จินเฉินถามสถานที่ก่อนไปรับกู้หนิง
King’s Entertainment Club เป็นสถานบันเทิงระดับไฮเอนด์ในเมืองหลวง และคนที่มาที่นี่เพื่อสนุกสนานมีทั้งคนรวยหรือคนมีอำนาจเพราะคนธรรมดาไม่มีเงินจ่าย อย่างไรก็ตามซู่จินเฉินไม่ต้องจ่ายเงินที่นี่เพราะตระกูลซู่เป็นเจ้าของ King’s Entertainment Club
เมื่อเลิ่งเชาถิงและกู้หนิงมาถึง at King’s Entertainment Club ก็เป็นเวลาสามทุ่มครึ่ง
ภายในห้องส่วนตัวสุดหรู ซู่จินเฉิน เฉินเมิ่ง ซีหมิง ฉิวอี้ซินและซู่ฉินหยินก็อยู่ในห้องเรียบร้อยแล้ว
ซู่ฉินหยินมักจะออกไปเที่ยวกับซู่จินเฉินและคุ้นเคยกับเฉินเมิ่งและซีหมิงในระดับหนึ่ง ดังนั้นเธอจึงได้รับเชิญในครั้งนี้ ส่วนฉิวอี้ซินเป็นเพื่อนสนิทของซู่ฉินหยิน ดังนั้นเธอจึงมาพร้อมกับซู่ฉินหยิน อย่างไรก็ตาม ซู่ฉินหยินรู้เพียงว่าเฉินเมิ่งและซีหมิงเป็นเพื่อนของซู่จินเฉินและเลิงเชาถิงในกองทัพ เธอไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นทีมเรดเฟลม
หลังจากดื่มไปสักพัก เลิ่งเชาถิงก็ยังไม่มา เฉิงเมิ่งจึงถามซู่จินเฉินว่า “จินเฉิน ทำไมเชาถิงยังไม่มาอีก?” ซู่จินเฉินบอกพวกเขาว่าเลิ่งเชาถิงจะมาประมาณสองทุ่ม แต่ชั่วโมงกว่าผ่านไปแล้วเขาก็ยังไม่โผล่มา ต่อให้รถติดแต่ก็เพียงพอสำหรับเลิ่งเชาถิงขับรถมาที่นี่จะคฤหาสน์ตระกูลเลิ่ง เพื่อเป็นการไม่เปิดเผยตัวตนของเลิ่งเชาถิง พวกเขาจึงเรียกเลิ่งเชาถิงด้วยชื่อจริงแทนที่จะเรียกว่าบอส
“เขาต้องไปรับคนบางคนก่อน” ซู่จินเฉินเอ่ย แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร
ซู่จินเฉินจงใจเก็บเป็นความลับ เขาอยากรู้ว่าพวกเขาจะตอบสนองอย่างไรเมื่อเลิ่งเชาถิงปรากฏตัวกับผู้หญิง ซู่ฉินหยินก็มีความคิดเช่นเดียวกัน ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะเงียบ
บางครั้งโชคชะตาก็เป็นสิ่งที่น่าทึ่ง ฉิวอี้ซินที่เพิ่งอกหักจากเลิ่งเชาถิง แต่หัวใจของเธอกลับเต้นรัวเมื่อเธอเห็นซีหมิง ทั้งสองคุยกันตลอด ซีหมิงไม่ได้หล่อเหลาเท่าเลิ่งเชาถิง แต่ก็เป็นผู้ชายที่ดูดีและเซ็กซี่ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีอารมณ์ขันและสร้างความประทับใจให้กับสาวๆได้อย่างง่ายดาย
เป็นครั้งแรกที่ซู่ฉินหยินได้เห็นฉิวอี้ซินมีความสุขกับการสนทนากับผู้ชาย ในฐานะเพื่อนสนิท ซู่ฉินหยินรู้จักฉิวอี้ซินเป็นอย่างดี ฉิวอี้ซินเป็นคนสวยที่ไม่ค่อยได้พูดคุยกับผู้ชายมากนัก แต่เมื่อเธอกลายเป็นคนช่างพูดต่อหน้าผู้ชาย มีความเป็นไปได้ว่าเธอชอบเขา
“นี่ ซีหมิงมีแฟนรึยัง?” ซู่ฉินหยินถามซู่จินเฉิน
เมื่อได้ยินญาติสาวเอ่ยถามเช่นนั้น ซู่จินเฉินก็ตระหนักได้ทันทีว่าทำไมเธอจึงถามคำถามนี้ เพราะเขาสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของซีหมิงในคืนนี้เหมือนกัน “ไม่” เขายิ้ม
ซู่จินเฉินคิดว่าฉิวอี้ซินเป็นผู้หญิงที่ดีมากและพ่อแม่ของเขาก็มีความรู้สึกดีๆให้เธอ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ
ตอนที่ 308: คลับ
ในขณะนั้นก็มีคนเคาะประตู
“เข้ามา” ซู่จินเฉินเอ่ย
King’s Entertainment Club เป็นสถานบันเทิงสุดหรูที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับความเป็นส่วนตัว หากไม่ได้รับอนุญาตจากคนภายในห้อง คนภายนอกไม่สามารถผลักประตูเปิดเข้ามาข้างในได้ ผู้ที่มาใหม่คือเลิ่งเชาถิงอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อประตูถูกเปิด เลิ่งเชาถิงก็ปรากฏตัวในสายตาของทุกคน อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่จับมือเลิ่งเชาถิงอยู่ ทั้งเฉินเมิ่งและซีหมิงต่างตกใจจนถึงกับลุกออกจากโซฟา
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมบอสถึงจับมือกับผู้หญิง?
ภายในเสี้ยววินาที เฉินเมิ่งก็จำกู้หนิงได้ได้ “กู้หนิง?”
“รู้จักกันด้วยหรอ?” ซู่จินเฉินแปลกใจ
เฉินเมิ่งไม่มีอารมณ์ตอบคำถามเขา
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้พบคุณอีกครั้งค่ะ” กู้หนิงยิ้ม
“เธอเป็น?” เฉินเมิ่งชี้ไปที่มือของพวกเขา อันที่จริงความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อนข้างชัดเจน แต่เขาไม่อยากเชื่อนี่นา เป็นข่าวที่ช็อกโลกมาที่อยู่ๆเลิ่งเชาถิงก็มีแฟน
“ใช่ พวกเราเป็นแฟนกัน” เลิ่งเชาถิงเป็นฝ่ายตอบ และนั่งลงที่โซฟาพร้อมกู้หนิง
“ว้าว ช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำจริงๆ!” ซีหมิงรู้สึกตื่นเต้น ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาหลังจากที่พบว่าเลิ่งเชาถิงกำลังมีความรักคือการมีความสุขที่ในที่สุดเขาก็ตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง แทนที่จะถามถึงภูมิหลังของหญิงสาว ในสายตาของพวกเขามันเป็นเรื่องมหัศจรรย์อยู่แล้วที่เลิ่งเชาถิงเต็มใจที่จะออกเดทกับผู้หญิงหรือมีแฟน
“มาเถอะ ดื่มฉลองให้เชาถิง ในที่สุดเขาก็มีแฟนสักที!” ซีหมิงรินไวน์ให้เลิ่งเชาถิงและกู้หนิงราวกับว่าคนที่มีแฟนเองคือเขา ได้ยินแบบนั้นทุกคนก็ชูแก้วขึ้น
เลิ่งเชาถิงดีใจ ดังนั้นเขาจึงชูแก้วโดยไม่ลังเล กู้หนิงก็ทำแบบเดียวกัน เลิ่งเชาถิงถามเธอด้วยความห่วงใยว่า “คุณดื่มได้เหรอ? ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องดื่มนะ”
“ไม่ ไม่ได้ พวกเราต้องดื่มฉลอง!” กู้หนิงยังไม่ทันตอบ ซีหมิงก็ขัดขึ้นก่อนและขยิบตาให้เลิ่งเชาถิง “ไวน์นั้นเยี่ยมที่สุดที่ช่วยลดช่องว่าวระหว่างชายหญิงให้เร็วยิ่งขึ้น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะ
กู้หนิงหน้าแดงในขณะที่เลิ่งเชาถิงรู้สึกตื่นเต้น ถึงแม้เขากับเธอจะนอนด้วยกันแล้ว เขาก็อยากจะลองตอนที่กู้หนิงเมาดูบ้าง
แน่นอนว่าซีหมิงล้อเล่น พวกเขาร่วมกันดื่มฉลองด้วยความชื่นมื่น
“สวัสดี ผมชื่อซีหมิง ผมขอทราบชื่อคุณได้ไหม?” ซีหมิงถามกู้หนิงอย่างเป็นมิตรหลังจากที่พวกเขานั่งลง
“ฉันชื่อกู้หนิงค่ะ” กู้หนิงตอบ
“คุณคบกับเชาถิงมานานรึยัง? เขาปิดปากเงียบมาตั้งนาน พวกเราล้วนเป็นห่วงเขา” ซีหมิงบ่น
“เอ่อ ก็ไม่นานเท่าไหร่ค่ะ”
อีกฝั่งหนึ่ง ซู่จินเฉินถามเฉินเมิ่งว่า “เมิ่ง นายรู้จักกู้หนิงได้ยังไง?”
“นายยังจำที่ฉันบอกว่าพวกเราเจอกับผู้หญิงคนหนึ่งตอนปฏิบัติหน้าที่ในเมือง G และผู้หญิงคนนั้นฆ่าผู้ชายสองคนด้วยตัวเธอเองได้ไหม?” เฉินเมิ่งถามซู่จินเฉิน
“เป็นเธอ…” ซู่จินเฉินตะลึง
“ใช่” เฉินเมิ่งกล่าว
“พระเจ้า!” ซู่จินเฉินประหลาดใจเหลือจะกล่าว กู้หนิงน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
เลิ่งเชาถิงดื่มกับกู้หนิงนานๆครั้งซึ่งทำให้กู้หนิงนึกถึงสิ่งที่ซีหมิงพิ่งพูด เธอล้อว่า “คุณพยายามทำให้ฉันเมาหรือเปล่า?”
เลิ่งเชาถิงตื่นตระหนกเล็กน้อยที่โดนจับได้ กู้หนิงยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมและดื่มกับคนอื่นๆต่อไป
เกือบเที่ยงคืน ทุกก็กำลังจะกลับ กู้หนิงดื่มไปเยอะมากแต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เมาสักนิดซึ่งสร้างความงุนงงให้เลิ่งเชาถิง
ขณะที่พวกเขาเดินผ่านห้องส่วนตัวอีกห้อง กู้หนิงก็ได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนขอความช่วยเหลือเสียงเพลงดังเกินไปและเสียงของผู้หญิงค่อนข้างเบา ดังนั้นคนทั่วไปจึงไม่สนใจ กู้หนิงใช้ตาทิพย์ของเธอทันทีและเห็นชายอ้วนวัยกลางคนกำลังกดหญิงสาวลงบนโซฟา ชายคนนั้นกำลังจะข่มขืนเธอ ผู้หญิงดิ้นรนขัดขืน
มีผู้ชายสองคนและผู้หญิงสองคนอยู่ข้างเขา
ทั้งสองคนมีอายุประมาณ 40 ปีในขณะที่ผู้หญิงทั้งสองคนมีอายุเพียง 25 ปีและแต่งตัวเซ็กซี่ พวกเธอสองคนพิงร่างผู้ชายและปล่อยให้พวกเขาสัมผัสร่างกายอย่างเต็มที่
เมื่อกู้หนิงเห็นใบหน้าของผู้หญิงที่ถูกกดลงบนโซฟาอย่างชัดเจน ก็ประหลาดใจเพราะวันนี้เธอได้พบกับผู้หญิงคนนั้นแล้วครั้งหนึ่งที่สนามบิน ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่เดินตามเลิ่งเชาถิงและชื่นชมเขาอยู่ข้างหลัง
ถ้าหากผู้หญิงคนนี้ขายตัว กู้หนิงก็จะไม่เข้าไปยุ่ง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะกรีดร้องอย่างเจ็บปวด กู้หนิงไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์เลวร้ายนี้เกิดขึ้นได้ เธอวิ่งไปเตะประตูให้เปิดออกโดยไม่คิดอะไรเลย
กลุ่มของเลิ่งเชาถิงและคนในห้องส่วนตัวต่างก็ตกใจเพราะเสียงดัง เลิ่งเชาถิงและคนอื่นๆไม่รู้ว่าทำไมกู้หนิงจึงเตะประตูให้เปิดออกจนกระทั่งพวกเขาเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง
ก่อนที่คนข้างในจะตอบสนอง กู้หนิงก็ก้าวไปข้างหน้าและยกชายที่กดผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาก่อนจะโยนเขาออกไป ทุกคนต่างประหลาดใจกับการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันของกู้หนิง
“อ๊าก!” เขาร้องอย่างเจ็บปวด “เธอเป็นใคร? กล้าดียังไงมาทำแบบนี้กับฉัน!”
ในฐานะเจ้าของ King’s Entertainment Club ซู่จินเฉินจะไม่ทนต่อพฤติกรรมไร้ศีลธรรมแบบนี้ เขารีบเดินเข้าไปข้างในและตะคอกใส่พวกเขา “คุณกล้าทำแบบนี้ใน King’s Entertainment Club ได้ยังไง?”
ชายหญิงในห้องส่วนตัวต่างตกตะลึง ซู่จินเฉินเป็นเจ้าของที่นี่ พวกเขาไม่กล้ามีปากเสียงด้วย
“เกิดอะไรขึ้นในนี้?” กู้หนิงหันไปหาหญิงสาวและเอ่ยถาม
“เป็นเธอ?” ผู้หญิงคนนั้นค่อนข้างประหลาดใจ เธอจำกู้หนิงได้
“พวกเธอรู้จักกันงั้นเหรอ?” ซู่จินเฉินถาม
“ก็ไม่เชิง พวกเราพบกันที่สนามบินวันนี้” ผู้หญิงคนนั้นอธิบายและรู้สึกอับอายขายหน้า